ใครมีกลิ่นตัว เชิญทางนี้ค่ะ

สวัสดีชาวพันทิปค่ะ วันนี้จะมาบอกวิธีรับมือกับ กลิ่นเต่าค่ะ ขออนุญาตแทนตัวเองว่าเราแล้วกันนะคะ เรื่องมันก็มีอยู่ว่า เราเป็นคนที่มีกลิ่นตัวหนักมาก ขอเน้นว่าหนักมาก เป็นมาตั้งแต่สมัย ป.4ค่ะ ตอนนี้อยู่ มหาลัย ปี 2 11 ปีที่ต้องทนกับมัน ซึ่งก็เพิ่งจะมาหาคำตอบเจอได้ไม่นานว่าควรจะรับมือกับมันยังไงดี  ก่อนหน้านี้ เมื่อไหร่ที่รู้ตัวว่ารักแร้เริ่มเปียกก็ไม่มีความมั่นใจที่จะอ้าแขนเลย คิดว่าคนมีกลิ่นตัวน่าจะเข้าใจดี เพื่อนมาเกาะแขน เราต้องสะบัดออกเลยค่ะ เพราะกลัวเพื่อนเหม็น เคยมีเพื่อนมาบอกตรงๆหลายคนแล้วล่ะค่ะ เราก็ตอบไม่ถูกเลย ถามว่าอายมั๊ย ตอบเลยว่า มาก เราก็บอกว่า เราก็รู้ตัวว่าเรามีกลิ่นตัวแต่เราก็ดูแลตัวเองนะ ไม่ใช่ไม่อาบน้ำ ไม่ทาลูกกลิ้ง เราเต็มที่กับรักแร้มาก เพื่อนก็เข้าใจค่ะ แต่เราก็เครียดกับมันอยู่ดี


เคยไปหาหมอผิวหนัง หมอแนะนำให้เลเซอร์ขนรักแร้ 8,000 บาทค่ะ เพราะหมอบอกว่า มันจะทำลายต่อมเหงื่อเราด้วย จะลดกลิ่นตัวไปประมาณ 80% เราก็จัดเลยค่ะ ถึงแม้ที่บ้านจะไม่ค่อยมีสตังค์ แต่ก็หามาจนได้ เราคิดว่าตั้ง 8,000 ยังไงต้องหายแน่ๆ  แต่ ไม่เลยค่ะ แรกๆ ก็รู้สึกว่า เหงื่อน้อยลง กลิ่นเต่าก็น้อยลงด้วย ไม่ถึงสัปดาห์เต่ายังปล่อยกลิ่นออกมาเลเวลเท่าเดิม แถมขนรักแร้ก็ขึ้นดกดำเหมือนเดิม เศร้าค่ะ เราเสียใจกับ 8,000 นั้นมาก


เราว่าตลอด 11 ปีนี้ เราก็ทำทุกวิธีนะคะ เสิชเน็ต หาวิธีตลอด มีคนแนะนำ Certain Dri มันเป็นโรลออนน้ำทาไว้กันเหงื่อที่รักแร้ ช่วงแรกๆก็ดี หลังๆก็เหมือนเดิม เราคิดว่าไม่มีอะไรต้านทาน เหงื่อที่รักแร้เราได้
จนได้ลองวิธีนึงค่ะ แล้วรู้สึกว่าได้ผลมากกว่าวิธีอื่นๆ สยบกลิ่นและเหงื่อได้ประมาณ 80% นั่นคือ

Step 1 ตอนอาบน้ำก่อนเข้านอน ให้กำจัดขนรักแร้ทุกครั้งนะคะ จะวิธีไหนก็ไได้ค่ะ เราใช้โกนเอาค่ะ คุณหมอเคยบอกว่าขนรักแร้เป็นแหล่งบ่มเพาะแบคทีเรียนะคะ เราต้องกำจัดให้สิ้นซาก (ถ้าเคยลองสังเกตช่วงที่เราขนรักแร้ดก กลิ่นตัวจะมากเหม็นเป็นพิเศษ)

Step 2 พอตื่นมา อาบน้ำตอนเช้าเสร็จ เราจะทายาสีฟันไว้ที่รักแร้ให้ทั่ว ซัก 10 นาที ให้รู้สึกแสบๆร้อนๆ ยาสีฟันยี่ห้ออะไรก็ได้ค่ะ ที่เผ็ดๆร้อนๆหน่อยยิ่งดี พอพอกไว้ 10 นาที หรือให้รู้สึกเย็นๆร้อนๆพอประมาณ แล้วใช้ผ้าชุบน้ำหมาดๆเช็ดออก คือที่ไม่ล้างออกเพราะให้มันมีชั้นยาสีฟันบางๆอยู่ที่รักแร้ เค้าว่ามันจะยับยั้งแบคทีเรียที่ทำให้เกิดกลิ่นกายค่ะ ขอเน้นว่าเสต็ปนี้สำคัญที่สุดนะคะ เพราะเคยขาดstepนี้ไป กลิ่นยังมาเหมือนเดิมเลยค่ะ เพราะฉะนั้นลองวิธีนี้ดูนะคะ

Step 3 เสร็จจากเช็ดยาสีฟันแล้ว เราใช้ สเปรย์ระงับกลิ่นกาย Body Series ของ แอมเวย์ค่ะ นี่ไม่ได้มาขายของนะคะ แต่ลองมาหลายตัว คิดว่าตัวนี้เอาอยู่ที่สุดค่ะ ใช้แบบสเปรย์จะไม่ทำให้รักแร้เปียก ถ้าใช้แบบลูกกลิ้ง มันจะรู้สึกเหนอหนะ ทำให้เสื้อเหลืองด้วยค่ะ

Step 4 สเปรย์เสร็จ ก็ พอกด้วย แป้งเต่าเหยียบโลก อีกชั้นนึง เป็นอันเสร็จสิ้นค่ะ

4 step ง่ายๆ ที่ทำให้ไม่ต้องมีปัญหากลิ่นตัวกวนใจค่ะ

ปล.ขอเสริมเรื่องธรรมะนิดนึงนะคะ คือเราได้มีโอกาสไปตรวจกรรมกับอาจารย์ท่านนึง (อ่านมาถึงตรงนี้ใครไม่ชอบเรื่องแบบนี้ข้ามไปก็ได้นะคะ แต่ลองอ่านต่ออีกซักนิดชีวิตคุณจะดีขึ้นค่ะ ) เราไม่ได้ไปตรวจกรรมเรื่องกลิ่นตัวโดยตรงนะคะ แต่ไหนๆก็ได้ตรวจกรรมแล้วเราเลยลองถามว่า ทำไมเราถึงมีกลิ่นตัว เพราะเราคิดว่า มันอาจเป็นโรคเวรโรคกรรมก็ได้ คนอื่นๆทำไมถึงไม่มีทั้งๆที่เราก็อาบน้ำดูแลความสะอาดเหมือนคนอื่นๆ อาจารย์ท่านบอกว่า เป็นเพราะกรรมที่เราชอบเถียงพ่อแม่ หลังจากนั้น พอเรามีโอกาสกลับบ้าน เราก็ได้ถือโอกาสขอขมาพ่อแม่ค่ะโดยการล้างเท้าให้ท่าน กราบเท้าท่าน ซึ่งเราขี้อายมาก ไม่เคยทำมาก่อน แต่ตอนนั้นเราอยากทำจริงๆ เพราะเราก็คิดได้ว่าตอนเด็กๆเราทั้งชอบเถียง ชอบโกหกพ่อแม่ อ่านมาถึงตรงนี้ อยากให้เพื่อนๆเชื่อว่าเวรกรรมมีจริงนะคะ ยิ่งทำกรรมกับพ่อแม่ยิ่งเป็นบาปหนักเลยค่ะ ไม่ต้องไปตรวจกรรมดูว่าอดีตชาติของเราเคยเป็นใคร ทำอะไรไว้ ให้ดูที่ปัจจุบันของเราค่ะ ใครที่กำลังทำอยู่ก็ขอให้หยุดการกระทำนั้นซะนะคะ หรือใครอยากขอขมากรรมลองเสิชหา วิธีขอขมากรรมของหลวงพ่อจรัญ หรือ ของพระอาจารย์ท่านไหนก็ได้นะคะ เราเชื่อว่า การขอขมากรรมพ่อแม่เป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ กลิ่นตัวเราลดลง

ปล2 เราเป็นกำลังใจให้คนที่มีกลิ่นตัวทุกคนนะคะ เรารู้ว่ามันทรมานยังไง แล้วเราก็อยากขอให้คนที่มีคนใกล้ตัวมีกลิ่นตัว เข้าใจ อย่ารังเกียจเลยนะคะ เชื่อเถอะค่ะว่าเขาไม่ได้อยากมีกลิ่นตัว เราโชคดีที่พ่อแม่เราเข้าใจ เพื่อนเราไม่รังเกียจ
  
ปล3 ถามว่าคิดวิธีนี้ได้ไง มันเริ่มจากเสิชไปเรื่อยๆ แล้วลองผิดลองถูก จนคิดว่า วิธีนี้โอเค เลยอยากแบ่งปันน่ะค่ะ ใครมีเคล็ดลับอะไร อยากเพิ่มเติมแบ่งปันเชิญเลยนะคะ

สุดท้ายนี้ขอให้คนที่มีกลิ่นตัว หายเร็วๆนะคะ มีอะไรสงสัยเพิ่มเติม หลังไมค์มาได้ค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่