[CR] ทริปในฝัน 3 วัน 2 คืน ณ เกาะพยาม ครั้งหนึ่งในชีวิตที่ควรไป



เกาะพยาม ทริปในฝัน..ที่อยากไปมานาน เพี้ยนออกทริป

เป็นทริปที่ออกเดินทาง โดยไม่ได้วางแผนอะไร แค่ใจที่บอกว่า “ อยากไป “ เท่านั้นเอง
เราออกเดินทางจากกรุงเทพในเวลาเที่ยงคืนของวันที่ 28 พฤษภาคม ผู้หญิง 2 คนเดินทางกลางคืน ทั้งที่อ่านรีวิวมาบ้างแล้วว่า
เส้นทางก็น่ากลัวอยู่ประมาณหนึ่ง อีกอย่างกลางคืนด้วย เราเป็นเพื่อนร่วมทาง โดยเพื่อนอีกคนเป็นคนขับ คนเดียว...


เราถามย้ำเพื่อนแล้วว่า กลางคืนเราไม่ถนัดนะ เราง่วง แล้วพอออกจากพระราม 2 มา เราก็หลับยาวจนถึงชุมพร 5 5
ไม่ได้เป็นเพื่อนร่วมทางที่ดีเลย พาพันง่วง


เราถึงชุมพรกันในเวลา 6 โมงเช้าได้ แวะเข้าห้องน้ำ ล้างหน้า หาไรกิน รีบที่จะต้องไปถึงระนองให้ทันเรือในเวลา 09.30 น.
ไม่งั้นเราจะต้องไปรอบเวลา 14.00 น. เวลาเรือธรรมดา มีแค่ 2 เวลาเท่านั้น


ขับมาตาม Google Map สรุปหลงจ้า เลี้ยวเข้าไปทางท่าเรือที่มีป้ายก่อนถึงตัวเมืองระนอง เลี้ยวเลาะทะเลไป แล้วก็หาไม่เจอ จอดถามคนแถวนั้น จอดถามตำรวจที่ป้อม ทำใจแล้วว่า ไม่ทันเวลาเรือแน่นอน
ด้วยความที่ศึกษาข้อมูลมาน้อย อ่านไม่แตกฉาน ไม่คิดว่า ท่าเรือไปเกาะพยามจะอยู่ในตัวเมือง เราขับมาตามที่ได้แนะนำ มาถึงท่าเรือในเวลา 09.20 น. โอ๊วววววววววววว รีบสุดพลัง เรากระโจนลงรถไปหาลุงเจ้าของเรือ บอกว่า “ ไปเกาะพยาม ใช่ไหมคะ “ ลุงพยักหน้ารับ เรารีบขนของลงจากรถและบอกลุงว่า “ ลุงคะ รอแป๊ปนะ ให้เพื่อนไปฝากรถก่อน “ ลุงมองนาฬิกา เป็นคำตอบว่า ไว ไว

เรารีบขนกระเป๋าลงเรือ คนบนเรือ บางตาเพราะคงเป็นวันศุกร์ มีฝรั่งและคนไทยประมาณ 10 คนบนเรือได้ คนบนเรือมองนาฬิกาว่า ถึงเวลาออกแล้ว....

เพื่อนวิ่งถลามาแต่ไกล กระโดดลงเรือ เรือก็เคลื่อนตัวออกจากท่าเรือห่างออกไป ค่าเรือคนละ 200 บาทไทยนะคะ










เรือใช้เวลาเดินทางประมาณ 1 ชม. 30 นาที นอนหลับกันไป ฟังพม่าสาว คุยกับหนุ่มตลอดเวลาที่อยู่บนเรือเป็นเวลา 1 ชม.
เดินขึ้นลงเรือ ชมบรรยากาศโดยรอบ ดูเหงา เหงา คงเพราะไกลหรือยังไม่ใช่วันหยุด

นั่งมาเรื่อยๆ เราก็มาถึงเกาะพยาม

เย้ เย ถึงแล้ว เกาะในฝันของเรา








มองจากบนเรือไปที่ฝั่ง เราจะเห็น Blue Sky อยู่ด้านซ้ายเป็นด่านแรกเลย หลายๆ คนคงรู้จักเกาะพยาม ก็เพราะ Blue Sky แน่นอน เพราะนิยามของ Blue Sky คือ มัลดีฟ เมืองไทย

ขึ้นจากฝั่งแล้ว เรายังไม่มีที่พัก เอาน่า...กระเป๋าใบเล็กนิดเดียวเอง เราหอบกันได้ หาที่พัก 5 5







การเดินทางบนเกาะ คือ มอเตอร์ไซค์เท่านั้น ใครที่จะมาเกาะพยาม หัดขี่มอเตอร์ไซค์ไว้นะคะ บนเกาะไม่มีรถนะคะ มีก็จะมีแต่รถมอเตอร์ไซค์ที่พ่วงข้าง เพื่อให้คนนั่งหรือไว้ขนของค่ะ
หรือถ้าเป็นที่พักที่ดีหน่อย ก็จะมีรถเหมือนรถมีพ่วงที่นั่งข้างหลังเป็นที่นั่ง 2 แถว ( นึกออกกันไหมหวา 55 ) เอาเป็นว่า ถ้าเดินทางบนเกาะก็ คือ มอเตอร์ไซค์ซะเป็นส่วนใหญ่

พอขึ้นมาบนเกาะได้ เราก็หาเช่ามอเตอร์ไซค์ เพื่อหาที่พัก ได้มอเตอร์ไซค์มา 1 คัน เป็นเกียร์ธรรมดา
เนื่องจากราคาถูก 55 คือ ประหยัดนั่นเอง
เราได้มอเตอร์ไซค์มาในราคา 100 บาท/วัน ถ้าเป็นเกียร์ออโต้ ก็จะในราคา 150 บาท แต่ในรีวิวก่อนๆ บอกว่าราคา 200-250 หรือเพราะไม่ใช่หน้า Hi หรือเปล่าไม่แน่ใจ
วนหาที่พักกันเป็นเวลาพักใหญ่ๆ เพราะแต่ละเกาะ มีที่พักที่ต่างกันไปแล้วแต่หาด เราเลือกที่จะไปอ่าวใหญ่ก่อน แต่ก็ไปไม่ได้ถึง เพราะกระเป๋าหนักมาก ใช้มอเตอร์ไซค์ มีกระเป๋าด้วย เฉพาะตัวเองก็จะเอาไม่รอดแล้ว..

แต่ก็ยังไม่วายนะ ก็วนหาไปอีกเรื่อยๆ บางที่มีสวย สวย น่าพักเยอะแยะ แต่ว่าเขาปิด ไม่ได้เปิดให้บริการ ก็ขี่วนไปเรื่อยๆ จนจะไปอ่าวเขาควาย ไปจอดรถจนถึงหน้า The Sun เห็นเปิดอยู่ พร้อมกับเพื่อนบอกว่า เปิดในเวปดู ที่นี่มีห้องว่าง เราก็จอดรถกันหน้ารีสอร์ท และโทรถามกันตรงนั้นเลย 555 สรุปได้ที่นี่ รอดตายแล้วววววว ร้อนและเหนื่อยมากกกกกกกกก นานาเหงื่อตก

เข้ามาถึงห้อง เราเลือกพักห้องที่เป็นพัดลม 5 55 เหตุผลคือ ประหยัดค่ะ เดินเข้าห้องมา ในห้องไม่รู้สึกว่าร้อนเลยนะ ภายในห้องสวยดี เป็นปูนเปลือย เราชอบมาก ห้องอาจจะเล็กไปหน่อย ภายในห้อง ไม่มี ตู้เย็น นะคะ แต่มีทีวีให้ดู
อย่างหนึ่งของการพักบนเกาะ หาข้อมูลมาดีดีและเยอะๆ เพื่อจะได้ตอบโจทย์ของตัวเราเอง เพื่อนย้ำเลยว่า พักที่ไหนก็ได้ ขอให้มีไฟใช้ 24 ชม. เนื่องจากพื้นที่เป็นเกาะ ไฟจะเป็นการใช้แบบการปั่นไฟ บางที่พักจะมีการเปิดปิดไฟ เป็นเวลา ราคาที่พักก็จะแตกต่างกันออกไป

































พอดีที่นี่ ตอบโจทย์เราคือ มีไฟให้ใช้ 24 ชม. เราเข้าห้องพัก อาบน้ำ เพราะแช่แห้งกันมาตั้งแต่เมื่อคืน อาบน้ำเสร็จ แทบอยากจะล้มตัวลงไปนอน ไม่จ้าาาาาาาา เราอาบน้ำเสร็จแล้ว ออกไปสำรวจเกาะกันจ้าาาาา เราจะไม่ปล่อยเวลาให้เสียไป

ออกไปสำรวจเกาะ อาจจำชื่ออ่าวไม่ได้หมด แต่มีภาพมาฝาก ตามนี้นะคะ

ห้องพักที่พักของ The Sun เป็นพื้นที่ ของป่า อาจมียุงเยอะหน่อย จนถึงเยอะมาก เราโดนยุงกัดซะตัวลาย เนื่องจากเป็นคนแพ้ยุงมาก ตอนกลางคืน เห็นมียาจุดกันยุงวางอยู่เป็นจุด ๆ คงพยายามไล่และทำให้เต็มที่แล้ว แต่มันก็มี ทำไงได้เนอะ
แต่ห้องโอเค เงียบ สงบดีมาก

เราออกมาเล่นน้ำกันตอนเย็น หน้าที่พักเลย เดินลงมานิดเดียว มองออกจากห้องก็เห็นทะเลเหมือนกัน เรารู้สึกรักที่นี่มากเลยนะ เกาะพยาม ผู้คนไม่ค่อยพลุกพล่าน เงียบ สงบดี
ถ้ามาเป็นคู่รัก คงหยอกล้อกัน กระหนุงกระหนิงน่ารักกันไปเลยทีเดียว แต่ถ้ามากับเพื่อน ก็ต่างอยู่มุมใคร มุมมัน หาหนังสือดีดี มาอ่านสักเล่ม คงเพลินไม่น้อย


เกาะพยาม..เป็นทะเลที่เดียว ที่เรากล้าใส่ทูพีชลงไปเล่นน้ำ 5 55 เพราะไม่มีคนเลย ไม่ต้องอายใคร จะอ้วน จะหมู แค่ไหน ก็ไม่มีใครเห็น เพราะไม่มีคน...

หลังพระอาทิตย์ตกดินแล้ว เราไม่ได้ทำไร ไม่ได้ออกไปข้างนอก เพราะไม่กล้า กลัวเส้นทาง เนื่องจากมืดแล้ว ไม่คุ้นชิน ไม่ใช่หน้า Hi ไม่ออกดีกว่า นอนค่ะ เหนื่อยกับการเดินทาง...























































เช้ามา เราออกมาทานอาหารเช้ากันที่ส่วนด้านหน้าของที่พัก ราคาห้องพัก 1,000 บาท สำหรับห้องพัดลม มีอาหารเช้าด้วยนะ ราคา 2,000 บาท สำหรับห้องแอร์ แต่จากที่เมื่อคืนเรานอนไป เราไม่รู้สึกว่าร้อนนะ ถ้าประหยัดแบบเรา นอนห้องพัดลมก็ได้




บรรยากาศยามเช้า หน้าที่พัก The Sun






Blue Sky







หลังจากทานอาหารเช้าเสร็จ เราบอกเพื่อนว่า เราควรจะไปหาที่พักใหม่และควรไปถ่ายรูปที่ Blue Sky ก่อน เพราะช่วงเช้าน้ำขึ้น น่าจะสวย ขี่รถวนมาหน้า Blue Sky กล้า ๆ กลัวๆ ไม่กล้าเข้าไป เพราะคิดว่า เป็นพื้นที่ส่วนตัวของ Blue Sky เลย
แต่ป่าวนะ ข้างในที่เลย Blue Sky ไป มีที่พักอยู่ข้างในอีก ที่เด็ดคือ Sabai Sabai ค่ะคู๊นนนนนนนนนนนน พอดีเดินเข้าไปแบบเงียบๆ และตะโกนถามว่า “ ขอโทษนะคร๊า มีห้องว่างไหมคร๊า “
สักพักถือวิสาสะ เดินเข้าไปสำรวจเลย เห็นมีฝรั่งนายหนึ่งเดินถอดเสื้อออกมา พร้อมกับหยิบเสื้อมาใส่แล้วพูดตอบมาว่า “ ครับ “

โอยยยยยยยยยยยยย เขินอาย หน้าแดง หล่อมากกกกกกกกกกกก 5 55
เราเขินเดินหนีไป ให้เพื่อนเจรจา เดินกลับมายังเจรจากันไม่จบ เพื่อนถามว่า “ เปิดไฟ 24 ชม.ไหม “
ฝรั่งตอบว่า “ ไม่นะ เปิดถึงประมาณ เที่ยงคืนหรือตี 2 นี่แร่ะ “

คุยกันทั้งภาษาไทยและอังกฤษ ตอบกันไปมา แบบ งง...งง และเดินจากมา บอกเขาไปว่า “ ไม่เป็นไรค่ะ “
แต่ฝรั่งนายนี้ ยังติดอยู่ในใจมากกกก หล่อจัง ทำไมมาทำเอง ตอบเองคนเดียว แฟนยูวว์ไปไหน ห๊าาาาาาาาา








ขี่รถออกมา มาหาที่ใหม่ ที่เปิดไฟ 24 ชม. มาเจอข้างๆ กับ Sabai sabai คือ นิธิพร บังกะโล เราเจรจา สอบถามราคาห้องพัก แต่ครั้งนี้ เราเจอพี่พม่า เป็นคนให้คำตอบ พูดตอบกันแบบ งง หัวเราะกันไป เข้าใจหรือไม่เข้าใจกันไป สรุปที่ราคา 700 บาท รีบกระโจนกันเลยทีเดียว ห้องพัดลมเหมือนเดิม แต่ห้องของที่นี่ ก็ไม่มีทีวีและตู้เย็นเหมือนเดิมนะคะ แต่ห้องที่เราพัก ติดหาดเลยจ้า ดี๊ ดี ชอบมาก เพราะที่พักของนิธิพร ติดกับ Blue Sky เลยจ้า แล้วแอบไปส่อง Blue Sky ได้

เรารีบกลับไปเช็คเอาท์ เก็บของออกจาก The Sun มาที่นิธิพรแทน ของนิธิพรเป็นที่พักติดหาด มีลม เลยไม่ค่อยมียุง แต่อากาศจะร้อนหน่อย ที่นิธิพร มีห้องแอร์เหมือนกันนะคะ เป็นโซนใหม่ เพิ่งทำใหม่ สวยงาม
แต่ว่าอยู่ด้านหลังไม่ได้ติดทะเล ห้องติดทะเลคือ ห้องพัดลมจ้า
วันที่เราไป มีคนพักห้องแอร์พอดี เราเลยได้อนิสงค์ ได้ใช้ไฟ 24 ชม. ไปกับเขาด้วย แฮร่...โชคดีไป
























หลังจากเก็บของมานิธิพร เราก็มานอนร้อนกันอยู่ในห้องจ้า ตอนเย็นก็ออกไปขี่รถเล่นรอบเกาะ ดูผู้คน วันนี้ ผู้คนเริ่มเยอะแล้ว
เพราะเป็นวันเสาร์และวันหยุดติดต่อกัน 3 วัน ต้องระมัดระวังหน่อยนะคะ เพราะจะมีวัยรุ่นเยอะ น้องบางคนอาจขี่รถไม่แข็ง จะชนกันได้ ต้องระมัดระวังหน่อย



ภาพบรรยากาศรอบๆ เกาะพยาม


















ธรรมชาติ สรรสร้าง จริง จริง พี่ปูของเรา เขาก็มีศิลปะเหมือนกันนะ















พอเริ่มมืด เราออกมาหาไรกิน ที่หน้าอ่าวแม่หม้าย มีร้านอาหารเปิดอยู่ 2 ร้านติดกัน ไฟสว่างมาก ขอโทษที่จำชื่อร้านไม่ได้ ประมาณชื่อ พยามซีฟู้ด หรืออะไรนี่แร่ะ กับข้าวเขาอร่อยทีเดียว เราเลือกสั่งอาหารจานเดียวมาทาน เนื่องจากเน้นประหยัด 555 อาหารจานเดียวที่นี่ ราคาจะตกอยู่ที่ 70-80 บาท แล้วแต่ว่าเป็นอะไร หมู เนื้อ ไก่หรือทะเล
อาหารที่นี่ ก็จะเป็นราคาเกาะ เป็นเรื่องปกติ ถ้าอร่อย โอเค ยอมจ่ายไป ที่นี่ไม่มีร้านสะดวกซื้อนะ เป็นเกาะผู้คนเป็นชุมชน ร้านค้าแบบชาวบ้าน ดูเข้าถึงชุมชนดี
เพื่อนบอกว่า ไม่มีร้านสะดวกซื้อ เพราะคงคำนวณแล้วว่า...ไม่คุ้ม เลยไม่มา..


ชื่อสินค้า:   เกาะพยาม จ.ระนอง
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่