29.05.15 ..
สวัสดีมิตรรักนักอ่านทุกท่านของฟ้านะคะ หายหน้าไปนานเลยเนื่องจากติดภารกิจทำทีสิสอยู่ เลยไม่ได้มาอัพเดตสิ่งดีๆให้ท่านผู้อ่านที่น่ารักได้ติดตามกันเลย >< หลังจากที่เรียนจบได้ 2 วัน ก็ได้มีผู้ใหญ่ใจดีได้ติดต่อให้ฟ้าเข้าไปพักผ่อนคลายเครียดที่โรงแรมสุดหรูใจกลางเมือง โอ้โห หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาหลายเดือนมีหรือที่ฟ้าจะพลาด และโรงแรมที่ฟ้าจะเข้าไปพักวันนี้มีนามว่า .. The Berkeley Hotel ค่ะ
โรงแรม The Berkely Hotel นั้นตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านการค้าอย่าง ประตูน้ำ เลยล่ะค่ะ เดินลงมาที่ล๊อบบี้ก็สามารถเดินทะลุไปห้างพาราเดียมได้ หรือเพียงแค่ข้ามถนน คุณก็จะสามารถเดินไปช้อปปิ้งแหล่งค้าส่งชื่อดังอย่างห้าง แพลตินัม ประตูน้ำก็ยังได้ค่ะ
ฟ้ามาถึงโรงแรมประมาณตอนบ่ายๆค่ะ ทางเข้าโรงแรมอยู่ด้านข้างกับห้างพาราเดียมเลย สามารถเข้ามาเช็คอินที่ฟร้อนท์ได้เลย วันนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะเป็นคนจีนซะส่วนมาก มองไปทางไหนก็เจอแต่คนจีน โรงแรมนี้มี 2 ตึกนะคะ มี Main Tower และ North Tower ซึ่งครั้งนี้เราได้อยู่ที่ Main Tower ชั้น 33 ซึ่งเป็น Execlutive Floor ค่ะ : )
เลขที่ออก แต่นแต่นแต้นนนน 13307 ค่าาาา เป็นห้อง Executive Luxury Suite ซึ่งอยู่ตรงหัวมุมของชั้นค่ะ
เสียบคีย์การ์ด เปิดแอร์ เก็บของ ที่นี้มีระบบเปิดไฟหน้าห้องได้เลยค่ะว่าจะห้ามรบกวนหรือจะทำความสะอาด ไม่ต้องแขวนป้ายที่ประตูหน้าออกอีกต่อไป
ห้องที่ขอไปวันนี้เป็นห้อง Twin ค่ะ พบกับเตียง Queen Size 2 เตียงแบบนี้เห็นแล้วอยากกระโดดใส่เตียงจริงๆ หมอนเยอะมากอันนี้แอบถูกใจเบาๆ
มุมโต๊ะทำงานที่เราสามารถมองไปเจอวิวถนนเพชรบุรีได้อีกด้วยค่ะ
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพักถือว่าครบเลยล่ะค่ะ มีวิทยุที่สามารถต่อกับไอโฟนได้ ทีวี เครื่องเล่นดีวีดี พร้อมทั้งชา กาแฟ และเครื่องทำน้ำร้อนภายในห้องพัก
สำหรับห้องน้ำถือว่ากว้างพอสมควรค่ะ แบ่งแยกฝั่งอย่างชัดเจน โซนอาบน้ำที่เป็น Rain Shower กับส่วนที่เป็นอ่างอาบน้ำ ตรงอ่างอาบน้ำเราสามารถเปิดมู่ลี่ชมวิวกรุงเทพได้ด้วย แถมกระจกบานใหญ่ได้ใจอีกต่างหาก ผ้าขนหนูวางไว้ให้ในห้องน้ำ ผ้าขนหนูที่นี้ให้เยอะพอใช้มากค่ะ มีทั้งพื้นใหญ่ กลาง เล็ก เลือกใช้ได้ตามสบาย
ส่วนอุปกรณ์ในห้องน้ำที่ทางโรงแรมจัดให้เป็นของยี่ห้อ Harnn ค่ะ ใครที่เป็นคอสปาและชื่นชอบผลิตภัณฑ์แนวนี้แล้วล่ะก็ ต้องถูกใจแน่ๆค่ะ : )
หลังจากเก็บภาพในห้องนอน เก็บของกันเรียบร้อยก็ใกล้จะเย็นแล้ว เลยลงมาเก็บภาพบรรยากาศในโรงแรมกันค่ะ
สระว่ายน้ำมีให้บริการอยู่ที่ชั้น 11 ค่ะ หน้าทางเข้าสระว่ายน้ำมีบริการผ้าเช็ดตัวด้วยนะคะ แต่ว่าใช้เสร็จแล้วก็จะต้องนำมาคืน ณ จุดๆเดิมค่ะ
บริเวณล๊อบบี้นั้นมีสาวๆมาบรรเลงดนตรีไทยให้ฟังด้วยค่ะ คงถูกใจนักท่องเที่ยวไปตามๆกัน นอกจากนี้บริเวณเล้าจ์ของโรงแรมยังมีขนมให้นั่งกินกันเพลินๆด้วย
หลังจากนั้นพวกเราก็ออกเดินทางช้อป ชิว กัน เริ่มต้นจาก เดินข้ามถนนไป แพลตินั่ม แฟชั่นมอลล์
ไอติมร้านนี้เป็นจุดดึงดูดบรรดาเด็กๆและสาวๆนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ คนมุงซื้อกันเยอะมาก ><
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของย่านนี้เลยคงจะหนีไม่พ้น " พระพิฆเณศวร " และ " พระตรีมูลติ " ซึ่งอยู่ด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ จากโรงแรมเดินมาระยะใกล้นิดเดียวเองค่ะ แต่วันที่ฟ้าไปเป็นวันศุกร์ตอนเย็นๆ คนเลยไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ตามความเชื่อแล้ว ควรมาไหว้ขอพรในช่วงวันพฤหัสบดี ช่วงเวลา 3 ทุ่ม ค่ะ นักท่องเที่ยวสามารถซื้อดอกไม้ได้ที่ด้านหน้าได้เลย ราคาอยู่ที่ 80-100 บาท ลองพยายามต่อให้เหลือ 70-80 บาทก็พอค่ะ : )
หากใครชอบมานั่งฟังเพลง แฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนๆ ลองมาเดินเลือกร้านอาหารที่ Groove at Central World ดูสิคะ ร้านอาหารมีมากมายหลากหลาย และที่สำคัญ เราสามารถเดินทะลุไปสยามได้อีกด้วย
เดินแปปๆก็มาโผล่สยามพารากอนแล้ว ป้ะ เราไปขึ้น BTS เพื่อมุ่งหน้าสีลมกันเถอะ ~
ซึ่งสถานีปลายทางที่เราจะไปนั้นคือ สถานี "ศาลาแดง" ค่ะ เราจะต้องมาขึ้นรถฝั่งที่จะไปบางหว้า
สำหรับสถานีศาลาแดงนั้นเราสามารถเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสีลมได้ค่ะ เดินออกทางออกที่ 5 แต่ถ้าอยากออกไปเดินเล่นฝั่งสีลมก็ต้องออกทางออกที่ 3 ค่ะ
แต่เนื่องจากเราไปถึงเป็นเวลาดึกมากแล้ว และที่สำคัญเป็นผู้หญิงไปกันสองคน บริเวณนั้นค่อนข้างเสี่ยงในระดับหนึ่งค่ะเพราะเต็มไปด้วยสถานบันเทิงนานาชนิด ดังนั้นฟ้าและเพื่อนจึงตกลงกันว่า " ไปหาไรกินที่ตลาดรถไฟกัน " และไม่รอช้า เรา 2 คนมุ่งหน้าไปยังรถไฟฟ้าใต้ดินทันทีค่ะ
หากจะเดินทางไปยังตลาดรถไฟรัชดานั้น เดินทางไม่ยากเลยค่ะ นั่ง MRT ลงสถานีศูนย์วัฒธรรมแห่งประเทศไทย แล้วเดินเข้าข้างๆห้างเอสพลานาด
ตลาดนัดรถไฟรัชดา เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ค่ะ ตั้งแต่ 17.00-01.00 ในตลาดรถไฟก็จะเต็มไปด้วยสินค้ามากมายทั้งเสื้อผ้า ของกิน หรือว่าจะนั่งฟังเพลงชิวๆก็ได้ค่ะ
หลังจากที่เราตระเวนชอบ และ กินอย่างหนำใจ ดูเวลาอีกทีก็ปาไปเที่ยงคืนแล้ว รถไฟฟ้าก็หมดก็คงต้องพึ่งพาแท็กซี่เขาแล้วล่ะค่ะ จากตลาดนัดรถไฟรัชดา มายังโรงแรมไม่ไกลมากค่ะ ค่าแท๊กซี่ 70 บาท
ตอนเช้าทางโรงแรมจะมีบริการอาหารเช้าอยู่ที่ชั้น 10 ค่ะ ห้องอาหารเปิดตั้งแต่ 06.00-10.00 ฟ้าลงมาตอน 9.30 อาหารยังมีให้เลือกเยอะแยะเลยค่ะ
[SR] พัก The Berkeley Hotel ประตูน้ำ พร้อมท่องราตรีสีลม - ตลาดสวนรถไฟ รัชดา
สวัสดีมิตรรักนักอ่านทุกท่านของฟ้านะคะ หายหน้าไปนานเลยเนื่องจากติดภารกิจทำทีสิสอยู่ เลยไม่ได้มาอัพเดตสิ่งดีๆให้ท่านผู้อ่านที่น่ารักได้ติดตามกันเลย >< หลังจากที่เรียนจบได้ 2 วัน ก็ได้มีผู้ใหญ่ใจดีได้ติดต่อให้ฟ้าเข้าไปพักผ่อนคลายเครียดที่โรงแรมสุดหรูใจกลางเมือง โอ้โห หลังจากเหน็ดเหนื่อยมาหลายเดือนมีหรือที่ฟ้าจะพลาด และโรงแรมที่ฟ้าจะเข้าไปพักวันนี้มีนามว่า .. The Berkeley Hotel ค่ะ
โรงแรม The Berkely Hotel นั้นตั้งอยู่ใจกลางเมืองย่านการค้าอย่าง ประตูน้ำ เลยล่ะค่ะ เดินลงมาที่ล๊อบบี้ก็สามารถเดินทะลุไปห้างพาราเดียมได้ หรือเพียงแค่ข้ามถนน คุณก็จะสามารถเดินไปช้อปปิ้งแหล่งค้าส่งชื่อดังอย่างห้าง แพลตินัม ประตูน้ำก็ยังได้ค่ะ
ฟ้ามาถึงโรงแรมประมาณตอนบ่ายๆค่ะ ทางเข้าโรงแรมอยู่ด้านข้างกับห้างพาราเดียมเลย สามารถเข้ามาเช็คอินที่ฟร้อนท์ได้เลย วันนี้คนไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ส่วนมากนักท่องเที่ยวจะเป็นคนจีนซะส่วนมาก มองไปทางไหนก็เจอแต่คนจีน โรงแรมนี้มี 2 ตึกนะคะ มี Main Tower และ North Tower ซึ่งครั้งนี้เราได้อยู่ที่ Main Tower ชั้น 33 ซึ่งเป็น Execlutive Floor ค่ะ : )
เลขที่ออก แต่นแต่นแต้นนนน 13307 ค่าาาา เป็นห้อง Executive Luxury Suite ซึ่งอยู่ตรงหัวมุมของชั้นค่ะ
เสียบคีย์การ์ด เปิดแอร์ เก็บของ ที่นี้มีระบบเปิดไฟหน้าห้องได้เลยค่ะว่าจะห้ามรบกวนหรือจะทำความสะอาด ไม่ต้องแขวนป้ายที่ประตูหน้าออกอีกต่อไป
ห้องที่ขอไปวันนี้เป็นห้อง Twin ค่ะ พบกับเตียง Queen Size 2 เตียงแบบนี้เห็นแล้วอยากกระโดดใส่เตียงจริงๆ หมอนเยอะมากอันนี้แอบถูกใจเบาๆ
มุมโต๊ะทำงานที่เราสามารถมองไปเจอวิวถนนเพชรบุรีได้อีกด้วยค่ะ
สำหรับสิ่งอำนวยความสะดวกภายในห้องพักถือว่าครบเลยล่ะค่ะ มีวิทยุที่สามารถต่อกับไอโฟนได้ ทีวี เครื่องเล่นดีวีดี พร้อมทั้งชา กาแฟ และเครื่องทำน้ำร้อนภายในห้องพัก
สำหรับห้องน้ำถือว่ากว้างพอสมควรค่ะ แบ่งแยกฝั่งอย่างชัดเจน โซนอาบน้ำที่เป็น Rain Shower กับส่วนที่เป็นอ่างอาบน้ำ ตรงอ่างอาบน้ำเราสามารถเปิดมู่ลี่ชมวิวกรุงเทพได้ด้วย แถมกระจกบานใหญ่ได้ใจอีกต่างหาก ผ้าขนหนูวางไว้ให้ในห้องน้ำ ผ้าขนหนูที่นี้ให้เยอะพอใช้มากค่ะ มีทั้งพื้นใหญ่ กลาง เล็ก เลือกใช้ได้ตามสบาย
ส่วนอุปกรณ์ในห้องน้ำที่ทางโรงแรมจัดให้เป็นของยี่ห้อ Harnn ค่ะ ใครที่เป็นคอสปาและชื่นชอบผลิตภัณฑ์แนวนี้แล้วล่ะก็ ต้องถูกใจแน่ๆค่ะ : )
หลังจากเก็บภาพในห้องนอน เก็บของกันเรียบร้อยก็ใกล้จะเย็นแล้ว เลยลงมาเก็บภาพบรรยากาศในโรงแรมกันค่ะ
สระว่ายน้ำมีให้บริการอยู่ที่ชั้น 11 ค่ะ หน้าทางเข้าสระว่ายน้ำมีบริการผ้าเช็ดตัวด้วยนะคะ แต่ว่าใช้เสร็จแล้วก็จะต้องนำมาคืน ณ จุดๆเดิมค่ะ
บริเวณล๊อบบี้นั้นมีสาวๆมาบรรเลงดนตรีไทยให้ฟังด้วยค่ะ คงถูกใจนักท่องเที่ยวไปตามๆกัน นอกจากนี้บริเวณเล้าจ์ของโรงแรมยังมีขนมให้นั่งกินกันเพลินๆด้วย
หลังจากนั้นพวกเราก็ออกเดินทางช้อป ชิว กัน เริ่มต้นจาก เดินข้ามถนนไป แพลตินั่ม แฟชั่นมอลล์
ไอติมร้านนี้เป็นจุดดึงดูดบรรดาเด็กๆและสาวๆนักท่องเที่ยวเป็นอย่างดีเลยล่ะค่ะ คนมุงซื้อกันเยอะมาก ><
อีกหนึ่งแลนด์มาร์กสำคัญของย่านนี้เลยคงจะหนีไม่พ้น " พระพิฆเณศวร " และ " พระตรีมูลติ " ซึ่งอยู่ด้านหน้าเซ็นทรัลเวิลด์ จากโรงแรมเดินมาระยะใกล้นิดเดียวเองค่ะ แต่วันที่ฟ้าไปเป็นวันศุกร์ตอนเย็นๆ คนเลยไม่ค่อยเยอะเท่าไหร่ ตามความเชื่อแล้ว ควรมาไหว้ขอพรในช่วงวันพฤหัสบดี ช่วงเวลา 3 ทุ่ม ค่ะ นักท่องเที่ยวสามารถซื้อดอกไม้ได้ที่ด้านหน้าได้เลย ราคาอยู่ที่ 80-100 บาท ลองพยายามต่อให้เหลือ 70-80 บาทก็พอค่ะ : )
หากใครชอบมานั่งฟังเพลง แฮงค์เอ้าท์กับเพื่อนๆ ลองมาเดินเลือกร้านอาหารที่ Groove at Central World ดูสิคะ ร้านอาหารมีมากมายหลากหลาย และที่สำคัญ เราสามารถเดินทะลุไปสยามได้อีกด้วย
เดินแปปๆก็มาโผล่สยามพารากอนแล้ว ป้ะ เราไปขึ้น BTS เพื่อมุ่งหน้าสีลมกันเถอะ ~
ซึ่งสถานีปลายทางที่เราจะไปนั้นคือ สถานี "ศาลาแดง" ค่ะ เราจะต้องมาขึ้นรถฝั่งที่จะไปบางหว้า
สำหรับสถานีศาลาแดงนั้นเราสามารถเปลี่ยนไปใช้รถไฟฟ้าใต้ดิน MRT สถานีสีลมได้ค่ะ เดินออกทางออกที่ 5 แต่ถ้าอยากออกไปเดินเล่นฝั่งสีลมก็ต้องออกทางออกที่ 3 ค่ะ
แต่เนื่องจากเราไปถึงเป็นเวลาดึกมากแล้ว และที่สำคัญเป็นผู้หญิงไปกันสองคน บริเวณนั้นค่อนข้างเสี่ยงในระดับหนึ่งค่ะเพราะเต็มไปด้วยสถานบันเทิงนานาชนิด ดังนั้นฟ้าและเพื่อนจึงตกลงกันว่า " ไปหาไรกินที่ตลาดรถไฟกัน " และไม่รอช้า เรา 2 คนมุ่งหน้าไปยังรถไฟฟ้าใต้ดินทันทีค่ะ
หากจะเดินทางไปยังตลาดรถไฟรัชดานั้น เดินทางไม่ยากเลยค่ะ นั่ง MRT ลงสถานีศูนย์วัฒธรรมแห่งประเทศไทย แล้วเดินเข้าข้างๆห้างเอสพลานาด
ตลาดนัดรถไฟรัชดา เปิดทุกวันอังคาร-อาทิตย์ค่ะ ตั้งแต่ 17.00-01.00 ในตลาดรถไฟก็จะเต็มไปด้วยสินค้ามากมายทั้งเสื้อผ้า ของกิน หรือว่าจะนั่งฟังเพลงชิวๆก็ได้ค่ะ
หลังจากที่เราตระเวนชอบ และ กินอย่างหนำใจ ดูเวลาอีกทีก็ปาไปเที่ยงคืนแล้ว รถไฟฟ้าก็หมดก็คงต้องพึ่งพาแท็กซี่เขาแล้วล่ะค่ะ จากตลาดนัดรถไฟรัชดา มายังโรงแรมไม่ไกลมากค่ะ ค่าแท๊กซี่ 70 บาท
ตอนเช้าทางโรงแรมจะมีบริการอาหารเช้าอยู่ที่ชั้น 10 ค่ะ ห้องอาหารเปิดตั้งแต่ 06.00-10.00 ฟ้าลงมาตอน 9.30 อาหารยังมีให้เลือกเยอะแยะเลยค่ะ
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น