เรื่องมันนานมาแล้ว...แต่ยังไงก็ลืมไม่ได้

เรื่องราวของผมไม่รู้จะจบลงเมื่อไหร่ ต้องใช้เวลาอีกนานขนาดไหน...ก็ยังไม่รู้
บางคนว่า 10ปี 20ปี หรือ อาจจะลืมไม่ได้ตลอดชีวิต ก็ต้องปล่อยให้มันเป็นไป
เรื่องที่จะเล่าต่อจากนี้ เป็นเรื่องจริงครับ
เป็นเรื่องที่ผ่านมาในชีวิตของผมเอง เป็นสิ่งที่ผมเรียกว่า”รักแรก”
         ขอเล่าย้อนกลับไปนะครับ ตอนนั้นผมเรียนอยู่ชั้น ป.4 มีนักเรียนใหม่ย้ายมาเรียนห้องเดียวกับผมหลายคน  
เธอคือ1ในนั้น(ขอแทนเธอว่าBนะครับ)  Bเป็นคนเรียนเก่งครับ  
สอบได้อันดับต้นๆของห้องส่วนผมได้ที่6นับจากท้ายห้อง 555 ต่างกันมากเลย  
แรกๆผมรู้สึกไม่ชอบหน้าเธอคนนี้เลย อาจเพราะเรื่องศาสนาด้วย ผมเป็นลูกคนจีนครับ Bเป็นมุสลิม แต่เธอไม่เคร่งอะไรมาก ไม่คลุมฮิญาบด้วย
ดูไม่ออกด้วยซ้ำว่าเธอเป็นมุสลิม แรกๆก็ไม่ได้คิดอะไรกับเธอ แค่ไม่ชอบหน้า เจอกันที่ไรก็จะกัดกันให้ได้
ในห้องเรียนBนั่งหลังผม ผมเรียนไม่เก่งครับ แต่ผมถนัดงานศิลป์ ทั้งงานปั้นและวาด (ผมเคยแข่งขันวาดลายไทยเป็นตัวแทนโรงเรียน)
วันหนึ่ง วิชาศิลปะ Bให้ผมช่วยปั้นดินน้ำมันให้ เพราะครูสั่งให้ปั้นดินน้ำมันมาส่ง เป็นการบ้าน
ผมจึงปั้นให้เธอ มันคงเป็นจุดเริ่มที่ทำให้เราสนิทกัน
หลังจากวันนั้น เวลาพักเที่ยง ผมกินข้าวเสร็จก่อนBประจำ เลยขึ้นมาที่ห้องก่อนทุกวันแล้วก็ชอบแกล้งเอากระเป๋าเป้Bไปซ่อน
เวลาเธอขึ้นห้อง Bก็รู้ทันทีว่าใครเป็นคนเอาไป เพรามันหายทุกวัน แล้วBก็จะวิ่งไล่ผม  เธอดูน่ารักดีเวลาเธอวิ่งไล่ผม
พอจับผมทันเธอก็จะตีๆผม (กระเป๋าเป้เธอหอมมาก แบบเป็นกลิ่นเฉพาะตัวของเธอ)
ผมแกล้งเธอทุกวันจนเราสนิทกัน ผมไม่รู้เหมือนกันว่าชอบเธอตอนไหน
จนสุดท้ายเราขึ้น ป.6 เราสนิทกันมากขึ้น ผมเพิ่งรู้จักคำว่ารักแรก ก็ตอน ป.6นี่แหละครับ (เล่าแล้วคิดถึงเธอมาก)
รู้ตัวอีกทีคือวันสุดท้ายของ ป.6 ต่างคนก็แยะย้ายไปเรียนโรงเรียนอื่นกัน
ผมไม่เคยถามเธอว่าเธอจะไปเรียนต่อที่ไหน ผมมารู้อีกทีคือวันสุดท้ายที่เราจะได้เรียนด้วยกัน
Bบอกว่าเธอต้องไปเรียนโรงเรียนในต่างจังหวัด ผมเนี่ยตกใจ ทำอะไรไม่ได้เลย จะไม่ได้เจอหน้ากันแล้ว
ส่วนผมก็ย้ายไปเรียนโรงเรียนประจำอำเภอ
ก่อนปิดเทอม  B ถามผมว่า”มาถ่ายรูปที่โรงเรียนด้วยกันมั้ยช่วงปิดเทอม ชวนเฉพาะคนที่สนิทๆ” ผมก็ตกลง  
แล้วเราก็มาถ่ายรูปกันกับเพื่อนหลายคน  
ก่อนกลับผมขอเธอถ่ายรูปเดี่ยว1รูป  เธอถามว่า ”จะเอาไปกอดก่อนนอนรึไง?”  
ผมก็ตอบไปว่า”ป่าว แค่อยากเก็บไว้ดูเล่น”  ผมก็คิดนะว่าเหมือนเธอจะลองหยอดดูว่าผมจะตอบยังไง
หลังจากนั้นผมก็โทรหาเธอทุกวัน จนวันหนึ่งผมก็ถามคำถามที่ค้างคาในใจออกไปว่า…”ชอบใครอยู่รึป่าว?”
เธอก็ตอบกลับมาว่า “พรุ่งนี้ค่อยโทรมาตอนบ่ายโมงได้มั้ยเดี๋ยวบอก ตอนนี้ไม่สะดวก”
พออีกวันหนึ่งผมก็ไปทวงคำตอบที่ผมถามไว้เมื่อวาน  เธอบอกว่า “มีอยู่คนหนึ่งเวลาอยู่ใกล้แล้วหวั่นไหว”   ผมเลยถามต่อว่าบอกได้มั้ย?
เธอบอกมาว่าเป็น ผม  ตอนนั้น ผมทั้งดีใจทั้งเขิน ทำอะไรไม่ถูกเลย >//<
แล้วเธอก็ถามผมกลับมาว่า”ชอบใครอยู่”  ผมก็บอกไปว่า”มีคนหนึ่ง เค้าเป็นเพื่อนหญิงที่สนิทที่สุดของผม และเธอคือผู้หญิงคนนั้น “
Bแกล้งทำเป็นไม่ได้ยิน เธอบอกว่าอ่านหนังสืออยู่ไม่ทันได้ฟังอะไรที ในตอนนั้นทั้งผมและเธอก็เขินๆเพราะเรายังเด็กมาก  ผมก็ไม่รู้ต้องทำยังไงต่อกับความสัมพันธ์แบบนี้
หลังจากที่เธอบอกไม่กี่วันก็ถึงวันเกิดผม  เธอให้ของขวัญแก่ผมเป็นนาฬิกาข้อมือเรือนหนึ่ง ผมเก็บมันอย่างดีมาตลอด  (ทุกวันนี้ก็ยังใส่อยู่เลยครับ)
หลังจากนั้นเราก็ติดต่อกันมาเรื่อยๆในช่วงปิดเทอม  เราอยู่ห่างไกลกันมาก คนละจังหวัด ในตอนนั้นผมยังเด็กมาก
เราเลยไม่ได้คบกันแต่เป็นเพื่อนที่มากกว่าเพื่อน  
จนถึงเปิดเทอม  ผมทำสิ่งที่ผิดพลาดที่สุดครั้งหนึ่งกับเธอไป  
ผมหายไป ไม่ติดต่อไปหาเธอ  เพราะผมคิดว่าเธอคงไม่ว่างคงเรียนหนัก  
พอขาดการติดต่อไป2-3วัน ก็เริ่มไม่กล้าติดต่อไป  
จนหายไป1สัปดาห์   1เดือน  2เดือน  3เดือน หรือ 1ปี  
ผมไม่รู้ว่าเธอรอผมมั้ย แต่ผมคิดถึงเธอทุกวัน  
ไม่กล้าติดต่อไป  รอเธอติดต่อกลับมา ต่างคนต่างรอ  
จนใกล้จะขึ้น ม.2 เพื่อนเธอที่สนิทกับผมบอกผมว่าเธอจะย้ายกลับมาเรียนโรงเรียนเดียวกับผม
แต่เรียนคนละห้อง  ผมดีใจมาก  ผมอยากให้เปิดเทอมเร็วๆจะได้เจอเธออีกครั้ง  อยากเจอ  อยากคุยด้วย  แต่…มันก็ไม่ได้เป็นแบบที่คิด

เมื่อยมือแล้วครับ ค่อยมาพิมพ์ต่อวันหลังนะครับ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่