สวัสดีค่ะชาวพันทิปทุกท่าน กระทู้นี้เป็นกระทู้แรกที่มารีวิวเรื่องเที่ยว หากผิดพลาดประการใดขออภัยไว้ ณ ที่นี่ด้วยนะคะ
ทริปนี้เดินทางตั้งแต่วันที่ 25-29 พ.ค.58 จุดเริ่มต้นของทริปนี้ไม่มีอะไรมาก คือคุณแฟนและจขกท.อยากเที่ยวมากๆ และก็เพิ่งสอบเสร็จกันด้วยก็เลยอ่ะจัดมาซักทริป บอกเลยทริปนี้เพิ่งคิดได้ก่อนวันไปจริงๆแค่ 1 วันเท่านั้น T^T เลยไม่ได้เตรียมการอะไรมาก แต่เที่ยวได้ครบทั้งจังหวัดกาญจนบุรีซะงั้น 555555+ การเดินทางของทริปนี้เราไปกันเอง ไม่มีรถส่วนตัว แต่ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นส่วนใหญ่
วันแรกเราทั้งคู่ออกเดินทางจากกรุงเทพ-กาญจนบุรี ด้วยรถตู้ค่ะ ขึ้นท่าข้างๆเซนจูรี่เลยราคาก็ตกคนละ 130 บาท ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเศษๆ ก็ถึงบขส.กาญจนบุรีแล้วววว แต่จขกท.ไม่ได้ถ่ายภาพไว้อ่ะ
พอถึงบขส.ด้วยความหิวของเรา มันเลยพาเราไปที่ร้าน BOOM เป็นห้องกระจก ขายทั้งอาหารจานเดียวและกาแฟ ร้านจะสังเกตุง่ายๆคืออยู่ข้างๆกับเซเว่นบขส.เลยค่ะ
คุณแฟนถ่ายมา นี่คือภายในร้านนะคะ เบลอๆกันไป T^T ส่วนรสชาติจขกท.ให้ผ่านมาตรฐานของจขกท.ได้ค่ะะะะ
เมื่อท้องเริ่มอิ่ม พุงเริ่มป่องเราก็เข้าที่พักด้วยวินมอเตอร์ไซค์คนละ 20 บาท หรือคนกาญเรียกว่าเมล์เครื่อง (อันนี้คุณลุงเจ้าของเกสเฮ้าส์วันแรกเขาบอกมานะ อิอิ) วันแรกเราพักกันที่ PY guest house ราคาอยู่ที่คืนละ 700 บาทรวมอาหารเช้าค่ะ จองลวงหน้าก่อนก็ดีนะคะ เพราะว่าตอนไปถึงชาวต่างชาติค่อนข้างเยอะเลย ถ้าเจอรีวิวของที่นี่ส่วนมากก็มีแต่ชาวต่างชาติทั้งนั้นเลย และที่สำคัญเจ้าของยังใจดีมากๆ คือเขาจะมานั่งอธิบาย แนะนำที่เที่ยวทุกที่ในกาญจนบุรี และเอาแผนที่มาวาดเส้นทางให้เราด้วย ไม่เข้าใจตรงไหนสามารถสอบถามเขาได้เลย เป็นความประทับใจอันดับแรกของเมืองนี้เลยค่ะ ที่เกสเฮ้าส์มีมอเตอร์ไซค์ให้เช่านะคะไม่ต้องไปเช่าไกลด้วย วันละ 300 บาทก็เปรี้ยวได้
อันนี้เป็นภายในของเกสเฮ้านะคะ ที่นี่จะเน้นแนวธรรมชาติ ร่มรื่น เจ้าของกระทู้ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆ
ส่วนอันนี้เป็นภายในห้องพักนะคะ แถมหน้ากลมให้ด้วย 55555+
ต่อมาเมื่อพักร่างได้แปปนึง เราทั้งคู่เลยตัดสินใจไปต้นจามจุรียักษ์เป็นที่แรก จะเห็นในแผนที่การเดินทางอาจจะดูไม่ไกลมากแต่พอขี่จริงๆนี่ก็ประมาณสิบกว่ากิโลได้เลยค่ะ แล้วตอนนั้นก็ครึ้มฟ้าครึ้มฝนหน่อยๆ แอบหวั่นเล็กน้อย T^T
การเดินทางไปต้นจามจุรียักษ์จะอยู่อีกฝั่งของที่พัก เราเลยต้องนั่งเรือข้ามฝากกันไป แต่ไม่ต้องห่วงเราสามารถเอามอเตอร์ไซค์ข้ามฝากไปกับเราได้ด้วย ค่าข้ามฝั่งตกคนละ 5 บาทเท่านั้น ซึ่งท่าเรือก็อยู่ข้างเกสเฮ้าส์นี่เอง โธ่!! นึกว่าจะไกล 555555+
เมื่อเราถึงท่าอีกฝั่งให้เราขี่รถตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายนะคะ ตรงไปเรื่อยๆเลยก็จะถึง กองกรมสัตว์และเกษตรกรรมที่1 สองข้างทางในกรมจะเต็มไปด้วยม้าและม้า ม้าเต็มไปหมดเลยยยยย ที่เห็นว่าม้าเยอะเพราะว่าเอาไว้ฝึกสำหรับทหารม้าน่ะค่ะ เห็นเจ้าของเกสเฮ้าส์บอกมานะะะ
พอขี่ตรงมาเรื่อยๆเราก็ถึงที่เที่ยวที่แรกของเราแล้วววว
[CR] [[Review]] แบกเป้เที่ยว จ.กาญจนบุรี อ.เมือง-อ.สังขละบุรี 5วัน4คืน
ทริปนี้เดินทางตั้งแต่วันที่ 25-29 พ.ค.58 จุดเริ่มต้นของทริปนี้ไม่มีอะไรมาก คือคุณแฟนและจขกท.อยากเที่ยวมากๆ และก็เพิ่งสอบเสร็จกันด้วยก็เลยอ่ะจัดมาซักทริป บอกเลยทริปนี้เพิ่งคิดได้ก่อนวันไปจริงๆแค่ 1 วันเท่านั้น T^T เลยไม่ได้เตรียมการอะไรมาก แต่เที่ยวได้ครบทั้งจังหวัดกาญจนบุรีซะงั้น 555555+ การเดินทางของทริปนี้เราไปกันเอง ไม่มีรถส่วนตัว แต่ใช้มอเตอร์ไซค์เป็นส่วนใหญ่
วันแรกเราทั้งคู่ออกเดินทางจากกรุงเทพ-กาญจนบุรี ด้วยรถตู้ค่ะ ขึ้นท่าข้างๆเซนจูรี่เลยราคาก็ตกคนละ 130 บาท ใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมงเศษๆ ก็ถึงบขส.กาญจนบุรีแล้วววว แต่จขกท.ไม่ได้ถ่ายภาพไว้อ่ะ
พอถึงบขส.ด้วยความหิวของเรา มันเลยพาเราไปที่ร้าน BOOM เป็นห้องกระจก ขายทั้งอาหารจานเดียวและกาแฟ ร้านจะสังเกตุง่ายๆคืออยู่ข้างๆกับเซเว่นบขส.เลยค่ะ
คุณแฟนถ่ายมา นี่คือภายในร้านนะคะ เบลอๆกันไป T^T ส่วนรสชาติจขกท.ให้ผ่านมาตรฐานของจขกท.ได้ค่ะะะะ
เมื่อท้องเริ่มอิ่ม พุงเริ่มป่องเราก็เข้าที่พักด้วยวินมอเตอร์ไซค์คนละ 20 บาท หรือคนกาญเรียกว่าเมล์เครื่อง (อันนี้คุณลุงเจ้าของเกสเฮ้าส์วันแรกเขาบอกมานะ อิอิ) วันแรกเราพักกันที่ PY guest house ราคาอยู่ที่คืนละ 700 บาทรวมอาหารเช้าค่ะ จองลวงหน้าก่อนก็ดีนะคะ เพราะว่าตอนไปถึงชาวต่างชาติค่อนข้างเยอะเลย ถ้าเจอรีวิวของที่นี่ส่วนมากก็มีแต่ชาวต่างชาติทั้งนั้นเลย และที่สำคัญเจ้าของยังใจดีมากๆ คือเขาจะมานั่งอธิบาย แนะนำที่เที่ยวทุกที่ในกาญจนบุรี และเอาแผนที่มาวาดเส้นทางให้เราด้วย ไม่เข้าใจตรงไหนสามารถสอบถามเขาได้เลย เป็นความประทับใจอันดับแรกของเมืองนี้เลยค่ะ ที่เกสเฮ้าส์มีมอเตอร์ไซค์ให้เช่านะคะไม่ต้องไปเช่าไกลด้วย วันละ 300 บาทก็เปรี้ยวได้
อันนี้เป็นภายในของเกสเฮ้านะคะ ที่นี่จะเน้นแนวธรรมชาติ ร่มรื่น เจ้าของกระทู้ชอบมากๆๆๆๆๆๆๆ
ส่วนอันนี้เป็นภายในห้องพักนะคะ แถมหน้ากลมให้ด้วย 55555+
ต่อมาเมื่อพักร่างได้แปปนึง เราทั้งคู่เลยตัดสินใจไปต้นจามจุรียักษ์เป็นที่แรก จะเห็นในแผนที่การเดินทางอาจจะดูไม่ไกลมากแต่พอขี่จริงๆนี่ก็ประมาณสิบกว่ากิโลได้เลยค่ะ แล้วตอนนั้นก็ครึ้มฟ้าครึ้มฝนหน่อยๆ แอบหวั่นเล็กน้อย T^T
การเดินทางไปต้นจามจุรียักษ์จะอยู่อีกฝั่งของที่พัก เราเลยต้องนั่งเรือข้ามฝากกันไป แต่ไม่ต้องห่วงเราสามารถเอามอเตอร์ไซค์ข้ามฝากไปกับเราได้ด้วย ค่าข้ามฝั่งตกคนละ 5 บาทเท่านั้น ซึ่งท่าเรือก็อยู่ข้างเกสเฮ้าส์นี่เอง โธ่!! นึกว่าจะไกล 555555+
เมื่อเราถึงท่าอีกฝั่งให้เราขี่รถตรงไปแล้วเลี้ยวซ้ายนะคะ ตรงไปเรื่อยๆเลยก็จะถึง กองกรมสัตว์และเกษตรกรรมที่1 สองข้างทางในกรมจะเต็มไปด้วยม้าและม้า ม้าเต็มไปหมดเลยยยยย ที่เห็นว่าม้าเยอะเพราะว่าเอาไว้ฝึกสำหรับทหารม้าน่ะค่ะ เห็นเจ้าของเกสเฮ้าส์บอกมานะะะ
พอขี่ตรงมาเรื่อยๆเราก็ถึงที่เที่ยวที่แรกของเราแล้วววว