สวัสดีค่า
วันนี้อยากมา Review ลิปมันที่เคยผ่านศึกร่วมรบรอยแตกปากแห้งกันมาให้ชมค่า หลังจากที่สืบอ่านกระทู้คนอื่นมามั่ง วันนี้ขอเป็นคนแชร์อะไรบ้างละกันนน เพราะลองลิปมันมาเยอะพอตัวเลยค่ะ รูปที่ใช้บางส่วนถ่ายเอง บางส่วนหามาจาก google นะค้าา
ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าตัวเราเองเป็นคนปากแห้งมากเลยค่ะ ขาดลิปมันไม่ได้ ทาทั้งวัน ทาแล้วทาอีก บวกกับปัญหามีสิวด้วย ทายาแล้วหน้าแห้งก็พลอยจะปากแห้งไปด้วย บางช่วงที่เป็นสิวหนักๆ ก็ต้องตัดสินใจเลือกเลยว่าจะช่วยหน้าหรือจะช่วยปากก่อน 555555 เพราะเวลาทายาที่หน้าทีไร ผิวก็จะแห้ง พาปากแห้งแตกไปด้วยทุกที แต่พอไม่ทายาที หน้าก็แหก ส่วนปากก็จะดีขึ้นนิดนึง เอ่อ...เป็นการตัดสินใจที่ยากพอสมควรค่ะ แต่ก็มีเคล็ดลับรอดตายมาฝากกันนะค่ะ แต่ขอเริ่มที่ Review ก่อนเน้อออ
เราจะขอแบ่งประเภทลิปมันเป็น 2 ประเภท หลักๆนะคะ คือ แบบมีสี กับ ไม่มีสี ค่า
แบบที่ 1 แบบไม่มีสี
Nivea Lip Care
ดาว 5 ดาว
ความรู้สึก: เป็นลิปที่ดีงามมากกก ซื้อครั้งแรกตอนไปเกาหลี ตอนอากาศติดลบ ก็อย่างที่บอกว่าปกติเราเป็นคนปากแห้งอยู่แล้ว ยิ่งเจออากาศหนาวเข้าไปอีก อย่าเรียกว่าปากเลยดีกว่า TT โชคดีได้แวะเข้าไปเดินเล่นร้านอารมณ์ watson ที่นู่น (จำชื่อร้านไม่ได้ นานละ) ก็เลยคว้า Nivea ตัวนี้มา ใช้ทีเดียวเอาอยู่ ปากแตกแห้งแค่ไหนก็รอดค่า ชอบมาก เนื้อจะเป็นครีมๆเหลวๆ ไม่ใช่แบบแท่ง แต่มาเป็นหน้าตาแบบหลอด ทาแล้วรู้สึกเย็นๆ รสชาดประหลาดนิดหน่อย พอถูไถ แต่คุณภาพบดบังรสชาดประหลาดได้มิดมาก ชอบมากจริงๆ ชุ่มชื้นนานด้วย แต่หาไม่เจอในไทย ตอนนั้นเสียใจมากที่ไม่ซื้อมาเพิ่ม YY ล่าสุดไปเจอที่สนามบินประเทศ สเปน ค่ะ เลยเหมามา 3 อันเลยย
ราคา: 200-300 บาท
ซื้อต่อมั้ย: แน่นอนค่ะ ถ้าหาเจอนะ
Nivea
ดาว 3 ดาว
ความรู้สึก: คุณภาพสู้อันบนไม่ได้ค่ะ อันนี้มาในรูปแบบแท่ง หาได้ในประเทศไทยตามร้านค้าทั่วไป ซุปเปอร์ ร้านขายยาน่าจะมีหมดนะ ซื้อตอนที่ลิปมันหมดบ้าน ใช้ไปแล้วให้ความชุ่มชื้นได้ในระดับนึง แต่ไม่ถึงกับทำให้ปากหายแห้งเป็นปลิดทิ้งได้ แบบตัวบนค่ะ พอถูไถหากขาดแคลนค่ะตัวนี้ แต่ถ้ารักษาปากจริงๆ ขอยกนิ้วให้ตัวบนเลย
ราคา: น่าจะประมาณ 150-250 บาท นะคะ จำไม่ค่อยได้ซื้อนานมากแล้ว
ซื้อต่อมั้ย: ไม่ซื้อค่า ยกเว้นว่าฉุกเฉินนะ
Burt Bee
ดาว 3 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดแท่ง มีหลายสี แต่ละสีจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไปค่ะ อันนี้เป็นตัวที่เห็นว่าหลายคนรีวิวไว้ว่าดีมาก แต่พอเราใช้เข้าจริงๆ สำหรับเราก็เฉยๆค่ะ จริงๆแล้วแต่สีด้วย ชอบที่สุดยกให้เป็นสีม่วง คิดว่าให้ความชุ่มชื้นดีที่สุดแล้ว ถ้าจะให้ซื้อต่อก็จะซื้อสีม่วงเท่านั้นค่ะ จริงๆส่วนตัวเป็นคนชอบรสมิ้นท์ ชอบความเย็นซาบซ่า แต่ปรากฏว่าทารสมิ้นเข้าไปแล้วเงิบแปป TT แพ้ค่ะ! ปากพองเฉยเลย แต่ก็ยังสู้ต่อ ทาต่อไปนะคะ แล้วเหมือนร่างกายก็น่าจะเริ่มคุ้นชินกลายเป็นหายซะงั้น 55555 ส่วนสีอื่นๆ เช่น สีชมพู และสีเหลืองรสมะม่วง ก็เฉยๆ ค่ะ ทาแล้วให้ความรู้สึกชุ่มชื้นแบบได้ทา แต่ไม่ได้ช่วยรักษาให้ปากแห้งหรือหายเป็นปลิดทิ้งได้ค่า
ราคา: 10กว่า$ เพราะตอนนั้นซื้อมาเป็นแพคแบบจะใช้ทั้งบ้านแต่สุดท้ายใช้คนเดียวค่ะ
ซื้อต่อมั้ย: ไม่ซื้อค่า
EOS
ดาว 4 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดแท่งที่มาในหน้าตารูปทรงไข่ สีสันสดใส หลายกลิ่น น่ารัก อันนี้ชอบมากค่ะ เพราะลักษณะมันทาง่าย ทาทีเดียวได้หมดปาก 555555 สะดวกดี เรื่องความชุ่มชื้นให้ได้พอสมควร ทาแล้วรู้สึกได้ทา มีความชุ่มชื้นในปาก แต่ก็เหมือนเดิม ไม่สามารถรักษาปากได้ขนาดนั้น แค่ไม่ทำให้แย่ลงก็พอ ช่วงแรกๆที่ได้มาเห่อมากค่ะ เพื่อนซื้อมาฝากจาก US ใช้หมดไวมากก แต่ชอบเพราะทาง่ายดี เลยไปกวาดซื้อเองมาทุกรสเลย ไม่รู้ว่าครบรึเปล่าแต่ได้ลองมา 4 สีค่ะ ฮ่าๆๆๆ ชอบที่สุดคงเป็นสีฟ้า เพราะเป็นรสมิ้นเย็นๆ ทาแล้วสดชื่นนน สถานะตอนนี้คือใช้หมดแล้ว อีกสีที่ชอบคือสีเขียวรสเมลอนค่ะ ชอบเมลอนเป็นการส่วนตัว ส่วนสีแดงเป็นซัมเมอฟรุตกลิ่นหอมเหมือนกัน และสีฟ้าเข้มจะเป็นสีออกเบอรี่หน่อยๆค่า คุณสมบัติแต่ละสีเท่าที่ลองไม่น่าจะต่างกันนะคะ ต่างกันแค่กลิ่นกับรสชาด สรุปว่าคุณสมบัติของ EOS เป็นมาตรฐานลิปมันทั่วไป ที่เพิ่มความพิเศษตรงรูปร่างหน้าตา ทีทำให้ทาง่ายค่ะ
ราคา: 4-5$ ประมาณ 150-200 บาท
ซื้อต่อมั้ย: ยังไม่แน่ใจเพราะเหลือเยอะมากเลยค่ะ
Doraemon
ดาว 4.5 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดแท่งอีกหนึ่งอัน อันนี้ซื้อตามรีวิวในนี้นี่แหละค่ะ เห็นคนแนะนำว่าดี ก็เลยไปซื้อตาม ปรากฏว่าดีจริงๆ ให้ความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษแบบนี้ปลาบปลื้มค่ะ ทาแล้วจะรู้สึกว่าปากมันมากก แต่อีกใจนึงก็คือ เออชุ่มดีว่ะ คลุมปากได้มิด รอดจากปากแห้งแน่นอน แพคเกจใช้งานง่าย มีพวงกุญแจโดราเอมอนแถมมาให้ด้วยแบบน่ารักๆ ราคาก็ประทับใจค่ะ
หาซื้อง่ายด้วย ตามร้านขายยา drug store boots watsonทั่วไปเลยค่ะ
ราคา:
ซื้อต่อมั้ย: แน่นอนจ้า
Vaseline
ดาว 4.5 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดกระปุก ของ vaseline มี 3 กลิ่นด้วยกัน คือสีชมพู กลิ่นเบอรี่หน่อยๆ สีขาวแบบธรรมดาอันนึง และสีขาวอีกอันน่าจะเป็นรส butter? ข้อเสียคือต้องใช้นิ้วทา แต่ข้อดีคือให้ความชุ่มชื้นแบบประทับใจ และอยู่ได้นานมากกก ส่วนตัวประทับใจสีชมพูมาก หอมและชุ่มชื้น ทาทุกวันในห้องเรียนค่ะ แอบมีสีนิดๆด้วยนะที่จริง แต่ขอนับเป็นลิปมันธรรมดา สีขาวอีก 2 อันยังไมไ่ด้ลองใช้แบบจริงจังค่ะ แต่ถ้าให้เทียบก็คือความชุ่มชื้นพอกัน แต่ต่างกันที่กลิ่นกับมีสี ไม่มีสี อันนี้เริ่มเห็นขายในไทยแล้วนะคะ ตรงโซนสยามร้อน ข้างหน้าเห็นชอบเอามาตั้งขาย ส่วนตัวซื้อตอนไปต่างประเทศค่ะ แบบตุนไว้เยอะมากเลย 555555
ราคา: ถ้าจำไม่ผิดคือ 3-5$ ประมาณ 100-150 บาท ค่า แต่ที่หิ้วเข้ามาขายไม่แน่ใจนะ
ซื้อต่อมั้ย: แน่นอนค่าา
Maybeline babylip
ดาว 3.5 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดแท่งของ Maybeline ตัวโด่งดังของเค้าเลยล่ะ มีหลายรสหลายกลิ่นมากๆ ซึ่งหลายๆรีวิวก็รีวิวไว้ว่าดีมากเช่นกัน สำหรับเราแล้วพอลองใช้ตอนแรกก็เกิดอาการแพ้อีกแล้วค่ะ! ปากพองไปวันกว่าๆ ทนทาไปเรื่อยๆ ก็หายอีกแล้ว 5555 แต่มันก็สร้าง bad impression ไว้พอตัว ซึ่งคุณภาพถ้าถามเรา ก็เลยกลายเป็นรู้สึกเฉยๆนะ รู้สึกว่าได้ทาลิปมันที่มีความชุ่มชื้น แต่ไม่ได้มากขนาดรักษาปาก (อีกแล้ว) ก็เลยเก็บไว้ทาระหว่างวันขำๆ ไว้แถวโต๊ะทำงานที่บ้านค่ะ
ราคา: ประมาณช่วง 100 ต้นๆค่ะ
ซื้อต่อมั้ย: คงไม่ละค้า
Kiehl Lip Balm
ดาว 4 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดหลอด เนื้อเจลเหลวๆ ลิปมันอันดับต้นๆของโลก ฮ่าๆ คุณภาพดีสมชื่อค่ะ ทาแล้วมันเว่อ จริงๆ แต่ไม่ชอบที่เวลาทาจะต้องมือเลอะ และเวลาทาจะเหลวๆ หน่อย หรือว่าเราเก็บไว้ในที่ร้อนก็ไม่รู้แฮะ ความชุ่มชื้นคือดีงามค่ะ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าปากจะหาย (อีกแล้ว) ปกติจะใช้ระหว่างวันค่ะ ให้รู้สึกได้ทาปาก ฮ่าๆๆๆ เทียบกับราคาแล้วก็ยังแพงนะ
ราคา: 300-400 บาท
ซื้อต่อมั้ย: ตอนนี้ไม่ค่า ใช้ไม่หมดเบยยยยย
Blistex
ดาว 3 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดแท่งอีกอันนึง เป็นยี่ห้อมาตรฐานโลก ที่เรามักจะเห็นกันได้บ่อยๆค่ะ ลองทาแล้วก็เป็นลิปมันระดับมาตรฐานเหมือนเดิมค่ะ ทาแล้วชุ่มชื้นแบบพอให้ปากอยู่รอดนั่นเอง 55555
ราคา: จำไม่ได้เบย
ซื้อต่อมั้ย: ไม่ค่า
Pharma Pure Maxi Lip
ดาว 4 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดแท่งอีกแล้วค่า อันนี้ได้มาจากร้านขายยาค่ะ อันนี้ทาแล้วความชุ่มชื้นมาเต็มค่ะ ปากหายแตก หายร่องจริงๆน้า ใช้ดีค่ะ แต่ข้อเสียคือถ้าอยู่ในอากาศร้อนมาก ลิปมันจะหักและละลายง่ายมากค่า เลยทำให้เวลาทาอาจจะลำบาก TT
ราคา: 135 มั้งน้า
ซื้อต่อมั้ย: ยังมีตุนอยู่ค่ะ
ลิปมันเภสัช
ดาว 4 ดาว
ความรู้สึก: เป็นลิปมันชนิดกระปุก แต่ทาแบบไม่ใช้มือได้ คือเอาขึ้นมาทากับปากแบบลิปมันแท่งได้เลยค่ะ อันนี้ซื้อเพราะเพื่อนแนะนำ บอกว่าถูกดี แล้วก็คุณภาพดีด้วย ราคาประทับใจมากจริงๆ คุณภาพเกินราคา ให้ความชุ่มชื้นดีและแอบมีสีนิดๆด้วยค่า
ราคา: ต่ำกว่า 20 บาท จำไม่ได้เท่าไร 555
ซื้อต่อมั้ย: ควรจะซื้อค่ะ แต่ตอนนี้ติดใจ maybeline มากๆเลย
[CR] [Review] มหากาพย์ Review ลิปมัน 10 กว่ายี่ห้อที่เคยใช้ !!
วันนี้อยากมา Review ลิปมันที่เคยผ่านศึกร่วมรบรอยแตกปากแห้งกันมาให้ชมค่า หลังจากที่สืบอ่านกระทู้คนอื่นมามั่ง วันนี้ขอเป็นคนแชร์อะไรบ้างละกันนน เพราะลองลิปมันมาเยอะพอตัวเลยค่ะ รูปที่ใช้บางส่วนถ่ายเอง บางส่วนหามาจาก google นะค้าา
ก่อนอื่นขอบอกก่อนว่าตัวเราเองเป็นคนปากแห้งมากเลยค่ะ ขาดลิปมันไม่ได้ ทาทั้งวัน ทาแล้วทาอีก บวกกับปัญหามีสิวด้วย ทายาแล้วหน้าแห้งก็พลอยจะปากแห้งไปด้วย บางช่วงที่เป็นสิวหนักๆ ก็ต้องตัดสินใจเลือกเลยว่าจะช่วยหน้าหรือจะช่วยปากก่อน 555555 เพราะเวลาทายาที่หน้าทีไร ผิวก็จะแห้ง พาปากแห้งแตกไปด้วยทุกที แต่พอไม่ทายาที หน้าก็แหก ส่วนปากก็จะดีขึ้นนิดนึง เอ่อ...เป็นการตัดสินใจที่ยากพอสมควรค่ะ แต่ก็มีเคล็ดลับรอดตายมาฝากกันนะค่ะ แต่ขอเริ่มที่ Review ก่อนเน้อออ
เราจะขอแบ่งประเภทลิปมันเป็น 2 ประเภท หลักๆนะคะ คือ แบบมีสี กับ ไม่มีสี ค่า
แบบที่ 1 แบบไม่มีสี
Nivea Lip Care
ดาว 5 ดาว
ความรู้สึก: เป็นลิปที่ดีงามมากกก ซื้อครั้งแรกตอนไปเกาหลี ตอนอากาศติดลบ ก็อย่างที่บอกว่าปกติเราเป็นคนปากแห้งอยู่แล้ว ยิ่งเจออากาศหนาวเข้าไปอีก อย่าเรียกว่าปากเลยดีกว่า TT โชคดีได้แวะเข้าไปเดินเล่นร้านอารมณ์ watson ที่นู่น (จำชื่อร้านไม่ได้ นานละ) ก็เลยคว้า Nivea ตัวนี้มา ใช้ทีเดียวเอาอยู่ ปากแตกแห้งแค่ไหนก็รอดค่า ชอบมาก เนื้อจะเป็นครีมๆเหลวๆ ไม่ใช่แบบแท่ง แต่มาเป็นหน้าตาแบบหลอด ทาแล้วรู้สึกเย็นๆ รสชาดประหลาดนิดหน่อย พอถูไถ แต่คุณภาพบดบังรสชาดประหลาดได้มิดมาก ชอบมากจริงๆ ชุ่มชื้นนานด้วย แต่หาไม่เจอในไทย ตอนนั้นเสียใจมากที่ไม่ซื้อมาเพิ่ม YY ล่าสุดไปเจอที่สนามบินประเทศ สเปน ค่ะ เลยเหมามา 3 อันเลยย
ราคา: 200-300 บาท
ซื้อต่อมั้ย: แน่นอนค่ะ ถ้าหาเจอนะ
Nivea
ดาว 3 ดาว
ความรู้สึก: คุณภาพสู้อันบนไม่ได้ค่ะ อันนี้มาในรูปแบบแท่ง หาได้ในประเทศไทยตามร้านค้าทั่วไป ซุปเปอร์ ร้านขายยาน่าจะมีหมดนะ ซื้อตอนที่ลิปมันหมดบ้าน ใช้ไปแล้วให้ความชุ่มชื้นได้ในระดับนึง แต่ไม่ถึงกับทำให้ปากหายแห้งเป็นปลิดทิ้งได้ แบบตัวบนค่ะ พอถูไถหากขาดแคลนค่ะตัวนี้ แต่ถ้ารักษาปากจริงๆ ขอยกนิ้วให้ตัวบนเลย
ราคา: น่าจะประมาณ 150-250 บาท นะคะ จำไม่ค่อยได้ซื้อนานมากแล้ว
ซื้อต่อมั้ย: ไม่ซื้อค่า ยกเว้นว่าฉุกเฉินนะ
Burt Bee
ดาว 3 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดแท่ง มีหลายสี แต่ละสีจะมีคุณสมบัติแตกต่างกันออกไปค่ะ อันนี้เป็นตัวที่เห็นว่าหลายคนรีวิวไว้ว่าดีมาก แต่พอเราใช้เข้าจริงๆ สำหรับเราก็เฉยๆค่ะ จริงๆแล้วแต่สีด้วย ชอบที่สุดยกให้เป็นสีม่วง คิดว่าให้ความชุ่มชื้นดีที่สุดแล้ว ถ้าจะให้ซื้อต่อก็จะซื้อสีม่วงเท่านั้นค่ะ จริงๆส่วนตัวเป็นคนชอบรสมิ้นท์ ชอบความเย็นซาบซ่า แต่ปรากฏว่าทารสมิ้นเข้าไปแล้วเงิบแปป TT แพ้ค่ะ! ปากพองเฉยเลย แต่ก็ยังสู้ต่อ ทาต่อไปนะคะ แล้วเหมือนร่างกายก็น่าจะเริ่มคุ้นชินกลายเป็นหายซะงั้น 55555 ส่วนสีอื่นๆ เช่น สีชมพู และสีเหลืองรสมะม่วง ก็เฉยๆ ค่ะ ทาแล้วให้ความรู้สึกชุ่มชื้นแบบได้ทา แต่ไม่ได้ช่วยรักษาให้ปากแห้งหรือหายเป็นปลิดทิ้งได้ค่า
ราคา: 10กว่า$ เพราะตอนนั้นซื้อมาเป็นแพคแบบจะใช้ทั้งบ้านแต่สุดท้ายใช้คนเดียวค่ะ
ซื้อต่อมั้ย: ไม่ซื้อค่า
EOS
ดาว 4 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดแท่งที่มาในหน้าตารูปทรงไข่ สีสันสดใส หลายกลิ่น น่ารัก อันนี้ชอบมากค่ะ เพราะลักษณะมันทาง่าย ทาทีเดียวได้หมดปาก 555555 สะดวกดี เรื่องความชุ่มชื้นให้ได้พอสมควร ทาแล้วรู้สึกได้ทา มีความชุ่มชื้นในปาก แต่ก็เหมือนเดิม ไม่สามารถรักษาปากได้ขนาดนั้น แค่ไม่ทำให้แย่ลงก็พอ ช่วงแรกๆที่ได้มาเห่อมากค่ะ เพื่อนซื้อมาฝากจาก US ใช้หมดไวมากก แต่ชอบเพราะทาง่ายดี เลยไปกวาดซื้อเองมาทุกรสเลย ไม่รู้ว่าครบรึเปล่าแต่ได้ลองมา 4 สีค่ะ ฮ่าๆๆๆ ชอบที่สุดคงเป็นสีฟ้า เพราะเป็นรสมิ้นเย็นๆ ทาแล้วสดชื่นนน สถานะตอนนี้คือใช้หมดแล้ว อีกสีที่ชอบคือสีเขียวรสเมลอนค่ะ ชอบเมลอนเป็นการส่วนตัว ส่วนสีแดงเป็นซัมเมอฟรุตกลิ่นหอมเหมือนกัน และสีฟ้าเข้มจะเป็นสีออกเบอรี่หน่อยๆค่า คุณสมบัติแต่ละสีเท่าที่ลองไม่น่าจะต่างกันนะคะ ต่างกันแค่กลิ่นกับรสชาด สรุปว่าคุณสมบัติของ EOS เป็นมาตรฐานลิปมันทั่วไป ที่เพิ่มความพิเศษตรงรูปร่างหน้าตา ทีทำให้ทาง่ายค่ะ
ราคา: 4-5$ ประมาณ 150-200 บาท
ซื้อต่อมั้ย: ยังไม่แน่ใจเพราะเหลือเยอะมากเลยค่ะ
Doraemon
ดาว 4.5 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดแท่งอีกหนึ่งอัน อันนี้ซื้อตามรีวิวในนี้นี่แหละค่ะ เห็นคนแนะนำว่าดี ก็เลยไปซื้อตาม ปรากฏว่าดีจริงๆ ให้ความชุ่มชื้นมากเป็นพิเศษแบบนี้ปลาบปลื้มค่ะ ทาแล้วจะรู้สึกว่าปากมันมากก แต่อีกใจนึงก็คือ เออชุ่มดีว่ะ คลุมปากได้มิด รอดจากปากแห้งแน่นอน แพคเกจใช้งานง่าย มีพวงกุญแจโดราเอมอนแถมมาให้ด้วยแบบน่ารักๆ ราคาก็ประทับใจค่ะ
ราคา:
ซื้อต่อมั้ย: แน่นอนจ้า
Vaseline
ดาว 4.5 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดกระปุก ของ vaseline มี 3 กลิ่นด้วยกัน คือสีชมพู กลิ่นเบอรี่หน่อยๆ สีขาวแบบธรรมดาอันนึง และสีขาวอีกอันน่าจะเป็นรส butter? ข้อเสียคือต้องใช้นิ้วทา แต่ข้อดีคือให้ความชุ่มชื้นแบบประทับใจ และอยู่ได้นานมากกก ส่วนตัวประทับใจสีชมพูมาก หอมและชุ่มชื้น ทาทุกวันในห้องเรียนค่ะ แอบมีสีนิดๆด้วยนะที่จริง แต่ขอนับเป็นลิปมันธรรมดา สีขาวอีก 2 อันยังไมไ่ด้ลองใช้แบบจริงจังค่ะ แต่ถ้าให้เทียบก็คือความชุ่มชื้นพอกัน แต่ต่างกันที่กลิ่นกับมีสี ไม่มีสี อันนี้เริ่มเห็นขายในไทยแล้วนะคะ ตรงโซนสยามร้อน ข้างหน้าเห็นชอบเอามาตั้งขาย ส่วนตัวซื้อตอนไปต่างประเทศค่ะ แบบตุนไว้เยอะมากเลย 555555
ราคา: ถ้าจำไม่ผิดคือ 3-5$ ประมาณ 100-150 บาท ค่า แต่ที่หิ้วเข้ามาขายไม่แน่ใจนะ
ซื้อต่อมั้ย: แน่นอนค่าา
Maybeline babylip
ดาว 3.5 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดแท่งของ Maybeline ตัวโด่งดังของเค้าเลยล่ะ มีหลายรสหลายกลิ่นมากๆ ซึ่งหลายๆรีวิวก็รีวิวไว้ว่าดีมากเช่นกัน สำหรับเราแล้วพอลองใช้ตอนแรกก็เกิดอาการแพ้อีกแล้วค่ะ! ปากพองไปวันกว่าๆ ทนทาไปเรื่อยๆ ก็หายอีกแล้ว 5555 แต่มันก็สร้าง bad impression ไว้พอตัว ซึ่งคุณภาพถ้าถามเรา ก็เลยกลายเป็นรู้สึกเฉยๆนะ รู้สึกว่าได้ทาลิปมันที่มีความชุ่มชื้น แต่ไม่ได้มากขนาดรักษาปาก (อีกแล้ว) ก็เลยเก็บไว้ทาระหว่างวันขำๆ ไว้แถวโต๊ะทำงานที่บ้านค่ะ
ราคา: ประมาณช่วง 100 ต้นๆค่ะ
ซื้อต่อมั้ย: คงไม่ละค้า
Kiehl Lip Balm
ดาว 4 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดหลอด เนื้อเจลเหลวๆ ลิปมันอันดับต้นๆของโลก ฮ่าๆ คุณภาพดีสมชื่อค่ะ ทาแล้วมันเว่อ จริงๆ แต่ไม่ชอบที่เวลาทาจะต้องมือเลอะ และเวลาทาจะเหลวๆ หน่อย หรือว่าเราเก็บไว้ในที่ร้อนก็ไม่รู้แฮะ ความชุ่มชื้นคือดีงามค่ะ แต่ไม่ได้รู้สึกว่าปากจะหาย (อีกแล้ว) ปกติจะใช้ระหว่างวันค่ะ ให้รู้สึกได้ทาปาก ฮ่าๆๆๆ เทียบกับราคาแล้วก็ยังแพงนะ
ราคา: 300-400 บาท
ซื้อต่อมั้ย: ตอนนี้ไม่ค่า ใช้ไม่หมดเบยยยยย
Blistex
ดาว 3 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดแท่งอีกอันนึง เป็นยี่ห้อมาตรฐานโลก ที่เรามักจะเห็นกันได้บ่อยๆค่ะ ลองทาแล้วก็เป็นลิปมันระดับมาตรฐานเหมือนเดิมค่ะ ทาแล้วชุ่มชื้นแบบพอให้ปากอยู่รอดนั่นเอง 55555
ราคา: จำไม่ได้เบย
ซื้อต่อมั้ย: ไม่ค่า
Pharma Pure Maxi Lip
ดาว 4 ดาว
ความรู้สึก: ลิปมันชนิดแท่งอีกแล้วค่า อันนี้ได้มาจากร้านขายยาค่ะ อันนี้ทาแล้วความชุ่มชื้นมาเต็มค่ะ ปากหายแตก หายร่องจริงๆน้า ใช้ดีค่ะ แต่ข้อเสียคือถ้าอยู่ในอากาศร้อนมาก ลิปมันจะหักและละลายง่ายมากค่า เลยทำให้เวลาทาอาจจะลำบาก TT
ราคา: 135 มั้งน้า
ซื้อต่อมั้ย: ยังมีตุนอยู่ค่ะ
ลิปมันเภสัช
ดาว 4 ดาว
ความรู้สึก: เป็นลิปมันชนิดกระปุก แต่ทาแบบไม่ใช้มือได้ คือเอาขึ้นมาทากับปากแบบลิปมันแท่งได้เลยค่ะ อันนี้ซื้อเพราะเพื่อนแนะนำ บอกว่าถูกดี แล้วก็คุณภาพดีด้วย ราคาประทับใจมากจริงๆ คุณภาพเกินราคา ให้ความชุ่มชื้นดีและแอบมีสีนิดๆด้วยค่า
ราคา: ต่ำกว่า 20 บาท จำไม่ได้เท่าไร 555
ซื้อต่อมั้ย: ควรจะซื้อค่ะ แต่ตอนนี้ติดใจ maybeline มากๆเลย