เราเจอมอสโควครั้งแรกตอนที่แม่ของเค้าโดนรถชนตอนท้องแก่แล้วไปคลอดในท่อระบายน้ำ
มอสโควเป็นหมาที่ไม่ค่อยแข็งแรง ด้วยความที่สถานที่เกิดมีเชื้อโรคเยอะ และเค้าไม่เคยได้กินนมแม่ (แม่ของเค้าบาดเจ็บต้องให้ยาทำให้ร่างกายไม่เหมาะจะให้นม)





แม่ของเค้าขาหักและต้องได้รับการผ่าตัด เรากับแฟนรวมถึงเพื่อนๆ ช่วยค่ารักษาเค้าเป็นจำนวนเงินกว่า 40,000 บาท

พี่น้องของมอสโควเสียชีวิตหลังจากนั้นประมาณ หนึ่งเดือน ด้วยอาการไข้ขึ้นสูง เหลือแต่มอสโควตัวเดียวซึ่งดูแข็งแรง

ต่อจากนั้นอีกสองอาทิตย์เราพบว่ามอสโควป่วยเป็นโรคปอดอักเสบ เค้าจะหายใจรับออกซิเจนได้ไม่เพียงพอของร่างกายเพราะเกิดน้ำขึ้นในปอด ต้องกินและฉีดยาขับน้ำ รวมถึงยาฆ่าเชื้อ ด้วยความที่เหลือเค้าอยู่ตัวเดียวเราจึงดูแลเป็นพิเศษ ดูแลแบบที่เหมือนเป็นลูกที่ไม่ใช่เป็นสัตว์เลี้ยง เลยพาไปรักษาที่โรงพยาบาลสัตว์บางนา ค่ารักษาตอนนั้นครั้งละประมาณ 2,000-3,000 บาทต่อครั้ง และต้องเข้าโรงพยาบาลแบบนี้แทบทุกอาทิตย์



หมอประเมินการรักษาตามอาการและพยายามตรวจหาสาเหตุอื่น แต่ไม่พบ มอสโควอาการคงที่แบบนี้ มีแย่ลงบ้างบางครั้งที่เค้าต้องไปให้ออกซิเจนและนอนดูอาการที่โรงพยาบาล ค่ารักษาจะพุ่งสูงขึ้นอีกเนื่องจากค่าอุปกรณ์และค่าดูแล ประมาณ 5,000-6,000 ต่อครั้ง ซึ่งเป็นแบบนี้อยู่สามครั้งเลยทีเดียว

สองเดือนต่อมา เราตรวจพบโรคใหม่อีกครั้งหนึ่ง มอสโควป่ายเป็นโรคไส้เลื่อนกระบังลม คำอธิบายเกี่ยวกับโรคนี้คือ กระบังลมเป็นส่วนที่กั้นอวัยวะภายในช่องท้องกับช่องอก เมื่อมันเกิดรอยฉีกขาด ทำให้กระเพาะไหลขึ้นมากดปอดเอาไว้ทำให้หายใจลำบาก หัวใจเองก็โดนแรงดันผลักไปให้อยู่ผิดที่ มอสโควจำเป็นต้องได้รับการผ่าตัด เราสู้ค่าใช้จ่ายที่โรงพยาบาลบางนาไม่ไหว เลยย้ายไปผ่าที่โรงพยาบาลสัตว์สุวรณชาติ ซึ่งถือว่าเป็นโรงพยาบาลที่มีคุณภาพ แต่ราคาถูกกว่า ค่าใช้จ่ายในการผ่า รวมค่ายาและค่ายา เป็นจำนวนเงิน 20,000 บาท






หมอบอกว่าอาจต้องนอนดูอาการต่อประมาณสองอาทิตย์ ค่าแอดมิดเพื่อรักษา ค่ายา รวมถึงค่าออกซิเจนของโรงพยาบาลสุวรรณชาติ ซึ่งถือว่าถูกมากแล้ว ยังเป็นเงินกว่าพันบาทต่อหนึ่งวัน นี่ยังไม่รวมค่าอุปกรณ์ตรวจอย่างการเอกซเรย์ อัลตราซาวด์ หรือแผ่นตรวจความเป็นกรด ด่างในเลือดซึ่งต้องใช้เพื่อเช็คอาการหลายๆ ครั้งในหนึ่งอาทิตย์ เราจ่ายไปอีก 20,000 บาท อันนี้หลังจากจ่ายค่าผ่าตัดไปแล้ว



อาการล่าสุดคือ มอสโควต้องให้ออกซิเจนตลอดเวลา พร้อมทั้งยาฆ่าเชื้อ ยาแก้อักเสบ และยาละลายลิ่มเลือด หากว่าอาการของเค้าอยู่ในจุดที่ว่าไม่ไหวเราคงทำใจปล่อยเค้าไปสบาย หากแต่เมื่อมอสโควได้ออกซิเจน เค้าดูร่าเริงมาก เล่นและเข้ามาคลอเคลียโดยตลอด ซึ่งตอนนี้เป็นเวลาเกือบจะหนึ่งเดือนแล้ว เรายังมีค่ารักษาที่ยังไม่ได้จ่ายทางโรงพยาบาลอีก 10,000 บาท และเพิ่มขึ้นอีกวันละกว่าหนึ่งพันบาท เรากับแฟนสองคนหมดกับค่ารักษาพยาบาลของมอสโควไปเกินหนึ่งแสนบาทแล้ว แทบจะหมดตัว



เราแก้ปัญหาด้วยการปรึกษาหมอที่โรงพยาบาลอื่นหลายๆ โรงพยาบาล ทั้ง โรงพยาบาลสัตว์บางปะกอก โรงพยาบาลสัตว์บางนา โรงพยาบาลสัตว์เกษตร หมอทุกโรงพยาบาลแนะแนวทางการรักษาแบบเดียวกัน คือต้องให้ออกซิเจนเพื่อปรับสภาพปอดของเค้า ให้เค้าชินกับการที่มีปอดน้อยกว่าหมาปรกติ มอสโังต้องการค่ารักษาเพิ่มเรื่อยๆ

มีอยู่ครั้งหนึ่งที่รู้สึกท้อจนมองไม่เห็นความหวัง
มอสโควต้องอาศัยออกซิเจนที่เสียบเข้าไปในรูจมูกเพื่อใช้ในการหายใจโดยตลอด หากถอดออกเค้าจะเกิดอาการทุรนทุราย และจะตายในที่สุด เราทนรับสภาพแบบนี้ไม่ไหว เลยมาคุยกับหมอ คิดว่าจะปล่อยให้เค้าไป
หมอทำหน้าโมโหแล้วพูดด้วยน้ำเสียงแรงๆ กลับมาว่า “หมอไม่ทำ” เมื่อเดินไปดูกรงที่อยู่ของมอสโคว คือเค้ายังร่าเริงอยู่ได้ กินเองได้ ขับถ่ายได้ ติดก็เพียงแต่ปอดเค้ายังทำงานได้ไม่ดีเพียงพอจะเอาอากาศไปฟอกของเสียออกจากเลือดก็เท่านั้น
เมื่อเปิดกรงออก รู้สึกได้ว่าคิดถึงเรา เค้าเดินเข้ามาหาแล้วเอาหน้ามาถูมือเราตลอด

ฆ่าเค้าไม่ลง

ตัดสินใจ ณ วินาทีนั้นว่าเอาให้สุด



เราเลยตัดสินใจทำกระทู้นี้ขึ้นมาเพื่อระดมทุนเป็นค่ารักษามอสโคว โดยตั้งเงื่อนไขว่าค่าใช้จ่ายที่ผ่านมาจะไม่เอามาคิดรวม แต่จะเอาไว้ใช้ในการรักษาต่อไป ไม่ว่าจะในกรณีค่ายา หรือค่าตรวจต่างๆ ส่วนหากมีเหลือจากนั้นเราจะเอาไปทำบุญเพื่อช่วยเหลือสัตว์ป่วยตัวอื่นทั้งหมด     

โอนมาได้ที่ ธนาคารกสิกรไทย เลขที่บัญชี 764-2-21626-5 เกรียงศักดิ์ บึงสิริถาวร

กรุณาแนบใบเสร็จหรือแคปหน้าจอของการโอนมาให้ด้วย เราจะโชว์ทุกอันว่าเอาเงินไปใช้ในส่วนไหน อย่างไร ขอบคุณล่วงหน้าครับ