คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
ความคิดเห็นที่ 4
ตื่นเต้น ปากสั่น ใจสั่น เพราะขาดความมั่นใจน่ะ เหมือนเวลาตอนเด็กๆ ต้องออกไปพูดหน้าชั้นเรียนแรกๆ
ทางแก้ง่ายๆ คือซ้อมบ่อยๆ ค่ะ.. พยายามคิดว่าเรากำลังเล่าเรื่องให้เพื่อนเราฟังอยู่ ลองซ้อมหน้ากระจกก็ได้
ส่วนเรื่องพูดไม่รู้เรื่อง ลองเอาวิธีนี้ไปใช้ดูนะ
- ถ้าไม่ได้มี form ของการทำสไลด์มาให้ ให้ทำหน้าแรกเป็น executive summary เพื่อเกริ่นให้คนฟังรู้ ว่าวันนี้เราจะมาพูดอะไร.. คนฟังจะได้เตรียมตัวเรียบเรียงความคิดตามสิ่งที่เราจะพูด
- พยายามอย่าใส่ตัวหนังสือให้พรืดไปหมด ใส่แต่ใจความสำคัญเป็น bullet point อย่าเกินสไลด์ละ 7 บรรทัด.. เวลาพรีเซนต์จริงค่อยพูดขยายความแต่ละ bullet เอา
- ถ้าจะให้ดี พยายามใช้รูป หรือ กราฟ เพื่อช่วยในการอธิบายสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ จะทำให้คนฟังเห็นภาพมากขึ้น
- ใน 1 สไลด์ อย่าอ่านทุก element ที่อยู่ในสไลด์ให้คนฟัง เค้าอ่านเองได้ หยิบมาเฉพาะประเด็นสำคัญที่อยากพูดถึง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฝึกพูดบ่อยๆ ทบทวนหน้ากระจก จะช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาพรีเซนต์ได้ค่ะ
ทางแก้ง่ายๆ คือซ้อมบ่อยๆ ค่ะ.. พยายามคิดว่าเรากำลังเล่าเรื่องให้เพื่อนเราฟังอยู่ ลองซ้อมหน้ากระจกก็ได้
ส่วนเรื่องพูดไม่รู้เรื่อง ลองเอาวิธีนี้ไปใช้ดูนะ
- ถ้าไม่ได้มี form ของการทำสไลด์มาให้ ให้ทำหน้าแรกเป็น executive summary เพื่อเกริ่นให้คนฟังรู้ ว่าวันนี้เราจะมาพูดอะไร.. คนฟังจะได้เตรียมตัวเรียบเรียงความคิดตามสิ่งที่เราจะพูด
- พยายามอย่าใส่ตัวหนังสือให้พรืดไปหมด ใส่แต่ใจความสำคัญเป็น bullet point อย่าเกินสไลด์ละ 7 บรรทัด.. เวลาพรีเซนต์จริงค่อยพูดขยายความแต่ละ bullet เอา
- ถ้าจะให้ดี พยายามใช้รูป หรือ กราฟ เพื่อช่วยในการอธิบายสิ่งที่เราต้องการจะสื่อ จะทำให้คนฟังเห็นภาพมากขึ้น
- ใน 1 สไลด์ อย่าอ่านทุก element ที่อยู่ในสไลด์ให้คนฟัง เค้าอ่านเองได้ หยิบมาเฉพาะประเด็นสำคัญที่อยากพูดถึง
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ฝึกพูดบ่อยๆ ทบทวนหน้ากระจก จะช่วยเพิ่มความมั่นใจเวลาพรีเซนต์ได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
มีปัญหาเรี่องการพรีเซนต์งาน