ช่วงนี้มักจะเห็นช่อง 7 ชอบเอาหนังการ์ตูน หรือหนังแบบเบาสมองให้เด็กดูได้มาฉายในหนังรอบเช้าวันเสาร์และอาทิตย์ เลยอยากแนะนำให้ทางช่อง 7 ฉายหนังเรื่อง The Wizard of Oz เวอร์ชั่นปี 1939 นำแสดงโดยจูดี้ การ์แลนด์ เป็นหนังแนวผจญภัย แฟนตาซี และเป็นหนึ่งในหนังไม่กี่เรื่องที่มีการถ่ายทำในระบบสี ซึ่งในสมัยนั้นหนังส่วนใหญ่ยังคงถ่ายทำในระบบขาวดำ
สำหรับใครที่เคยดูเรื่องนี้มาแล้วโปรดช่วยเล่าสนับสนุนให้คนที่ยังไม่เคยดูทราบหน่อยว่าเรื่องนี้มันดียังไง เด็กๆ ในยุคนี้อาจจะเคยดูเรื่อง Oz ที่เจมส์ ฟรังโก้ แสดงมาแล้ว แต่มีน้อยคนที่ทราบว่าเรื่องราวหลังจากเรื่อง Oz ก็คือเรื่อง The Wizard of Oz ทั้งๆ ที่หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในสุดยอดหนังอมตะคลาสสิค คุณอยากให้ช่อง 7 ฉายหนังเรื่อง The Wizard of Oz ในหนังรอบเช้าวันเสาร์หรืออาทิตย์หรือไม่?
http://ffilms.org/the-wizard-of-oz-1939/
เนื้อเรื่องย่อของเรื่องพ่อมดวิเศษแห่งออซนี้มีอยู่ว่า โดโรธี เกล เป็นเด็กหญิงน้อยๆอาศัยอยู่กับลุงและป้าของเธอโดยมีสุนัขแสนรู้ชื่อโตโต้เป็นเพื่อนรัก พวกเขาอาศัยอยู่ที่แคนซัส ทำงานเป็นเกษตกรรับจ้างให้กับมิสกัลช์ผู้ใจร้าย มิสกัลช์ถูกโตโต้กัดก็เลยโกรธแค้น ใช้อำนาจใบสั่งจากนายอำเภอมานำตัวโตโต้ไปกำจัดเสีย โตโต้หนีออกมาได้ โดโรธีจึงพาโตโต้หนีออกจากบ้าน ในระหว่างทางที่หนีออกมานั้นได้พบกับโปรเฟสเซอร์มาร์เวลซึ่งเป็นนักมายากล เขาได้เล่นกลให้เธอดูและหลอกเธอว่าป้าแอมของเธอนั้นป่วย เธอจึงยอมกลับไปบ้านไร่ของเธอ เมื่อเธอกลับไป ปรากฏว่าได้เกิดพายุทอร์นาโดพัดขึ้น เธอหลบอยู่ในบ้านพร้อมด้วยโตโต้สุนัขคู่ใจในขณะที่คนอื่นๆไม่ได้เข้ามาด้วย พายุทอร์นาโดได้พัดบ้านของเธอไปยังเมืองออซ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในตำนาน ในระหว่างที่บ้านของเธอตกลงในเมืองออซนั้นได้ทับแม่มดแห่งตะวันออกเสียชีวิต เธอออกมาจากบ้านและได้พบกับ กลินดา ซึ่งเป็นแม่มดฝ่ายธรรมะ แม่มดผู้ชั่วร้ายแห่งตะวันตกได้ตามมาและกล่าวหาว่าโดโรธีได้ฆ่าน้องสาวของเธอ แต่แท้ที่จริงนั้นแม่มดแห่งตะวันตกต้องการรองเท้าสีทับทิมซึ่งเป็นรองเท้าวิเศษของน้องสาวเธอ ที่เมื่อผู้ใดสวมแล้วจะมีอำนาจวิเศษ รองเท้านั้นกลับมาปรากฏอยู่ที่เท้าของโดโรธี เธอจึงต้องการฆ่าโดโรธีเสียเพื่อชิงรองเท้า แต่กลินดามาช่วยไว้เสียก่อน แม่มดผู้ชั่วร้ายไม่สามารถทำอันตรายโดโรธีได้จึงอาฆาตและกล่าวว่าจะตามฆ่าเธอให้ได้ก่อนจะหายตัวไป
โดโรธีต้องการจะกลับบ้านที่แคนซัส กลินดาจึงชี้ทางให้โดโรธีไปพบพ่อมดวิเศษแห่งออซ ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองมรกต โดยให้โดโรธีเดินไปตามทางสีเหลืองแล้วจะพบปราสาทมรกตเอง ในระหว่างการเดินทางโดโรธีได้พบเพื่อนอีกสามคน คนที่หนึ่งคือ หุ่นไล่กา ที่ไม่สามารถไล่กาได้เลย เขากล่าวว่าเขาไม่มีสมองจึงไม่ฉลาดและไล่กาไม่ได้ โดโรธีจึงเสนอให้เขาเดินทางไปด้วยกันเพราะพ่อมดแห่งออซจะช่วยให้เขามีสมองได้ เมื่อเดินทางต่อไปก็ได้พบกับ มนุษย์หุ่นกระป๋อง ซึ่งไม่มีหัวใจ และต้องการให้พ่อมดแห่งออซใส่หัวใจให้เขา สุดท้ายพวกเขาได้พบกับสิงห์โต ซึ่งไม่มีความน่าเกรงขามเพราะเป็นสิงห์โตขี้ขลาด และปรารถนาจะให้พ่อมดแห่งออซช่วยให้เขามีความกล้าหาญ ทั้งสี่คนรวมทั้งโตโต้ได้เดินทางไปถึงเมืองมรกต ปรากฏว่าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบพ่อมดแห่งออซ แต่ในที่สุดก็เข้าไปจนได้ พวกเขาได้พบพ่อมดแห่งออซซึ่งปรากฏตนเป็นยักษ์มีแต่หัวและพูดเป็นควันไฟ พ่อมดแห่งออซสัญญาจะให้โดโรธีกลับบ้าน และให้สมองแก่หุ่นไล่กา ให้หัวใจแก่มนุษย์กระป๋อง และให้ความกล้าหาญแก่สิงห์โต อย่างไรก็ตามทั้งหมดจะต้องไปนำไม้กวาดวิเศษของแม่มดแห่งตะวันตกมาให้เขาเสียก่อน
ทั้งหมดได้เข้าไปในป่าปีศาจเพื่อเข้าไปชิงไม้กวาดวิเศษ แต่โดโรธีและโตโต้ถูกลิงบินได้สมุนของแม่มดจับตัวไปเสียก่อน โดโรธีและโตโต้ถูกนำตัวไปในปราสาทของแม่มดและถูกจับขังไว้ แม่มดรอเวลาให้ถึงเวลาเที่ยงคืนแล้วจะฆ่าโดโรธี พวกเพื่อนของโดโรธีตามมาพบ และแม่มดจะจุดไฟเผาหุ่นไล่กา โดโรธีจึงนำน้ำสาดไปยังหุ่นไล่กาแต่ปรากฏว่า น้ำได้กระเด็นไปโดนแม่มด แม่มดซึ่งแพ้น้ำก็เลยละลาย พวกสมุนของแม่มดต่างพากันดีใจที่แม่มดผู้ชั่วร้ายตายไป ได้ยกย่องโดโรธีให้เป็นเจ้าของปราสาทแทน โดโรธีและพวกได้นำไม้กวาดวิเศษกลับไปยังนครมรกตเพื่อให้กับพ่อมดแห่งออซตามคำสัญญา
เมื่อไปถึงนครมรกต พ่อมดแห่งออซกลับไม่ยอมทำตามสัญญาสร้างความผิดหวังให้กับโดโรธีและเพื่อน โตโต้ได้วิ่งเข้าไปในฉากด้านหลังและดึงผ้าม่านออก ทั้งหมดจึงเห็นว่าแท้ที่จริงแล้วพ่อมดแห่งออซก็เป็นเพียงชายชราที่ไม่มีเวทมนต์อันใด แต่ใช้เครื่องฉายหนังทำเป็นเหมือนว่าตนมีอำนาจวิเศษ อย่างไรก็ตามพ่อมดได้บอกกับหุ่นไล่กาว่าเขามีสมองอยู่แล้วเพราะสามารถตามมาช่วยโดโรธีได้ พร้อมกับให้ประกาศนียบัตรแก่หุ่นไล่กา เขาได้นำรูปหัวใจไปติดที่มนุษย์กระป๋อง และให้เหรียญกล้าหาญแก่สิงห์โต จากนั้นก็ได้ขึ้นบัลลูนและสัญญาจะนำโดโรธีกลับบ้าน แต่บังเอิญที่บัลลูนได้ลอยไปเสียก่อน โดโรธีจึงกลับบ้านไม่ได้
ในเวลานั้นกลินดาได้ปรากฏตัวขึ้นและบอกว่าโดโรธีกลับบ้านได้ด้วยรองเท้าทับทิมที่สวมอยู่ เพียงแต่เคาะรองเท้าเข้าด้วยกันพร้อมกับกล่าวว่า “ไม่มีที่ไหนเหมือนบ้าน” สามครั้ง โดโรธีร่ำลาเพื่อนๆแล้วเคาะรองเท้าเธอจึงกลับไปยังแคนซัสเหมือนเดิม
เมื่อโดโรธีกลับไปก็พบว่าเพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้เธอนอนสลบไปเป็นเวลานาน เมื่อเธอตื่นขึ้นก็พบลุงและป้าของเธอพร้อมด้วยโปรเฟสเซอร์มาร์เวล ซึ่งบอกกับเธอว่าสิ่งที่เธอได้พบในเมืองออซนั้นแท้ที่จริงคือความฝันเท่านั้นเอง (อ้างอิงจาก
http://www.thailanewspaper.com/article/life_style/1464.php)
คุณอยากให้ช่อง 7 ฉายหนังเรื่อง The Wizard of Oz ในหนังรอบเช้าวันเสาร์หรืออาทิตย์หรือไม่?
สำหรับใครที่เคยดูเรื่องนี้มาแล้วโปรดช่วยเล่าสนับสนุนให้คนที่ยังไม่เคยดูทราบหน่อยว่าเรื่องนี้มันดียังไง เด็กๆ ในยุคนี้อาจจะเคยดูเรื่อง Oz ที่เจมส์ ฟรังโก้ แสดงมาแล้ว แต่มีน้อยคนที่ทราบว่าเรื่องราวหลังจากเรื่อง Oz ก็คือเรื่อง The Wizard of Oz ทั้งๆ ที่หนังเรื่องนี้เป็นหนึ่งในสุดยอดหนังอมตะคลาสสิค คุณอยากให้ช่อง 7 ฉายหนังเรื่อง The Wizard of Oz ในหนังรอบเช้าวันเสาร์หรืออาทิตย์หรือไม่?
http://ffilms.org/the-wizard-of-oz-1939/
เนื้อเรื่องย่อของเรื่องพ่อมดวิเศษแห่งออซนี้มีอยู่ว่า โดโรธี เกล เป็นเด็กหญิงน้อยๆอาศัยอยู่กับลุงและป้าของเธอโดยมีสุนัขแสนรู้ชื่อโตโต้เป็นเพื่อนรัก พวกเขาอาศัยอยู่ที่แคนซัส ทำงานเป็นเกษตกรรับจ้างให้กับมิสกัลช์ผู้ใจร้าย มิสกัลช์ถูกโตโต้กัดก็เลยโกรธแค้น ใช้อำนาจใบสั่งจากนายอำเภอมานำตัวโตโต้ไปกำจัดเสีย โตโต้หนีออกมาได้ โดโรธีจึงพาโตโต้หนีออกจากบ้าน ในระหว่างทางที่หนีออกมานั้นได้พบกับโปรเฟสเซอร์มาร์เวลซึ่งเป็นนักมายากล เขาได้เล่นกลให้เธอดูและหลอกเธอว่าป้าแอมของเธอนั้นป่วย เธอจึงยอมกลับไปบ้านไร่ของเธอ เมื่อเธอกลับไป ปรากฏว่าได้เกิดพายุทอร์นาโดพัดขึ้น เธอหลบอยู่ในบ้านพร้อมด้วยโตโต้สุนัขคู่ใจในขณะที่คนอื่นๆไม่ได้เข้ามาด้วย พายุทอร์นาโดได้พัดบ้านของเธอไปยังเมืองออซ ซึ่งเป็นเมืองที่อยู่ในตำนาน ในระหว่างที่บ้านของเธอตกลงในเมืองออซนั้นได้ทับแม่มดแห่งตะวันออกเสียชีวิต เธอออกมาจากบ้านและได้พบกับ กลินดา ซึ่งเป็นแม่มดฝ่ายธรรมะ แม่มดผู้ชั่วร้ายแห่งตะวันตกได้ตามมาและกล่าวหาว่าโดโรธีได้ฆ่าน้องสาวของเธอ แต่แท้ที่จริงนั้นแม่มดแห่งตะวันตกต้องการรองเท้าสีทับทิมซึ่งเป็นรองเท้าวิเศษของน้องสาวเธอ ที่เมื่อผู้ใดสวมแล้วจะมีอำนาจวิเศษ รองเท้านั้นกลับมาปรากฏอยู่ที่เท้าของโดโรธี เธอจึงต้องการฆ่าโดโรธีเสียเพื่อชิงรองเท้า แต่กลินดามาช่วยไว้เสียก่อน แม่มดผู้ชั่วร้ายไม่สามารถทำอันตรายโดโรธีได้จึงอาฆาตและกล่าวว่าจะตามฆ่าเธอให้ได้ก่อนจะหายตัวไป
โดโรธีต้องการจะกลับบ้านที่แคนซัส กลินดาจึงชี้ทางให้โดโรธีไปพบพ่อมดวิเศษแห่งออซ ซึ่งอาศัยอยู่ในเมืองมรกต โดยให้โดโรธีเดินไปตามทางสีเหลืองแล้วจะพบปราสาทมรกตเอง ในระหว่างการเดินทางโดโรธีได้พบเพื่อนอีกสามคน คนที่หนึ่งคือ หุ่นไล่กา ที่ไม่สามารถไล่กาได้เลย เขากล่าวว่าเขาไม่มีสมองจึงไม่ฉลาดและไล่กาไม่ได้ โดโรธีจึงเสนอให้เขาเดินทางไปด้วยกันเพราะพ่อมดแห่งออซจะช่วยให้เขามีสมองได้ เมื่อเดินทางต่อไปก็ได้พบกับ มนุษย์หุ่นกระป๋อง ซึ่งไม่มีหัวใจ และต้องการให้พ่อมดแห่งออซใส่หัวใจให้เขา สุดท้ายพวกเขาได้พบกับสิงห์โต ซึ่งไม่มีความน่าเกรงขามเพราะเป็นสิงห์โตขี้ขลาด และปรารถนาจะให้พ่อมดแห่งออซช่วยให้เขามีความกล้าหาญ ทั้งสี่คนรวมทั้งโตโต้ได้เดินทางไปถึงเมืองมรกต ปรากฏว่าไม่ได้รับอนุญาตให้เข้าพบพ่อมดแห่งออซ แต่ในที่สุดก็เข้าไปจนได้ พวกเขาได้พบพ่อมดแห่งออซซึ่งปรากฏตนเป็นยักษ์มีแต่หัวและพูดเป็นควันไฟ พ่อมดแห่งออซสัญญาจะให้โดโรธีกลับบ้าน และให้สมองแก่หุ่นไล่กา ให้หัวใจแก่มนุษย์กระป๋อง และให้ความกล้าหาญแก่สิงห์โต อย่างไรก็ตามทั้งหมดจะต้องไปนำไม้กวาดวิเศษของแม่มดแห่งตะวันตกมาให้เขาเสียก่อน
ทั้งหมดได้เข้าไปในป่าปีศาจเพื่อเข้าไปชิงไม้กวาดวิเศษ แต่โดโรธีและโตโต้ถูกลิงบินได้สมุนของแม่มดจับตัวไปเสียก่อน โดโรธีและโตโต้ถูกนำตัวไปในปราสาทของแม่มดและถูกจับขังไว้ แม่มดรอเวลาให้ถึงเวลาเที่ยงคืนแล้วจะฆ่าโดโรธี พวกเพื่อนของโดโรธีตามมาพบ และแม่มดจะจุดไฟเผาหุ่นไล่กา โดโรธีจึงนำน้ำสาดไปยังหุ่นไล่กาแต่ปรากฏว่า น้ำได้กระเด็นไปโดนแม่มด แม่มดซึ่งแพ้น้ำก็เลยละลาย พวกสมุนของแม่มดต่างพากันดีใจที่แม่มดผู้ชั่วร้ายตายไป ได้ยกย่องโดโรธีให้เป็นเจ้าของปราสาทแทน โดโรธีและพวกได้นำไม้กวาดวิเศษกลับไปยังนครมรกตเพื่อให้กับพ่อมดแห่งออซตามคำสัญญา
เมื่อไปถึงนครมรกต พ่อมดแห่งออซกลับไม่ยอมทำตามสัญญาสร้างความผิดหวังให้กับโดโรธีและเพื่อน โตโต้ได้วิ่งเข้าไปในฉากด้านหลังและดึงผ้าม่านออก ทั้งหมดจึงเห็นว่าแท้ที่จริงแล้วพ่อมดแห่งออซก็เป็นเพียงชายชราที่ไม่มีเวทมนต์อันใด แต่ใช้เครื่องฉายหนังทำเป็นเหมือนว่าตนมีอำนาจวิเศษ อย่างไรก็ตามพ่อมดได้บอกกับหุ่นไล่กาว่าเขามีสมองอยู่แล้วเพราะสามารถตามมาช่วยโดโรธีได้ พร้อมกับให้ประกาศนียบัตรแก่หุ่นไล่กา เขาได้นำรูปหัวใจไปติดที่มนุษย์กระป๋อง และให้เหรียญกล้าหาญแก่สิงห์โต จากนั้นก็ได้ขึ้นบัลลูนและสัญญาจะนำโดโรธีกลับบ้าน แต่บังเอิญที่บัลลูนได้ลอยไปเสียก่อน โดโรธีจึงกลับบ้านไม่ได้
ในเวลานั้นกลินดาได้ปรากฏตัวขึ้นและบอกว่าโดโรธีกลับบ้านได้ด้วยรองเท้าทับทิมที่สวมอยู่ เพียงแต่เคาะรองเท้าเข้าด้วยกันพร้อมกับกล่าวว่า “ไม่มีที่ไหนเหมือนบ้าน” สามครั้ง โดโรธีร่ำลาเพื่อนๆแล้วเคาะรองเท้าเธอจึงกลับไปยังแคนซัสเหมือนเดิม
เมื่อโดโรธีกลับไปก็พบว่าเพราะอุบัติเหตุที่เกิดขึ้นทำให้เธอนอนสลบไปเป็นเวลานาน เมื่อเธอตื่นขึ้นก็พบลุงและป้าของเธอพร้อมด้วยโปรเฟสเซอร์มาร์เวล ซึ่งบอกกับเธอว่าสิ่งที่เธอได้พบในเมืองออซนั้นแท้ที่จริงคือความฝันเท่านั้นเอง (อ้างอิงจาก http://www.thailanewspaper.com/article/life_style/1464.php)