#SEOULDEMACOMTRIP โซลเดย์มาคอมทริป ประกบการณ์เที่ยวเกาหลีชิคๆ 38 วัน

#SEOULDEMACOMTRIP โซลเดย์มาคอมทริป ประสบการณ์เที่ยวเกาหลีชิคๆ 38 วัน ภาค1!
ป.ล.เขียนชื่อกระทู้ผิดขออภัยด้วยค่ะอมยิ้ม02


ฝากติดตาม

ภาค 1! #SEOULDEMACOMTRIP โซลเดย์มาคอมทริป ประสบการณ์เที่ยวเกาหลีชิคๆ 38 วัน
http://ppantip.com/topic/33713980
ภาค 2! #SEOULDEMACOMTRIP โซลเดย์มาคอมทริป! ประสบการณ์เที่ยวเกาหลีชิคๆ 38 วัน ภาค2! โซลอินเลิฟฟฟ
http://ppantip.com/topic/33719178
ภาค 3! #SEOULDEMACOMTRIP โซลเดย์มาคอมทริป! ประสบการณ์เที่ยวเกาหลีชิคๆ 38 วัน ภาค3! โอ้ปป้าตัวจริง..หรอ!
http://ppantip.com/topic/33758704



สวัสดีค่ะ ขอแนะนำตัวอย่างสั้นๆนะคะ 555 จขกท.ชื่อ A นะคะ(นามสมมุติ)  
จุดประสงค์ที่เขียนกระทู้นี้เพราะเราซุ่มอ่านของคนอื่นมาเยอะแล้ว
อยากจะแชร์ประสบการณ์ทั้งหมดว่าทำอะไรลงไปบ้าง
แล้วก็เก็บเอาไว้กันลืมเพราะเมมมอรี่ในสมองมันไม่พอ T T
เผื่อจะมีประโยชน์ต่อผู้อ่านที่กำลังอยากมาเที่ยวเกาหลี
แล้วก็จะบอกถึงบุกคลิกกับนิสัยของคนเกาหลีทั่วไปที่เราได้ศึกษาวิจัยกันมา5555
ใช้ชีวิตยังไง ทำตัวยังไงไม่ให้หน้าแตก555555 และจะเขียนในสไตล์ของเรานะคะอมยิ้ม01
เราขอไม่เน้นการแนะนำทางหรือลายแทงอะไรนะคะ
เพราะนี่ก็ไปแบบการเดาเป็นเลิศลองผิดลองถูกเรื่องหลงทางนี่เป็นเรื่องปกติ5555
อาจจะมีการใช้ภาษาที่ไม่เหมาะสมบ้างเพราะมันจริงสุดและเพิ่มอรรถรสในการอ่าน
เขียนผิดเขียนถูกเขียนจนภาษาวิบัติบ้าง==
นี่เป็นการเขียนกระทู้แรกในชีวิตเลยคะผิดพลาดประการใดก็ขออภัยด้วยนะคะ
ชเวซงฮัมมีดาา~

สำหรับใครที่ต้องการเห็นโอ้ปป้าเยอะๆ คุณมาถูกทางแล้วค่ะ 555555
เราได้รวบรวมเก็บเกี่ยวรูปโอ้ปป้าทั้งหลายที่ผ่านมาในชีวิต อ๊ะ! เดินผ่านเฉยๆค่ะ 555555

เข้าเรื่องต่อเนอะ5555 ทริปนี้ไปกัน3คนคะ เพื่อนอีกสองคนชื่อ D กับ T (นามสมมุติ)
เป็นผู้หญิงทั้งหมดคะแต่ D ก็จะแมนกว่าปกติหน่อย เอาง่ายๆเป็นทอมอะแหละ55555
เราสามคนอายุ18ปี ที่มาอยู่น้านนนนานได้ขนาดนี้เพราะพ่อแม่ของ D มีคอนโดอยู่ที่นี่คะ
ซึ่งเรากับTก็ได้รับอนุญาตจากพ่อแม่เรียบร้อยแล้วค่ะ
และพวกเราก็ทำงานเก็บเงินกันหนักมากกกกก งกระดับฮาร์ดคอร์มากกกก5555
มีทำพาททามบ้างแต่ที่เก็บได้เพราะต่างคนต่างมีธุรกิจครอบครัว
ซึ่งค่าจ้างที่ได้ก็มาจากการช่วยงานพ่อแม่นั่นแหละ5555


- เราจะมาบอกถึงสกิลของแต่ละคนกัน 555

A - ภาษาอังกฤษได้สบายมาก อ่านเกาหลีได้แต่แปลไม่ได้(เพื่ออ?55555)
T - อังกฤษแบบงูๆปลาๆ เกาหลีแบบพอเอาตัวรอดได้
D - ภาษาอังกฤษแบบงูๆปลาๆสเนคฟิชๆๆสุดๆ เกาหลีนี่อย่าให้พูดนะเพี้ยนทุกคำ(ภาษาไทยดีที่สุด555)


แพลนการมาเที่ยวครั้งนี้คือ...วันแรกวันที่7 เมษา พักที่โซลคะ
ส่วนวันที่ 8-27 เมษา จะพักที่ Ulsan ซึ่งก็คือที่ๆคอนโดของแม่ D อยู่ค่ะ
หลังจากนั้นพอ 27 เมษา -15 พฤษภา ก็พากันย้ายถิ่นกลับไปพักที่โซลตลอดจนถึงวันกลับเลยคะ

Day1

เอาเพลงนี้ไปฟังด้วยแล้วกันเนอะ เพลงโปรดจขกท.เลย เพลงชื่อว่า Day1- K.will เพราะม๊ากกฟังแล้วอินสุดๆ MVเค้าก็น่ารักก


คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ



เล่าก่อนขึ้นเครื่องเลยนะคะ
ตอนนี้เรากับTกำลังจะรอเช็คอินตอนเที่ยงคืนเพราะเที่ยวบินออกตอนตี1.55
เราอยู่กันที่สนามบินดอนเมืองค่ะ บินตรงไม่มีจอดไม่มีแวะ แถมราคาประหยัด555
เราสองคนก็รอคุณ D กัน นางกำลังมา Tก็เลยโทรไปเร่งว่าอยู่ไหนแล้วอยู่เกทไหนทำไมหาไม่เจอ
พอต่างคนก็อยู่เกท3เหมือนกันทำไมมองหาไม่เจอซักที
เราเลยเลยถามคำถามที่ไม่อยากจะถาม...

เรา: ..D...ตอนนี้อยู่สนามบินอะไร
D: อยู่สุวรรณภูมิไง!
เรา:โอ้ยยยย!! *@!#W!TF#!!!....รีบซิ่งมาเลยด่วนนน!
แล้วเธอก็มาถึงสนามบินอย่างปลอดภัย หมดค่าแท็กซี่1000บาทค่าซิ่งจากสุวรรณภูมิไปดอนเมือง
เธอก็บ่นใหญ่ว่าเสียดายตังค่าแท็กซี่ แต่นี่บอกเลยถึงทันก็บุญละ5555
หลังจากเช็คอินครบทุกคนเราก็ขึ้นเครื่องแบบหิวโหยสุดๆพอจะเข้าไปหาอะไรกินข้างในก็ปิดหมดแล้ว
พอขึ้นเครื่องแล้วแอร์ก็มารับออเดอร์คะ เราก็ง่ายๆเลย มาม่าคัพนู้ดเดิ้ลกับโค้กกระป๋องนึง
เพราะสองอย่างนี้ก็120บาทแล้ว5555
ส่วนเพื่อนอีกสองคนก็สั่งข้าวกับน้ำเปล่า คนละ220บาทค่ะ
แต่ที่ตลกคือทีแรกเพื่อนสั่งข้าวกับหมูผัดซอสอะไรซักอย่างเนี่ยแหละ
แอร์เกาหลีก้เดินมาบอกว่า ........
'sorry sorry we don't have this one, would you like another one ? umm spicy very good!'

แอร์เชียร์เมนูข้าวอีกเมนูนึงนางบอกเผ็ดและอร่อยมาก
เชียร์ซะขนาดนี้เพื่อนก็โอเคคนมันหิวกินอะไรก็ได้ทั้งนั้นแหละ55555
เราก็รอไป5นาที แอร์เดินกลับมาอีก we are so sorry this one is also finish... หมดอีกแล้ววว!
อยากบอกแอร์ว่าหมดขนาดนี้เลิกขายเถอะครับ555555

ทีนี้นางก็เชียร์อีกเมนูนึงมีชัวๆนางเตรียมเวฟไว้ละ 55555
เพื่อนเราก็เอาอยู่แล้วหิวแบบกินช้างได้ตัวนึง5555...และเราสามคนก็อิ่มหนำสำราญนอนตีพุงหลับ
แบบคอหักปวดคอจนเครื่องลง....

(พาร์ทที่จะถึงนี้เกี่ยวกับตม.เกาหลีหวังว่าพาร์ทนี้จะมีประโยช์กับผู้อ่านนะคะ^^)

พอถึงตอนลงจากเครื่องสิ่งที่น่ากลัวที่สุดคือตม. บอกเลยว่าตอนอยู่บนเครื่องนี้เครียดมากกก
คือคิดไว้ตลอดทางว่าเราไม่สมควรมีความสุขต่อเมื่อยังไม่ผ่านตม.5555555555
เราก็เคยอ่านว่าให้ไปต่อแถวตม.ผู้ชายเพราะเค้าใจดี
แต่ทำไงได้อะเจ้าหน้าที่เค้าลากเราไปหาตม.ผู้หญิงอะ T^T ยิ่งเครียดหนัก
เราก็เดินแบบเกร็งสุดถึงจะเตรียมเอกสารมาเยอะก็เถอะแต่มันเสียวอะ55555
...ปรากฏว่าเค้ามองหน้าไม่ถงไม่ถามซ้ากกกคำ
ให้แสกนนิ้ว ถ่ายรูป แล้วก็ยื่นพาสปอร์ตให้!! จบ!! ในใจนี่ร้องฮู้เร่!!พลุนี่จุดปุ้งปั้งประกายอยู่ในหัว5555
เพื่อน D ผ่านก็ผ่านอีก!! .........แต่พลุก็ต้องดับเพราะ Tเพื่อนรักของข้าโดนกักตัวพาเข้าห้องเย็น
เราเลยให้ D ลงไปเอากระเป๋าข้างล่างรอ เราขอรอข้างบนเพราะเราพูดอังกฤษได้ รอประมาณ10นาที
เค้าก็พาคนไทยออกมากลุ่มนึงซึ่งนึงในนั้นมี T ด้วย!!
ใจแป้วมากนึกว่าจะพากลับประเทศแต่เค้าพาเข้าไปอีกห้องนึง
เราก็ตามไปเฝ้าหน้าห้องเลยเพราะเห็นบางคนก็ไปยืนรอเพื่อน
บางคนก็ยืนรอลูกทัวร์เค้าก็พากันยืนส่องๆมองๆมันมีประตู้กระจกกันอีกทีนึง
เราก็เลยเอามั่งไปเฝ้ากะเข้ามั่ง55555 จนมีตม.ผู้หญิงผมสั้นคนนึงเดินออกมากถามว่า
ตม. - who are you waiting for? are you leader tour? (ถามงี้หน้าเหมือนหัวหน้าทัวร์มากหรอ TT)
เรา - I'm waiting for my friend her name is ...ชื่อจริง
ตม. - your friend?
เรา - yes
แล้วนางก็เดินกลับเข้าไป2นาทีแล้วก้เดินออกมา
ตม. - ........ชื่อจริงเพื่อน... 's friend (นางเรียกให้แสดงตัวด่วน)
เราก้เสนอหน้าเข้าไปเลยค่าชั้นจะไปช่วยเพื่อนชั้นนนเค้าก้พาเราเข้าก้องเย็นไปด้วย
เข้าไปนี่ช็อคมากมีคนไทยเกิน50คนเพื่อนเราก็นั่งอยู่ขอบๆ
แล้วตม.ผู้ชายคนที่จะสัมภาษณ์ก้เรียกเพื่อนเราออกมาหาเรา
ทีนี้ตม.ก็พาเรากับTมานั่งโตะที่มีคอมพิวเตอร์แล้วก็ถามข้อมูลต่างๆ
เราก้อธิบายแพลนเที่ยวเราตามตวามจริงไปทั้งหมด คือตม.เป็นผู้ชายเกาหลีพูดภาษาอังกฤษนะคะ
คือเราก็ให้Tนั่งอยู่เฉยๆเดี๋ยวเราอธิบายเอง แล้วก็ยื่นเอกสารที่เตรียมไปหมดเลยบอกเลยว่าเป็นปึก!

เอกสารที่เตรียมไปก็มี:
-ใบจองโรงแรม
-ตั๋วเครื่องบินไป-กลับ
-บัตรนร.
-ประกันการเดินทาง2ล้าน(เราอยู่นานพ่อแม่เป็นห่วงเลยให้ทำ)
-เอกสารพ่อแม่ของDและที่อยู่ที่ Ulsan
-บัตรส่วนลดต่างๆไปเอามาจาก KTO (อันนี้เยอะมากเป็นเล่มๆ)
-แพลนเที่ยว,สถานที่เที่ยวที่จะไป

เพื่อนเราก้นั่งรอเก้าอี้ฝั่งตรงข้ามเค้าเพราะมันมีตัวเดียว
ส่วนเราก็นั่งเก้าอี้ข้างหลังเค้าก็รื้อเอกสารแล้วก็กวักมือเรียกเราเราก็เดินไปหา

ตม. - you and your friend work together?
เรา - no, we study together in college
ตม. - where is the other one ?(เค้าก็ถามหาDเพราะก่อนหน้านี้เราบอกเค้าว่ามา3คน)
เรา - she's downstairs getting the luggage
ตม. - Ahh~ luggage

ตม. - what is your plan in Korea?
เรา - Traveling (คือตอบสั้นมากกลัวพูดเยอะเค้าจะสงสัย555)
ตม. - Travel? Where?
เรา - We going to stay in Seoul one night then tomorrow we will go to Ulsan
        and come back to Seoul again on 27April........
ตม. - how many days in Korea?
เรา - 38 days (เรากลัวตรงนี้แหละแต่บอกๆไปความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย55555)
ตม - 38days!!! It's too long.. what do you do? Backpack?
        (แล้วเค้าก็ทำถ้าสะพายเป้555คือเค้าตกใจมากที่รู้ว่ามา38วัน)
เรา - I know.. I watch youtube and read blogs that do backpack travel and we want to do it too
แล้วนางก็ถามเกี่ยวกับข้อมูลของพ่อแม่เพื่อนที่อยู่อุลซานเราก็บอกว่าเค้ามาเมื่อสองวันก่อน
เค้าก็เช็คในคอมให้เราดูหน้าแล้วเราก็บอกว่าใช่คนนี้แหละ
เค้าก็เห็นว่ามาจริง แล้วเค้าก้ให้เรากลับไปนั่งที่เดิม
การสัมภาษณ์ครั้งนี้น่าจะใช้เวลาประมาณครึ่งชั่วโมงเราก็ตอบความจริงทุกอย่าง
เชื่อเถอะค่ะแค่พูดความจริงบริสุทธิ์ใจจริงๆมาแบบมีเจตนาดีไม่ทำผิดกฎหมายก็ผ่านค่ะ
ทางที่ดีควรมีเอกสารมาเป็นตัวยืนยันคำอธิบายด้วยยิ่งดี
เข้าเรื่องต่อนะคะ5555...เราก็รอไปสักพักเค้าก็เอาพาสปอร์ตแทนไปประทับตรา
แล้วก็ขอพาสปอร์ตเราไปก้อปปี้แล้วก็ให้แสกนนิ้วมือมองกล้อง
คือตอนนั้นรู้แล้วว่าผ่านแน่ๆแต่เก็บอาการนั่งหน้านิ่งๆกรี๊ดในใจอยู่ข้างหลัง5555
เสร็จแล้วนางก็มองหน้า เก็กหน้านิ่งๆผายมือออกไปตรงประตูแบบไม่พูดอะไร 55555
เราก็แบบเฮ้ยยดี๊ด๊าแต๊งกิ้วไปสามรอบถ้าไม่กลัวนี่จะวิ่งไปกระโดดกอดตม.คนนี้เลย5555

พอลงไปข้างล่างอยากจะตะโกนว่า
อันยองฮาเซโยโคเรียยย!!ให้ก้องสนามบินแต่กลัวตม.ด่าแล้วเรียกกลับเข้าไปอีก55555
จริงๆถือว่าโชคดีที่ได้ตม.คนนี้สัมภาษณ์ไม่รู้คนอื่นเป็นรึเปล่าแต่ตม.คนนี้เห็นหน้านิ่งๆ
เหมือนจะขรึมมากแต่จริงๆเค้ารับฟังเราหมดถ้าเรามีเจตนาดีแล้วบอกทุกอย่างตามความจริงเค้าก็เข้าใจนะ
(หวังว่าพาร์ทนี้จะช่วยให้คนที่กลุ้มเรื่องตม.เหมือนเราตอนแรก คลายกังวลได้บ้างนะคะ5555)

พอถึงเวลาที่จะต้องเดินทางไปในโซล หาป้ายอะไรก็ไม่เจอ เอาเข้าจริงๆไม่กล้าเข้าไปถามคนที่นี่ㅠㅠ
คืออ่านมาเยอะกลัวเค้าปฏิเสธโนๆส่ายหัวเดินหนีใส่เราแล้วจะหน้าแตกไง55555
เลยเดินกันแบบผิดถูกไม่เป็นไรคงไม่เสียหายหรอก5555
ที่พักเราคือ Inno Hostel Pub & Lounge อยู่ที่สถานี Hapjeong
เป็นสถานีที่อยู่ไกล้ Hongik Univ. หรือที่เรียกกันว่าฮงแด
ทีนี้เราก็นั่ง Express Train ของ Arex ไปลงสถานี Hongik Univ. แล้วต่อไป Hapjeong ออก Exit2
ซึ่งเป็นการนั่งรถไฟครั้งแรกที่เกาหลีแล้วดูสายอะไรไม่เป็นเลย
ซึ่งสายรถไฟที่นี่เยอะมากกกกกกพันกันเป็นสปาเก็ตตี้จนลายตาเลยฮะ
แต่จำได้แค่ว่าในรีวิวเที่ยวเกาหลีเค้าให้จำสีของสายนั้นๆ แต่ก็ยังงงอยู่ดี555555
คนที่นี่เดินกันเป็นงานเป็นการมากคือเอาซะไม่กล้าเข้าไปถามทาง
อยู่กัน3คนก็โบ้ยกันไปโบ้ยกันมาให้ไปถามคนอื่นไม่มีใครกล้าสักคน5555
เลยตัดสินใจลุยเดี่ยวเดินไปถามพนักงานในร้านกาแฟ เพราะคิดว่าเค้าคงไม่เดินหนีเราแน่5555

เรา: Excuse me?
พนักงานผู้ชายเดินมาตอบ : Yes, may I help you?
ตอนนี้นี่กรี๊ดในใจคือพนักงานน่ารักมากกก ดี๊ดีอะ
แต่ที่อยากกรี๊ดกว่าคือเค้าพูดอังกฤษได้!คือรอดแล้วค่ะจอร์จจจ
เรา: How can I go to Hapjeong station? (เขินนะแต่เก็บอาการ 55555)
พนักงาน: You have to go down and wait the train at the right side.
เรา: ok thank youuu^^. (คือที่ซ้อมมาอันยงอันยองคำซามีดานี่ลืมหมด)
พนักงาน : เน~ อันยอง^^
(ที่เค้าอันยองก้คงจะหมายถึงลาก่อนเพราะเหมือนจะใช้ได้2กรณี เราก็เลยอันยองตอบไป 55555)
ได้คำตอบแล้วก็เดินกลับไปหา DกับT แล้วก็เล่าให้ฟังบอกว่าพนักงานน่ารักมาก
T ก็บ่นใหญ่บอกนอยมากบอกว่าทำไมไม่ชวน5555 เราก็เอ้า555555ทีเมื่อกี้ยังโบ้ยกันอยู่เลย
แล้วเราก้ขึ้นรถไฟด้วยกระเป๋าลากใบยักษ์4ใบต่อ3คนคะ
ขอบอกทุกคนว่ารถไฟใต้ดินเกาหลีออกตัวแรงมากกกกเกือบจับกระเป๋าลากตัวเองไม่ทัน55555
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่