APR 5 วันนี้ จ.ข.ก.ท. และมะลิได้ทานเช้ากะ Francis และเพื่อเป็นการอำลา Bodensee, Francis กะคุณสามีได้เตรียมห่อของขวัญสำหรับ Easter Sunday ซึ่งประกอบไปด้วย แชมเปนขวดเล็ก ช็อคโกแลตกล่องย่อมๆๆแล้วก็ขาดไม่ได้คือเจ้าช็อคโกแลตรูปกระต่ายสัญญาลักษณ์ของเทศกาลวันอีสเตอร์ ที่เมืองคริสต์ เทศกาลอีสเตอร์ก็เป็นเทศกาลแลกของขวัญย่อมๆเหมือนกัน
พวกเรามุ่งหน้าสู่เมือง Fussen, Germany ซึ่งเป็นเมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติก ระยะการเดินทางร่วม 200กิโลเมตร การขับขี่เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะเราเจอพายุหิมะระหว่างสองข้างทาง อากาศอยู่ที่ประมาณ 4 องศา ไม่ได้หนาวทรมานแต่ก็ยังหนาวอยู่ ลักษณะของพายุหิมะที่เราเจอนั้นเป็นแบบกึ่งฝนกึ่งหิมะ หย่อมๆเป็นกระจุกที่หน้าปัดรถยนต์ทำให้การขับขี่ค่อนข้างลำบาก พวกเราใช้เวลานานพอสมควรที่จะฝ่าฟันให้ไปถึงเมือง Fussen พวกเราไปถึงเมือง Fussen ประมาณ 3 โมงเย็น
ปราสาทในฝัน Neuschwanstein Castle แล้วก็ ปราสาท Hohenschwangau ซึ่งตั้งอยู่ตอนใต้สุดของแคว้นบาวาเรีย สร้างขึ้นในช่วง ค.ศ. 1845-1886 สร้างยังไม่เสร็จพระเจ้า Ludwig ที่ 2 ก็สิ้นพระชนม์เสียก่อน เคยมาประทับเพียง 170 วัน ก่อนที่จะมีคนพบพระองศ์เป็นศพลอยอยู่บนทะเลสาปใกล้ๆ ตัวปราสาทเองเพิ่งสร้างเสร็จไปแค่ 1 ใน 3 ของแบบ การก่อสร้างจึงสิ้นสุดลง
ถึงแหล่วๆๆ
ด้านหน้าตรงทางเข้า รถม้าจอดตรงนี้แหละ
ถึงปราสาท Neuschwanstein Castle ก็เลยจัดเตรียมหาที่จอดรถแล้วก็เข้าคิวซื้อบัตรเพื่อเยี่ยมชมปราสาท
วันนี้ท้องฟ้าไม่สวยเลย อากาศอึมครึม จ.ข.ก.ท. ไม่สามารถมองเห็นปราสาทจากวิวยอดเขาได้เลย เสียใจมากแต่ก็ยังไม่ท้อวิ่งเข้าไปต่อแถวซื้อบัตร จำได้ว่าวันนั้นพวกเราซื้อ Palace Pass
ถ้าใครยังไม่เคยมาเที่ยวปราสาท Neuschwanstein Castle ต้องศึกษาตารางทัวร์ให้ดีนะค่ะ เพราะว่านักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทัวร์ปราสาทเองได้ ต้องซื้อทัวร์เข้าเท่านั้น แต่ละทัวร์ก็แยกออกเป็นแต่ละภาษาไป พวกเรามากันสาย ไม่เหลือที่สำหรับรอบต่อไปกระทั่งปราสาทปิด เราผิดหวังมากแต่ยังไม่ถอดใจเลยบอกกะมะลิว่าเราไปเที่ยว ปราสาท Hohenschwangau ก่อนก็ได้แล้วค่อยกลับมาปราสาท Neuschwanstein หลังจากกลับจาก Austria เพราะยังงัยๆๆวันนี้อากาศไม่เป็นใจเลย ขนาดปราสาท Neuschwanstein สูงตระหง่านอยู่บนยอดเขาแท้ๆ แต่ว่าอากาศไม่ดีเลยทำให้เรามองไม่เห็นอะไรเลย
แต่ที่ยังไม่ถอดใจเพราะว่าปราสาท Hohenschwangau ของพระเจ้า Maximilian ที่ 2 ซึ่งเป็นพระราชบิดาของพระเจ้า Ludwig ที่ 2 ยังคงเปิดอยู่แล้วเวลาทัวร์ช่วงถัดไปก็อีก 45 นาที พวกเราเลยรีบหาซื้อตั๋วแล้วเร่งสปีดเดินขึ้นเขาแข่งกับฝนหิมะเพื่อมาให้ทันปราสาทในรอบของเรา พอไปถึงปราสาทพวกเรายังเหลือเวลาอีก15 นาทีกระทั่งถึงรอบของพวกเรา เราก็จัดแจงเข้าห้องน้ำห้องท่าเพราะว่าระยะเวลาทัวร์ต่อรอบจะอยู่ที่ประมาณ 30 นาที วันนั้นจำได้ว่าหนาวมาก อากาศลดลงเหลือ 1 องศา หิมะก็ไม่หยุดตก หนาวจับใจแต่เพราะความที่ จ.ข.ก.ท. ตั้งใจอยากเห็นความงามของปราสาทเลยทำให้ต้องเดินถ่ายรูปแบบหนาวๆ แต่ขณะเดินถ่ายรูปอยู่นั่นเอง จ.ข.ก.ท. ก็ได้เจอกับทัวร์คนไทยเขามองมาที่จ.ข.ก.ท.ด้วย แต่ก็ทำเนียนๆว่าชั้นไม่ใช่คนไทยนะยะ … หัวหน้าทัวร์ไทยก็อธิบายว่าในปราสาทเขาห้ามถ่ายรูปนะแต่ถ้าอยากถ่ายจริงๆก็เอาไปแพดกะมือถือมาแอบถ่ายเอา ยอมให้เจ้าหน้าที่ด่าหน่อยแต่ก็ไดรูปสมใจ จ.ข.ก.ท.ทนฟังไม่ได้เลยหันไปส่งสำเนียงไทยแล้วบอกว่า “พี่ค่ะ อย่าถ่ายเลยถูกจับได้อับอายเขาเสียแต่เปล่าๆ แถมอับอายมาถึงประเทศต้นทางของเราอีกด้วย” แล้ว จ.ข.ก.ท. ก็เดินสวยๆออกไป พอมาเป็นนักท่องเที่ยวมั่งเลยรู้ว่าเวลาที่เราด่าทัวร์ต่างชาติว่าไม่มีมารยาท ไม่มีวัฒนธรรมมันเป็นยังงัย เลยไม่อยากเจอกับตัวเองนะฮ๊า…..
ไปเที่ยว ปราสาท Hohenschwangau กันดีกว่า ไกด์สาวหน้าสวยชาวดัชน์บอกว่า ที่นี่เป็นที่ประทับฤดูร้อนของ พระเจ้า Maximilian ที่ 2 บางทีก็ใช้เป็นที่พักเมื่อถึงฤดูกาลล่าสัตว์ ข้างในตัวปราสาท Hohenschwangau ไม่สามารถถ่ายรูปได้ เลยได้แต่ถ่ายรูปบริเวณข้างนอกแทน ปราสาทนี้สวยมากถึงมีขนาดไม่ใหญ่โต ...แต่ก็จิ๋วแต่แจ๋วนะฮ๊าาาา.....
ไปฉิ๊งฉ่องบนปราสาทมาด้วย
ถ่ายรูปไปเรื่อยๆๆ ชอบปราสาทสีส้มจี๊สสส
ทางเดินบนปราสาท
Palace Garden สวนนี้ยังไม่เปิดอ่ะ เพราะว่ามันยังหนาวอยู่ คงประมาณ มิถุนายนอ่ะ
เจ้าของเป็นคาทอลิกนะ รู้ยัง
มีโต๊ะนั่งประปรายแต่นั่งไม่ไหว หนาวเหลือเกิน
ปีนลงมาจากปราสาทก็หิวเสียเหลือเกิน เดินๆมาหน่อยก็ป๊ะกะไอ้นี่....อร่อย สมกับเป็นอาหารประจำชาติเยอรมัน อิอิ >> Currywurst อ่านว่าเคอร์รีเวิรสต์หรือ ไส้กรอกราดซอสเครื่องเทศ กินกับมันฝรั่งทอด หรือจะเป็นขนมปังก็ได้ เมนูธรรมดาๆที่หากินได้ทั่วไปในเยอรมัน ไม่กินมาไม่ถึงเมืองเบียร์นะครัช
เวลากินเขากินกันอย่างนี้นะฮ๊า
หม่ำๆท่ามกลางสายฝน .... อร่อยจริง ไรจริง กล่องเดียวพอ ใหญ่เฟร่อไปไหน
ก่อนกลับจะเจอรูปปั้นของ พระเจ้า Maximilian ที่ 2 รอส่งกลับ
รูปปั้นอยู่บนเทือกเขา มีน้ำตกไหลผ่าน เป็นน้ำที่ละลายมาจากน้ำแข็งบนยอดเขาแอลป์
หลังจากใช้เวลาที่ ปราสาท Hohenschwangau พอสมควรก็ได้ฤกษ์ตะลอนๆๆเข้าสู่ประเทศ Austria เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมือง Schoppernau ประเทศ Austria เพื่อ ต่อทริปสกีของเรา 3 วัน 2 คืน ระยะทางขับรถเข้า Schoppernau 87กิโลใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างทางขับรถ อากาศค่อนข้างหนาวเย็นและมีพายุหิมะขนาดย่อมๆตลอดเวลา อุณหภูมิในขณะที่เราขับรถมุ่งหน้าสู่ Schoppernau นั้น ประมาณ – 6C หนาวสะเด็ดๆ
พวกเราขับรถผ่านหมู่บ้านเล็กๆใน Austria ท่ามกลางความหนาวเย็น บ้านบางหลัง จ.ข.ก.ท เคยคิดว่าพวกเขาอยู่ไปได้ยังงัย ดูเงียบเหงาแล้วก็เปล่าเปลี่ยว ปราศจากสิ่งยั่วยุต่างๆอย่างเช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารเลย ถ้าต้องการใช้บริการของพวกนี้ คนพื้นที่ต้องขับรถออกจากเมืองเล็กๆไปเมืองที่ใหญ่หว่าหน่อย แต่ตัวเลือกก็ไม่ได้มากมายอะไร จ.ข.ก.ท คิดว่าตัวเองคงอยู่ไม่ได้ ถ้าต้องไปอยู่คงคิดถึงร้านส้มตำไก่ย่างแน่ๆ หรือถ้าอยากดื่มน้ำอัดลมซักกระป๋องอาจต้องขับรถไกลถึง 50 กิโลก็เป็นได้
ดูๆไม่เหงาอย่างเดียว หนาวด้วย >..<
บรรยากาศแบบนี้ ประเทศไทยไม่มีนะฮ้า....
หนาวถึงรูขุมขน.....
การเดินทางครั้งนี้ เราขับรถเลียบเทือกเขา แอลป์ผ่านชายแดนเยอรมันนีเข้าสู่ประเทศออสเตรีย เห็นภูเขาใกล้ๆขอบอกว่าสวยและยิ่งใหญ่มาก เราต้องค่อยๆขับรถขึ้นมาบนภูเขาเพราะช่วงนั้นหิมะแรงมากแล้วฝนหิมะก็ตกตลอดเลย
รถบางคันต้องจำกัดความเร็ว คันนี้ 45 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง
เกือบถึงแล้ว ฮึบๆๆ
โรงแรมนี้ มะลิบอกเคยมานอน นางบอกว่าสวยงามตามสไตลส์คนออสเตรีย
งานเข้าๆๆๆ....เด๋วมาต่อ
ตะลุย ยุโรป 15 วัน 4 ประเทศด้วยรถบ้าน Germany/ France/ Austria / Netherland Part 4
พวกเรามุ่งหน้าสู่เมือง Fussen, Germany ซึ่งเป็นเมืองสุดท้ายบนถนนสายโรแมนติก ระยะการเดินทางร่วม 200กิโลเมตร การขับขี่เป็นไปด้วยความยากลำบากเพราะเราเจอพายุหิมะระหว่างสองข้างทาง อากาศอยู่ที่ประมาณ 4 องศา ไม่ได้หนาวทรมานแต่ก็ยังหนาวอยู่ ลักษณะของพายุหิมะที่เราเจอนั้นเป็นแบบกึ่งฝนกึ่งหิมะ หย่อมๆเป็นกระจุกที่หน้าปัดรถยนต์ทำให้การขับขี่ค่อนข้างลำบาก พวกเราใช้เวลานานพอสมควรที่จะฝ่าฟันให้ไปถึงเมือง Fussen พวกเราไปถึงเมือง Fussen ประมาณ 3 โมงเย็น
ปราสาทในฝัน Neuschwanstein Castle แล้วก็ ปราสาท Hohenschwangau ซึ่งตั้งอยู่ตอนใต้สุดของแคว้นบาวาเรีย สร้างขึ้นในช่วง ค.ศ. 1845-1886 สร้างยังไม่เสร็จพระเจ้า Ludwig ที่ 2 ก็สิ้นพระชนม์เสียก่อน เคยมาประทับเพียง 170 วัน ก่อนที่จะมีคนพบพระองศ์เป็นศพลอยอยู่บนทะเลสาปใกล้ๆ ตัวปราสาทเองเพิ่งสร้างเสร็จไปแค่ 1 ใน 3 ของแบบ การก่อสร้างจึงสิ้นสุดลง
ถึงแหล่วๆๆ
ด้านหน้าตรงทางเข้า รถม้าจอดตรงนี้แหละ
ถึงปราสาท Neuschwanstein Castle ก็เลยจัดเตรียมหาที่จอดรถแล้วก็เข้าคิวซื้อบัตรเพื่อเยี่ยมชมปราสาท
วันนี้ท้องฟ้าไม่สวยเลย อากาศอึมครึม จ.ข.ก.ท. ไม่สามารถมองเห็นปราสาทจากวิวยอดเขาได้เลย เสียใจมากแต่ก็ยังไม่ท้อวิ่งเข้าไปต่อแถวซื้อบัตร จำได้ว่าวันนั้นพวกเราซื้อ Palace Pass
ถ้าใครยังไม่เคยมาเที่ยวปราสาท Neuschwanstein Castle ต้องศึกษาตารางทัวร์ให้ดีนะค่ะ เพราะว่านักท่องเที่ยวไม่สามารถเดินทัวร์ปราสาทเองได้ ต้องซื้อทัวร์เข้าเท่านั้น แต่ละทัวร์ก็แยกออกเป็นแต่ละภาษาไป พวกเรามากันสาย ไม่เหลือที่สำหรับรอบต่อไปกระทั่งปราสาทปิด เราผิดหวังมากแต่ยังไม่ถอดใจเลยบอกกะมะลิว่าเราไปเที่ยว ปราสาท Hohenschwangau ก่อนก็ได้แล้วค่อยกลับมาปราสาท Neuschwanstein หลังจากกลับจาก Austria เพราะยังงัยๆๆวันนี้อากาศไม่เป็นใจเลย ขนาดปราสาท Neuschwanstein สูงตระหง่านอยู่บนยอดเขาแท้ๆ แต่ว่าอากาศไม่ดีเลยทำให้เรามองไม่เห็นอะไรเลย
แต่ที่ยังไม่ถอดใจเพราะว่าปราสาท Hohenschwangau ของพระเจ้า Maximilian ที่ 2 ซึ่งเป็นพระราชบิดาของพระเจ้า Ludwig ที่ 2 ยังคงเปิดอยู่แล้วเวลาทัวร์ช่วงถัดไปก็อีก 45 นาที พวกเราเลยรีบหาซื้อตั๋วแล้วเร่งสปีดเดินขึ้นเขาแข่งกับฝนหิมะเพื่อมาให้ทันปราสาทในรอบของเรา พอไปถึงปราสาทพวกเรายังเหลือเวลาอีก15 นาทีกระทั่งถึงรอบของพวกเรา เราก็จัดแจงเข้าห้องน้ำห้องท่าเพราะว่าระยะเวลาทัวร์ต่อรอบจะอยู่ที่ประมาณ 30 นาที วันนั้นจำได้ว่าหนาวมาก อากาศลดลงเหลือ 1 องศา หิมะก็ไม่หยุดตก หนาวจับใจแต่เพราะความที่ จ.ข.ก.ท. ตั้งใจอยากเห็นความงามของปราสาทเลยทำให้ต้องเดินถ่ายรูปแบบหนาวๆ แต่ขณะเดินถ่ายรูปอยู่นั่นเอง จ.ข.ก.ท. ก็ได้เจอกับทัวร์คนไทยเขามองมาที่จ.ข.ก.ท.ด้วย แต่ก็ทำเนียนๆว่าชั้นไม่ใช่คนไทยนะยะ … หัวหน้าทัวร์ไทยก็อธิบายว่าในปราสาทเขาห้ามถ่ายรูปนะแต่ถ้าอยากถ่ายจริงๆก็เอาไปแพดกะมือถือมาแอบถ่ายเอา ยอมให้เจ้าหน้าที่ด่าหน่อยแต่ก็ไดรูปสมใจ จ.ข.ก.ท.ทนฟังไม่ได้เลยหันไปส่งสำเนียงไทยแล้วบอกว่า “พี่ค่ะ อย่าถ่ายเลยถูกจับได้อับอายเขาเสียแต่เปล่าๆ แถมอับอายมาถึงประเทศต้นทางของเราอีกด้วย” แล้ว จ.ข.ก.ท. ก็เดินสวยๆออกไป พอมาเป็นนักท่องเที่ยวมั่งเลยรู้ว่าเวลาที่เราด่าทัวร์ต่างชาติว่าไม่มีมารยาท ไม่มีวัฒนธรรมมันเป็นยังงัย เลยไม่อยากเจอกับตัวเองนะฮ๊า…..
ไปเที่ยว ปราสาท Hohenschwangau กันดีกว่า ไกด์สาวหน้าสวยชาวดัชน์บอกว่า ที่นี่เป็นที่ประทับฤดูร้อนของ พระเจ้า Maximilian ที่ 2 บางทีก็ใช้เป็นที่พักเมื่อถึงฤดูกาลล่าสัตว์ ข้างในตัวปราสาท Hohenschwangau ไม่สามารถถ่ายรูปได้ เลยได้แต่ถ่ายรูปบริเวณข้างนอกแทน ปราสาทนี้สวยมากถึงมีขนาดไม่ใหญ่โต ...แต่ก็จิ๋วแต่แจ๋วนะฮ๊าาาา.....
ไปฉิ๊งฉ่องบนปราสาทมาด้วย
ถ่ายรูปไปเรื่อยๆๆ ชอบปราสาทสีส้มจี๊สสส
ทางเดินบนปราสาท
Palace Garden สวนนี้ยังไม่เปิดอ่ะ เพราะว่ามันยังหนาวอยู่ คงประมาณ มิถุนายนอ่ะ
เจ้าของเป็นคาทอลิกนะ รู้ยัง
มีโต๊ะนั่งประปรายแต่นั่งไม่ไหว หนาวเหลือเกิน
ปีนลงมาจากปราสาทก็หิวเสียเหลือเกิน เดินๆมาหน่อยก็ป๊ะกะไอ้นี่....อร่อย สมกับเป็นอาหารประจำชาติเยอรมัน อิอิ >> Currywurst อ่านว่าเคอร์รีเวิรสต์หรือ ไส้กรอกราดซอสเครื่องเทศ กินกับมันฝรั่งทอด หรือจะเป็นขนมปังก็ได้ เมนูธรรมดาๆที่หากินได้ทั่วไปในเยอรมัน ไม่กินมาไม่ถึงเมืองเบียร์นะครัช
เวลากินเขากินกันอย่างนี้นะฮ๊า
หม่ำๆท่ามกลางสายฝน .... อร่อยจริง ไรจริง กล่องเดียวพอ ใหญ่เฟร่อไปไหน
ก่อนกลับจะเจอรูปปั้นของ พระเจ้า Maximilian ที่ 2 รอส่งกลับ
รูปปั้นอยู่บนเทือกเขา มีน้ำตกไหลผ่าน เป็นน้ำที่ละลายมาจากน้ำแข็งบนยอดเขาแอลป์
หลังจากใช้เวลาที่ ปราสาท Hohenschwangau พอสมควรก็ได้ฤกษ์ตะลอนๆๆเข้าสู่ประเทศ Austria เพื่อมุ่งหน้าไปยังเมือง Schoppernau ประเทศ Austria เพื่อ ต่อทริปสกีของเรา 3 วัน 2 คืน ระยะทางขับรถเข้า Schoppernau 87กิโลใช้เวลาประมาณ ชั่วโมงครึ่ง ระหว่างทางขับรถ อากาศค่อนข้างหนาวเย็นและมีพายุหิมะขนาดย่อมๆตลอดเวลา อุณหภูมิในขณะที่เราขับรถมุ่งหน้าสู่ Schoppernau นั้น ประมาณ – 6C หนาวสะเด็ดๆ
พวกเราขับรถผ่านหมู่บ้านเล็กๆใน Austria ท่ามกลางความหนาวเย็น บ้านบางหลัง จ.ข.ก.ท เคยคิดว่าพวกเขาอยู่ไปได้ยังงัย ดูเงียบเหงาแล้วก็เปล่าเปลี่ยว ปราศจากสิ่งยั่วยุต่างๆอย่างเช่น ห้างสรรพสินค้า ร้านอาหารเลย ถ้าต้องการใช้บริการของพวกนี้ คนพื้นที่ต้องขับรถออกจากเมืองเล็กๆไปเมืองที่ใหญ่หว่าหน่อย แต่ตัวเลือกก็ไม่ได้มากมายอะไร จ.ข.ก.ท คิดว่าตัวเองคงอยู่ไม่ได้ ถ้าต้องไปอยู่คงคิดถึงร้านส้มตำไก่ย่างแน่ๆ หรือถ้าอยากดื่มน้ำอัดลมซักกระป๋องอาจต้องขับรถไกลถึง 50 กิโลก็เป็นได้
ดูๆไม่เหงาอย่างเดียว หนาวด้วย >..<
บรรยากาศแบบนี้ ประเทศไทยไม่มีนะฮ้า....
หนาวถึงรูขุมขน.....
การเดินทางครั้งนี้ เราขับรถเลียบเทือกเขา แอลป์ผ่านชายแดนเยอรมันนีเข้าสู่ประเทศออสเตรีย เห็นภูเขาใกล้ๆขอบอกว่าสวยและยิ่งใหญ่มาก เราต้องค่อยๆขับรถขึ้นมาบนภูเขาเพราะช่วงนั้นหิมะแรงมากแล้วฝนหิมะก็ตกตลอดเลย
รถบางคันต้องจำกัดความเร็ว คันนี้ 45 กิโลเมตร ต่อ ชั่วโมง
เกือบถึงแล้ว ฮึบๆๆ
โรงแรมนี้ มะลิบอกเคยมานอน นางบอกว่าสวยงามตามสไตลส์คนออสเตรีย
งานเข้าๆๆๆ....เด๋วมาต่อ