คำตอบที่ได้รับเลือกจากเจ้าของกระทู้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 59
บ้านผมอยู่โครงการด้านในของบ้านหลังนี้เองครับ
ในหมู่บ้านถ้าใครไม่ได้ใช้รถ ก็จะใช้บริการมอเตอร์ไซต์รับจ้าง
คนที่อยู่โครงการด้านใน ใครจะใช้บริการมอเตอร์ไซต์รับจ้าง จะต้องเดินผ่านบ้านหลังนี้(ซึ่งเป็นหลังหัวมุม)เพื่อเรียกมอเตอร์ไซต์รับจ้างกลางซอย
เช้าวันนึงเดินไปเรียกมอเตอร์ไซต์ ป้าแกรดน้ำเปียกออกมาด้านนอก
ผมก็เดินหลบไปอีกทางกลัวน้ำกระเด็นใส่ เดินปิดจมูกด้วย
ป้าแกเดินออกมาพอดี เห็นผมที่เดินปิดจมูกคงไม่พอใจ
เลยพูดใส่ผมว่า วันหลังไปหาที่ปิดจมูกมาใส่ซะเลยสิ
ผมก็ไม่ตอบโต้นะครับ เพราะอ้าปากพูดกลิ่นมาแน่นอน +กลัวแกคลั่งใส่ด้วยครับ เลยรีบเดินต่อไป...
ในหมู่บ้านถ้าใครไม่ได้ใช้รถ ก็จะใช้บริการมอเตอร์ไซต์รับจ้าง
คนที่อยู่โครงการด้านใน ใครจะใช้บริการมอเตอร์ไซต์รับจ้าง จะต้องเดินผ่านบ้านหลังนี้(ซึ่งเป็นหลังหัวมุม)เพื่อเรียกมอเตอร์ไซต์รับจ้างกลางซอย
เช้าวันนึงเดินไปเรียกมอเตอร์ไซต์ ป้าแกรดน้ำเปียกออกมาด้านนอก
ผมก็เดินหลบไปอีกทางกลัวน้ำกระเด็นใส่ เดินปิดจมูกด้วย
ป้าแกเดินออกมาพอดี เห็นผมที่เดินปิดจมูกคงไม่พอใจ
เลยพูดใส่ผมว่า วันหลังไปหาที่ปิดจมูกมาใส่ซะเลยสิ
ผมก็ไม่ตอบโต้นะครับ เพราะอ้าปากพูดกลิ่นมาแน่นอน +กลัวแกคลั่งใส่ด้วยครับ เลยรีบเดินต่อไป...
ความคิดเห็นที่ 71
ความคิดเห็นที่ 36
ข้าน้อยก็คิดนะขอรับ
บ้านหลังนี้ .......... เจ้าของบ้านอาจซ่อนศพไว้ในบ้าน และใช้กลิ่นขี้หมากลบกลิ่นศพที่อบอวลในบ้าน เพื่อมิให้ผู้อื่นสงสัย
...........ก็เป็นได้
หรือ
บ้านหลังนี้ ......... เจ้าของบ้านอาจนำขี้หมามาไว้เพื่อล่อกระสือ ซึ่งเป็นเมียของเจ้าของบ้านที่จากไปแล้ว และหวังให้เมียกลับมาหา
............ก็เป็นได้
บ้านหลังนี้ .......... เจ้าของบ้านอาจซ่อนศพไว้ในบ้าน และใช้กลิ่นขี้หมากลบกลิ่นศพที่อบอวลในบ้าน เพื่อมิให้ผู้อื่นสงสัย
...........ก็เป็นได้
หรือ
บ้านหลังนี้ ......... เจ้าของบ้านอาจนำขี้หมามาไว้เพื่อล่อกระสือ ซึ่งเป็นเมียของเจ้าของบ้านที่จากไปแล้ว และหวังให้เมียกลับมาหา
............ก็เป็นได้
ความคิดเห็นที่ 162
อ่านเจอในบทความนี้ (link ด้านล่าง) ว่า แกเลี้ยงหมาไว้ประมาณ 11 ตัว และแขวนถุงแบบนี้ไว้ทั้งในและนอกรั้วบ้าน
คนแถวนั้นเคยร้องเรียนไปที่เขต และผู้อำนวยการเขตก็มาตรวจสอบ ก่อนสั่งให้เจ้าของบ้าน/เจ้าของถุงจัดการเอาไปทำลายให้เรียบร้อย (บทความบอกว่าตอนนั้นมีประมาณ 150 – 200 ถุง) แต่แกไม่ยอม และโต้แย้งไปที่กระทรวงสาธารณสุขว่าไม่ใช่ขี้หมา เป็น "เศษพืชผักหมักชีวภาพ"
"...กระทรวงสาธารณสุขก็เลยรีบส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ก็มีความเห็นตรงกับผู้อำนวยการเขตว่า ถุงพลาสติกเหล่านี้มีกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงมาก แต่สำหรับก้อนสีดำไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นขี้หมาหรือจุลินทรีย์หมัก..."
เจ้าของ "ถุงปริศนา" ก็เลยไปฟ้องศาลปกครอง (คดีหมายเลขแดงที่ อ. 378/2551) และศาลปกครองสูงสุดพิพากษายกฟ้อง คือแปลว่า คำสั่งของ ผอ. เขตที่ให้เก็บถุงขี้หมาชีวภาพไปทำลายนั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว
(คัดมาบางส่วนนะครับ อ่านฉบับเต็มได้ตาม link ด้านล่าง)
"...คู่ความสู้คดีกันอยู่พักหนึ่ง ผลปรากฏว่าศาลปกครองสูงสุดท่านก็ได้วินิจฉัยว่า เมื่อผู้อำนวยการเขตได้รับเรื่องร้องเรียน จึงได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ผู้ฟ้องคดีเลี้ยงสุนัข ไว้หลายตัว และบริเวณหน้าบ้านผู้ฟ้องคดีมีถุงพลาสติก ซึ่งภายในมีก้อนวัสดุสีดำบรรจุอยู่ทุกถุงและมีกลิ่นเหม็น และกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ผู้ฟ้องคดีเลี้ยงสุนัขไว้ประมาณ 11 ตัว และมีถุงพลาสติกแขวนไว้ตามต้นไม้และรั้วบ้าน ภายในบรรจุจุลินทรีย์ซึ่งมีการหมักโดยวิธีที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ จึงเกิดการเน่าเสียและมีกลิ่นเหม็นมาก
แม้ข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบของผู้อำนวยการเขตและกระทรวงสาธารณสุขจะมีผลไม่ตรงกันว่ามีสิ่งใดบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกที่ผู้ฟ้องคดีแขวนไว้ แต่ผลจากการตรวจสอบตรงกันในประเด็นที่ว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในถุงนั้น มีกลิ่นเหม็นมากและสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงและผู้สัญจรไปมา
อีกทั้งบ้านของผู้ฟ้องคดีก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น หรือสกปรก หรือน่าจะเป็นที่เพาะพันธุ์และพาหะนำโรค และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อันถือได้ว่าเป็นเหตุเดือดร้อนรำคาญตามกฎหมาย การที่ผู้อำนวยการเขตมีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีแก้ไขและระงับเหตุรำคาญภายในระยะเวลาที่กำหนด จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว ศาลปกครองสูงสุดจึงพิพากษายกฟ้องของผู้ฟ้องคดี ซึ่งเท่ากับเป็นการรับรองว่า การออกคำสั่งของผู้อำนวยการเขตเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่ชุมชน เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมายแล้ว..."
ดูจากหมายเลขคดี น่าจะเป็นปี 2551 (?) แปลว่าหลังศาลปกครองสูงสุดพิพากษา เจ้าของบ้าน/เจ้าของถุงก็ยังคงดื้อแพ่งต่อมาอีกหลายปีมาก - -"
http://www.admincourt.go.th/00_web/environment/en9-dog.htm
(แก้ไข: จัดย่อหน้าและแก้ไขที่พิมพ์ผิด/พิมพ์ตกครับ)
คนแถวนั้นเคยร้องเรียนไปที่เขต และผู้อำนวยการเขตก็มาตรวจสอบ ก่อนสั่งให้เจ้าของบ้าน/เจ้าของถุงจัดการเอาไปทำลายให้เรียบร้อย (บทความบอกว่าตอนนั้นมีประมาณ 150 – 200 ถุง) แต่แกไม่ยอม และโต้แย้งไปที่กระทรวงสาธารณสุขว่าไม่ใช่ขี้หมา เป็น "เศษพืชผักหมักชีวภาพ"
"...กระทรวงสาธารณสุขก็เลยรีบส่งเจ้าหน้าที่มาตรวจสอบ ก็มีความเห็นตรงกับผู้อำนวยการเขตว่า ถุงพลาสติกเหล่านี้มีกลิ่นเหม็นเน่ารุนแรงมาก แต่สำหรับก้อนสีดำไม่อาจยืนยันได้ว่าเป็นขี้หมาหรือจุลินทรีย์หมัก..."
เจ้าของ "ถุงปริศนา" ก็เลยไปฟ้องศาลปกครอง (คดีหมายเลขแดงที่ อ. 378/2551) และศาลปกครองสูงสุดพิพากษายกฟ้อง คือแปลว่า คำสั่งของ ผอ. เขตที่ให้เก็บถุงขี้หมาชีวภาพไปทำลายนั้นชอบด้วยกฎหมายแล้ว
(คัดมาบางส่วนนะครับ อ่านฉบับเต็มได้ตาม link ด้านล่าง)
"...คู่ความสู้คดีกันอยู่พักหนึ่ง ผลปรากฏว่าศาลปกครองสูงสุดท่านก็ได้วินิจฉัยว่า เมื่อผู้อำนวยการเขตได้รับเรื่องร้องเรียน จึงได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ผู้ฟ้องคดีเลี้ยงสุนัข ไว้หลายตัว และบริเวณหน้าบ้านผู้ฟ้องคดีมีถุงพลาสติก ซึ่งภายในมีก้อนวัสดุสีดำบรรจุอยู่ทุกถุงและมีกลิ่นเหม็น และกระทรวงสาธารณสุขก็ได้ไปตรวจสอบข้อเท็จจริงพบว่า ผู้ฟ้องคดีเลี้ยงสุนัขไว้ประมาณ 11 ตัว และมีถุงพลาสติกแขวนไว้ตามต้นไม้และรั้วบ้าน ภายในบรรจุจุลินทรีย์ซึ่งมีการหมักโดยวิธีที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการ จึงเกิดการเน่าเสียและมีกลิ่นเหม็นมาก
แม้ข้อเท็จจริงจากการตรวจสอบของผู้อำนวยการเขตและกระทรวงสาธารณสุขจะมีผลไม่ตรงกันว่ามีสิ่งใดบรรจุอยู่ในถุงพลาสติกที่ผู้ฟ้องคดีแขวนไว้ แต่ผลจากการตรวจสอบตรงกันในประเด็นที่ว่าสิ่งที่บรรจุอยู่ภายในถุงนั้น มีกลิ่นเหม็นมากและสร้างความเดือดร้อนรำคาญให้ผู้ที่อยู่อาศัยในบริเวณใกล้เคียงและผู้สัญจรไปมา
อีกทั้งบ้านของผู้ฟ้องคดีก่อให้เกิดกลิ่นเหม็น หรือสกปรก หรือน่าจะเป็นที่เพาะพันธุ์และพาหะนำโรค และอาจเป็นอันตรายต่อสุขภาพ อันถือได้ว่าเป็นเหตุเดือดร้อนรำคาญตามกฎหมาย การที่ผู้อำนวยการเขตมีคำสั่งให้ผู้ฟ้องคดีแก้ไขและระงับเหตุรำคาญภายในระยะเวลาที่กำหนด จึงชอบด้วยกฎหมายแล้ว ศาลปกครองสูงสุดจึงพิพากษายกฟ้องของผู้ฟ้องคดี ซึ่งเท่ากับเป็นการรับรองว่า การออกคำสั่งของผู้อำนวยการเขตเพื่อรักษาสิ่งแวดล้อมที่ดีให้แก่ชุมชน เป็นการกระทำที่ถูกต้องตามเจตนารมณ์ของกฎหมายแล้ว..."
ดูจากหมายเลขคดี น่าจะเป็นปี 2551 (?) แปลว่าหลังศาลปกครองสูงสุดพิพากษา เจ้าของบ้าน/เจ้าของถุงก็ยังคงดื้อแพ่งต่อมาอีกหลายปีมาก - -"
http://www.admincourt.go.th/00_web/environment/en9-dog.htm
(แก้ไข: จัดย่อหน้าและแก้ไขที่พิมพ์ผิด/พิมพ์ตกครับ)
แสดงความคิดเห็น
ลัทธิบูชาขี้หมา