เอิ๊กกๆ   คนเก่งทำอะไรก็รุ่ง

ไม่เหมือนแหลมาร์ค เปิดร้านแกาแฟยังเจ๊ง




อันดับที่ 10 พ.ต.ท.ดร.ทักษิณ ชินวัตร มีทรัพย์สินจำนวน 5 หมื่น 7 พันล้านบาท มีตัวเลขทรัพย์สินเพิ่มขึ้น 4 พันล้าน แต่อันดับนั้นคงที่

นิตยสารฟอร์บสประเทศไทย ได้ทำการจัดอันดับมหาเศรษฐีของไทยประจำปี 2558 โดยฟอร์บสกล่าวว่า แม้เศรษฐกิจไทยในปีนี้เติบโตช้าลง ท่ามบรรยากาศภายในประเทศที่อยู่ภายใต้การบริหารของรัฐบาล คสช. แต่มูลค่าทรัพย์สินของ 50 มหาเศรษฐีไทยกลับเพิ่มสูงขึ้นกว่า 1 แสนล้านเหรียญ หรือกว่า 3,300 ล้านล้านบาท เทียบเป็น 1 ส่วน 4 ของผลิตภัณฑ์มวลรวมในประเทศหรือจีดีพี

อร์บสรายงานต่อว่า สำหรับรายชื่อมหาเศรษฐีไทยในปีนี้ มีการเปลี่ยนแปลงอันดับอย่างน่าสนใจ โดยนายธนินทร์ เจียรวนนท์ ดีลเมคเกอร์แห่งเครือซีพี มีทรัพย์สินกว่า 4 แสน 8 หมื่นล้านบาท เพิ่มขึ้น 9 หมื่น 7 พันล้านบาท หรือร้อยละ 25 หลังจากที่ราคาหุ้นที่ธนินทร์ซื้อกับ ผิงอัน บริษัทประกันชีวิตยักษ์ใหญ่ของจีน ทะยานขึ้นในรอบปี ส่งผลให้ขึ้นแท่นกลับมาครองเป็นที่ 1 อีกครั้ง หลังต้องเสียตำแหน่งนี้ให้กับทศ จิราธิวัฒน์แห่งเครือเซ็นทรัลพัฒนา เมื่อปีที่แล้ว

อันดับ 2 เป็นของนายเจริญ สิริวัฒนภักดี แห่งไทยเบฟฯ ขื้นจากอันดับ 3 เมื่อปีที่แล้ว โดยมีทรัพย์สินรวมทั้งหมดเป็นจำนวนกว่า 4 แสน 3 หมื่นล้านบาท แม้เจอนโยบายควบคุมแอลกอฮอล์อย่างต่อเนื่อง แต่เจ้าสัวเจริญ ยังคงมองหาธุรกิจใหม่ต่อ โดยล่าสุดกำลังเจรจากับรัฐบาลเวียดนามเพื่อขอซื้อ Sabeco รัฐวิสาหกิจผู้ผลิตเบียร์ Saigon ในมูลค่า 3 หมื่น 3 พันล้านบาท ทว่า เขาอาจต้องขายหุ้นของ F&N ในโรงงานผลิตเบียร์ของเมียนมาร์หลังพ่ายในข้อพิพาททางการฎหมาย

ขณะที่ ตระกูลจิราธิวัฒน์ ยักษ์ใหญ่แห่งวงการค้าปลีก มีทรัพย์สินลดลงอยู่ที่ 4 แสน 1 หมื่นล้านบาท จากภาวะกำลังซื้อภาคครัวเรือนที่ลดลงและจำนวนนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้าประเทศลดลงอีก ทำให้ตกอันดับไปอยู่ที่ 3 ในปีนี้

http://www.forbesthailand.com/lists_detail.php?lists_id=28