สวัสดีชาวพันทิป กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกพิมพ์ผิดหรือใช้คำไม่เหมาสมยังไงต้องขอโทษไว้ก่อนเลยนะครับ ที่มาตั้งกระทู้วันนี้เพราะวันนี้เป็นวันที่ 02/06/58 วันนี้เป็นวันเกิดของแฟนผมครับ เป็นวันที่ผมอยากจะทำอะไรสักอย่างให้เธอ เพราะเธอคือคนที่ผมรักมากที่สุด และผมมีความสุขตลอดเวลาที่เราคบกันและรักกันมา และผมก็เลือกที่จะตั้งกระทู้พันทิป แฮปปี้เบิร์ดเดย์ เธอ อยากให้เธอได้อ่านมันและมีความสุขมากๆในการได้อ่านข้อความหรือสิ่งที่เราอยากทำให้เธอมีรอยยิ้มและมีความสุขมากจริงๆ จะย้อนเรื่องราวไปตลอดเกือบสามปีที่เราคบกันนะครับ และพวกคุณจะรู้ว่า ทำไมผมถึงรักผู้หญิงคนนี้มากเหลือเกิน
ปี2555 ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านชาญเมืองในกรุงเทพ ต้องบอกก่อนนะครับว่าผมสมัยนั้นก้เป็นเด็กวัยรุ่นมัธยมปลายคนหนึ่งที่พึ่งย้ายมาโรงเรียนแห่งนี้ ม.ต้นเรียน ชายล้วน ในกรุงเทพนี้แหละครับ เกเรแถวหน้าระดับประเทศเลยก้ว่าได้นะครับ ฟุตบอลก้แถวหน้าระดับประเทศเหมือนกันครับ กลับมาต่อเรื่องผมดีกว่า ช่วงนั้น โรงเรียนมีการจัดแข่งขันฟุตซอลโรงเรียน โดยกลุ่มของคณะกรรมการนักเรียน ของรุ่นพี่ ม.6 และแน่นอนครับ ผมเป็นนักฟุตบอล ร ร ย้ายที่มานี่ก้ต้องลงเล่นเป็นธรรมดา และก็เป้นเหตุที่ทำให้เราได้เจอกัน ครั้งแรกที่เจอยังจำได้ดีครับ เธอใส่เสื้อพละสีฟ้า กางเกงวอร์ม มัดผม เวลายิ้มเห็นเหล็กดัดฟัน และแก้มอมชมพู โอ้ บร๊ะเจ้า มีผู้หญิงที่น่ารักขนาดนี้อยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ด้วยหรือนี่ เธอเป็นคณะกรรมการนักเรียน และวันจับฉลาก ผมก็อาสาเป็นคนไปจับ ตั้งแต่วันนั้น ผมก็ไปที่สนามฟุตซอลโรงเรียนทุกวันเลยครับ เพราะผมเป็นกรรมการฟุตบอลของโรงเรียนด้วยครับ เราเคยเป็นนักฟุตบอลดรีกรีโรงเรียนนั้นมาครับ อาจารย์เลยไว้วางใจ ก็ฟุตซอลวันหนึ่งแข่งกัน 4 คู่คู่ละ 15 นาที ไม่รวมพักครึ่ง ยืนตากแดดร้อนๆ ไม่เป็นไร แค่เธอนั่งนับเวลาอยู่ข้างสนามเวลาเหนื่อยมองไปก็ หายเหนื่อยและมีความสุขมากๆแล้ว หลังจากนั้นผมก็ไปทุกวันไม่มีวันไหนที่ขาด หรือลาป่วยอะไรใดๆทั้งสิ้น ช่วงนั้นนี้เป็นช่วงที่แอบรักและมีความสุขมากครับ และเราก็เดินงานเลยครับ แอบถามเพื่อนเขา โชคดีครับประธานนักเรียนรุ่นนั้นมีน้องชายเรียนห้องเดียวกับเรา เขาเลยช่วยดันดีๆ บทจะพรมลิขิตนี่โชคดีจริงๆ เราก็เชคว่า เธอยังไม่มีแฟน โสดชัวรึเปล่า พอข้อมูลผ่านเท่านั้นแหละครับ หาจังหวะและโอกาสดีๆเดินหน้า ทำแต้มแรกกันเลย และฟ้าก็เป็นใจ ผมเป็นกรรมการคู่ที่สามเสร็จ ก็เดินไปกินน้ำที่อ่างล้างหน้า และเธอคนนั้นก็เดินมาพอดีเลย เอ้าาา หู้ยยเอาไงดีวะ เขาเดินมาคนเดียวด้วย จะเดินไปขอเบอร์เลยดีไหม หรือ จะยืนแอ๊คท่าตามสบายของเรา ตัดสินใจอยู่ไม่ถึงสามวิหรอกครับ ผมเดินเข้าไป เรียก พี่ๆครับ เขาหันมาแล้วก็ทำหน้าแบบ งงๆ งงเลยครับ แบบ เรียกทำไม มีธุระอะไร ไม่มีรอยยิ้มหรืออะไรแม้แต่นิด เหมือนเขาก็รู้ว่าเราแอบชอบเขา และเราจะต้องจีบเขา เราก็ไม่รู้จะพูดอะไร เอ่ยออกไปหนึ่งประโยค ''พี่ๆครับ พี่น่ารักจังเลยครับ'' พูดจบเท่านั้นพี่เขาก็เดินหนีหันหลังใส่เราโดยที่รอยยิ้มสักนิดก็ไม่ได้ โห้ แบบตอนนั้นรู้สึกเขาต้องไม่ชอบเราหรือไม่ก็ อคติอะไรกับเราสักอย่างแน่ๆเลย แต่อย่างน้อยๆ ก็ได้ที่อยากจะบอกแล้ว คือพี่เขาน่ารักมากจริงๆนะครับ และหลังจากวันนั้น ก็เดินทางมาถึงรอบชิง อ่อ ผมไม่ได้เข้าเข้าชิงหรอกครับ ก็เป็นกรรมการเหมือนเดิม แต่วันนั้นอากาศร้อนมากๆและ ผมก็หิวน้ำมากๆครับ และผมก็บอกคณะกรรมการขอน้ำสักขวดได้ไหม พี่ปธ.นักเรียน ก็ยื่นน้ำให้พี่คนที่เราแอบชอบและให้และให้พี่คนนั้นเดินเอามาให้เรา เราก็เห็นแล้วแหละแต่ก็ไม่ได้มอง และพี่เขาก็เดินเอาน้ำมาให้เรา แบบ ยื่นให้ไม่พูดไม่จา ไม่ยิ้มไม่สบตา ไม่มองหน้า ไม่อะไรทั้งสิ้นเลย คือ แหม่ แต่ก็ดีใจนะน้ำขวดนั้นเป็นน้ำเปล่าที่หวานมาก ได้น้ำขวดนั้นมา ถ้าฟุตซอลจบเราก็จะได้เจอพี่เขาน้อยลง ถึงจะอยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่ก็คนละระดับชั้น เราก็เดินแต้มที่สองเลย ครั้งแรกแป๊กชั่งประไล ก็คนมันรักและจริงใจมันต้องใจอ่อนบ้างแหละ และน้ำขวดนั้นก็เป็นเหตุ ผมเอาน้ำขวดนั้นไปเก็บไว้ในตู้เย็นและไม่กินปริมาณน้ำยังเหลือเกือบเต็มๆขวดอยู่เลย และเราก็มีโอกาสได้แอดเฟสพี่เขาไป แต่ก็เหมือนเดิมทักไป พี่เขาก็ตอบแบบ จบประโยคแทบจะทุกคำ และเหมือนพี่เขารู้ตัวครับ เขาก็ถามเราว่าเราคิดยังไงกับเขา ผมก็เราคนตรงๆเลยก็บอกชอบครับพี่น่ารักดี และเหมือนอย่างที่เราคิดเลย พี่เขาตอบกับมา เป็นพี่น้องกันดีกว่ามันยืนยาวกว่านะ นาทีที่อ่านประโยคนั้นจบคือ แบบ โหไรวะ ยังไม่ได้ลองคุยกัน ลองให้โอกาสเราเลย คิดในใจนะครับไม่ได้พิมไป และเราก็เงียบหายไปเลยตั้งแต่วันนั้น ได้แต่แอบมองอยู่ไกลๆ เดินผ่านห้องที่เขาเรียนบ่อยๆ เหมือนวันนั้นตัดใจแล้วแหละครับ พี่เขาคงไม่ได้อยากคุยกับเราจริงๆ ผ่านไป เกือบๆเดือนแหละครับ อยู่ๆเราก็อยากลองอีกครั้งคือให้มันตัดใจมันก็ เราก็ไม่ได้หล่ออะไรแต่มันชอบพี่เขาจริงๆ และก็รู้มาว่าพี่เขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย แสดงว่ายังไม่เคยมีคนจีบเขาติดเลย ตอนนั้นก็ดีใจและเสียใจไปพร้อมๆกัน และช่วงนั้นใช้บีบีครับ เราก็ทักเพื่อนเราไป เพื่อนเราเรียนห้องเดียวกับพี่เขา และเขาวันนั้นไปทัศนศึกษาไม่ได้เรียน อยู่เขาก็ตอบ แบบเหมือนอยากตอบเหมือนอยากคุยกับเรา เราคุยกับจน แบตของเพื่อนพี่เขาหมดเลย แต่ผมก็เลยขอเบอร์พี่เขาวันนั้นเลย ต้องบอกว่าขอไลน์ไม่ได้นะครับ พี่เขาเป็นคนไม่วัตถุไม่นิยมครับ ไม่ได้ใช้ไอโฟนหรือสมาทโฟนแพงๆไร มีแค่โทรศัพท์ที่โทรเข้าโทรออกเครื่องๆเล็กๆ ผู้หญิงแบบนี้ก็ยังมีอยู่แห้ะ ที่สำคัญคือเค้าให้เบอร์มานี่สิ หู้ยยวันนั้นเดินยิ้มรอบบ้าน เหมือนคนบ้าเลยครับ พอตอนเย็นจะโทรไป อีกใจก็จะบอกยังไงก่อนดี คือไม่เคยคุยกันแบบทางโทรศัพท์หรือต่อหน้าเลยนะครับ แค่แชทเฟส กับ บีบีวันนี้แหละครับ เราก็เอาไงดีๆ โทรไปจะพูดว่าอะไรก่อนดี ตัดสินใจโทรครับ โทรไปก็ หาเรื่องคุยไปเรื่อยครับๆ และเราก็ได้คุยกันมาเรื่อยๆ สักสองเดือนครับ เราก็คุยกันมาสักพักคือเขาก็น่าจะรู้สึกดีกับเราบ้างแหละงั้นเขาคงไม่คุยกับเราหรอก ก็เลยเดินแต้มที่สามเลยครับ ไปเดอะมอลล์สั่งจี้มารูปหัวใจนะครับ แต่เป็นรูปพี่เขา วันนั้นเราก็เอาไปให้เขา เขาใส่ด้วยครับคือดีใจมาก เขาใส่ของที่เราให้ไป และชอบมากๆด้วย ตอนนั้นเราคุยๆกันอยู่นะครับยังไม่ได้คบกัน คือ ตลอดเวลาที่จีบพี่เขาเราก็บอกตลอดครับว่า ไม่ได้ต้องคบกันก็ได้นะพี่ ถ้าพี่ไม่อยากคบแต่ขอให้เราได้คุยกันแบบนี้ไปเรื่อยๆคุยกันแบบนี้ไปทุกวัน แค่นี้ก็โครตจะมีความสุขและ พี่พร้อมแล้วเราค่อยคบกันก็ได้ พร้อมแล้วค่อยบอกเราก็ไม่ใช่คนดีมากมายอะไร อยากก็อยากจะทำให้ดูว่า เรารักพี่เขาจริงๆและ เราไม่อยากบังคับหรือ เร่งพี่เขาด้วยครับ ตอนนั้นแค่ได้คุยแบบนี้ทุกวัน ก็มากพอแล้วจริงๆแค่พี่เขายอมคุยกับเรา มันก็ถือว่าสุดยอดแล้ว และหลังจากนั้นไม่นาน เราก็คบกันครับ ได้เป็นแฟน แต่เราจะไม่เรียกกันว่าแฟนนะครับ คือ ตอนผมจีบผมก็พยายามที่จะบอกฝันดีหรือบอกรักในแบบที่ไม่เหมือนกัน อย่างฝันดีประโยคที่ต้องบอกทุกคืน ก็บอกสวีทดรีม ทุกๆวัน จนพี่เขาถามว่า ทำไมไม่บอกฝันดีเหมือนคนอื่น เราก็บอกเราไม่อยากเหมือนคนอื่น เราอยากพิเศษกว่าคนอื่น ถ้าเราเหมือนคนอื่น แล้วพี่ก็จะจำเราไม่ได้แบบคนอื่นๆน่ะสิ อย่างนอนดึกคนอื่นๆจะบอกว่า เป็นหมีแพนด้า เราก็บอกเป็นนกแพนกวิ้น เราจะหาคำที่คนอื่นเขาไม่เรียกกัน มาแทนคำว่าแฟน อย่างวันที่ขอเป็นแฟน เราก็ไม่ได้บอกว่า ขอเป็นแฟนนะครับ เราก็บอกเรามาเป็นดูโอ้แพนกวิ้น กันดีกว่า ไม่ว่าจะยังไงเราก็จะอยู่ข้างๆกัน และข้อความที่ส่งกับมาคือ พี่เขาตอบตกลง โห้ พึ่งเคยมีความสุขแบบที่มากขนาดนี้ เราแอบชอบรุ่นพี่และเราก็ได้คบกับคนเราที่แอบชอบนี่มัน ฟิน ไม่รู้จะอธิบายด้วยภาษาอะไร เลยนะครับ เราโชคดีมากที่ได้มาเจอกับพี่เขา และได้เป็นแฟนคนแรกซะด้วย ช่วงนั้นแฮปปี้มากๆ พอเราคบกัน มีงานโรงเรียนคณะกรรมการจัดงานอะไร ผมก็จะเสนอหน้าไปช่วยบ่อยๆครับ เรามาช่วยแฟนเราอ่ะ ไม่อยากให้แฟนเหนื่อยมาก ใครจะมองยังไงผมไม่แคร์นะครับ ถ้าแคร์คนทั้งโรงเรียนก็คงไม่ต้องจีบใครกันพอดี เราทำด้วยความอยากจะทำ ความอยากจะช่วยจริงๆครับ เราไม่สนใจเสียงนินทาอยู่แล้ว เราแคร์แค่คนเราที่รักและเราอยากจะแคร์ดีกว่า คอนเสิร์ตโรงเรียน วันเด็ก ปีใหม่ หรือกิจจกรรมอะไร ที่เราสามารถช่วยได้เราก็จะช่วยครับ และก็มาถึงช่วงปีใหม่ของปี 56ครับช่วงนั้นเราคบกัน ได้ประมานสามสี่เดือนแล้วครับ และเราก็คุยกันไว้ว่าจะหาของขวัญปีใหม่มาให้กัน แต่พี่เขาเป็นคนใช้เงินเป็นครับ ใช้ในสิ่งที่จำเป็นจริงๆ พี่เขาจะไม่ให้ซื้อของราคาแพงๆ หรือไม่ให้ซื้อเลย แต่จะให้ทำเองครับ คือพี่เขาบอก ทำเองมันหรือเราพยายามที่จะทำ มันไม่มีราคาแต่มันมีคุณค่าทางจิตใจ คนที่ได้รับมันจะรู้สึกดี เราก็ไม่เคยทำของขวัญให้ใครเลยครับ เกิดมาซื้อ ๆ ๆ และก็ ซื้อ งานนี้เราจะหาอะไรไปให้พี่เขาดีน่า แต่ก็กู้ดไอเดียครับ เราเคยดูหนังสิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารักที่ เอารูปมาแปะและเขียนสตอรี่ ตลอดเวลาที่คบกันมา ครับ มีรูปอะไร เราก็ไล่ลำดับตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน เขียยนลงไป และก็เอารูปมาแปะ จนจบครับ และก็ซื้อครับ ซื้อหมาตัวนึงให้พี่เขา พร้อมกับสมุดเล่มนั้น พี่เขาก็เอาไปอ่านครับและก็ให้ของขวัญเรากลับมา เป็นเหมือนกรอบรูปครับ แต่มีหลายๆกรอบร้อยด้วยเชือก ในกรอบก็เป็นรูปคู่เราครับ แทบจะเหมือนกันเลยครับ ไล่ลำดับเรื่องราว แต่ของเราจะละเอียดกว่าครับ เราเพราะเป็นคนชอบสังเกตุและก็เก็บรายละเอียดจดจำเรื่องราวได้ดีครับ พี่เขาก็ชอบมากๆ และก็เรียกเรา หมา หมา มาตลอดเลยครับ ทุกวันนี้ยังเรียนกอยู่เลยนะ ^^ และก็ข้ามปีไปที่ปี 56 ครับ
คุณเคยรู้สึกไม่อยากมีแฟนใหม่บ้างไหมครับ ><
ปี2555 ณ โรงเรียนแห่งหนึ่งย่านชาญเมืองในกรุงเทพ ต้องบอกก่อนนะครับว่าผมสมัยนั้นก้เป็นเด็กวัยรุ่นมัธยมปลายคนหนึ่งที่พึ่งย้ายมาโรงเรียนแห่งนี้ ม.ต้นเรียน ชายล้วน ในกรุงเทพนี้แหละครับ เกเรแถวหน้าระดับประเทศเลยก้ว่าได้นะครับ ฟุตบอลก้แถวหน้าระดับประเทศเหมือนกันครับ กลับมาต่อเรื่องผมดีกว่า ช่วงนั้น โรงเรียนมีการจัดแข่งขันฟุตซอลโรงเรียน โดยกลุ่มของคณะกรรมการนักเรียน ของรุ่นพี่ ม.6 และแน่นอนครับ ผมเป็นนักฟุตบอล ร ร ย้ายที่มานี่ก้ต้องลงเล่นเป็นธรรมดา และก็เป้นเหตุที่ทำให้เราได้เจอกัน ครั้งแรกที่เจอยังจำได้ดีครับ เธอใส่เสื้อพละสีฟ้า กางเกงวอร์ม มัดผม เวลายิ้มเห็นเหล็กดัดฟัน และแก้มอมชมพู โอ้ บร๊ะเจ้า มีผู้หญิงที่น่ารักขนาดนี้อยู่ในโรงเรียนแห่งนี้ด้วยหรือนี่ เธอเป็นคณะกรรมการนักเรียน และวันจับฉลาก ผมก็อาสาเป็นคนไปจับ ตั้งแต่วันนั้น ผมก็ไปที่สนามฟุตซอลโรงเรียนทุกวันเลยครับ เพราะผมเป็นกรรมการฟุตบอลของโรงเรียนด้วยครับ เราเคยเป็นนักฟุตบอลดรีกรีโรงเรียนนั้นมาครับ อาจารย์เลยไว้วางใจ ก็ฟุตซอลวันหนึ่งแข่งกัน 4 คู่คู่ละ 15 นาที ไม่รวมพักครึ่ง ยืนตากแดดร้อนๆ ไม่เป็นไร แค่เธอนั่งนับเวลาอยู่ข้างสนามเวลาเหนื่อยมองไปก็ หายเหนื่อยและมีความสุขมากๆแล้ว หลังจากนั้นผมก็ไปทุกวันไม่มีวันไหนที่ขาด หรือลาป่วยอะไรใดๆทั้งสิ้น ช่วงนั้นนี้เป็นช่วงที่แอบรักและมีความสุขมากครับ และเราก็เดินงานเลยครับ แอบถามเพื่อนเขา โชคดีครับประธานนักเรียนรุ่นนั้นมีน้องชายเรียนห้องเดียวกับเรา เขาเลยช่วยดันดีๆ บทจะพรมลิขิตนี่โชคดีจริงๆ เราก็เชคว่า เธอยังไม่มีแฟน โสดชัวรึเปล่า พอข้อมูลผ่านเท่านั้นแหละครับ หาจังหวะและโอกาสดีๆเดินหน้า ทำแต้มแรกกันเลย และฟ้าก็เป็นใจ ผมเป็นกรรมการคู่ที่สามเสร็จ ก็เดินไปกินน้ำที่อ่างล้างหน้า และเธอคนนั้นก็เดินมาพอดีเลย เอ้าาา หู้ยยเอาไงดีวะ เขาเดินมาคนเดียวด้วย จะเดินไปขอเบอร์เลยดีไหม หรือ จะยืนแอ๊คท่าตามสบายของเรา ตัดสินใจอยู่ไม่ถึงสามวิหรอกครับ ผมเดินเข้าไป เรียก พี่ๆครับ เขาหันมาแล้วก็ทำหน้าแบบ งงๆ งงเลยครับ แบบ เรียกทำไม มีธุระอะไร ไม่มีรอยยิ้มหรืออะไรแม้แต่นิด เหมือนเขาก็รู้ว่าเราแอบชอบเขา และเราจะต้องจีบเขา เราก็ไม่รู้จะพูดอะไร เอ่ยออกไปหนึ่งประโยค ''พี่ๆครับ พี่น่ารักจังเลยครับ'' พูดจบเท่านั้นพี่เขาก็เดินหนีหันหลังใส่เราโดยที่รอยยิ้มสักนิดก็ไม่ได้ โห้ แบบตอนนั้นรู้สึกเขาต้องไม่ชอบเราหรือไม่ก็ อคติอะไรกับเราสักอย่างแน่ๆเลย แต่อย่างน้อยๆ ก็ได้ที่อยากจะบอกแล้ว คือพี่เขาน่ารักมากจริงๆนะครับ และหลังจากวันนั้น ก็เดินทางมาถึงรอบชิง อ่อ ผมไม่ได้เข้าเข้าชิงหรอกครับ ก็เป็นกรรมการเหมือนเดิม แต่วันนั้นอากาศร้อนมากๆและ ผมก็หิวน้ำมากๆครับ และผมก็บอกคณะกรรมการขอน้ำสักขวดได้ไหม พี่ปธ.นักเรียน ก็ยื่นน้ำให้พี่คนที่เราแอบชอบและให้และให้พี่คนนั้นเดินเอามาให้เรา เราก็เห็นแล้วแหละแต่ก็ไม่ได้มอง และพี่เขาก็เดินเอาน้ำมาให้เรา แบบ ยื่นให้ไม่พูดไม่จา ไม่ยิ้มไม่สบตา ไม่มองหน้า ไม่อะไรทั้งสิ้นเลย คือ แหม่ แต่ก็ดีใจนะน้ำขวดนั้นเป็นน้ำเปล่าที่หวานมาก ได้น้ำขวดนั้นมา ถ้าฟุตซอลจบเราก็จะได้เจอพี่เขาน้อยลง ถึงจะอยู่โรงเรียนเดียวกัน แต่ก็คนละระดับชั้น เราก็เดินแต้มที่สองเลย ครั้งแรกแป๊กชั่งประไล ก็คนมันรักและจริงใจมันต้องใจอ่อนบ้างแหละ และน้ำขวดนั้นก็เป็นเหตุ ผมเอาน้ำขวดนั้นไปเก็บไว้ในตู้เย็นและไม่กินปริมาณน้ำยังเหลือเกือบเต็มๆขวดอยู่เลย และเราก็มีโอกาสได้แอดเฟสพี่เขาไป แต่ก็เหมือนเดิมทักไป พี่เขาก็ตอบแบบ จบประโยคแทบจะทุกคำ และเหมือนพี่เขารู้ตัวครับ เขาก็ถามเราว่าเราคิดยังไงกับเขา ผมก็เราคนตรงๆเลยก็บอกชอบครับพี่น่ารักดี และเหมือนอย่างที่เราคิดเลย พี่เขาตอบกับมา เป็นพี่น้องกันดีกว่ามันยืนยาวกว่านะ นาทีที่อ่านประโยคนั้นจบคือ แบบ โหไรวะ ยังไม่ได้ลองคุยกัน ลองให้โอกาสเราเลย คิดในใจนะครับไม่ได้พิมไป และเราก็เงียบหายไปเลยตั้งแต่วันนั้น ได้แต่แอบมองอยู่ไกลๆ เดินผ่านห้องที่เขาเรียนบ่อยๆ เหมือนวันนั้นตัดใจแล้วแหละครับ พี่เขาคงไม่ได้อยากคุยกับเราจริงๆ ผ่านไป เกือบๆเดือนแหละครับ อยู่ๆเราก็อยากลองอีกครั้งคือให้มันตัดใจมันก็ เราก็ไม่ได้หล่ออะไรแต่มันชอบพี่เขาจริงๆ และก็รู้มาว่าพี่เขายังไม่เคยมีแฟนมาก่อนเลย แสดงว่ายังไม่เคยมีคนจีบเขาติดเลย ตอนนั้นก็ดีใจและเสียใจไปพร้อมๆกัน และช่วงนั้นใช้บีบีครับ เราก็ทักเพื่อนเราไป เพื่อนเราเรียนห้องเดียวกับพี่เขา และเขาวันนั้นไปทัศนศึกษาไม่ได้เรียน อยู่เขาก็ตอบ แบบเหมือนอยากตอบเหมือนอยากคุยกับเรา เราคุยกับจน แบตของเพื่อนพี่เขาหมดเลย แต่ผมก็เลยขอเบอร์พี่เขาวันนั้นเลย ต้องบอกว่าขอไลน์ไม่ได้นะครับ พี่เขาเป็นคนไม่วัตถุไม่นิยมครับ ไม่ได้ใช้ไอโฟนหรือสมาทโฟนแพงๆไร มีแค่โทรศัพท์ที่โทรเข้าโทรออกเครื่องๆเล็กๆ ผู้หญิงแบบนี้ก็ยังมีอยู่แห้ะ ที่สำคัญคือเค้าให้เบอร์มานี่สิ หู้ยยวันนั้นเดินยิ้มรอบบ้าน เหมือนคนบ้าเลยครับ พอตอนเย็นจะโทรไป อีกใจก็จะบอกยังไงก่อนดี คือไม่เคยคุยกันแบบทางโทรศัพท์หรือต่อหน้าเลยนะครับ แค่แชทเฟส กับ บีบีวันนี้แหละครับ เราก็เอาไงดีๆ โทรไปจะพูดว่าอะไรก่อนดี ตัดสินใจโทรครับ โทรไปก็ หาเรื่องคุยไปเรื่อยครับๆ และเราก็ได้คุยกันมาเรื่อยๆ สักสองเดือนครับ เราก็คุยกันมาสักพักคือเขาก็น่าจะรู้สึกดีกับเราบ้างแหละงั้นเขาคงไม่คุยกับเราหรอก ก็เลยเดินแต้มที่สามเลยครับ ไปเดอะมอลล์สั่งจี้มารูปหัวใจนะครับ แต่เป็นรูปพี่เขา วันนั้นเราก็เอาไปให้เขา เขาใส่ด้วยครับคือดีใจมาก เขาใส่ของที่เราให้ไป และชอบมากๆด้วย ตอนนั้นเราคุยๆกันอยู่นะครับยังไม่ได้คบกัน คือ ตลอดเวลาที่จีบพี่เขาเราก็บอกตลอดครับว่า ไม่ได้ต้องคบกันก็ได้นะพี่ ถ้าพี่ไม่อยากคบแต่ขอให้เราได้คุยกันแบบนี้ไปเรื่อยๆคุยกันแบบนี้ไปทุกวัน แค่นี้ก็โครตจะมีความสุขและ พี่พร้อมแล้วเราค่อยคบกันก็ได้ พร้อมแล้วค่อยบอกเราก็ไม่ใช่คนดีมากมายอะไร อยากก็อยากจะทำให้ดูว่า เรารักพี่เขาจริงๆและ เราไม่อยากบังคับหรือ เร่งพี่เขาด้วยครับ ตอนนั้นแค่ได้คุยแบบนี้ทุกวัน ก็มากพอแล้วจริงๆแค่พี่เขายอมคุยกับเรา มันก็ถือว่าสุดยอดแล้ว และหลังจากนั้นไม่นาน เราก็คบกันครับ ได้เป็นแฟน แต่เราจะไม่เรียกกันว่าแฟนนะครับ คือ ตอนผมจีบผมก็พยายามที่จะบอกฝันดีหรือบอกรักในแบบที่ไม่เหมือนกัน อย่างฝันดีประโยคที่ต้องบอกทุกคืน ก็บอกสวีทดรีม ทุกๆวัน จนพี่เขาถามว่า ทำไมไม่บอกฝันดีเหมือนคนอื่น เราก็บอกเราไม่อยากเหมือนคนอื่น เราอยากพิเศษกว่าคนอื่น ถ้าเราเหมือนคนอื่น แล้วพี่ก็จะจำเราไม่ได้แบบคนอื่นๆน่ะสิ อย่างนอนดึกคนอื่นๆจะบอกว่า เป็นหมีแพนด้า เราก็บอกเป็นนกแพนกวิ้น เราจะหาคำที่คนอื่นเขาไม่เรียกกัน มาแทนคำว่าแฟน อย่างวันที่ขอเป็นแฟน เราก็ไม่ได้บอกว่า ขอเป็นแฟนนะครับ เราก็บอกเรามาเป็นดูโอ้แพนกวิ้น กันดีกว่า ไม่ว่าจะยังไงเราก็จะอยู่ข้างๆกัน และข้อความที่ส่งกับมาคือ พี่เขาตอบตกลง โห้ พึ่งเคยมีความสุขแบบที่มากขนาดนี้ เราแอบชอบรุ่นพี่และเราก็ได้คบกับคนเราที่แอบชอบนี่มัน ฟิน ไม่รู้จะอธิบายด้วยภาษาอะไร เลยนะครับ เราโชคดีมากที่ได้มาเจอกับพี่เขา และได้เป็นแฟนคนแรกซะด้วย ช่วงนั้นแฮปปี้มากๆ พอเราคบกัน มีงานโรงเรียนคณะกรรมการจัดงานอะไร ผมก็จะเสนอหน้าไปช่วยบ่อยๆครับ เรามาช่วยแฟนเราอ่ะ ไม่อยากให้แฟนเหนื่อยมาก ใครจะมองยังไงผมไม่แคร์นะครับ ถ้าแคร์คนทั้งโรงเรียนก็คงไม่ต้องจีบใครกันพอดี เราทำด้วยความอยากจะทำ ความอยากจะช่วยจริงๆครับ เราไม่สนใจเสียงนินทาอยู่แล้ว เราแคร์แค่คนเราที่รักและเราอยากจะแคร์ดีกว่า คอนเสิร์ตโรงเรียน วันเด็ก ปีใหม่ หรือกิจจกรรมอะไร ที่เราสามารถช่วยได้เราก็จะช่วยครับ และก็มาถึงช่วงปีใหม่ของปี 56ครับช่วงนั้นเราคบกัน ได้ประมานสามสี่เดือนแล้วครับ และเราก็คุยกันไว้ว่าจะหาของขวัญปีใหม่มาให้กัน แต่พี่เขาเป็นคนใช้เงินเป็นครับ ใช้ในสิ่งที่จำเป็นจริงๆ พี่เขาจะไม่ให้ซื้อของราคาแพงๆ หรือไม่ให้ซื้อเลย แต่จะให้ทำเองครับ คือพี่เขาบอก ทำเองมันหรือเราพยายามที่จะทำ มันไม่มีราคาแต่มันมีคุณค่าทางจิตใจ คนที่ได้รับมันจะรู้สึกดี เราก็ไม่เคยทำของขวัญให้ใครเลยครับ เกิดมาซื้อ ๆ ๆ และก็ ซื้อ งานนี้เราจะหาอะไรไปให้พี่เขาดีน่า แต่ก็กู้ดไอเดียครับ เราเคยดูหนังสิ่งเล็กๆที่เรียกว่ารักที่ เอารูปมาแปะและเขียนสตอรี่ ตลอดเวลาที่คบกันมา ครับ มีรูปอะไร เราก็ไล่ลำดับตั้งแต่วันแรกที่เจอกัน เขียยนลงไป และก็เอารูปมาแปะ จนจบครับ และก็ซื้อครับ ซื้อหมาตัวนึงให้พี่เขา พร้อมกับสมุดเล่มนั้น พี่เขาก็เอาไปอ่านครับและก็ให้ของขวัญเรากลับมา เป็นเหมือนกรอบรูปครับ แต่มีหลายๆกรอบร้อยด้วยเชือก ในกรอบก็เป็นรูปคู่เราครับ แทบจะเหมือนกันเลยครับ ไล่ลำดับเรื่องราว แต่ของเราจะละเอียดกว่าครับ เราเพราะเป็นคนชอบสังเกตุและก็เก็บรายละเอียดจดจำเรื่องราวได้ดีครับ พี่เขาก็ชอบมากๆ และก็เรียกเรา หมา หมา มาตลอดเลยครับ ทุกวันนี้ยังเรียนกอยู่เลยนะ ^^ และก็ข้ามปีไปที่ปี 56 ครับ