ขอเกริ่นก่อนว่า เราซื้อ S6 egde มาใช้ ด้วยหลายๆปัจจัยที่ทำให้ตัดสินใจซื้อ อันนึงเลยคือ การโฆษณาเรื่องประสิทธิภาพแบตเตอรี่ ที่มีคุณสมบัติ fast charge และแบตเตอรี่ที่สามารถใช้งานได้นาน
แต่หลังจากที่ซื้อมาใช้แล้วก็พบว่า
แบตเตอรี่ไม่ได้อยู่ได้นานอย่างที่คิด เมื่อเทียบกับ apple รุ่นเก่าที่ใช้
เมื่อลองไปตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เพราะคิดว่าแบตเสื่อม เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ samsung siam 1 ก็แจ้งว่าแบตเตอรี่ปกติ ขึ้นอยู่กับการใช้งานถ้ามีการเปิดสัญญาณ internet , wifi , location จะทำให้แบตลดเร็ว ซึ่งการลดเร็วนี่เทียบด้วยความรู้สึกลดเร็วกว่า apple รุ่นเก่ามาก (เรื่องแบตเครื่องขอค้างไว้เท่านี้เพราะทำใจได้)
แต่ที่ทำใจไม่ได้คือ เราเปิดบูทูธ เปิด location เพื่อใช้งานนำทางในรถยนต์ แบตลดเร็วมาก
จึงเสียบสาย usb ชาร์ตกับช่องเสียบในรถยนต์ ปรากฏว่าแบตไม่เพิ่ม กลับลดลดเสียด้วยซ้ำ (คิดในใจ มันกินแบตขนาดนี้เลยหรอ หรือช่องเสียบไฟจ่ายไฟไม่พอ)
จึงเข้าไปที่ shop samsung เพื่อศึกษา car fast charge ราคา 850 บาท ลองคุยกับพนักงานว่า มันแตกต่างกับ car charge ธรรมดาที่ราคา 500 กว่าบาท อย่างไร จึงได้ความมาว่า "โทรศัพท์รุ่นที่รองรับ fast charge ถ้าซื้อ car fast charge จะจ่ายไฟได้เร็วกว่าทำให้แบตเต็มเร็วขึ้น"
เราก็ถามต่อว่ามันเขียนสำหรับ note edge เราใช้ S6 edge จะใช้ได้ไหม ? พนักงานตอบว่า "ได้ ไม่มีปัญหารองรับ fast charge เหมือนกัน"
เราจึงตัดสินใจซื้อมา เพราะต้องการกำลังไฟในการชาร์ตเพราะเราจำเป็นจะใช้งานในรถ
แต่พอได้นำมาลองใช้ กลับรู้สึกเหมือนโดนหลอกอย่างแรง เราเสียบช่องจุดบุหรี่ในรถ กับตัวเครื่อง S6 แล้วก็ดูที่หน้าจอ ก็ขึ้นชาร์ตปกติ ไม่ใช่ fast charge เหมือนเสียบปลั๊กที่บ้าน เราจึงรีบโทรไป Call center samsung เพื่อต้องการคำอธิบาย จึงได้ความมาว่า "การเสียบชาร์ตในรถ หรือผ่านคอมพิวเตอร์ ระบบจะไม่ขึ้นว่า fast charge แต่ไฟจะเข้าเร็วกว่า ลูกค้าลองชาร์ตดูก่อนนะ" เราจึงวางสายไปแล้วลองชาร์ตแบบใช้งานจริง คือ เปิด location บูทูธ แมพนำทาง ผลที่ได้คือ แบตไม่เพิ่มขึ้น และยังลดลงเหมือนเดิม !!!!
(เห้ยเราคิดในใจ นี่เสียค่าโง่แล้วใช่ไหม 850 บาท ไม่ใช่น้อยๆนะ)
จากนั้นจึงโทรหา shop samsung ที่ซื้อไป แล้วแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น พนักงานที่รับสายแจ้งว่า "ถ้าไฟเข้า ก็คือใช้งานได้ ไม่สามารถเปลี่ยนหรือคืนสินค้าได้" (คิดในใจ อ้าวเห้ย ! พูดง่ายมาก ตอนขายพูดซะดิบดี)
เราจึงโทรไป call center samsung อีกครั้งเพื่อแจ้งปัญหาเดิม คือ ชาร์ตแล้วไฟลด ทางพนักงานบอกว่า "ลูกค้าลอง ปิดสัญญาณทุกอย่างแล้วชาร์ตดูนะคะ ว่าใช้เวลานานแค่ไหนถึงแบตจะเต็ม" เราจึงตอบไปว่า เราซื้อที่ชาร์ตในรถมาเพื่อใช้งาน ถ้าจะต้องปิดทุกอย่างแล้วชาร์ต เราใช้ช่อง usb ในรถก็ได้ แล้วอีกอย่าง แบตโทรศัพท์เหลือ 50% ขึ้นว่าใช้เวลา 2.38 ชม. ถึงจะเต็มเราต้องสตาร์ทรถไว้เพื่อชาร์ตลองดูหรอ ? จากนั้นพนักงานก็เงียบไป เราจึง ขอบคุณ แล้ววางสายไป
สรุปคือ เราก็คงก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับ car fast charge ที่ซื้อมา 850 บาทดี ที่คุณภาพ = ช่อง usb ในรถ
และไม่รู้ว่าเป็นที่ตัวชาร์ตที่ซื้อมา หรือ ตัวS6 edge กันแน่
คงเป็นการใช้ของ samsung เครื่องแรก และเครื่องสุดท้าย
ขอบคุณที่อ่านที่เราระบายจนจบ.
[CR] Samsung S6 edge กับการใช้ car fast charge ที่แย่มาก !
แต่หลังจากที่ซื้อมาใช้แล้วก็พบว่า
แบตเตอรี่ไม่ได้อยู่ได้นานอย่างที่คิด เมื่อเทียบกับ apple รุ่นเก่าที่ใช้
เมื่อลองไปตรวจสอบสภาพแบตเตอรี่เพราะคิดว่าแบตเสื่อม เจ้าหน้าที่ที่ศูนย์ samsung siam 1 ก็แจ้งว่าแบตเตอรี่ปกติ ขึ้นอยู่กับการใช้งานถ้ามีการเปิดสัญญาณ internet , wifi , location จะทำให้แบตลดเร็ว ซึ่งการลดเร็วนี่เทียบด้วยความรู้สึกลดเร็วกว่า apple รุ่นเก่ามาก (เรื่องแบตเครื่องขอค้างไว้เท่านี้เพราะทำใจได้)
แต่ที่ทำใจไม่ได้คือ เราเปิดบูทูธ เปิด location เพื่อใช้งานนำทางในรถยนต์ แบตลดเร็วมาก
จึงเสียบสาย usb ชาร์ตกับช่องเสียบในรถยนต์ ปรากฏว่าแบตไม่เพิ่ม กลับลดลดเสียด้วยซ้ำ (คิดในใจ มันกินแบตขนาดนี้เลยหรอ หรือช่องเสียบไฟจ่ายไฟไม่พอ)
จึงเข้าไปที่ shop samsung เพื่อศึกษา car fast charge ราคา 850 บาท ลองคุยกับพนักงานว่า มันแตกต่างกับ car charge ธรรมดาที่ราคา 500 กว่าบาท อย่างไร จึงได้ความมาว่า "โทรศัพท์รุ่นที่รองรับ fast charge ถ้าซื้อ car fast charge จะจ่ายไฟได้เร็วกว่าทำให้แบตเต็มเร็วขึ้น"
เราก็ถามต่อว่ามันเขียนสำหรับ note edge เราใช้ S6 edge จะใช้ได้ไหม ? พนักงานตอบว่า "ได้ ไม่มีปัญหารองรับ fast charge เหมือนกัน"
เราจึงตัดสินใจซื้อมา เพราะต้องการกำลังไฟในการชาร์ตเพราะเราจำเป็นจะใช้งานในรถ
แต่พอได้นำมาลองใช้ กลับรู้สึกเหมือนโดนหลอกอย่างแรง เราเสียบช่องจุดบุหรี่ในรถ กับตัวเครื่อง S6 แล้วก็ดูที่หน้าจอ ก็ขึ้นชาร์ตปกติ ไม่ใช่ fast charge เหมือนเสียบปลั๊กที่บ้าน เราจึงรีบโทรไป Call center samsung เพื่อต้องการคำอธิบาย จึงได้ความมาว่า "การเสียบชาร์ตในรถ หรือผ่านคอมพิวเตอร์ ระบบจะไม่ขึ้นว่า fast charge แต่ไฟจะเข้าเร็วกว่า ลูกค้าลองชาร์ตดูก่อนนะ" เราจึงวางสายไปแล้วลองชาร์ตแบบใช้งานจริง คือ เปิด location บูทูธ แมพนำทาง ผลที่ได้คือ แบตไม่เพิ่มขึ้น และยังลดลงเหมือนเดิม !!!!
(เห้ยเราคิดในใจ นี่เสียค่าโง่แล้วใช่ไหม 850 บาท ไม่ใช่น้อยๆนะ)
จากนั้นจึงโทรหา shop samsung ที่ซื้อไป แล้วแจ้งปัญหาที่เกิดขึ้น พนักงานที่รับสายแจ้งว่า "ถ้าไฟเข้า ก็คือใช้งานได้ ไม่สามารถเปลี่ยนหรือคืนสินค้าได้" (คิดในใจ อ้าวเห้ย ! พูดง่ายมาก ตอนขายพูดซะดิบดี)
เราจึงโทรไป call center samsung อีกครั้งเพื่อแจ้งปัญหาเดิม คือ ชาร์ตแล้วไฟลด ทางพนักงานบอกว่า "ลูกค้าลอง ปิดสัญญาณทุกอย่างแล้วชาร์ตดูนะคะ ว่าใช้เวลานานแค่ไหนถึงแบตจะเต็ม" เราจึงตอบไปว่า เราซื้อที่ชาร์ตในรถมาเพื่อใช้งาน ถ้าจะต้องปิดทุกอย่างแล้วชาร์ต เราใช้ช่อง usb ในรถก็ได้ แล้วอีกอย่าง แบตโทรศัพท์เหลือ 50% ขึ้นว่าใช้เวลา 2.38 ชม. ถึงจะเต็มเราต้องสตาร์ทรถไว้เพื่อชาร์ตลองดูหรอ ? จากนั้นพนักงานก็เงียบไป เราจึง ขอบคุณ แล้ววางสายไป
สรุปคือ เราก็คงก็ไม่รู้จะทำอย่างไรกับ car fast charge ที่ซื้อมา 850 บาทดี ที่คุณภาพ = ช่อง usb ในรถ
และไม่รู้ว่าเป็นที่ตัวชาร์ตที่ซื้อมา หรือ ตัวS6 edge กันแน่
คงเป็นการใช้ของ samsung เครื่องแรก และเครื่องสุดท้าย
ขอบคุณที่อ่านที่เราระบายจนจบ.