เรื่องผีมันไม่ได้เวอร์ขนาดนั้นนน (จากคนเคยโดนผีครอบและเข้าโรงบาลบ้ามาแล้วจะเล่าให้ฟังมั่ง)

เวลาอ่านเรื่องผีเวอร์ๆ แล้วเราก็จะแบบ แอบจิ๊จ๊ะในใจ ว่า เฮ้ย คิดไปเองป่าว
(เดี๋ยวจะตามมาด้วยคำตอบว่า ไม่เจอไม่รู้หรอก ก็เลยจะมาเล่ามั่ง)

อ่านมาส่วนใหญ่ต้องเจอผีกันตอนนอน ตอนเคลิ้ม
คือเราว่าอาจจะเป็นอาการทางการนอนหลับ
ขยับไม่ได้และยังฝันอยู่แต่มันเสมือนจริงมากๆ จนนึกว่าตื่นแล้ว
ทีนี้ก็เกิดการกลัวและปรุงแต่ง กลายเป็นผีตามจินตนาการตัวเอง
สังเกตดูก็จะพลอตเดิมๆ เนี่ยแหละ คล้ายหนังบ้างไรบ้าง
และก็หายากมากกับเรื่องผีที่เจอตอนตื่นแบบเต็มๆ


เราว่า คนที่เชื่อเรื่องผีมากเกินไป ว่าผีตาม มีผีจะมาทำร้าย นี่อันตรายกับตัวเองนะคะ
เพราเราเคยเป็นมาก่อน มีผู้ใหญ่ท่านหนึ่งทักว่าเราผีเข้า เขาเห็น
เพราะอาการเรานี่ไม่ปกติเลย
และสุดท้ายสุดเราก็ถูกจับส่งโรงพยาบาลบ้า
หมอว่าเราเป็นสารสื่อประสาทในสมองแปรปรวน

สรุปเราก็ไม่รู้นะคะว่าที่เราเป็นบ้าไปหรือจู่ๆ ก็หลอนเรื่องผี สาเหตุเกิดจากอะไรกันแน่ ข้อสัญนิษฐานของคนอื่นก็คือ
1. ผีเข้า พอดีเรากำลังเริ่มศึกษาธรรมและจะวิปัสสนา ทำได้ไม่ถึงอาทิตย์เองก็มีอาการผิดปกติ
ผีมันคือมารมาขวางเราเอาไว้เวลาที่เราจะไปทางดี (เค้าว่างี้นะคะ)
2. เราพักผ่อนไม่พอ ไม่ได้นอนมาประมาณ อาทิตย์นึง จนสมองหลั่งสารเคมีผิดปกติไปหมด

อาการก็หนักเอาการล่ะถึงขั้นไปเสียสติที่วัด ท่องคาถาพึมพัม สุดท้ายก็ถูกจับเข้าโรงพยาบาลประสาท
ถูกมัดมือมัดเท้าติดกับเตียง ไม่ได้สติเป็นพักๆ บางครั้งตาลอย อยู่ไม่สุข วิ่งกระโดดรั้วออกนอกบ้าน
คืออาการไม่ปกติ หูแว่ว ได้กลิ่นแปลกๆ ประหลาด กลิ่นศพ กลิ่นยาเส้น
จนเห็นผี (น่าจะปลอม หรือจริงไม่รู้ ก็น่ากลัวอยู่นะคะ เห็นตอนตื่นกลางวันแสกๆ นี่ล่ะ)
หลอนมากอ่ะ ที่หลอนสุดคือเสียงแว่ว
เสียงแว่วนี่มันน่ากลัวมาก ทำนองว่าสั่งให้เราไปตาย ให้ฆ่าตัวตายซะ
ให้วิ่งหนีออกนอกถนนไปไกลๆ เราเองก็รู้สึกไม่ปลอดภัย รู้สึกว่าถูกติดตามตลอดเวลาและไม่เป็นตัวของตัวเอง
ที่บ้านนี่ต้องเก็บของมีคมออกหมด รวมทั้งถิดกลอนห้องนอนด้วยเพราะกลัวว่าเราจะไม่ได้สติและทำอะไรบ้าๆ

ถ้าเราเชื่อเสียงแว่วนั้น แล้วเอาไปปรุงแต่งว่ามีผี มีเทพ อะไร เราคงตายไปนานแล้ว
เพราะเราแว่วเป็นแนวผีๆ ทั้งนั้นเลย เช่น แว่วว่าหิว อยากกินข้าวต้มมัด เอาออกมาให้กินหน่อย
เราก็โง่เชื่ออีกอ่ะ ก็โยนไว้ใต้ต้นหมายให้ผีมากิน ฮ่าๆๆ แว่วเยอะมาก มาด่าก็มี กูจะฆ่าเมิงงงงงงงง
มาไล่ให้ไปตายก็บ่อยไล่ให้ไปโดดน้ำบ่อก็มี เสียงเดิน เสียงมาคุย
แว่วว่าพ่อเป็นเทพนะมาช่วย บ้าบอไรมีหม๊ดดดดดด แบบคุยโต้ตอบกันได้ด้วย
คือแรกๆ เราก็เฮ้ยยย รู้สึกแบบ เจนสัมผัสได้ค่ะ ตัวละครเยอะมาก
บ้าไปกับมันพักนึง ประมาณอาทิตย์นึง นานอยู่นะ ฮ่าๆๆๆ หลังๆ เริ่มไม่ใช่แล้วอ่ะ นี่คิดไปเอง
ผีอะไร เทพอะไร บ้า
เราว่าสมองเรามันปรุงแต่งไปเองอ่ะ
แต่ตอนที่เป็นใหม่ๆ เราแทบเป็นบ้าเสียสติไปจริงๆ เพราะเหนื่อยมากกับการได้ยินเสียงแว่วอะไรพวกนี้
เหนื่อยและเบลอมากเป็นเดือนๆ เหมือนตกอยู่ในวังวนที่น่ากลัวและหวาดระแวงตลอดเวลา
แม่เราก็ต้องหยุดงาน ญาติๆ ก็ต้องมานอนเฝ้า ซึ้งเลยอ่ะ
ดีที่เรายังไม่ทำงานและเหลือแค่เขียนเล่มวิทยานิพนธ์ เลยพักอยู่บ้านได้
แต่เราก็ไม่ได้เล่ารายละเอียดอะไรให้ที่บ้านฟังมาก เพราะกลัวถูกฉีดยา จับช็อตไฟฟ้าที่โรงบาลไรงี้
เลยเก็บงำเรื่องจินตนาการล้ำเลิศนี้เอาไว้คนเดียว

ส่วนวิธีรักษา เรารักษาทั้งทางวิทยาศาสตร์  คือกินยา แรกๆ ก็มีแอบคายทิ้ง เพราะก็ได้ยินเสียงกระซิบอีกแหละว่าเป็นยาพิษ
แต่เราก็ไม่ได้โง่นะ ก็เปิดกูเกิ้ลดูว่ามันคือยาอะไร มันก็คือยารักษาประสาทนั่นแหละ
อีกทางก็ ญาติๆ พาไปรดน้ำมนต์ รอบแรกไม่หาย ไปรอบสองอีก ไม่หาย รอบสามอาบทั้งตัว เราก้ไม่ค่อยเชื่อนะว่ามันจะช่วย
แล้วก็ใช้วิธีวิปัสสนา ใส่บาตรพระขอพรยะถา อุทิศส่วนกุศลให้เจ้ากรรมนายเวร อันนี้เราว่าน่าจะดีกว่าน้ำมนต์
ตอนนี้ก็ต้องกินยาต่อเนื่อง จะครบปีแล้วค่ะ

ที่เขียนมานี่อยากจะบอกว่ายิ่งเราคิดว่ามีผีจริงๆ มันจะเอาเราไปอยู่ด้วย
เป็นความคิดที่ทำร้ายตัวเองมากๆ เลยค่ะ
ยิ่งคนจิตอ่อนๆ เราเคยได้ยินมาหลายคนเลยว่าเชื่อภาพหลอนของตัวเอง เชื่อเสียงแว่ว
แล้วก็เตลิดสติแตกไปเลย ฆ่าตัวตายก็มี
บางคนก็มโนเก่งมาก ย้อนไปอดีตชาติ คิดว่าตัวเองเป็นเทพเก่า สามารถสื่อสารกับวิญญาณได้
สื่อสารกับพระเจ้าองค์นู้นองค์นี้ได้ เราว่า คิดกันไปเองอ่ะค่ะ (ขอให้ความเห็นตรงๆ แต่คนชอบนะ เรื่องแบบนี้)
อย่างคนที่นั่งสมาธิแล้วเห็นภาพหลอนแล้วเอามาปรุงแต่ง เป็นเรื่องราวก็มีเหมือนกัน

อยากให้คนที่เคยเป็นแบบเราหรือยังเป็นอยู่ ลองไปปรึกษาแพทย์ก็ดีนะคะ
มันไม่ได้น่าอายอะไรเลย
ตอนนี้อาการเราก็เป็นปกติแล้ว มีเสียงแว่วเล็กน้อย น่าจะตกค้างมาจากช่วงที่เป็นหนักๆ
พอได้ยินเสียงแว่ว เราก็จะไม่สนใจ
ควรนอนหลับพักผ่อนให้เพียงพอ อย่าคิดมาก เพราะความคิดฆ่าเราได้เลยนะ

ถ้าถามว่าเราเชื่อเรื่องผีมั้ย ก็เชื่อนะคะ
ก็คือผีเปรตอ่ะ ตายแล้วยังหวงของหวงที่อยู่ไม่ได้ไปเกิดเป้นอย่างอื่นแต่เกิดเป็นผีเปรต
แต่หลังจากเหตุการณ์ที่เราเจอ ถ้าเราจิตใจเข้มแข็งก็จะผ่านมันไปได้
(แต่ทุกวันนี้ถ้าคิดมากก็ วิ่งหนีอยู่นะคะ ก๊ากกก)


ส่วนคนที่ชอบอ่านเรื่องผีต่างๆ อ่านเอาสนุกเหมือนดูหนังก็พอแล้วค่ะ
อย่าไปเชื่ออะไรมาก เพราะเวลาคุณจิตอ่อน จิตมันจะโยงข้อมูลเก่าๆ ที่เราเคยอ่านเคยดูนี่ล่ะ
มาปรุงแต่ง ให้เห็นภาพมั่ง เห็นอะไรมั่ง ได้ยินเสียงมั่ง
แต่ถ้าเห็นจังๆ บอกเค้าไปเลยว่า อยู่ดีมีสุขนะ อวยพรให้เค้าไปเลย

จบและ อาจจะไม่ถูกใจเท่าไหร่ เพราะเล่าเรื่องผีน้อยไปหน่อย อิอิ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่