เหตุผลที่เที่ยวคนเดียวก็ง่ายๆเลยคือเพื่อนไม่ว่าง แต่เราว่าง ช่วงวันหยุดยาววิสาขะ และอยากไปทะเล จุดหมายปลายทางในการไปครั้งนี้คือตรัง เราเคยไปกะเพื่อน3คนเมื่อ 3 ปีก่อนแล้ว แต่ตอนนั้นไม่ได้เข้าถ้ำมรกตเพราะฝนตกน้ำขึ้น ลอดเข้าไปไม่ได้ ครั้งนี้เลยกะไปซ่อม
โดยครั้งนี้เดินทางจากตจว.ตอนสี่ทุ่มกว่า.ด้วยรถทัวร์ไปกทม. ถึงกทม.ตีสี่ แล้วต่อเครื่องบินของนกแอร์ไปตรังต่อ
เครื่องนกแอร์ถึงตรัง 8.40น. เราติดต่อผ่านที่พัก ซื้อทัวร์ดำน้ำ 4 เกาะ ซึ่งจะมารับที่สนามบินแล้วไปดำน้ำกันเลย ขากลับจะส่งที่พักบนเกาะไหงเลย
เครื่องลงปุ๊บแดดดีฟ้าใสมาก คนขับรถตู้ของทัวร์รีบโทรมาเร่ง ให้รีบออกมา บอกสายแล้ว ได้กระเป๋าปุ๊บเราก็วิ่งเลย พี่คนขับซึ่งมาก ให้ไปทันขึ้นเรือตอน 9.30 น. ลุ้นไปตลอดทางกลัวรถจะชน ระหว่างนั่งในรถเราก็ทากันแดดไป เตรียมเสื้อผ้าเปลี่ยนตอนดำน้ำไปด้วย
ลิบงทัวร์ เป็นครั้งที่สองแล้วเมื่อ3ปีก่อนก็มากะทัวร์นี้ ราคา 800 บาท แวะที่สนง.ลงชื่อแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมลงเรือได้เลย
จุดหมายแรกถ้ำมรกต ปีนี้ถ้ำจะปิดตั้งแต่ 1 มิ.ย.จน 30 ก.ย.แล้ว การเข้าถ้ำก็เกาะๆชูชีพลอยแต่ต่อๆกันไป
ไกด์ของทัวร์ดูแลลูกเรือดีมาก ถึงไปคนเดียวแต่ได้รูปตัวเองมาเพียบ
ออกจากถ้ำมรกตไปแวะเกาะไหง กินข้าวเที่ยงกัน อาหารอร่อย ชอบน้ำพริกกะปิมากๆ
บ่าย3 เรือก็วนมาส่งเราที่เกาะไหงวิลลาโดยเรือของทางรีสอร์ทมารับใกล้หาด ที่พักเราจองผ่าน booking.com ราคา 950บาทต่อคืน เหตุผลที่จองที่นี่หลักๆเลยคือมันถูกกว่าที่อื่น รีวิวใน booking.com พอรับได้ และมีกระทู้รีวิวในพันทิปเขียนไว้ค่อนข้างดี
http://ppantip.com/topic/30277995
ความไม่ประทับใจแรก คือได้ยินเสียงพนง.เม้าท์เสียงดังมาแต่ไกลว่า มาคนเดียว ไม่มีเพื่อนเลยรึไง ซักพักอีกคนพูดว่าคนไทย เสียงเม้าท์ถึงเบาลง
มาถึงเราก็แวะเช็คอินบริเวณที่เป็นร้านอาหาร พนง.ก็พาเดินไปห้องพักห้องแรก B2 พอเปิดเข้าไปปุ๊บมันยังไม่ได้ทำห้อง เค้าก็ให้เราหิ้วกระเป๋าเดินกลับไปบริเวณที่เช็คอินอีกรอบ พอถามว่ารอแถวนี้ได้ไหม พนง.บอกให้ตามไปด้วย เพราะเผื่อว่าห้องว่างเป็นอีกฝั่งของรีสอร์ท เราก็เดินตามไปจนเค้าค้นกุญแจอีกห้อง พาเดินกลับมาฝั่งเดิม แล้วเหตุการณ์เดจาวูก็มาอีกรอบ คือห้องที่2ก็ยังไม่ได้ทำ ไม่พร้อมให้เข้าพัก คิดสภาพเราเพิ่งดำน้ำมา เปียกทั้งตัว สะพายเป้เดินไปเดินมา คราวนี้พนง.บอกพี่รอตรงนี้ เดี๋ยวไปหาห้องใหม่อีกที ประมาณ 5 นาที น้องพนง.ก็มาเรียกไปห้องที่3 เปิดไปก็โอเค ห้องนี้ทำแล้ว เราก็วางของ เตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำ ห้องน้ำที่มีรูระบายอากาศกว้างและเตี้ยมาก คือเดินผ่านก็เห็นคนอาบแล้ว เราเลยต้องเอาผ้าขนหนูมาอุดไว้
สายฉีดน้ำกองอยู่ที่พื้น ไม่มีที่เกาะแล้ว
ปลั๊กไฟมีรูเดียวและอยู่สูงมาก
พออาบน้ำเสร็จ มาเล็งที่นอนก็พบว่ามอดลงเป็นวงใหญ่อยู่บนที่นอน ล้อเตียงพังเอาอิฐบล็อกมายันไว้
เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเลยเดินไปหาพนง.อีกครั้งเพื่อขอช่วยเปลี่ยนผ้าปูที่นอน น้องพนง.ถามว่าเปลี่ยนห้องเลยไหม อันนี้ความผิดเราเองเนื่องจากของกระจายเต็มห้อง และเหนื่อยมาจากดำน้ำเราเลยขอเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ใหม่ก็พอ
เนื่องจากห้องพักไม่มีกลอนประตูและเราเป็นผู้หญิงมาคนเดียว แถมเป็นทริปแรกที่ลุยเดี่ยวในประเทศ สรุปคืนนั้นนอนระแวง เอาโต๊ะก๊อกแก๊กมากั้นประตูนอน ใครจะว่าคิดมากก็นะ ประตูมันไม่มีกลอนนี่นา คืนนี้ทั้งรีสอร์ท 30กว่าห้อง มีคนพักสองห้อง เงียบมาก ซักทุ่มนึงกองขี้มอดก็กลับมาเริ่มชัดเจนอีกครั้งตรงจุดเดิม สรุปเราต้องนอนชิดฝั่งเดียวของเตียง สลับเอาหัวไปนอนปลายเตียง เพราะกลัวมันร่วงใส่ปากตอนนอน
[CR] เมื่อฉันลองออกไปเที่ยวทะเลคนเดียวครั้งแรก ได้กลับมาทั้งประสบการณ์ดีๆและแย่ๆ
โดยครั้งนี้เดินทางจากตจว.ตอนสี่ทุ่มกว่า.ด้วยรถทัวร์ไปกทม. ถึงกทม.ตีสี่ แล้วต่อเครื่องบินของนกแอร์ไปตรังต่อ
เครื่องนกแอร์ถึงตรัง 8.40น. เราติดต่อผ่านที่พัก ซื้อทัวร์ดำน้ำ 4 เกาะ ซึ่งจะมารับที่สนามบินแล้วไปดำน้ำกันเลย ขากลับจะส่งที่พักบนเกาะไหงเลย
เครื่องลงปุ๊บแดดดีฟ้าใสมาก คนขับรถตู้ของทัวร์รีบโทรมาเร่ง ให้รีบออกมา บอกสายแล้ว ได้กระเป๋าปุ๊บเราก็วิ่งเลย พี่คนขับซึ่งมาก ให้ไปทันขึ้นเรือตอน 9.30 น. ลุ้นไปตลอดทางกลัวรถจะชน ระหว่างนั่งในรถเราก็ทากันแดดไป เตรียมเสื้อผ้าเปลี่ยนตอนดำน้ำไปด้วย
ลิบงทัวร์ เป็นครั้งที่สองแล้วเมื่อ3ปีก่อนก็มากะทัวร์นี้ ราคา 800 บาท แวะที่สนง.ลงชื่อแล้วเปลี่ยนเสื้อผ้าเตรียมลงเรือได้เลย
จุดหมายแรกถ้ำมรกต ปีนี้ถ้ำจะปิดตั้งแต่ 1 มิ.ย.จน 30 ก.ย.แล้ว การเข้าถ้ำก็เกาะๆชูชีพลอยแต่ต่อๆกันไป
ไกด์ของทัวร์ดูแลลูกเรือดีมาก ถึงไปคนเดียวแต่ได้รูปตัวเองมาเพียบ
ออกจากถ้ำมรกตไปแวะเกาะไหง กินข้าวเที่ยงกัน อาหารอร่อย ชอบน้ำพริกกะปิมากๆ
บ่าย3 เรือก็วนมาส่งเราที่เกาะไหงวิลลาโดยเรือของทางรีสอร์ทมารับใกล้หาด ที่พักเราจองผ่าน booking.com ราคา 950บาทต่อคืน เหตุผลที่จองที่นี่หลักๆเลยคือมันถูกกว่าที่อื่น รีวิวใน booking.com พอรับได้ และมีกระทู้รีวิวในพันทิปเขียนไว้ค่อนข้างดี http://ppantip.com/topic/30277995
ความไม่ประทับใจแรก คือได้ยินเสียงพนง.เม้าท์เสียงดังมาแต่ไกลว่า มาคนเดียว ไม่มีเพื่อนเลยรึไง ซักพักอีกคนพูดว่าคนไทย เสียงเม้าท์ถึงเบาลง
มาถึงเราก็แวะเช็คอินบริเวณที่เป็นร้านอาหาร พนง.ก็พาเดินไปห้องพักห้องแรก B2 พอเปิดเข้าไปปุ๊บมันยังไม่ได้ทำห้อง เค้าก็ให้เราหิ้วกระเป๋าเดินกลับไปบริเวณที่เช็คอินอีกรอบ พอถามว่ารอแถวนี้ได้ไหม พนง.บอกให้ตามไปด้วย เพราะเผื่อว่าห้องว่างเป็นอีกฝั่งของรีสอร์ท เราก็เดินตามไปจนเค้าค้นกุญแจอีกห้อง พาเดินกลับมาฝั่งเดิม แล้วเหตุการณ์เดจาวูก็มาอีกรอบ คือห้องที่2ก็ยังไม่ได้ทำ ไม่พร้อมให้เข้าพัก คิดสภาพเราเพิ่งดำน้ำมา เปียกทั้งตัว สะพายเป้เดินไปเดินมา คราวนี้พนง.บอกพี่รอตรงนี้ เดี๋ยวไปหาห้องใหม่อีกที ประมาณ 5 นาที น้องพนง.ก็มาเรียกไปห้องที่3 เปิดไปก็โอเค ห้องนี้ทำแล้ว เราก็วางของ เตรียมเปลี่ยนเสื้อผ้าอาบน้ำ ห้องน้ำที่มีรูระบายอากาศกว้างและเตี้ยมาก คือเดินผ่านก็เห็นคนอาบแล้ว เราเลยต้องเอาผ้าขนหนูมาอุดไว้
สายฉีดน้ำกองอยู่ที่พื้น ไม่มีที่เกาะแล้ว
ปลั๊กไฟมีรูเดียวและอยู่สูงมาก
พออาบน้ำเสร็จ มาเล็งที่นอนก็พบว่ามอดลงเป็นวงใหญ่อยู่บนที่นอน ล้อเตียงพังเอาอิฐบล็อกมายันไว้
เปลี่ยนเสื้อผ้าเสร็จเลยเดินไปหาพนง.อีกครั้งเพื่อขอช่วยเปลี่ยนผ้าปูที่นอน น้องพนง.ถามว่าเปลี่ยนห้องเลยไหม อันนี้ความผิดเราเองเนื่องจากของกระจายเต็มห้อง และเหนื่อยมาจากดำน้ำเราเลยขอเปลี่ยนผ้าปูที่นอนให้ใหม่ก็พอ
เนื่องจากห้องพักไม่มีกลอนประตูและเราเป็นผู้หญิงมาคนเดียว แถมเป็นทริปแรกที่ลุยเดี่ยวในประเทศ สรุปคืนนั้นนอนระแวง เอาโต๊ะก๊อกแก๊กมากั้นประตูนอน ใครจะว่าคิดมากก็นะ ประตูมันไม่มีกลอนนี่นา คืนนี้ทั้งรีสอร์ท 30กว่าห้อง มีคนพักสองห้อง เงียบมาก ซักทุ่มนึงกองขี้มอดก็กลับมาเริ่มชัดเจนอีกครั้งตรงจุดเดิม สรุปเราต้องนอนชิดฝั่งเดียวของเตียง สลับเอาหัวไปนอนปลายเตียง เพราะกลัวมันร่วงใส่ปากตอนนอน