หลายๆคน ถ้าไม่พลาดลืม Logout จริงๆ ก็อาจจะโดนฉกไปโพสต์ต่อหน้าต่อตาหรืแม้แต่ไปห้องน้ำกลับมาก็โดนแล้ว
เนื้อหาส่วนใหญ่ที่ผมโดนก็ประมาณว่า เป็นเกย์ ซึ่งอันนี้ก็ขำๆ ไปเพราะไม่ว่าผมเป็นเพศอะไร ผมก็ยังโสดเสมอ ไม่เดือดร้อน
แต่มีการแกล้งครั้งนึงโดนแล้วส่งผลอย่างแรงจนถึงทุกวันนี้
ถ้าใครไม่อยากอ่านเรื่องของผมก็ไม่เป็นไร ผมสรุปสั้นๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"ไม่ทำตามสิ่งที่คนอื่นโพสต์ในนามตัวเอง จนเสียเพื่อนและได้ศัตรู"
เพื่อนแอบโพสต์ไปว่า ครบหมื่นเม้นจะเปลี่ยนรูปเป็นรูปจริง
คราวนี้ก็เป็นเรื่องสิครับ ตอนแรกนึกว่าเป็นเรื่องตลกที่ไม่มีวันเกิดขึ้นได้ แต่เพื่อนซึ่งเป็นเอ่อ สาขานึงที่เกี่ยวกับคอมฯ ละกัน ได้ใช้วิทยายุทธในการคอมเม้นครบหมื่นได้ในพริบตา (รอดจากการโดนแบนระหว่างทำได้ไงในตอนนั้น ทำให้ผมโทษพี่ม้ากได้นิดนึง)
ทีนี้ งานก็เข้าสิครับ ผมต้องทำตามโพสต์โง่ๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้โพสต์เอง ผมจึงโพสต์ไปว่า ผมไม่เปลี่ยน เพราะผมไม่ได้โพสต์ (ความจริงผมไม่ใช่เป็นคนที่ชอบลงรูปตัวเองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ถ้าใครไม่สนิทกับผมจริงๆ ก็มองเป็นข้ออ้างได้) แต่คนที่อ่านจะไปรู้อะไร ก็นึกว่าผมโพสต์จริงๆ (ดีปะไรไม่เป็นเรื่องอาหารอิตาลี ไม่งั้นผมคงไม่ได้ตั้งกระทู้นี้ในวันนี้) โดยที่เพื่อนไม่รู้ ซึ่งผมอธิบายไปให้พวกเขาแล้ว ไม่ฟัง หนำซ้ำด่าผมว่าไม่รักษาคำพูด ลูกกะเทย ฯลฯ
แต่มีคนนึงถามผมว่า "ทำไมไม่ลบโพสต์นั้นตั้งแต่แรก" ผมก็ตอบเขาไปว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"ตื่นมาก็ครบแล้ว จะให้ทำยังไงล่ะ ไม่นึกว่ามันจะเป็นจริง (ดูเหมือนอ้างเนาะ 555)"
อีกคนก็ถามผมว่า "ทำไมไม่เปลี่ยน จะได้จบๆ" ผมก็ตอบไปว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้"ผมไม่ได้โพสต์เอง โดน***แกล้ง"
และตั้งแต่วันนั้นมา เฟซผมก็สงบทันที แต่ที่ไม่สงบก็คือการถูกเพื่อน(หรือไม่)ติดตามอยู่แล้วนำโพสต์ของเราที่โพสต์ของเราดีๆ (ผมขอยอมรับว่าผมเป็นคนไม่สนใจกระแส ทำให้บางโพสต์ออกแนวขวางโลกและแรงไปบ้าง แต่ไม่เคยเลยที่มองคนเห็นต่างเป็นศัตรู) ไปเสี้ยมให้เพื่อนคนอื่นเกลียดผมด้วย และพอผมบังเอิญเห็นแล้วไปชี้แจง เค้าก็เงียบและไม่เชื่อ เพราะผมถูกจดจำในฐานะศัตรูไปแล้ว บางคนที่เป็นเพื่อนผมอยู่ก็ยังไม่กล้าช่วย เพราะกลัวว่าจะโดนรุมประณามเหมือนอย่างที่ผมโดน แถมยังรุมด่าผมราวกับผมไปฆ่าพ่อของคนด่า มองผมเป็นคนบ้าคนนึงเท่านั้น
แต่ถามว่าผมทำยังไงกับคนแย่งโพสต์ที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ แทนที่ผมจะชกเขาหรือแก้แค้น ผมกลับขอบคุณเขาที่ทำให้เห็นมิตรเทียมที่ผุดออกมาทีละคนๆ แต่ทุกวันนี้ผมไม่ยุ่งกับเขาในเฟซอีกเลยไม่ว่าจะอยู่ข้างไหนก็ตาม ผมเข็ด
แม้แต่ช่วงนึงที่ผมเคยโพสต์ระบายเรื่อง "คนอกหักโดนแล้วทำเป็นร้อง แต่ผมโสดตั้งแต่เกิดซึ่งน่าจะอึดอัดกว่ายังไม่บ่นเลย (หวังว่าไม่จี๊ดกับคนในนี้นะครับ)" ก็ถูกนำเพื่อนไปเสี้ยมเหมือนกัน แต่คนนึงดีหน่อยเอาไปแฉแล้วบอกว่า ผมเป็นคนให้ร้ายเพื่อนแบบนี้เหรอ (ทำเอาเพื่อนช็อก) ซึ่งช่วงนั้นโชคร้ายไปหน่อยที่มีเพื่อนคนหนึ่งอกหักพอดี วันรุ่งขึ้น ผมเสียเขาในเฟซ แต่โชคยังดีที่เขาฟังเหตุผลผมตอนเจอหน้ากันอยู่ ผมให้เหตุผลไปว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ถ้าผมจะให้ร้ายเค้าจริงๆ ไม่ต้องรอเค้าอกหักก็ได้ และที่โพสต์เนี่ยะ มีคำไหนบ้างที่กล่าวถึงเค้าบ้างล่ะ แต่ก็เข้าใจว่าคนเศร้าเหมารวมกับคำพูดลบๆ ถือว่าผมผิดเองที่โพสต์แนวร้อนตัวไป ทำให้ได้เป็นเพื่อนอีกครั้ง แต่เขาไม่ติดตามผม เพราะคงเข็ดผมไปอีกนาน
ส่วนคนอื่นที่ผมเลิกเป็นเพื่อนแล้วหรือเค้าไม่คบผมแล้ว ผมก็ถือว่าช่างมันแล้วกัน ผมได้เลือกเพื่อนเรียบร้อยแล้ว เพราะผมไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นเพื่อนผมได้หมด จะนินทาผมก็ตามสบาย เพราะไม่มีใครในโลกที่ไม่ถูกนินทา แต่ถ้าผมบังเอิญจับได้ขึ้นมาแล้วผมเสียหายเต็มๆ ผมไม่ปล่อยไว้แน่
สุดท้าย โดนรุมเกลียดขนาดนี้ก็มีคนถามว่า แล้วจะมีเพื่อนเหลืออีกเหรอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมก็ตอบไปว่ายังมีอยู่ที่ยังมองผมเป็นเพื่อนเพราะเชื่อว่าผมไม่ผิดจริง บางคนไม่สนเรื่องที่ผมโดนแกล้งด้วยซ้ำ ถึงรู้ไปก็ไม่ใช่ประเด็นที่ต้องเลิกคบ
สุดท้ายกว่า ถ้าถามว่าวันนึงคนที่เกลียดผมรู้ความจริงขึ้นมาว่าผมถูกขึ้นมาแล้วขอโทษผม ผมจะให้อภัยหรือไม่?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ผมยกโทษให้ แต่จะไม่กลับไปเป็นเพื่อนอีก เพราะเข็ดหลาบไปแล้ว
ถือว่าเรื่องของผมเป็นทั้งบทเรียนและอุทาหรณ์สำหรับชาวเฟซได้เป็นอย่างดี ถ้าผมใส่อารมณ์มากไปจนน่ารำคาญก็ขอโทษทุกคนที่อ่านด้วยนะครับ
ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อบุคคลทุกคนในเรื่อง เนื่องจากผมไม่อยากเปิดเผยตัวเองครับ ขอ pantip เป็นที่ที่นึงที่ผมสามารถมีตัวตนได้โดยที่ไม่ต้องมีใครรู้ว่าที่จริงผมคือใคร และไม่อยากถูกมองว่าใส่ร้ายคนอื่นทั้งๆ ที่มีหลักฐานด้วย
ก่อนจากไปขอทิ้งคำพูดไว้ว่า ทองแท้ไม่กลัวร้อน และคนที่เดือดร้อนจริงๆ เขาไม่ว่างแต่งเรื่องครับ และถ้ามีคนถามว่าทำไมต้องจริงจังกับเรื่องนี้ด้วย ผมตอบว่า ก็คู่กรณีเป็นคนที่เจอหน้ากันจริงๆ แทบทุกวันนี่ ไม่ใช่คนแปลกหน้าไกลตัวด้วย จึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
ไม่รู้คุณจะมองผมว่าเป็นคนยังไงจากเรื่องนี้ แต่การถูกแกล้ง ไม่ตลกนะครับและอาจทำให้กลายเป็นคนแกล้งที่แค่ทำให้ตัวเองสุขใจในอนาคตด้วย
แค่แกล้งกันด้วย Facebook ขำๆ กลับกลายเป็นความเกลียดชังระยะยาว
เนื้อหาส่วนใหญ่ที่ผมโดนก็ประมาณว่า เป็นเกย์ ซึ่งอันนี้ก็ขำๆ ไปเพราะไม่ว่าผมเป็นเพศอะไร ผมก็ยังโสดเสมอ ไม่เดือดร้อน
แต่มีการแกล้งครั้งนึงโดนแล้วส่งผลอย่างแรงจนถึงทุกวันนี้
ถ้าใครไม่อยากอ่านเรื่องของผมก็ไม่เป็นไร ผมสรุปสั้นๆ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เพื่อนแอบโพสต์ไปว่า ครบหมื่นเม้นจะเปลี่ยนรูปเป็นรูปจริง
คราวนี้ก็เป็นเรื่องสิครับ ตอนแรกนึกว่าเป็นเรื่องตลกที่ไม่มีวันเกิดขึ้นได้ แต่เพื่อนซึ่งเป็นเอ่อ สาขานึงที่เกี่ยวกับคอมฯ ละกัน ได้ใช้วิทยายุทธในการคอมเม้นครบหมื่นได้ในพริบตา (รอดจากการโดนแบนระหว่างทำได้ไงในตอนนั้น ทำให้ผมโทษพี่ม้ากได้นิดนึง)
ทีนี้ งานก็เข้าสิครับ ผมต้องทำตามโพสต์โง่ๆ ทั้งๆ ที่ไม่ได้โพสต์เอง ผมจึงโพสต์ไปว่า ผมไม่เปลี่ยน เพราะผมไม่ได้โพสต์ (ความจริงผมไม่ใช่เป็นคนที่ชอบลงรูปตัวเองเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว แต่ถ้าใครไม่สนิทกับผมจริงๆ ก็มองเป็นข้ออ้างได้) แต่คนที่อ่านจะไปรู้อะไร ก็นึกว่าผมโพสต์จริงๆ (ดีปะไรไม่เป็นเรื่องอาหารอิตาลี ไม่งั้นผมคงไม่ได้ตั้งกระทู้นี้ในวันนี้) โดยที่เพื่อนไม่รู้ ซึ่งผมอธิบายไปให้พวกเขาแล้ว ไม่ฟัง หนำซ้ำด่าผมว่าไม่รักษาคำพูด ลูกกะเทย ฯลฯ
แต่มีคนนึงถามผมว่า "ทำไมไม่ลบโพสต์นั้นตั้งแต่แรก" ผมก็ตอบเขาไปว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
อีกคนก็ถามผมว่า "ทำไมไม่เปลี่ยน จะได้จบๆ" ผมก็ตอบไปว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
และตั้งแต่วันนั้นมา เฟซผมก็สงบทันที แต่ที่ไม่สงบก็คือการถูกเพื่อน(หรือไม่)ติดตามอยู่แล้วนำโพสต์ของเราที่โพสต์ของเราดีๆ (ผมขอยอมรับว่าผมเป็นคนไม่สนใจกระแส ทำให้บางโพสต์ออกแนวขวางโลกและแรงไปบ้าง แต่ไม่เคยเลยที่มองคนเห็นต่างเป็นศัตรู) ไปเสี้ยมให้เพื่อนคนอื่นเกลียดผมด้วย และพอผมบังเอิญเห็นแล้วไปชี้แจง เค้าก็เงียบและไม่เชื่อ เพราะผมถูกจดจำในฐานะศัตรูไปแล้ว บางคนที่เป็นเพื่อนผมอยู่ก็ยังไม่กล้าช่วย เพราะกลัวว่าจะโดนรุมประณามเหมือนอย่างที่ผมโดน แถมยังรุมด่าผมราวกับผมไปฆ่าพ่อของคนด่า มองผมเป็นคนบ้าคนนึงเท่านั้น
แต่ถามว่าผมทำยังไงกับคนแย่งโพสต์ที่ทำให้ผมเป็นแบบนี้ แทนที่ผมจะชกเขาหรือแก้แค้น ผมกลับขอบคุณเขาที่ทำให้เห็นมิตรเทียมที่ผุดออกมาทีละคนๆ แต่ทุกวันนี้ผมไม่ยุ่งกับเขาในเฟซอีกเลยไม่ว่าจะอยู่ข้างไหนก็ตาม ผมเข็ด
แม้แต่ช่วงนึงที่ผมเคยโพสต์ระบายเรื่อง "คนอกหักโดนแล้วทำเป็นร้อง แต่ผมโสดตั้งแต่เกิดซึ่งน่าจะอึดอัดกว่ายังไม่บ่นเลย (หวังว่าไม่จี๊ดกับคนในนี้นะครับ)" ก็ถูกนำเพื่อนไปเสี้ยมเหมือนกัน แต่คนนึงดีหน่อยเอาไปแฉแล้วบอกว่า ผมเป็นคนให้ร้ายเพื่อนแบบนี้เหรอ (ทำเอาเพื่อนช็อก) ซึ่งช่วงนั้นโชคร้ายไปหน่อยที่มีเพื่อนคนหนึ่งอกหักพอดี วันรุ่งขึ้น ผมเสียเขาในเฟซ แต่โชคยังดีที่เขาฟังเหตุผลผมตอนเจอหน้ากันอยู่ ผมให้เหตุผลไปว่า
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ส่วนคนอื่นที่ผมเลิกเป็นเพื่อนแล้วหรือเค้าไม่คบผมแล้ว ผมก็ถือว่าช่างมันแล้วกัน ผมได้เลือกเพื่อนเรียบร้อยแล้ว เพราะผมไม่สามารถทำให้ทุกคนเป็นเพื่อนผมได้หมด จะนินทาผมก็ตามสบาย เพราะไม่มีใครในโลกที่ไม่ถูกนินทา แต่ถ้าผมบังเอิญจับได้ขึ้นมาแล้วผมเสียหายเต็มๆ ผมไม่ปล่อยไว้แน่
สุดท้าย โดนรุมเกลียดขนาดนี้ก็มีคนถามว่า แล้วจะมีเพื่อนเหลืออีกเหรอ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
สุดท้ายกว่า ถ้าถามว่าวันนึงคนที่เกลียดผมรู้ความจริงขึ้นมาว่าผมถูกขึ้นมาแล้วขอโทษผม ผมจะให้อภัยหรือไม่?
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ถือว่าเรื่องของผมเป็นทั้งบทเรียนและอุทาหรณ์สำหรับชาวเฟซได้เป็นอย่างดี ถ้าผมใส่อารมณ์มากไปจนน่ารำคาญก็ขอโทษทุกคนที่อ่านด้วยนะครับ
ขออนุญาตไม่เปิดเผยชื่อบุคคลทุกคนในเรื่อง เนื่องจากผมไม่อยากเปิดเผยตัวเองครับ ขอ pantip เป็นที่ที่นึงที่ผมสามารถมีตัวตนได้โดยที่ไม่ต้องมีใครรู้ว่าที่จริงผมคือใคร และไม่อยากถูกมองว่าใส่ร้ายคนอื่นทั้งๆ ที่มีหลักฐานด้วย
ก่อนจากไปขอทิ้งคำพูดไว้ว่า ทองแท้ไม่กลัวร้อน และคนที่เดือดร้อนจริงๆ เขาไม่ว่างแต่งเรื่องครับ และถ้ามีคนถามว่าทำไมต้องจริงจังกับเรื่องนี้ด้วย ผมตอบว่า ก็คู่กรณีเป็นคนที่เจอหน้ากันจริงๆ แทบทุกวันนี่ ไม่ใช่คนแปลกหน้าไกลตัวด้วย จึงต้องใส่ใจเป็นพิเศษ
ไม่รู้คุณจะมองผมว่าเป็นคนยังไงจากเรื่องนี้ แต่การถูกแกล้ง ไม่ตลกนะครับและอาจทำให้กลายเป็นคนแกล้งที่แค่ทำให้ตัวเองสุขใจในอนาคตด้วย