กระทู้นี้ไม่ได้ตั้งใจทำให้ใครเสียหายนะคะ แค่อยากระบาย .

มาเริ่มกันเลยค่ะ ขอแทนชื่อเพื่อนคนนี้ว่า อี นะค่ะ ( ย่อมาจาก อี เห้ ) สืบเนื่องมาจากเรากับ อี รู้จักกันมาตั้งแต่สมัย ม.1 นางเรียนเก่งค่ะ ได้อยู่ห้องคิง 3 ปีซ้อน เราอยู่ห้องรองท็อปค่ะ จนมา ม.3 เรากับเพื่อนสนิทเราดันเรียนดี ได้ขึ้นมาอยู่ห้องคิง ขอแทนชื่อเพื่อนสนิทเราว่า ดี นะค่ะ ( ย่อมาจาก ดีงาม ) จริงๆแล้วกลุ่มเรามีกันประมาณ 5 คนค่ะ แต่สนิทกับดีที่สุด เรากับดี ก็ได้อยู่ห้องคิง แต่เพื่อนในกลุ่มบุญไม่ถึงค่ะ  [[ บอกให้พวกมันหัดสวดมนต์ นั่งสมาธิ มันไม่ยอมทำตามกันค่ะ เลยอดอยู่ห้องคิง ฮ่าๆๆ  ]]  ซึ่งห้องคิงเป็นห้องเดียวกับอี เราก็สังเกตุพฤติกรรมกลุ่มนาง ซึ่งกลุ่มเพื่อนนางแบ๊วมากกกกกกกก บางคนติ่งเกาหลี บางคนคลั่งฝรั่ง คลั่งนะค่ะ ขอย้ำ คลั่ง !!  เราอึดอัดมากค่ะ เราจะสนิทกับกลุ่มเพื่อนอีกห้องมากกว่า เพราะห้องคิงมีแต่เด็กเรียน บางคนเห็นแก่ตัวโคตรรรรร ซึ่งไม่ใช่แนวเรา เรากับอีก็ไม่ค่อยได้คุยกันนะค่ะ


      จนจบ ม.3 ต่อ ม.4 ที่ รร. เดิม ก็ได้อยุ่ห้องเดียวกันกับอีและกลุ่มเพื่อนนางอีกค่ะ กลุ่มนางมีแค่ 4 คนค่ะ เนื่องจากมีเด็กใหม่เข้ามาร่วมห้องเยอะ ด้วยความที่เราเป็นเด็กเก่า และเป็นคนตลก พวกเด็กใหม่ก็มาขออยู่กลุ่มด้วยค่ะ กลุ่มเรามีประมาณ 13 คน เวลาไปกินข้าว ไปไหนคือไปกันเยอะมาก แต่เข้าใจมั้ยค่ะ คำว่า เยอะคน เยอะสิ่ง !!!


        ขอเล่าถึงนิสัยตัวเองนะค่ะ เราเป็นคนไม่ชอบคบเพื่อนผู้หญิงเป็นกลุ่มใหญ่ค่ะ เพราะบางคนงี่เง้า ขาเม้าท์ จอมอวด บางคนหาผัวอย่างเดียว บางประเภทก็แบบ ฉันสวยเริ่ดด !!! น่าลำคาญ เราเป็นพวกแบบ ไปไหนคนเดียวก็ไปได้ ทำอะไรคนเดียวก็ทำได้ หน้าตากวนตีน นิสัยก็กวนตีนเพราะมีแต่เพื่อนผู้ชายติดพวกมันมา เราชอบเฮฮา ตลกตามประสา ขำทั้งวัน แต่คนที่ไม่รู้จักเรา จะลงความเห็นจากสายตาว่าเรา " แรดดดด " แต่จริงๆ คือผู้ชายทุกคนเพื่อนทั้งนั้นค่ะ เราเป็นพวกขาลุย เรียน รร.รัฐบาล รร.วัด ตั้งแต่เด็ก  ส่วน ดี เพื่อนสนิทเรา เป็นคนบอบบางมากค่ะ ย้ายมาจาก รร.เอกชน พ่อเป็นตำรวจซึ่งเข้มงวดมาก ดีมาสายอ่อนค่ะ อ่อนต่อโลกกก เราต้องสอนให้นางเข้มแข็ง ปกป้องนางตลอด จนตอนนี้นางภูมิคุ้มกันดีไปล่ะค่ะ


       ต่อนะค่ะพอช่วง ม. 5 อีก็เริ่มเข้ามาสนิทกะกลุ่มเพื่อนเรา จนเข้ามาอยู่กลุ่มเดียวกันกะเราค่ะ ก็เป็นเพื่อนกลุ่มเดียวกันมา อีสนิทกะเพื่อนในกลุ่มเราบางคน แต่ไม่สนิทกับเรานะค่ะ ก็อยู่กลุ่มเดียวกันมา จนเรียนจบ กลุ่มเพื่อนแยกย้ายกันเข้ามหาลัย บางคนเรียนต่อทันที บางคนดรอปเรียน บางคนทำงานเลย ซึ่งเราทำงานค่ะ เพื่อนในกลุ่มเราก็สอบติดมหาลัยโควต้าในจังหวัด ซึ่งในนั้นมี นางอี และก็ดี เพื่อนสนิทเราค่ะ

        จุดเริ่มต้นมาจาก อีมาบอกเราว่า ดีซึ่งเป็นเพื่อนสนิทเรา ไปเล่าให้ทุกคนฟังว่า ไม่อยากมาปรึกษาเราเรื่องแฟน เพราะเราพูดแรงเกินไป ดีไม่ชอบ ซึ่งเราเชื่อใจดีได้ 100% เพราะเป็นเพื่อนสนิทกันมานานมาก พูดกันตรงๆตลอด ด่าคือด่า เราก็เลยไปถามดีตรงๆ เพราะจริงๆ ดีก็มาปรึกษาเราเรื่องแฟนปกติ สรุปคือ ดี งงมาก ดี ไม่ได้พูด เราก็เลยสังขยานาเรื่อง อี กับดียกใหญ่ เราก็ถามดีว่า อีเคยไปเม้าไรเรื่องเราให้ฟังบ้างรึป่าว ตอนแรกดีก็อ้ำๆ อึ้งๆ ไม่กล้าบอกจนเราเค้นจากปากมัน เพราะเราเห็นความผิดปกติค่ะ


         บอกก่อนว่าเราเป็นคนที่ทำงานแล้ว หน้าที่การงานดี อาศัยโอกาสและประสบการณ์จึงได้งานนี้มา เราหาเงินใช้เองได้แล้ว เราก็จะไปเที่ยวบ้างตามประสา เที่ยวผับ บาร์ คอนเสิร์ต กินเหล้า สายควันตามเรื่องราว ( น้องๆ ไม่ควรเอาตัวอย่างนะค่ะ ) ซึ่ง อี จริงๆนางเป็นคนที่ wana be เรื่องพวกนี้มาก แต่กลุ่มเพื่อนนางอย่าที่บอกไปว่า สายแบ๊วโคตรรรรรรร นางเลยเริ่มมาขอเราไปเที่ยวด้วยค่ะ เราสงสารก็ให้ไปด้วย ก็ไปนั่งชิวบ้าง ตื้ดบ้าง คอนเสิร์ตบ้าง ซึ่ง อี ยังเรียนอยู่ และไม่ได้ทำงานพาร์ตไทม์ แน่นอนค่ะว่าเงินที่เที่ยวต้องไม่ใช่เงินตัวเอง เงินที่เอามาเที่ยว จะเป็นเงินที่แม่ให้มาเรียนค่ะ วีคละ 1000 ( มารู้ทีหลังว่าอยู่หอนางกินแต่มาม่า ) ซึ่งเวลาไปเที่ยวอย่างที่เราทราบ ถ้าไปกัน 2 - 3 คน เงินต้องมีไม่ต่ำกว่า 500 บาท เพราะถ้าคนเยอะ เงินแชร์ก็จะเยอะ ถ้ากินเบียร์ก็ขวดละ 200 แล้วค่ะ เราก็ถือว่า เห้ยยยยย เพื่อน ไม่เป็นไร กูมีเงินมากกว่า เพราะกูทำงานแล้ว เดี๋ยวกูออกมากกว่า ถ้าไม่มียืมกูก่อนได้ ถ้าอารมณ์ดีกูเลี้ยงเอง ( แต่ถ้าใกล้สิ้นเดือนก็ว่ากันอีกที ฮ่าๆ ) ถ้าไม่มีตังเราก็จะบอกตรงๆ ว่าไม่มีและจะไม่ไปค่ะ คือ อีไม่มีรถ เราต้องไปรับนางตลอด ไปรับ - ส่ง ถึงบ้าน ไม่เคยปล่อยให้กลับเอง ไม่เคยทิ้ง เราถือว่ามาด้วยกันต้องกลับด้วยกัน เรากลัวเพื่อนอะไรไป เพราะตอนมา นางออกมากับเรา ถ้าเกิดเรื่องไรขึ้นกับอี พ่อแม่นางต้องเอาเรื่องเราแน่ เรารับ-ส่ง นางไม่เคยบ่นเลยสักครั้งนะค่ะ ทั้งๆที่บ้านเราไกลมากก บางงานเราไม่อยากไป แต่นาง wana be เราก็พานางไปค่ะ

          ประเด็นอยู่ที่ว่า อี ค่ะ ( อีเห้ ) เอาเราไปเม้าลับหลังค่ะ ว่า จขกท ไปเที่ยว เงินก็ไม่มีแต่อยากไป พอไปก็เอาแต่สั่งๆ พอสั่งเสร็จก็ไม่กิน ชิ่งกลับก่อน ทำให้อีต้องตามจ่าย คือ !!!!! ???? เอเหหหหหหหหห้ คือ ระ ? คือ งงหนักมากกกกกกก ท่านผู้อ่านค่ะ จากที่อ่านมาข้างต้น จขกท จะไปทิ้งอีเห้และกลับก่อนได้ยังไงถูกมั้ยค่ะ ? ล่ะคือ นางบอกว่านางตามจ่าย จ่าย ? จ่ายอะไรของเมิงงงงง ปกติ จขกท กินเบียร์ค่ะ  เบียร์ตามร้านขวดละ 200 และ จขกท เป็นสายควัน เตานึงก็ 180 แล้วค่ะ ถามคำนึงเด็กที่ยังขอตังพ่อแม่เป็นวีคแบบอี จะเอาที่ไหนมาตามจ่ายให้เราค่ะ ? ไหวหรอ ? เราปี๊ดดมากก  

        

           อีกเรื่องนึง คือ บอกเลยนะค่ะว่า จขกท เป็นคนมีหน้ามีตา เนื่องจากหน้าที่การงาน เราจะมีเครดิตตามสถานที่ต่างๆ คนรู้จักเยอะ บางที่เข้าฟรี บางที่ได้ส่วนลด เหล้าฟรี เบียร์ฟรี กินฟรี ซึ่งอีได้อานิสงค์จากเราไปหลายงานมากค่ะ มีงานนึงเป็นงานคอนเสิร์ตแนว House แล้วนางอยากไปมากกก เล้าหลือเพื่อนทุกคน ก็เลยลงความเห็นกันทั้งหมด 4 คน ว่าโอเคไป เพราะมันมีปาร์ตี้โฟมด้วย ไปเล่นกัน ซึ่ง จขกท รู้จักกับ ผจก. PR ผู้จัดงานสถานที่ค่ะ แต่ว่าขอบัตรฟรีไม่ได้ เนื่องจากงานนี้ทีมต่างประเทศมาจัด โคกันแค่สถานที่ จขกท ก็กลับไปปรึกษาเพื่อนๆค่ะ ซึ่ง อี ก็บอกว่าจองเลยๆๆ อีได้ตังวันที่ 25 เดี๋ยวเอาให้ เลยให้ทาง ผจก.PR เก็บบัตรส่วนลดไว้ให้ จาก 2,500 เหลือ 1,400 บาทค่ะ และนัดจ่ายเงินวันที่ 26 ค่ะ พอใกล้ถึงวันเราก็ทวงเงินจากเพื่อน บางคนก็แบบไม่อยากไปแล้ว เพราะบัตรแพง บวกกับกลางเดือน แต่เราก็เชียร์ๆ ไปเหอะ ๆ ซึ่งอีก็ช่วยเชียร์ เพราะนาง wana be งานนี้มาก จนมาถึงวันจ่ายเงินเพื่อนทุกคนก็จ่ายโดยดี แต่ อี บอกว่าเดี๋ยวไปรับบัตรด้วย เดี๋ยวไปจ่ายเอง  เราก็โอเค ให้อีไปด้วย แต่ !!!!!!! มารู้ทีหลังเงิบมากค่ะ อีไปพูดกะเพื่อนที่ไปเที่ยวด้วยกันและก็ดี ว่า จขกท ได้บัตรเข้างานฟรีมาล่ะเอามาขายให้เพื่อน ถึงได้รีบทวงเงิน พอเพื่อนจะเปลี่ยนใจก็เชียร์  คุ คุ คุ ยยย ผ่องงงศรีมากก เมิงบ้ารึป่าว จ่ายตังก็นับต่อหน้า รับบัตรก็รับมาพร้อมกัน เห้ยยยยย เอเห้ จะเกินไปล่ะ ท่านผู้อ่านลองคิดในมุม จขกท ดูนะค่ะ ด้วยความที่เรามีเครดิต เราไปพูดขอส่วนลด จองดิบดี นีดวันเรียบร้อย ถ้าเกิดแคนเซิลตั้งแต่เนิ่นๆ มันก็ยังไม่น่าเกลียดเท่าไหร่ใช่มั้ยค่ะ ? แต่นี่คือ อีก 3 วันจะถึงวันจ่ายเงิน ที่เราทวงเงิน จริงๆเราก็ไม่ได้อยากทวง แต่ถ้าเราพูดแล้วไม่รักษาคำพูดใครจะเชื่อมั่นในตัวเราและให้เครดิตเราอีกค่ะ ที่เราเชียร์เพราะเราไม่อยากเสียเครดิต เสียความรู้สึกกับผู้จัดงานค่ะ พอ จขกท รู้แบบนี้แล้วอยากจะจับรถไปหา แล้วจับหัวมันโขกโถส้วม ถ้าเป็นปกติ จขกท โทรไปด่าแล้วค่ะ แต่นี่สัญญากับเพื่อนๆไว้หลายคนค่ะ ว่าจะไม่ไปวีนมัน เพราะเพื่อนรู้นิสัย จขกท เป็นอย่างดี ว่าถ้าชอบคือชอบ ไม่คือไม่ ด่าคือด่า ด่าต่อหน้าแบบไหน ลับหลังก็ด่าแบบนั้น พูดจาแรง เสมอต้นเสมอปลายค่ะ ที่สำคัญ จขกท ไม่ชอบไปยุ่งเรื่องใคร แต่ใครอย่ามาล้ำเส้น ถ้าเอา จบกท ไปพูดเสียหาย หูดับ แทรกแผ่นดินหนีมาหลายคนแล้วค่ะ เลยมาตั้งกระทู้ระบายแทนค่ะ อึดอัดมาก มีอีกเพียบนะค่ะ ถ้าคนติดตามเยอะจะมาเล่าต่อค่ะ