ต้องขอเกริ่นก่อนน่ะครับ ว่าตอนนี้เรียน พยาบาลที่วิทยาลัยพยาบาลแห่งหนึ่ง
ตอนเขามา สอบติดทางครอบครัวเลยอยากให้มา เพราะคุณพ่อเป็นข้าราชการและแม่ก็อยากให้มา ฐานะปานกลาง มีหนี้สินอยู่เหมือนกันแต่ไม่ได้มากมายครับ
ผมเองก้ไม่อยากขัดใจท่าน ด้วยภาวะทางเศรษฐกิจ จะได้มีคนช่วยๆกันเวลผมจบ
แต่ในใจลึกๆเองก็อยากเรียน ภาษาศาสตร์ ศิลปศาสตร์ พวกภาษา อังกฤษอะไรทำนองนี้ครับ ยอมรับว่าเสียใจมาก
แต่ ทน คือคำเดียวครับ พยายามมองให้มันแง่ดีไว้ครับ นี่ก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจพลาดเหมือนกัน แต่มันก็ผ่านมาแล้ว
ซึ่งกับการเรียนก็ไม่ได้เก่งอะไรมาก มีเข้าใจไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็อ่านหนังสือสม่ำเสมอ โชคดีที่ยังรักเรียนอยู่บ้าง
แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร
ปัจจุบัน ผมเรียนปี 3 กำลังฝึกงานครับ มันก็มี อารมณ์ว่า มันได้ช่วยคนไข้จริง ดีใจที่เราช่วยเขาได้ เข้าใจโรค เหตุผลที่เขาเป็น ที่เขาได้รับการรักษาแบบนี้ แต่มันก็มีบ้างอารมณ์ว่าผมจะทนกับการทำงานแบบนี้ได้ไหม เพราะว่า งานที่ทำมันเป็น เวร ซึ่ง 1 เวร มี 8 ชั่วโมง
ซึ่งผมเองถ้าอดนอนมากก็มีอาการปวดหัวเหมือนกัน ไม่แน่อาจจะมาจากความเครียดก็ได้ครับ ผมก้นึกวันที่ผมควบ 2 เวร ผมเองก็คงใช้ร่างกายหนักมากเกินไป
ขนาดตอนฝึกงานผมเองเวลาทำงานก็ต้องทำให้ไวกว่า เขียนแผนการพยาบาลให้ไว
เพื่อจะได้มีเวลานอน ให้ถึง 6 ชั่วโมงไม่งั้นสมองผม รับไม่ไหวแน่ ยิ่งตอนฝึกงานก็ได้ ฟังพี่เขาพูดคุยกัน ในการทำงาน ต่อ 1 เวรนั้น
ก็มีมากมายเสียเหลือเกิน ก่อนลงเวรก็ต้องส่งเวรให้ผู้ที่จะมาขึ้นต่อ ก็ใช่ว่าจะทำงานตามเวลาน่ะครับก็กินเวลาไปกันอีก แต่ก็ต้องเข้าใจคนก่อนหน้านี่ว่าเขาก็เหนื่อยจากเวรที่แล้วเหมือนกัน......
อย่างน้อยผมเองก็รู้สึกดีน่ะครับ ที่ได้มีความรู้ทางการพยาบาล ในการดูแลคนอื่นๆ ซึ่งแม่ผมป่วยเป็นโรคเรื้องรังชนิดและเวลาแม่มาถาม หรือไม่เข้าใจอะไรเราเองก็พอมีความรู้ที่จะแนะนำท่านได้ ซึ่งถ้าผมไม่ได้มาเรียนตรงนี้ ข้อมมูลก็คงไม่มีแน่นอน
ผมเองก้อยากจะบอกว่า หากมีลูกหลาน ก็ให้เขาได้เรียนในสิ่งที่เขารักเถอะครับ
ถามเขาซะก่อนว่า อยากเรียนอะไร ? แล้วเขาวางแผนกับการเรียนคณะนี้ของเขาอย่างไร ? ต่อยอดอะไรได้บ้าง?
ซึ่งนั้นก็จะทำให้เรามั่นใจเขาเองจะมีอนาคตที่ดีได้แน่นอน ไม่ต้องโดนบังคับอ่ะครับ
รายมายาว ผมกำลังมีความคอดดังนี้ รบกวนเพื่อนๆช่วยคอมเม้นด้วยครับว่า ผมคิดดีพอรอบคอบพอหรือยัง
ขอบคุณไว้ล่วงหน้าครับ
ผมว่างแผนไว้ว่า ถ้าผมจบ ผมเองก็ต้องทำงานใช้ทุน 4 ปี ทำงานเก็บตังค์ไปด้วย ซึ่งขณะนั้น...
1.ผมเองจะเรียนปริญญาอีกใบเป็นของ มสธ. จะเป็นในเรื่อง ศิลปศาสตร์ เพื่อนๆ พี่ คิดว่ามันสามารถต่อยอดได้ดีไหมครับ ? สามารถสมัครงานไรได้บ้าง
และผมก็จะสอบ ภาค ก. ทิ้งไว้ และคาดว่าจะสอบ TOEIC ครับ
2.ช่วง 4 ปีมีงานอะไรที่ผมสามารถ ทำ Part time ได้บ้างครับ ?
3.ถ้าเรียนโทต่อจะเรียนอะไรดีครับ ที่ทำงานโดยไม่ต้องขึ้นเวรอ่ะครับ ผมอยาก มีองค์ความรู้เพื่อ ส่งต่อมากกว่าการทำงานที่เป็นกิจวัตรประจำวัน
ในใจผมมี
-เวชปฏิบัติ
-สริระวิทยา
-จิตเวช
-การพยาบาลผู้สูงอายุ ไม่ก็ ผู้ใหญ่อ่ะ ผมเองก็อยากลองเป็นอาจารย์บ้างครับหรือ ผมสามารถต่อโทที่เป็นทางของภาษาได้ไหมครับ ?
4.ผมทราบมาว่ามีงานพยาบาลที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน ผมว่ามันคงดี เพราะได้ใช้ภาษาได้ช่วยคน มีเวลาหลังจาก Off จากงานไปหาครอบครัว ไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง
5. งานของการไฟฟ้านี่เขามีช่วงเปิดสอบใช้ไหมครับ ในตำแหน่งพยาบาล ? และพยาบาลกรมราชทัณฑ์ เขามีสอบแยกไหมครับหรือเราไปสอบเองเลย
อย่าหาว่าผมถามเพื่อนๆมากเลยน่ะครับ 55 ขอบคุณครับ
ส่วนน้องๆ พี่คนไหนสนใจเรียนพยาบาล หลังไมค์ได้ครับ
ทิ้งคำถามไว้ช่วงนี้ฝึกงาน มหาโหดครับ ^^
เรียนพยาบาลสามารถทำอะไรได้บ้าง? ต่อยอดหรือเบนสายก็ได้ครับ
ตอนเขามา สอบติดทางครอบครัวเลยอยากให้มา เพราะคุณพ่อเป็นข้าราชการและแม่ก็อยากให้มา ฐานะปานกลาง มีหนี้สินอยู่เหมือนกันแต่ไม่ได้มากมายครับ
ผมเองก้ไม่อยากขัดใจท่าน ด้วยภาวะทางเศรษฐกิจ จะได้มีคนช่วยๆกันเวลผมจบ
แต่ในใจลึกๆเองก็อยากเรียน ภาษาศาสตร์ ศิลปศาสตร์ พวกภาษา อังกฤษอะไรทำนองนี้ครับ ยอมรับว่าเสียใจมาก
แต่ ทน คือคำเดียวครับ พยายามมองให้มันแง่ดีไว้ครับ นี่ก็ถือว่าเป็นการตัดสินใจพลาดเหมือนกัน แต่มันก็ผ่านมาแล้ว
ซึ่งกับการเรียนก็ไม่ได้เก่งอะไรมาก มีเข้าใจไม่เข้าใจบ้าง แต่ก็อ่านหนังสือสม่ำเสมอ โชคดีที่ยังรักเรียนอยู่บ้าง
แต่ก็ไม่ได้โดดเด่นอะไร
ปัจจุบัน ผมเรียนปี 3 กำลังฝึกงานครับ มันก็มี อารมณ์ว่า มันได้ช่วยคนไข้จริง ดีใจที่เราช่วยเขาได้ เข้าใจโรค เหตุผลที่เขาเป็น ที่เขาได้รับการรักษาแบบนี้ แต่มันก็มีบ้างอารมณ์ว่าผมจะทนกับการทำงานแบบนี้ได้ไหม เพราะว่า งานที่ทำมันเป็น เวร ซึ่ง 1 เวร มี 8 ชั่วโมง
ซึ่งผมเองถ้าอดนอนมากก็มีอาการปวดหัวเหมือนกัน ไม่แน่อาจจะมาจากความเครียดก็ได้ครับ ผมก้นึกวันที่ผมควบ 2 เวร ผมเองก็คงใช้ร่างกายหนักมากเกินไป
ขนาดตอนฝึกงานผมเองเวลาทำงานก็ต้องทำให้ไวกว่า เขียนแผนการพยาบาลให้ไว
เพื่อจะได้มีเวลานอน ให้ถึง 6 ชั่วโมงไม่งั้นสมองผม รับไม่ไหวแน่ ยิ่งตอนฝึกงานก็ได้ ฟังพี่เขาพูดคุยกัน ในการทำงาน ต่อ 1 เวรนั้น
ก็มีมากมายเสียเหลือเกิน ก่อนลงเวรก็ต้องส่งเวรให้ผู้ที่จะมาขึ้นต่อ ก็ใช่ว่าจะทำงานตามเวลาน่ะครับก็กินเวลาไปกันอีก แต่ก็ต้องเข้าใจคนก่อนหน้านี่ว่าเขาก็เหนื่อยจากเวรที่แล้วเหมือนกัน......
อย่างน้อยผมเองก็รู้สึกดีน่ะครับ ที่ได้มีความรู้ทางการพยาบาล ในการดูแลคนอื่นๆ ซึ่งแม่ผมป่วยเป็นโรคเรื้องรังชนิดและเวลาแม่มาถาม หรือไม่เข้าใจอะไรเราเองก็พอมีความรู้ที่จะแนะนำท่านได้ ซึ่งถ้าผมไม่ได้มาเรียนตรงนี้ ข้อมมูลก็คงไม่มีแน่นอน
ผมเองก้อยากจะบอกว่า หากมีลูกหลาน ก็ให้เขาได้เรียนในสิ่งที่เขารักเถอะครับ
ถามเขาซะก่อนว่า อยากเรียนอะไร ? แล้วเขาวางแผนกับการเรียนคณะนี้ของเขาอย่างไร ? ต่อยอดอะไรได้บ้าง?
ซึ่งนั้นก็จะทำให้เรามั่นใจเขาเองจะมีอนาคตที่ดีได้แน่นอน ไม่ต้องโดนบังคับอ่ะครับ
รายมายาว ผมกำลังมีความคอดดังนี้ รบกวนเพื่อนๆช่วยคอมเม้นด้วยครับว่า ผมคิดดีพอรอบคอบพอหรือยัง
ขอบคุณไว้ล่วงหน้าครับ
ผมว่างแผนไว้ว่า ถ้าผมจบ ผมเองก็ต้องทำงานใช้ทุน 4 ปี ทำงานเก็บตังค์ไปด้วย ซึ่งขณะนั้น...
1.ผมเองจะเรียนปริญญาอีกใบเป็นของ มสธ. จะเป็นในเรื่อง ศิลปศาสตร์ เพื่อนๆ พี่ คิดว่ามันสามารถต่อยอดได้ดีไหมครับ ? สามารถสมัครงานไรได้บ้าง
และผมก็จะสอบ ภาค ก. ทิ้งไว้ และคาดว่าจะสอบ TOEIC ครับ
2.ช่วง 4 ปีมีงานอะไรที่ผมสามารถ ทำ Part time ได้บ้างครับ ?
3.ถ้าเรียนโทต่อจะเรียนอะไรดีครับ ที่ทำงานโดยไม่ต้องขึ้นเวรอ่ะครับ ผมอยาก มีองค์ความรู้เพื่อ ส่งต่อมากกว่าการทำงานที่เป็นกิจวัตรประจำวัน
ในใจผมมี
-เวชปฏิบัติ
-สริระวิทยา
-จิตเวช
-การพยาบาลผู้สูงอายุ ไม่ก็ ผู้ใหญ่อ่ะ ผมเองก็อยากลองเป็นอาจารย์บ้างครับหรือ ผมสามารถต่อโทที่เป็นทางของภาษาได้ไหมครับ ?
4.ผมทราบมาว่ามีงานพยาบาลที่แท่นขุดเจาะน้ำมัน ผมว่ามันคงดี เพราะได้ใช้ภาษาได้ช่วยคน มีเวลาหลังจาก Off จากงานไปหาครอบครัว ไปเที่ยวต่างประเทศบ้าง
5. งานของการไฟฟ้านี่เขามีช่วงเปิดสอบใช้ไหมครับ ในตำแหน่งพยาบาล ? และพยาบาลกรมราชทัณฑ์ เขามีสอบแยกไหมครับหรือเราไปสอบเองเลย
อย่าหาว่าผมถามเพื่อนๆมากเลยน่ะครับ 55 ขอบคุณครับ
ส่วนน้องๆ พี่คนไหนสนใจเรียนพยาบาล หลังไมค์ได้ครับ
ทิ้งคำถามไว้ช่วงนี้ฝึกงาน มหาโหดครับ ^^