จากกรณี ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิห้าม พนง.นำพลาสติกทุกชนิดเข้าพื้นที่เมื่อเที่ยงนี้ได้กลับมาอนุญาติให้นำเข้าได้ดังเดิม

ผมไม่ขอออกนามตนเองและบริษัทที่ผมทำงานอยู่
ซึ่ง ขอ รับรองว่าผมนี้คนในทำงานที่ ท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ ได้รับความเดือดร้อนนี้จริงครับ แต่เนื่องด้วยกระแสวิพากษ์วิจารณ์จากพนักงานและสื่อ
จึงทำให้ ทางท่าอากาศยานไทย นั้น พิจารณา ยกเลิก กฎ อัน นี้ไปแล้ว ประมาณ 11.40 น. ของวัน ศุกร์ ที่ 29 พฤษภาคม 2558
ซึ่ง ขอ ตอบ กระแสวิพากษ์วิจารณ์ ของคนภายนอก ที่ พาดพิงถึงเรา โดยระดมความคิดเห็นของพนักงานคนใน เป็นข้อๆไปแบบตรงไปตรงมาดังต่อไปนี้นี้
คนที่ 1 โพสว่า : กระเป๋าผ้ามีทำไหมไม่ใส่ คิดถึงถูกแล้วลดขยะ
= ในฐานะที่ทำงานในพื้นที่โหลดกระเป๋า หรือ Sorting นั้น บางบริษัทไม่มีล็อคเกอร์ให้พนักงานจะให้เขาเอาไปไว้ไหนถ้าใส่ถุงผ้า อาหารจะไม่เน่าบูดหรอครับ ที่ล้างถ้วยล้างจานก็ไม่มีจะให้เอาไปล้างที่ไหน ห่อไปกินไม่สมควรหรอกครับกินให้เสร็จคาบเดียวไปเลยข้าออก ก็ไม่สะดวก อีกอย่างพื้นที่ Sorting นั้นห่างไกลหลุมจอดมาก แทบจะไม่เห็นเดือนเห็นตะวันมันจะปริว ออกไปได้ไง
= ถ้าอยากลดขยะโลกสวยแนะนำคุณลองไปใช้กฎนี้กับสังคมข้างนอกดูเช่นมาม่าไม่มีซองใครอยากกินเอากล่องหรือจาน ชาม ไปใส่เอา  ซองยา ไม่ต้องซีนใส่มือเอาถ้าไม่โดนด่าก็อมขี้มาพ่นหน้าผมได้เลย

คนที่ 2 โพสมาว่า : ทำตามกฎแหล๊ะถูกแล้ว อาหารที่นำไปจากบ้านก็ใส่ในปิ่นโตไปก็สิ้นเรื่อง ไม่เห็นจะยุ่งยากเลย รึว่าขี้เกรียจถือเอากล่องเปล่ากับบ้านล่ะ!!!
= พูดดูถูกกันเกินถ้าพวกผมขี้เกียจขนานนั้นจะทำงานทำแป๊ะอะไรคิดสิสมองนะคนทำงานนี้ขี้เกียจหรือขยัน ตรรกะนะมีไหม
= ถ้าขี้เกลียดก็คงไม่ออกมาทำงานหรอกครับ ทำงานแข่งกับเวลาไหนเลยจะมีเวลามาเตรียมกับข้าว ไม่ใช่แค่ พลาสติกที่ห่อของกินนะครับ ห่อเสื้อผ้าใหม่พนักงาน ห่อผ้าอนามัย ก็ต้องเอาออกหมด

อีกคน เป็นพนักงานนะครับ โพสว่า : เรื่องขยะมันห้ามกันไม่ได้หรอกมันอยุ่ที่การจัดการขยะต่างหากคุณเคยได้ยินไหมสสารไม่หนีหายไปจากโลยมวลของโลกเท่าเดิมเสมอไม่ว่าโลกนี้จะมีขยะมากแค่ไหนแต่แปรธาตุเป็นอื่นแค่นั้นไม่งั้นคนพุทธอย่างเราจะเผาทำไมอย่าให้ต่อจะยาว

อีกคนน่าจะทำงานภายในสนามบินก็แสดงความคิดเห็นว่า : ต่อให้พนักงานไม่นำถุงพลาสติกหรือกล่องโฟมเข้าไป แต่ก็ยังคงมีเศษขยะหรือถุงพลาสติกอยู่ดีค่ะ
ไหนจะเศษขยะที่มาจากภายในเครื่องบิน ไหนจะพลาสติกที่ห่อมากับสัมภาระผู้โดยสาร
สถานที่ทิ้งขยะที่ไม่มิดชิดภายในสนามบินอีก
การที่คุณแก้ปัญหาที่ปลายเหตุมันก็ไม่ช่วยหรอกค่ะ คุณต้องแก้ที่ต้นเหตุค่ะ ถึงจะถูก
     ขยะที่อยู่ในห้องผู้โดยสารและไหนจะมาจากการถ่ายขยะในห้องครัว ที่สามารถปลิวออกมาจากตัวเครื่องได้  เพราะเวลาที่ถ่ายขยะจำเป็นต้องเปิดประตูเครื่อง ไม่งั้นก็ไม่สามารถเปิดฝาถังขยะได้..
แล้วไหนจะสถานที่ทิ้งขยะภายในบริเวณลานจอด ที่ไม่มิดชิดลมพัดทีก็ปลิวเต็มไปหมด
อีกคนก็เป็นพนักงาน ทำงานที่สุวรรณภูมิ ลงความเห็นว่า : พวกคุณไม่เดือนร้อนก็พวกคุณวาสนาดีกว่าผม ผมมันไม่มีทางเลือกต้องเป็นแรงงานชั้นต่ำ ทำตามกฎนะพอรับได้แต่ปัญหาผมคือเวลาพักไม่แน่นอน เครื่องลงไม่เป็นเวลาต้องรอเครื่องที่ห้องพักพนักงานตลอด อยากออกไปกินแคนทีนนะแต่ไปแล้วก็เหมือนละทิ้งงาน จึงต้องหาเตรียมอาหารกันมาเองทำงานวันละ14ช.ม.นะครับ แล้วฟรีโซนที่ว่าก็ต้องมีรถไปส่งถ้าให้เดินไปก็ถูกการท่ายึดบัตร ประเด็นคือ โหดไปตรงซองยา ซองมาม่า ซองกาแฟ หลอด ไม้เสียบหมูปิ้ง จุ้มจิ๋มไปครับ
อยากให้คนนอกอย่างพวกคุณลองมาทำงานในที่ของเราจังแล้วจะรู้สึก ใจเขาใจเรา ก่อน มีกฏ ก็ปฏิบัตมาตั้งแต่เปิดสนามบิน ไม่เคยมีปัญหา มันเหมือนไม้แก่ดัดยากหน่อย พอเกิดปัญหาถุงคลุมตู้จากพื้นที่คลังสินค้าหรือคาร์โก้ จากจุดพื้นที่เล็กๆจุดนึง ในสนามบิน กลับมาใช้ควบคุมทั่วอาณาบริเวณที่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง เหมือนแก้ปัญหาไม่ตรงจุดตรงประเด็น แก้จากปลายเหตุไปหาต้นเหตุ มันถูกต้องแล้วหรือครับ
จากปากคำ พนักท่าอากาศยานสุวรรณภูมิ จำนวนนึง ครับ
ความคิดเห็นจากพนักงานภายในอีกคน : คุณไม่ทำงานในนี้คุณไม่รู้เเค่เวลาจะไปทำงานก็ไม่ทันต้องแลกบัตรเป็นทอดๆกว่าจะเข้าทำงานได้บางทีก็ต้องควบโอ จะเอาเวลาใหนมาห่อข้าวทำกับข้าวเวลานอนแทบจะยังไม่มี ส่วนเรื่องอนุรงค์อนุรักษ์สิ่งแวดล้อมโลกสวยเนี้ยขอเรียนตามนี้ ถ้าอนุรักษ์ สิ่งแวดล้อม แนะนำทำข้างนอกสนามบินเลยครับ บ้านคุณ หรือ ที่ทำงานคุณ เพราะในสนามบินจะปลูกต้นไม้ไว้ใกล้ๆขอบรันเวย์ยังไม่ได้เลยครับถือว่าเป็น อัตรายต่อเครื่อง ขนาดตัวคน สัตว์ สิ่งของ ใบไม้ ก็ยังถือว่าเป็น ขยะ เครื่องบิน หรือที่เรียกว่า FOD ส่งผลอัตราย
เวลาเคื่องขึ้นเครื่องลงเลยครับ
ขอขอบพระคุณที่กรุณารับฝัง ตกจุดบกพร่องประการใด กราบขออภัยไว้ด้วยนะครับ ใจเขาใจเรา อย่าเอาความคิดตนเองไปตัดสินวิถีชีวิตคนอื่น
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่