สวัสดียามบ่ายกับเพื่อนๆ ทุกคนนะครับ
บรรยากาศในกรุงเทพตอนนี้กำลังได้ที่เลย ฟ้าครึ้มๆ ฝนจะตก หลายคนคงอยากนอนกันแล้วสิท่า ฮ่าๆ หลังจากที่นั่งอ่านกระทู้ผีต่างๆ มาเลยอยากมาแชร์ของตัวเองให้ฟังบ้าง อาจจะพิมพ์ไม่สนุกหรือไม่น่ากลัวก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ
ก่อนอื่นผมขอเกริ่นก่อนเลยว่าเรื่องที่จะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องที่ ผมเจอกับตัวเองมาล้วนๆ มีพยานบ้างไม่มีบ้าง ใครจะหาว่าแต่งหรือไม่เชื่ออะไรผมไม่ซีเรียสนะครับ ถือว่าเป็นแชร์ให้อ่านสนุกๆ
เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสมัยที่ตัวผมเองยังอยู่ ปวช. ตอนนั้นอยู่ ปี 2 ผมรู้สึกว่าผมมีเซ้นส์ตั้งแต่เด็กๆ เจอมาบ่อยแต่ไม่ถึงกับชินนะครับ ขอไม่เจอดีกว่า 555 เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะครับ ตอนนั้นผมเรียนอยู่วิทยาลัยที่นึงในภาคตะวันออกครับ ส่วนบ้านผมก็อยู่อีกอำเภอนึงในจังหวัดเดียวกันนั่นแหละ แต่การเดินทางไกลจากกันมาก 70-80 โล ก็ว่าได้ ถือว่าลำบากครับ เลยพักอยู่หอใกล้ๆ วิทยาลัย (ไม่ขอเอ่ยถึงรายละเอียดนะครับ เด่วเจ้าของเค้าจะเดือดร้อนเอา) หอพักนี้เป็นหอที่เข้มงวดครับ อาจารย์ที่วิทยาลัยเป็นเจ้าของ เป็นหอชายล้วน เค้าจะเปิดและปิดหอเป็นเวลา เต็มที่ก็ 4 ทุ่มครับ เปิดอีกทีก็ประมาณตี 5 ตอนนั้นผมจะพักอยู่วันจันทร์-พฤหัส ส่วนวันศุกร์ก็จับกลับบ้านทุกอาทิตย์
เริ่มด้วยอาทิตย์ก่อนจะเปิดเรียนช่วงนั้นเป็นช่วงปีชงทั้งบ้านเลยครับ แม่เลยพาไปศาลเจ้าแถวบ้านเพื่อทำบุญ ก็ไปทำบุญธรรมดาครับไหว้เทพเจ้าต่างๆ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั่วศาลเจ้า ใครเคยไปคงนึกภาพออกนะครับ ซึ่งที่นี่ก็จะมีร่างทรง ที่เค้าเรียกกันว่า “อากง” ก็ตามนั้นแหละครับ อากงเป็นคนไทยแก่ๆ คนนึงครับ พูดไทยได้ปกติ แต่เมื่อถึงเวลาที่ท่านประทับ ก็มีอาการเหมือนคนทรงเจ้าที่เราเคยเห็นกันตามโทรทัศน์นั่นแหละครับ (หากใครนึกภาพไม่ออกลองหาเปิดดูครับ) หน้าท่านจะแดงมาก เหมือนคนโกรธ ท่าทางจะดุๆ เหมือนในภาพที่อยู่ตรงประตูบานซ้ายและขวาของศาลเจ้าเผื่อใครชอบสังเกตุ หลังจากนั้น ท่านก็จะพูกทุกอย่างเป็นจีนทั้งหมด แล้วก็จะมีคุณลุงอีกคนแก่ๆ เอาถาดน้ำชากับบุหรี่มาถวาย แล้วทำหน้าที่เป็นล่าม ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นการเข้าคิวเพื่อแก้ปีชงครับ ก็จะมีคุยกับครอบครัวที่มาแต่ละครอบครัวแล้วก็จะทำพิธีให้ มาถึงที่ครอบครัวผม ท่านก็ไล่ตั้งแต่แม่ พี่สาว แล้วจนมาถึงตัวผมท่านก็ทักคำแรกวาส “อาตี๋อยู่ไกลจากบ้านนี่”(ล่ามแปลให้นะครับ) ซึ่งตอนนั้นผมก็ งงๆ อยู่เหมือนกัน ท่านไม่พูดอะไรมากครับ แค่บอกว่า ให้ตั้งใจเรียนขอพรของได้จากเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอได้แต่ถ้าหวังอะไรแล้วขอมันขึ้นอยู่ที่ตัวเรา ผมนี่นิ่งเลยครับ(ก่อนหน้านี้ผมไหว้ขอพรที่รูปปั้น ของอากงว่าขอให้เรียนจบ เพราะตอนนั้นดื้อมากทะเลาะวิวาทบ่อยมากครับสมัยนั้น 555) อากงก็บอกอีกว่ารับปากกับอากงนะว่า จะอยู่ห่างสิ่งไม่ดีไว้(พวกเหล้ายาทั้งหลาย) ผมก็รับปาก จากนั้นอากงก็เอาตะกุดมาให้ครับ ข้างในเป็นลูกปืนแล้วก็มีผ้าแดงๆ คล้ายฮู้หรืออะไรซักอย่าง ตอนนั้นผมไม่ได้สนใจครับ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่ จากวันนั้นผมก็ห้อยตะกุดติดตัวตลอด
เรื่องมันเกิดขึ้นตอนที่มาอยู่หอนี่แหละครับ ผมพักอยู่กับเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ให้ชื่อว่า T แล้วกัน นอนด้วนกันมาทุกคืน จนคืนที่เกิดเรื่องนี่แหละครับ ก่อนนอนผมจะสวดมนต์แล้วก็แขวนตะกุดไว้ที่หัวเตียงทุกคืน คืนนั้นผมตื่นมากลางดึกช่วงนั้นน่าจะหลังเที่ยงคืนละเพราะผมนอนดึก ความรู้สึกเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น(ใครเคยโดนอำหรือเคยอ่านจะเจอแบบนี้บ่อย) ผมหันไปหาไอ่ T มันไม่อยู่ครับ เลยคิดว่าสงสัยมันคงไปเล่นเกมห้องพี่ ห้องตรงข้าม เลยนอนต่อ แต่จังหวะที่ผมกำหลังจะนอนนี่แหละ ผมได้ยินเสียงเด็ก อายุราวๆ 8-10 ขวบ วิ่งเล่นกันอยู่ตรงทางเดินหน้าห้อง (ขออธิบายรายละเอียดเพิ่มหน่อยนะครับ ผมอยู่ห้องชั้นบนสุด ขึ้นบรรไดมาจะเจอห้องเหมือนห้องเช้า ทั้งซ้ายและขวาของทางเดิน ซึ่งทางเดินเป็นแนวยาวแล้วห้องผมจะอยู่เกือบสุดทางเดินครับ) ต่อนะครับ ตอนนั้นผมชัวร์แน่ๆ ว่ามีเด็กผู้ชาย 2 ผู้หญิง 1 ซึ่งมันเด็กมากเกินกว่าจะมาเข้ามาอยู่ในหอนี้ได้ หอนี้มีตั้งแต่ ปวช ถึง ปวส แล้วผมก็รู้จักเกือบทุกห้อง และมั่นใจแน่ๆ ว่าไม่ใช่เด็กที่นี่แน่นอน เสียงหัวเราะวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน สิ่งที่ผมคิดว่าไม่อยากให้เจอที่สุด มันดันมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องผม(เหมือนเด็กๆ พวกนั้นเค้ารู้ครับว่าผม รู้สึกถึงพวกเค้า) ผมนี่ไม่พูดพร่ำทำเพลงครับ นอนคว่ำคลุมโปงทันที นึกในใจว่า ship หายแล้ว gu วินาทีนั้นทุกอย่างเงียบไปหมด ไม่มีแม้แต่เสียงเด็กวิ่งเล่นหรือหัวเราะเหมือนเดิม วินาทีต่อไปนี้อยากให้ทุกคนนึกภาพตามนะครับ จะพยายามอธิบายถึงอารมณ์ตอนนั้นให้ละเอียดที่สุด
หลังจากที่ผมคลุมโปรง กับความที่โครตกลัว แล้วรู้สึกว่าเด็กพวกนั้นอยู่หน้าห้อง ซึ่งผมรับรู้ได้ว่าเด็กพวกนั้นก็รู้ว่าผมรู้สึกถึงพวกเค้าแน่ๆ จู่ๆ มีมือเย็นๆ เล็กๆ ล้วงครับ !! ล้วงเข้ามาจริงๆ ระหว่างที่ผมนอนคว่ำหน้าคลุมโปรง ล้วงตั้งแต่ต้นคอลึกเข้าไปถึงกลางหลัง (นึกทีไรเย็นสันหลังทุกที) ตอนนั้นผมอยากดิ้นครับ แต่ดิ้นไม่ได้ ร้องก็ร้องไม่ออก รู้อย่างเดียวมือนั้นมันยังอยู่ ผมพยายามแหกปากทุกวิถีทางแต่ก็ทำไม่ได้ จนมานึกถึงตะกุดของอากงบนหัวเตียงครับ พอนึกถึงเสียงที่ผมพยายามแหกปากกลับหลุดออกมาลั่นห้อง “เฮ้ย ยย !!!!” ทุกอย่างหายไปหมด ทุกอย่างเงียบสงบ แล้วผมก็เคลิ้มหลับไปได้ไงก็ไม่รู้ ตื่นเช้ามาอีกที ไอ่ T ครับ มันนอนอยู่ข้างๆ ผมเลยถามว่า “เห้ยเมื่อคืน xxx ไปไหนมาวะ” ไอ่ T ก็ตอบมาว่า “ไปไหนละกูก็นอนอยู่เนี่ย” ผมก็เออ “สงสัยกูคงฝันไป” มันก็ยังมองหน้าผม งงๆ เช้าวันนั้นผมก็แยกย้ายกันไปเรียนตามปกติ
ผมกับไอ่ T นี่เรียนกันคนละช่างครับ เจอกันก็แค่ตอนตื่นกับเลิกเรียน เย็นวันนั้นกลับจากวิทลัย ก็นั่งเล่นเกมเพลย์กัน อยู่ๆไอ T ก็บอกผมว่าเห้ย “เมื่อคืนกูฝันหวะ” ผมก็ถามว่าฝันว่าไร เชื่อไหมครับมันบอกว่า “กูนึกกูยังขนลุกเลย” ไอ่ T มันฝันว่า ตอนกลางคืนมันตื่นมามีเด็กผู้ชายยืนร้องไห้อยู่หน้าห้อง มันเลยเข้าไปถามว่า น้องเป็นอะไรครับ เด็กคนนั้นร้องไห้แล้วเอามือชี้เข้ามาในห้อง ซึ่งไอ่ T บอกว่าผมนอนอยู่ แล้วเด็กคนนั้นก็พูดว่า “พี่คนนั้นเอาตะกุดมาไล่ผม” . . .. .
ผมนี่รีบเล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง มันหลอนสิครับ อาบน้ำตั้งแต่ยังไม่ 6 โมงเย็น (หอพักเป็นห้องน้ำรวมครับ) เลยพากันหลอนยกใหญ่.. .
จบแล้วครับ
ขอบคุณทุกท่านที่มาอ่านนะครับ ไว้เลิกงานจะเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมนิดหน่อยให้ฟังนะครับอู้นานละ 555
เด็กหอ
บรรยากาศในกรุงเทพตอนนี้กำลังได้ที่เลย ฟ้าครึ้มๆ ฝนจะตก หลายคนคงอยากนอนกันแล้วสิท่า ฮ่าๆ หลังจากที่นั่งอ่านกระทู้ผีต่างๆ มาเลยอยากมาแชร์ของตัวเองให้ฟังบ้าง อาจจะพิมพ์ไม่สนุกหรือไม่น่ากลัวก็ต้องขออภัยด้วยนะครับ
ก่อนอื่นผมขอเกริ่นก่อนเลยว่าเรื่องที่จะเล่าให้ฟังเป็นเรื่องที่ ผมเจอกับตัวเองมาล้วนๆ มีพยานบ้างไม่มีบ้าง ใครจะหาว่าแต่งหรือไม่เชื่ออะไรผมไม่ซีเรียสนะครับ ถือว่าเป็นแชร์ให้อ่านสนุกๆ
เรื่องนี้เป็นเรื่องเกี่ยวกับสมัยที่ตัวผมเองยังอยู่ ปวช. ตอนนั้นอยู่ ปี 2 ผมรู้สึกว่าผมมีเซ้นส์ตั้งแต่เด็กๆ เจอมาบ่อยแต่ไม่ถึงกับชินนะครับ ขอไม่เจอดีกว่า 555 เข้าเรื่องเลยแล้วกันนะครับ ตอนนั้นผมเรียนอยู่วิทยาลัยที่นึงในภาคตะวันออกครับ ส่วนบ้านผมก็อยู่อีกอำเภอนึงในจังหวัดเดียวกันนั่นแหละ แต่การเดินทางไกลจากกันมาก 70-80 โล ก็ว่าได้ ถือว่าลำบากครับ เลยพักอยู่หอใกล้ๆ วิทยาลัย (ไม่ขอเอ่ยถึงรายละเอียดนะครับ เด่วเจ้าของเค้าจะเดือดร้อนเอา) หอพักนี้เป็นหอที่เข้มงวดครับ อาจารย์ที่วิทยาลัยเป็นเจ้าของ เป็นหอชายล้วน เค้าจะเปิดและปิดหอเป็นเวลา เต็มที่ก็ 4 ทุ่มครับ เปิดอีกทีก็ประมาณตี 5 ตอนนั้นผมจะพักอยู่วันจันทร์-พฤหัส ส่วนวันศุกร์ก็จับกลับบ้านทุกอาทิตย์
เริ่มด้วยอาทิตย์ก่อนจะเปิดเรียนช่วงนั้นเป็นช่วงปีชงทั้งบ้านเลยครับ แม่เลยพาไปศาลเจ้าแถวบ้านเพื่อทำบุญ ก็ไปทำบุญธรรมดาครับไหว้เทพเจ้าต่างๆ ขอพรสิ่งศักดิ์สิทธ์ทั่วศาลเจ้า ใครเคยไปคงนึกภาพออกนะครับ ซึ่งที่นี่ก็จะมีร่างทรง ที่เค้าเรียกกันว่า “อากง” ก็ตามนั้นแหละครับ อากงเป็นคนไทยแก่ๆ คนนึงครับ พูดไทยได้ปกติ แต่เมื่อถึงเวลาที่ท่านประทับ ก็มีอาการเหมือนคนทรงเจ้าที่เราเคยเห็นกันตามโทรทัศน์นั่นแหละครับ (หากใครนึกภาพไม่ออกลองหาเปิดดูครับ) หน้าท่านจะแดงมาก เหมือนคนโกรธ ท่าทางจะดุๆ เหมือนในภาพที่อยู่ตรงประตูบานซ้ายและขวาของศาลเจ้าเผื่อใครชอบสังเกตุ หลังจากนั้น ท่านก็จะพูกทุกอย่างเป็นจีนทั้งหมด แล้วก็จะมีคุณลุงอีกคนแก่ๆ เอาถาดน้ำชากับบุหรี่มาถวาย แล้วทำหน้าที่เป็นล่าม ซึ่งหลังจากนี้จะเป็นการเข้าคิวเพื่อแก้ปีชงครับ ก็จะมีคุยกับครอบครัวที่มาแต่ละครอบครัวแล้วก็จะทำพิธีให้ มาถึงที่ครอบครัวผม ท่านก็ไล่ตั้งแต่แม่ พี่สาว แล้วจนมาถึงตัวผมท่านก็ทักคำแรกวาส “อาตี๋อยู่ไกลจากบ้านนี่”(ล่ามแปลให้นะครับ) ซึ่งตอนนั้นผมก็ งงๆ อยู่เหมือนกัน ท่านไม่พูดอะไรมากครับ แค่บอกว่า ให้ตั้งใจเรียนขอพรของได้จากเทพหรือสิ่งศักดิ์สิทธิ์ขอได้แต่ถ้าหวังอะไรแล้วขอมันขึ้นอยู่ที่ตัวเรา ผมนี่นิ่งเลยครับ(ก่อนหน้านี้ผมไหว้ขอพรที่รูปปั้น ของอากงว่าขอให้เรียนจบ เพราะตอนนั้นดื้อมากทะเลาะวิวาทบ่อยมากครับสมัยนั้น 555) อากงก็บอกอีกว่ารับปากกับอากงนะว่า จะอยู่ห่างสิ่งไม่ดีไว้(พวกเหล้ายาทั้งหลาย) ผมก็รับปาก จากนั้นอากงก็เอาตะกุดมาให้ครับ ข้างในเป็นลูกปืนแล้วก็มีผ้าแดงๆ คล้ายฮู้หรืออะไรซักอย่าง ตอนนั้นผมไม่ได้สนใจครับ เชื่อครึ่งไม่เชื่อครึ่ง แต่ก็ไม่ได้ลบหลู่ จากวันนั้นผมก็ห้อยตะกุดติดตัวตลอด
เรื่องมันเกิดขึ้นตอนที่มาอยู่หอนี่แหละครับ ผมพักอยู่กับเพื่อนที่เรียนมาด้วยกันตั้งแต่สมัยมัธยมต้น ให้ชื่อว่า T แล้วกัน นอนด้วนกันมาทุกคืน จนคืนที่เกิดเรื่องนี่แหละครับ ก่อนนอนผมจะสวดมนต์แล้วก็แขวนตะกุดไว้ที่หัวเตียงทุกคืน คืนนั้นผมตื่นมากลางดึกช่วงนั้นน่าจะหลังเที่ยงคืนละเพราะผมนอนดึก ความรู้สึกเหมือนกึ่งหลับกึ่งตื่น(ใครเคยโดนอำหรือเคยอ่านจะเจอแบบนี้บ่อย) ผมหันไปหาไอ่ T มันไม่อยู่ครับ เลยคิดว่าสงสัยมันคงไปเล่นเกมห้องพี่ ห้องตรงข้าม เลยนอนต่อ แต่จังหวะที่ผมกำหลังจะนอนนี่แหละ ผมได้ยินเสียงเด็ก อายุราวๆ 8-10 ขวบ วิ่งเล่นกันอยู่ตรงทางเดินหน้าห้อง (ขออธิบายรายละเอียดเพิ่มหน่อยนะครับ ผมอยู่ห้องชั้นบนสุด ขึ้นบรรไดมาจะเจอห้องเหมือนห้องเช้า ทั้งซ้ายและขวาของทางเดิน ซึ่งทางเดินเป็นแนวยาวแล้วห้องผมจะอยู่เกือบสุดทางเดินครับ) ต่อนะครับ ตอนนั้นผมชัวร์แน่ๆ ว่ามีเด็กผู้ชาย 2 ผู้หญิง 1 ซึ่งมันเด็กมากเกินกว่าจะมาเข้ามาอยู่ในหอนี้ได้ หอนี้มีตั้งแต่ ปวช ถึง ปวส แล้วผมก็รู้จักเกือบทุกห้อง และมั่นใจแน่ๆ ว่าไม่ใช่เด็กที่นี่แน่นอน เสียงหัวเราะวิ่งเล่นกันอย่างสนุกสนาน สิ่งที่ผมคิดว่าไม่อยากให้เจอที่สุด มันดันมาหยุดอยู่ที่หน้าห้องผม(เหมือนเด็กๆ พวกนั้นเค้ารู้ครับว่าผม รู้สึกถึงพวกเค้า) ผมนี่ไม่พูดพร่ำทำเพลงครับ นอนคว่ำคลุมโปงทันที นึกในใจว่า ship หายแล้ว gu วินาทีนั้นทุกอย่างเงียบไปหมด ไม่มีแม้แต่เสียงเด็กวิ่งเล่นหรือหัวเราะเหมือนเดิม วินาทีต่อไปนี้อยากให้ทุกคนนึกภาพตามนะครับ จะพยายามอธิบายถึงอารมณ์ตอนนั้นให้ละเอียดที่สุด
หลังจากที่ผมคลุมโปรง กับความที่โครตกลัว แล้วรู้สึกว่าเด็กพวกนั้นอยู่หน้าห้อง ซึ่งผมรับรู้ได้ว่าเด็กพวกนั้นก็รู้ว่าผมรู้สึกถึงพวกเค้าแน่ๆ จู่ๆ มีมือเย็นๆ เล็กๆ ล้วงครับ !! ล้วงเข้ามาจริงๆ ระหว่างที่ผมนอนคว่ำหน้าคลุมโปรง ล้วงตั้งแต่ต้นคอลึกเข้าไปถึงกลางหลัง (นึกทีไรเย็นสันหลังทุกที) ตอนนั้นผมอยากดิ้นครับ แต่ดิ้นไม่ได้ ร้องก็ร้องไม่ออก รู้อย่างเดียวมือนั้นมันยังอยู่ ผมพยายามแหกปากทุกวิถีทางแต่ก็ทำไม่ได้ จนมานึกถึงตะกุดของอากงบนหัวเตียงครับ พอนึกถึงเสียงที่ผมพยายามแหกปากกลับหลุดออกมาลั่นห้อง “เฮ้ย ยย !!!!” ทุกอย่างหายไปหมด ทุกอย่างเงียบสงบ แล้วผมก็เคลิ้มหลับไปได้ไงก็ไม่รู้ ตื่นเช้ามาอีกที ไอ่ T ครับ มันนอนอยู่ข้างๆ ผมเลยถามว่า “เห้ยเมื่อคืน xxx ไปไหนมาวะ” ไอ่ T ก็ตอบมาว่า “ไปไหนละกูก็นอนอยู่เนี่ย” ผมก็เออ “สงสัยกูคงฝันไป” มันก็ยังมองหน้าผม งงๆ เช้าวันนั้นผมก็แยกย้ายกันไปเรียนตามปกติ
ผมกับไอ่ T นี่เรียนกันคนละช่างครับ เจอกันก็แค่ตอนตื่นกับเลิกเรียน เย็นวันนั้นกลับจากวิทลัย ก็นั่งเล่นเกมเพลย์กัน อยู่ๆไอ T ก็บอกผมว่าเห้ย “เมื่อคืนกูฝันหวะ” ผมก็ถามว่าฝันว่าไร เชื่อไหมครับมันบอกว่า “กูนึกกูยังขนลุกเลย” ไอ่ T มันฝันว่า ตอนกลางคืนมันตื่นมามีเด็กผู้ชายยืนร้องไห้อยู่หน้าห้อง มันเลยเข้าไปถามว่า น้องเป็นอะไรครับ เด็กคนนั้นร้องไห้แล้วเอามือชี้เข้ามาในห้อง ซึ่งไอ่ T บอกว่าผมนอนอยู่ แล้วเด็กคนนั้นก็พูดว่า “พี่คนนั้นเอาตะกุดมาไล่ผม” . . .. .
ผมนี่รีบเล่าเรื่องทั้งหมดให้มันฟัง มันหลอนสิครับ อาบน้ำตั้งแต่ยังไม่ 6 โมงเย็น (หอพักเป็นห้องน้ำรวมครับ) เลยพากันหลอนยกใหญ่.. .
จบแล้วครับ
ขอบคุณทุกท่านที่มาอ่านนะครับ ไว้เลิกงานจะเล่ารายละเอียดเพิ่มเติมนิดหน่อยให้ฟังนะครับอู้นานละ 555