วลีเด็ดจากภาพยนตร์เรื่อง LUCY " ไม่เคยมีใครตายจริงๆหรอก" และ " I am everywhere" : หนังวิทยาศาสตร์แต่ทำไมดูจบนึกถึงศาสนา

พอดีผมพึ่งได้มีเวลาดู ภาพยนตร์เรื่อง LUCY
ดูแล้วรู้สึกทึ่งดูแล้วรู้สึกเหมือนหนังวิทยาศาสตร์ไซไฟ
แต่จริงๆแล้วกลับเป็น ศาสนา ปรัญญา ทั้งที่ไม่ได้เอ่ยเรื่องศาสนาเลย



หนังมีสมมติฐานให้คิดในแง่ การใช้สมอง ที่ปรกติเราใช้เพียงแค่ 10% เท่านั้น
แต่คนเราถ้าหากใช้ได้เกิน 10% จนถึง 100% จะเกิดอะไรขึ้นบ้าง   

ในเรื่องนางเอกได้รับ CPH4 (สารเสพติดชนิดใหม่)ที่ถูกฝังไว้ในท้องโดยแก๊งค์ค้ายาข้ามชาติ แล้วเกิดถุงรั่ว
ทำให้สารชนิดนี้ไปกระตุ้นการทำงานของสมองของนางเอก ให้ทำงานมากกว่า 10% ขึ้นไปเรื่อยๆ จนถึง 100%
เมื่อประสิทธิภาพในการทำงานของสมองมากขึ้นกลับพบว่ามีสิ่งที่เปลี่ยนไปในตัวนางเอกเช่น
1.ฉลาดขึ้น IQ สูงขึ้น สามารถ เรียนรู้เร็ว ความจำเยี่ยม วิเคราะห์ทางวิทยาศาสตร์หลายแขนงได้ สามารถอธิบายทฤษฎีสัมพัทธภาพได้
2.บริหาร EQ ควบคุมอารมณ์ต่างๆให้น้อยลง (รัก โลภ โกรธ หลง กลัว)  ดูเป็นคนนิ่งๆ เกือบเย็นชา
3.ทักษะการต่อสู้เก่งขึ้น
4.พลังสมองที่เกิน 50% มีพลังจิตพิเศษ  คล้ายๆกับการได้อภิญญา 6 ในทางพุทธศาสนา เช่น อ่านจิตคนอื่นได้ มีตาทิพย์ หูทิพย์   
5.พลังสมองที่เกิน 80% จะเริ่มบังคับจิตให้เร็วกว่าแสง  สามารถอยู่ในมิติที่ 4 สามารถย้อนเวลา หยุดเวลา และเร่งเวลาได้(เหมือนกดรีโหมด DVD)
ุ6.พลังสมองที่ถึง 90% เริ่มเข้าใจธรรมชาติ และ จักรวาล
7.พลังสมองเต็ม 100% ไร้ตัวตน



เมื่อดูถึงตอนจบแล้ว ผมนึกถึงพุทธศาสนาเลยครับ
นึกถึงการนั่งกรรมฐาน จนบรรลุเป็นขั้นๆ แล้วเราจะได้ฌาน ได้อภิญญา6 ได้ระลึกชาติ ปุพเพนิวาสานุสติญาณ   
และขั้นสุดท้ายคือ นิพพาน




ขนาดที่ว่าดูจบไปแล้ว
แต่มันมีวลีเด็ด เป็นคำที่ฟังแล้วสกิดใจมากๆเลยคือ

ตอนที่ตำรวจเตือนนางเอกขับรถเร็วอาจเกิดอุบัติเหตุตายได้ นางเอกพูดแย้งว่า "ไม่มีใครเคยตายจริงๆหรอก"
อันนี้มันคล้ายกับ วัฎสงสารเลย คือ การเวียนว่ายตายเกิดใน 31 ภพภูมิ ในทางพุทธศาสนา
แต่ถ้าเป็นทางวิทยาศาสตร์ตายแล้วคือจบ



และในตอนสุดท้ายที่ตัวนางเอกหายไปตำรวจสงสัยว่าหายไปไหน นางเอกส่งข้อความมาทางมือถือว่า "I am everywhere"
และมีฉากที่นางเอกย้อนเวลาไปแตะบรรพบุรุษของมนุษย์ตัวแรกที่ชื่อเดียวกับนางเอกในเรื่อง คือ LUCY
มันเป็นคำตอบที่ทำให้ผมนึกถึง สิ่งศักดิ์สิทธิ์ อาจเป็นพระเจ้า เทพเจ้า พรหม(อรูปพรหม) หรือ พระพุทธเจ้า เลย






สรุปคือดูเรื่องนี้แล้วผมอดคิดถึงเรื่องศาสนาไม่ได้
และมีคำพูด 2 วลีนี้ที่ค้างอยู่ในหัวผมอยู่เลย

ใครที่ยังไม่เคยดูแนะนำให้ลองดูครับ ผมว่าดูแล้วเข้าใจได้ลึกและสนุกอาจขึ้นอยู่กับ
พื้นความรู้ในทางวิทยาศาสตร์ต่างๆด้วย เช่น เรื่องทฤษฎีสัมพัทธภาพ ที่นางเอกยกตัวอย่างรถวิ่งเร็วกว่าแสง ทำให้วัตถุนั้นสามารถหายไปได้
เรื่องของดาราศาสตร์ จักรวาล ทฤษฎีบิ๊กแบง เรื่องการทำงานของสมอง
และพื้นความรู้ด้านศาสนา เข้าใจในเรื่องของพุทธศาสนา หรือศาสนาปรัชญา

คือสรุปง่ายคือผสมระหว่าง วิทยาศาสตร์และศาสนานั่นแหละครับ
ท่านใดดูแล้วมีมุมมองอย่างไร ก็เอามาแนะนำไว้ได้ครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  ศาสนาพุทธ ภาพยนตร์ไซไฟ วิทยาศาสตร์ Lucy (ภาพยนตร์)
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่