พอดีได้ไปเจอข่าวเรื่องการทวงเงินผู้ตัดสินฟุตบอลของบรรดาผู้ตัดสิน ที่บอกว่าค้างค่าตัดสินมา 2 ปี
https://twitter.com/Thaileaguemania/status/603236646708842496
“ชัยยะ มหาปราบ ร้อง ผู้ว่า กกท. ทวงเงิน ค้างผู้ตัดสินราวเกือบ 2 ปี”
twitter.com|โดย Thaileague mania
และคำชี้แจงของ เรื่องนี้คือhttp://m.siamsport.co.th/news/detail/278928
สรุปใจความสำคัญก็คือ เสธ.ตุ้ม" พลเอก ชินเสณ ทองโกมล ประมุขสิงห์เชิ้ตดำไทยแจงเหตุที่เงินล่าช้าเพราะตามเก็บเอกสารไม่ครบ โดยเฉพาะสำเนาบัตรประชาชนของผู้ตัดสินแต่ละคนที่ถือเป็นปัญหาใหญ่ ที่หากไม่ครบก็ไม่สามารถทำเรื่องเบิกจ่ายได้ตามกำหนด ย้ำชัดประเด็นที่ถูกร้องเรียนเรื่องการสั่งลงดาบตัวผู้ตัดสินที่เกิดขึ้นถือเป็นการฟันธงที่ถูกต้องแล้ว โดยเฉพาะกรณี ชัยยะ มหาปราบ และ สุชาติ ฝางมาลา ที่พลาดในเคสชี้ชะตาแชมป์ ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง แต่ถือเป็นการลงโทษตามรูปการณ์ เพราะหากไม่ผิดก็จะไม่โดนลงดาบแน่
ขณะเดียวกันสยามกีฬายังได้รับการเปิดเผยจากประธานคณะกรรมการผู้ตัดสิน "เสธ.ตุ้ม" พลเอก ชินเสณ ทองโกมล ถึงประเด็นที่ถูกพาดพิงเรื่องการตัดสินลงโทษแบนตัวผู้ตัดสินนั้นเกิดความไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตาม "เสธ.ตุ้ม" ได้ชี้แจงถึงข้อซักถามเรื่องดังกล่าวด้วยว่า
"การลงโทษแบนตัวผู้ตัดสินทุกครั้งที่เกิดขึ้นนั้นมาจากมติการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการผู้ตัดสินที่ได้มีการวิเคราะห์และดูเทปในแต่ละจังหวะปัญหาที่ถูกร้องเรียนเข้ามา ซึ่งแต่ละเคสที่ตัดสินก็ถือว่าถูกต้องและชัดเจนอยู่แล้ว ผมยกตัวอย่างเคสผิดพลาดของ ชัยยะ มหาปราบ ที่ถูกโทษแบน 1 ปีครึ่ง และ สุชาติ ฝางมาลา ที่โดนแบน 2 ปี จากการทำหน้าที่ในเกมชี้ขาดระหว่าง ชัยนาท ฮอร์นบิล พบ ชลบุรี เอฟซี ซึ่งคู่นี้ถือเป็นการลุ้นแชมป์ของชลบุรี และส่งผลเสียกับชลบุรีที่สุดท้ายก็พลาดแชมป์ เราไม่ได้ชี้นำว่าใครจะต้องเป็นแชมป์ แต่เหตุที่ผิดพลาดทำให้ทีมทีมหนึ่งเสียประโยชน์และส่งผลเสียถึงการเป็นแชมเปี้ยน ผลการตัดสินก็ได้ระบุและถูกเปิดเผยก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงท้ายฤดูกาลแล้วว่าจะต้องโดนลงโทษสถานหนัก ซึ่งเรื่องนี้ทุกคนก็รับทราบอยู่แล้ว และเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน แต่เกิดขึ้นกับคนที่ทำหน้าที่ผิดพลาดเท่านั้น"
ซึ่งอ.ชัยยะได้เข้ามาชี้แจงในเพจนี้ว่า
ชัยยะ มหาปราบ "ผมข้อเรียนชี้แจงบ้างนะครับ
1.เรื่องการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนปี 2555 และปี 2556 เป็นดังนี้ครับ
-ระเบียบการเบิกจ่ายเงิน กกท สมาคมต้องนำหลักฐานที่สมบูรณ์ ไปทำการเบิกจ่าย กับ กกท และในปีดังกล่าวพวกผมก็ดำเนินการเซ็นเอกสารส่งให้เรียบร้อย กกท ก็จ่ายเงินมาให้สมาคมเรียบร้อยตามเอกสารหลักฐานที่สมาคมให้ดู(ถาม ผอ.ทนุเกียรติ ก็ได้ครับเขารับผิดชอบเรื่องนี้)เงินงบประมาณประจำปีในทางราชการจะต้องเสร็จสิ้นในปีนั้นถ้าไม่จบเงินดังกล่าวจะต้องตกไปไม่สามารถนำมาใช้ได้ แสดงว่าเบิกจ่ายจาก กกท เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ถึงมือ ผู้ตัดสิน จนเวลาผ่านมา 3 ปี
2.เรื่องการพิจารณาโทษ
-ผมทราบว่าแมทที่ผมทำหน้าที่ ชัยนาท พบ ชลบุรี เป็นแมทสำคัญและได้พยายามปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องและเป็นธรรมตามกติกาและเเนวปฏิบัติเป็นอย่างดี การยกล้ำหน้าเป็นหน้าที่ของผู้ช่วยผู้ตัดสินตามกติกาข้อ 6 ผู้ตัดสินไม่สามารถพิจารณาเรื่องการล้ำหน้าได้ ผมขอให้ท่านนำผู้ประเมินผู้ตัดสินอดีตฟีฟ่า อย่าง อ.ชูชัย อ.รัศมี อ.ปัญญา มานั่งดูวีดีโอ ต่อหน้าสื่อมวลชน ถ้าท่านให้เหตุผลว่าผมผิด ผมยินดีเลิกและออกจากวงการผู้ตัดสินครับ
ถ้าการลงโทษผมปีครึ่ง สุชาติ ฝางมาลา 2 ปี เพราะเป็นแมทสำคัญ ในปี 2558 ราชนาวี พบ สระบุรี ผู้ตัดสิน ศิวกร ภูอุดม ผู้ช่วยผู้ตัดสิน สุขนิพนธ์ ยืนนาน ไม่ยกล้ำหน้า ทีมราชนาวี ได้ประตูจากจังหวะดังกล่าว สั่งลงโทษ สุขนิพนธ์ ยืนนาน ไม่มีกำหนด ผู้ตัดสิน ศิวกร ไม่โดนลงโทษ เพราะแมทนี้ไม่สำคัญเหรอครับ การแข่งขันฟุตบอลระบบลีก มีความสำคัญต่อการได้เเชมป์ หรือตกชั้นทุกเกมส์ ครับ ยังไม่รวม แมท ชัยนาท พบ บางกอกกล้าส ที่ลงโทษ สุเมธ สายแวว และวีรยุทธ คุนเครือ 4 แมทนะครับ ผิดพลาดเหมือนกันแต่โดนสี่แมท แถมยังสามารถตัดสินรายการอื่น ส่วนผมปีครึ่ง ปลดฟีฟ่า ปลดอีลิท ผมถามหน่อยเถอะครับยุติธรรมตรงไหน
สุดท้ายครับ...พวกผมทำด้วยตัวพวกผมเองไม่มีใครมาจ้างวานเพราะพวกผมโดนรังแก เอาเปรียบจากหยาดเหงื่อที่พวกผมทำหน้าที่จึงลุกขึ้นมาเพื่อขอใช้สิทธิที่พึงจะได้ และยังมีพี่น้องผู้ตัดสินหลายชีวิตอยากมาร่วมแต่ติดขัดในเรื่องการงาน และบางประการที่ในวงการผู้ตัดสินก็รู้กันอยู่และพวกผมไม่เคยยุ่งหรือเกี่ยวข้องเรื่องการเลือกตั้งนายกสมาคมฯเพราะพวกผมไม่มีสิทธเลือกสโมสรต่างหากเป็นผู้กำหนดทิศทางวงการฟุตบอลไทย"
ผมติดตามฟุตบอลไทย รักฟุตบอลไทยอยากให้ฟุตบอลไทยพัฒนา คิดว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรมเลยอยากนำมาเล่าสู่กันฟังครับ
คำชี้แจงจากอ.ชัยยะ มหาปราบ อดีตผู้ตัดสินฟีฟ่าเบอร์ต้นๆของเมืองไทย
“ชัยยะ มหาปราบ ร้อง ผู้ว่า กกท. ทวงเงิน ค้างผู้ตัดสินราวเกือบ 2 ปี”
twitter.com|โดย Thaileague mania
และคำชี้แจงของ เรื่องนี้คือhttp://m.siamsport.co.th/news/detail/278928
สรุปใจความสำคัญก็คือ เสธ.ตุ้ม" พลเอก ชินเสณ ทองโกมล ประมุขสิงห์เชิ้ตดำไทยแจงเหตุที่เงินล่าช้าเพราะตามเก็บเอกสารไม่ครบ โดยเฉพาะสำเนาบัตรประชาชนของผู้ตัดสินแต่ละคนที่ถือเป็นปัญหาใหญ่ ที่หากไม่ครบก็ไม่สามารถทำเรื่องเบิกจ่ายได้ตามกำหนด ย้ำชัดประเด็นที่ถูกร้องเรียนเรื่องการสั่งลงดาบตัวผู้ตัดสินที่เกิดขึ้นถือเป็นการฟันธงที่ถูกต้องแล้ว โดยเฉพาะกรณี ชัยยะ มหาปราบ และ สุชาติ ฝางมาลา ที่พลาดในเคสชี้ชะตาแชมป์ ไม่ได้เป็นการกลั่นแกล้ง แต่ถือเป็นการลงโทษตามรูปการณ์ เพราะหากไม่ผิดก็จะไม่โดนลงดาบแน่
ขณะเดียวกันสยามกีฬายังได้รับการเปิดเผยจากประธานคณะกรรมการผู้ตัดสิน "เสธ.ตุ้ม" พลเอก ชินเสณ ทองโกมล ถึงประเด็นที่ถูกพาดพิงเรื่องการตัดสินลงโทษแบนตัวผู้ตัดสินนั้นเกิดความไม่เป็นธรรม อย่างไรก็ตาม "เสธ.ตุ้ม" ได้ชี้แจงถึงข้อซักถามเรื่องดังกล่าวด้วยว่า
"การลงโทษแบนตัวผู้ตัดสินทุกครั้งที่เกิดขึ้นนั้นมาจากมติการประชุมร่วมกันของคณะกรรมการผู้ตัดสินที่ได้มีการวิเคราะห์และดูเทปในแต่ละจังหวะปัญหาที่ถูกร้องเรียนเข้ามา ซึ่งแต่ละเคสที่ตัดสินก็ถือว่าถูกต้องและชัดเจนอยู่แล้ว ผมยกตัวอย่างเคสผิดพลาดของ ชัยยะ มหาปราบ ที่ถูกโทษแบน 1 ปีครึ่ง และ สุชาติ ฝางมาลา ที่โดนแบน 2 ปี จากการทำหน้าที่ในเกมชี้ขาดระหว่าง ชัยนาท ฮอร์นบิล พบ ชลบุรี เอฟซี ซึ่งคู่นี้ถือเป็นการลุ้นแชมป์ของชลบุรี และส่งผลเสียกับชลบุรีที่สุดท้ายก็พลาดแชมป์ เราไม่ได้ชี้นำว่าใครจะต้องเป็นแชมป์ แต่เหตุที่ผิดพลาดทำให้ทีมทีมหนึ่งเสียประโยชน์และส่งผลเสียถึงการเป็นแชมเปี้ยน ผลการตัดสินก็ได้ระบุและถูกเปิดเผยก่อนที่จะเข้าสู่ช่วงท้ายฤดูกาลแล้วว่าจะต้องโดนลงโทษสถานหนัก ซึ่งเรื่องนี้ทุกคนก็รับทราบอยู่แล้ว และเรื่องนี้ก็ไม่ได้เกิดขึ้นกับทุกคน แต่เกิดขึ้นกับคนที่ทำหน้าที่ผิดพลาดเท่านั้น"
ซึ่งอ.ชัยยะได้เข้ามาชี้แจงในเพจนี้ว่า
ชัยยะ มหาปราบ "ผมข้อเรียนชี้แจงบ้างนะครับ
1.เรื่องการเบิกจ่ายเงินค่าตอบแทนปี 2555 และปี 2556 เป็นดังนี้ครับ
-ระเบียบการเบิกจ่ายเงิน กกท สมาคมต้องนำหลักฐานที่สมบูรณ์ ไปทำการเบิกจ่าย กับ กกท และในปีดังกล่าวพวกผมก็ดำเนินการเซ็นเอกสารส่งให้เรียบร้อย กกท ก็จ่ายเงินมาให้สมาคมเรียบร้อยตามเอกสารหลักฐานที่สมาคมให้ดู(ถาม ผอ.ทนุเกียรติ ก็ได้ครับเขารับผิดชอบเรื่องนี้)เงินงบประมาณประจำปีในทางราชการจะต้องเสร็จสิ้นในปีนั้นถ้าไม่จบเงินดังกล่าวจะต้องตกไปไม่สามารถนำมาใช้ได้ แสดงว่าเบิกจ่ายจาก กกท เรียบร้อยแล้ว แต่ยังไม่ถึงมือ ผู้ตัดสิน จนเวลาผ่านมา 3 ปี
2.เรื่องการพิจารณาโทษ
-ผมทราบว่าแมทที่ผมทำหน้าที่ ชัยนาท พบ ชลบุรี เป็นแมทสำคัญและได้พยายามปฏิบัติหน้าที่อย่างถูกต้องและเป็นธรรมตามกติกาและเเนวปฏิบัติเป็นอย่างดี การยกล้ำหน้าเป็นหน้าที่ของผู้ช่วยผู้ตัดสินตามกติกาข้อ 6 ผู้ตัดสินไม่สามารถพิจารณาเรื่องการล้ำหน้าได้ ผมขอให้ท่านนำผู้ประเมินผู้ตัดสินอดีตฟีฟ่า อย่าง อ.ชูชัย อ.รัศมี อ.ปัญญา มานั่งดูวีดีโอ ต่อหน้าสื่อมวลชน ถ้าท่านให้เหตุผลว่าผมผิด ผมยินดีเลิกและออกจากวงการผู้ตัดสินครับ
ถ้าการลงโทษผมปีครึ่ง สุชาติ ฝางมาลา 2 ปี เพราะเป็นแมทสำคัญ ในปี 2558 ราชนาวี พบ สระบุรี ผู้ตัดสิน ศิวกร ภูอุดม ผู้ช่วยผู้ตัดสิน สุขนิพนธ์ ยืนนาน ไม่ยกล้ำหน้า ทีมราชนาวี ได้ประตูจากจังหวะดังกล่าว สั่งลงโทษ สุขนิพนธ์ ยืนนาน ไม่มีกำหนด ผู้ตัดสิน ศิวกร ไม่โดนลงโทษ เพราะแมทนี้ไม่สำคัญเหรอครับ การแข่งขันฟุตบอลระบบลีก มีความสำคัญต่อการได้เเชมป์ หรือตกชั้นทุกเกมส์ ครับ ยังไม่รวม แมท ชัยนาท พบ บางกอกกล้าส ที่ลงโทษ สุเมธ สายแวว และวีรยุทธ คุนเครือ 4 แมทนะครับ ผิดพลาดเหมือนกันแต่โดนสี่แมท แถมยังสามารถตัดสินรายการอื่น ส่วนผมปีครึ่ง ปลดฟีฟ่า ปลดอีลิท ผมถามหน่อยเถอะครับยุติธรรมตรงไหน
สุดท้ายครับ...พวกผมทำด้วยตัวพวกผมเองไม่มีใครมาจ้างวานเพราะพวกผมโดนรังแก เอาเปรียบจากหยาดเหงื่อที่พวกผมทำหน้าที่จึงลุกขึ้นมาเพื่อขอใช้สิทธิที่พึงจะได้ และยังมีพี่น้องผู้ตัดสินหลายชีวิตอยากมาร่วมแต่ติดขัดในเรื่องการงาน และบางประการที่ในวงการผู้ตัดสินก็รู้กันอยู่และพวกผมไม่เคยยุ่งหรือเกี่ยวข้องเรื่องการเลือกตั้งนายกสมาคมฯเพราะพวกผมไม่มีสิทธเลือกสโมสรต่างหากเป็นผู้กำหนดทิศทางวงการฟุตบอลไทย"
ผมติดตามฟุตบอลไทย รักฟุตบอลไทยอยากให้ฟุตบอลไทยพัฒนา คิดว่าเรื่องนี้ไม่เป็นธรรมเลยอยากนำมาเล่าสู่กันฟังครับ