รีวิวหนังหายนะแห่งปี 2015 San Andreas มหาวินาศแผ่นดินแยก



หลังจากที่หนังเรื่อง 2012 วันสิ้นโลก ที่ฉายเมื่อปี 2009 ทำให้ผมคิดว่ามันคงเป็นจุดสูงสุดของหนังแนวนี้แล้วล่ะ แต่เหมือนว่าทางผู้สร้างก็ยังคงมีมุกแนวคิดสร้างหนังแนวนี้ตลอด เพราะเมื่อปีที่แล้วก็มีหนังภัยพิบัติอีก 2 เรื่องที่เข้าฉายก่อนหน้านี้อย่าง Pompeii และ Into the Storm และต่อมาในปี 2015 นี้ก็มีหนังภัยพิบัติฟอร์มใหญ่อย่าง San Andreas มหาวินาศแผ่นดินแยก ที่เพิ่งเข้าฉายเมื่อวันที่ 28 พ.ค. ที่ผ่านมา

- San Andreas เป็นชื่อรอยเลื่อนขนาดใหญ่ที่ยังมีพลังอยู่บริเวณทางตะวันตกของประเทศ สหรัฐอเมริกา พาดผ่านรัฐแคลิฟอร์เนีย ตั้งซานดิเอโก ลอสแองเจอลิส จนถึง ซานฟรานซิสโก  หนังเปิดเรื่องด้วยเหตุการณ์ระทึกเล็กๆ ที่เผยตัวละครหลักของเรื่องอย่าง เรย์ (เดอะร็อค) หัวหน้าชุดหน่วยกู้ภัยและตัวละครอื่นๆ ซึ่งดูกระชับไม่ยืดยาวจนเกินไป หนังเผยเห็นปมหลักของตัวละคร เรย์ กับ เอมม่า(คูจิโน่) ที่มีความทรงจำอันเจ็บปวดในอดีต

- ฉากแผ่นดินไหว สำหรับคนที่ชอบแนวเอฟเฟคอลังการ ผมบอกเลยว่า ไม่ผิดหวังจริงๆ เพราะแต่ละฉากทำได้สมจริงและดูน่ากลัว  มันให้ผมคิดว่าเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นในหนังนั้น  สามารถเกิดขึ้นจริงได้ในอนาคต  ในหนังตัวละคร เรย์ หลังจากช่วย เอมม่าที่ประสบเหตุแผ่นดินไหวครั้งใหญ่ใน ลอสแองเจอลิส ทั้งคู่รู้ว่า ลูกสาวของพวกเขาก็กำลังเจอแผ่นดินไหวที่ ซานฟรานซิสโก เช่นกัน

- ในแง่วิทยาศาสตร์ หนังแนวภัยพิบัติทุกเรื่องมักจะมีความเป็นวิทยาศาสตร์เข้ามาเกี่ยวข้อง San Andreas ก็เช่นกัน ซึ่งการพูดถึงหลักวิทยาศาสตร์ของหนังเรื่องนี้ก็ไม่ได้ยัดเยียดจนเกินไป

- อารมณ์ดราม่า หนังมีอารมณ์ดราม่าเล็กในช่วงกลางเรื่องที่ เรย์ และ เอมม่า พูดถึงความผิดพลาดในอดีต ซึ่งในหนังก็ไม่ได้ดราม่าตลอดยังมีมุกตลกใส่เข้ามาให้พอ อมยิ้ม ได้บ้าง

- ฉากที่ประทับใจ ฉากที่ผมประทับใจคือ ฉากเรือหลายๆลำรวมถึง เรือของเรย์ กับ เอมม่า ที่กำลังขับฝ่าคลื่นยักษ์ที่กำลังซัดเข้ามา มันทำให้รู้สึกว่าทุกคนกำลังร่วมชะตาเดียวกัน

- ฉากการเอาตัวรอด ใน San Andreas เราไม่ได้เห็นแค่พระเอกที่ต้องเอาตัวรอดจากแผ่นดินไหว เราเห็นตัวละครทั้งหมดที่ต้องเจอกับภัยพิบัติร้ายแรง ตั้งแต่พระเอก ลูกพระเอก กลุ่มดอกเตอร์ จนถึงตัวละครชาวเมืองทั้งหมดที่ประสบกับหายนะ มันสะท้อนให้เห็นว่าตัวละครสามารถตายได้เสมอ ซึ่งในหนัง 2012 นั้นเจาะเฉพาะกลุ่มพระเอกอย่างเดียว  ใน San Andreas มีการสอดแทรกความรู้ในการเอาตัวรอดไว้ด้วย

สรุป เป็นหนังที่ให้ความบันเทิงอีกเรื่องหนึ่ง หากเป็นคอหนังแนวหายนะ ภัยพิบัติ ก็แนะนำครับ  
       คะแนน 8/10 เพราะบางฉากดูขัดตาเกิน บางฉากก็บังเอิญอย่างเหลือเชื่อ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่