สวัสดีครับ วันนี้จะมารีวิว Meizu m1 note ครับ ซึ่งถือเป็นมีถือตัวต่อจาก Meizu m1
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://droidsans.com/meizu-m1-announced
ขอออกตัวก่อนนะครับว่าการรีวิวครั้งนี้ผมซื้อเครื่องนี้มาเองครับสั่งจากอเมซ่อนแล้วให้มาส่งที่ไทยครับผ่าน Singapore post ครับ
สั่งไปช่วงหลังสงกรานต์ที่ผ่านมาครับของมาส่งเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาครับ ราคาอยู่ที่ 227 $ ครับ
การรีวิวครั้งนี้เป็นการรีวิวก่อนและหลังใช้ในระยะเวลาเกือบเดือนนะครับ
มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ เมื่อปลายปีที่แล้วมีข่าวการเปิดตัวเจ้ามือถือตัวนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้http://droidsans.com/meizu-m1-note-announced
ซึ่งดีไซต์ของเจ้าตัวนี้นั้นมันช่างเหมือน Iphone5c เอามาก ๆ
มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับความพิเศษที่ผมสนใจรุ่นนี้ขึ้นมาก็ออกตัวก่อนเลยครับว่า ราคา ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและความอยากลองมือถือจีนบ้าง
ก่อนหน้านี้ผมใช้ Iphone4 และก็มาเปลี่ยนเป็น zenfone5 เมื่อกลางปีที่แล้วแต่ดันทำจอแตกหลัง
จากนั้นก็หันมาซบกับเจ้าตัว Honor 3c เพราะกล้องอย่างเดียวเลยครับ เพราะว่าเจ้า zen นั้นห่วยแตกมากครับ
มาดูสเปคกันก่อนครับ
• มาดู CPU: MediaTek octo-core MT6752 (8x 1.7GHz Cortex-A53)
• GPU: Mali T760 MP2
• RAM: 2GB
• หน่วยความจำภายใน: 16GB หรือ 32GB ใส่ microSD card ไม่ได้
• หน้าจอ: 5.5 นิ้ว 1080p IGZO (403 PPI)
• กล้องหน้า: 5Mp f2.0
• กล้องหลัง: 13Mp f2.2
• แบตเตอรี่: 3,140 mAh
• รองรับการใช้งาน 2 SIM
• รองรับ 4G FDD-LTE
• น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 145 กรัมครับ
• OS: Flyme 4.1 (นำ Android 4.4.4 KitKat ไปพัฒนาต่อยอด) ปัจจุบันเครื่องผม OS: Flyme 4.2.05U
และมีคาดการว่าจะได้อัพ เป็น Lollipop เร็ว ๆนี้ครับ
แกะกล่องออกมามีเพียงตัวเครื่อง สายซิงค์ ตัวชาร์ท และตัวจิ้มซิมครับ
ตัวเครื่องประกอบอย่างดีครับ แน่นหนา หน้าจอขนาด 5.5 นิ้ว กล้องหน้า 5 ล้าน มีปุ่ม Home เพียงปุ่มเดียวใช้วิธีการสัมผัสในการใช้งาน
ด้านบนตัวเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 ปุ่มเปิด-ปิดเครื่องซึ่งใช้ในการปิดหน้าจอ
และยังมีไมค์อีก 1ตัวครับ และด้านล่างเป็น Port micro usb
ด้านหลังเป็นพลาสติกมันวาวครับคล้ายๆกับiphone5c อย่างมาก
แต่ต่างกันที่ตำแหน่งกล้องครับ และยังใช้กล้องความละเอียดสูงถึง 13 ล้านและมี duo flash light
นอกจากนี้ยังมีด้านหลังเครื่องมีการสกีนไว้ว่า designed by meizu made in china ครับ 55555
ด้านข้าง มีปุ่มเพิ่มและลดเสียง อีกด้านเป็นช่องใส่ซิมต้องใช้ที่จิ้มซิมในการถอดถาดซิมออกมา
โดยเครื่องนั้นรองรับการใช้ Mirco sim ครับ
ถึงแม้ขนาดหน้าจอจะ 5.5 นิ้วแต่เครื่องก็มีขนาดเท่าๆกับzen5 ครับ และสามารถใช้ฟิล์มของ 6+ได้ครับ
(ที่ใช้ของ6+เพราะรอเคสและฟิล์มจากเพื่อนหิ้วกลับจากจีนให้ครับ)
ด้าน software เป็นการใช้ Flyme 4.1 ที่ทาง meizu ได้ทำออกมาเองโดยมีพื้นฐานจาก Android 4.4.4 KitKat
ซึ่งการใช้งานก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับเหมือน Android อื่นๆ ทั่วไปครับ
แต่ไม่มีเมนูไทยนะครับ แต่พิมพ์ไทยและอ่านไทยได้
สำหรับใครที่เห็นเป็นเครื่องจีนและคิดว่าใช้งานยากและกลัวจะใช้งาน playstore
ไม่ได้ผมพูดเลยว่าสามารถทำได้เองครับและง่ายมากด้วย แค่เข้า appcenter ในเครื่อง
และทำการโหลด app google installer มาลงครับแค่นี้ก็จะใช้งานได้ปกติและครับ
การตั้งค่าต่าง ๆ
หน้าตาของหน้าการโทร คล้าย ๆ หรือเหมือนกับ iphone เลยครับ
มาพูดถึงเรื่องกล้องกันบ้าง กล้องหน้ามีขนาด 5 ล้านและกล้องหลังมีขนาด 13 ล้าน
ซึ่งมีฟังชั่นต่าง ๆ มากมายให้เลือกใช้งานรวมทั้งโหมด beauty ที่ยุคนี้ถือว่าเป็นฟังชั่นที่มีเกือบทุกยี่ห้อครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตัวอย่างภาพจากกล้องครับ
ข้อดี
จอใหญ่คมชัด พกพาสะดวก ราคาไม่แพง
รองรับ 2 ซิม 3G และ 4G
มีการอัพเดทระบบอยู่เรื่อยๆ ครับ ตั้งแต่ใช้งานมาอัพเดท 1 ครั้งครับ
และที่ประทับใจคือ เรื่องของเพลงครับสามารถโหลดได้ฟรีครับ
จากเครื่องเลยครับในเมนู music และยังสามารถใช้การค้นหาแบบ shazam ในการค้นหาเพลงและโหลดมาฟังได้เลยครับ
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพลงสากล จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และไทยบางเพลงแต่พิมพ์ค้นหาไม่เจอนะครับ
ต้องใช้ฟังเพลงและค้นหาครับแต่น้อยกว่าเพลงสากลอย่างมาก
ข้อเสีย
เพิ่มเมมไม่ได้
ไม่รองรับคลื่น 850 ซิม (dtac ใส่ได้นะครับแต่ไม่แน่ใจว่าใช้ได้เฉพาะที่บ้านหรือไม่ cat แล้วไม่ได้แน่นอน
เหลือซิมทรูต้องลองอีกครั้งครับว่าจะใช้ได้ไหมเดียวยังไงจะมาอัพเดทอีกครั้งครับ)
อุปกรณ์เสริมยังหาซื้อได้ยาก ไม่มีประกันไทย
เวลาคุยโทรศัพท์ แล้วมีข้อความหรือแจ้งเตือนต่าง ๆ เข้ามาถึงแม้เปิดสั่นไว้มันก็ได้ยินถึงปลาบสาบครับ
ผมหาวิธีแก้อยู่ไม่รู้ว่ามีไหมหรือผมหาไม่เจอเอง
สรุป หลังจากการใช้มาเกือบระยะเวลา 1 เดือน การใช้งานโดยรวมถือว่าค่อนข้างประทับใจครับ
แบตอึดพอสมควรอยู่ได้ทั้งวัน แต่ก็ยังต้องมีการใช้เพาเว่อแบงค์บ้างในบางครั้งที่กลับบ้านดึก
เพราะออกกจากบ้านแต่เช้าเกือบ ๆ 2-3 ทุ่มก็จะเหลือประมาณ 15 %
ถึงแม้จะเพิ่มเมมไม่ได้ผมลงเพลงไว้ฟังเกือบ 300 เพลง
ถ่ายรูปบ้างก็ยังคงเหลือพื้นที่ในการใช้งานพอสมควร และ
สำหรับใครที่ชอบกล้องหน้าฟรุ้งฟริ้งตัวนี้ก็ช่วยได้ครับปรับได้หลายระดับ
ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้วขนาดพอๆกับ i6+ ครับเกือบๆเท่ากันเลยก็ว่าได้
สำหรับผมถือว่าคุ้มนะครับกับราคาประมาณนี้และได้มือถือที่ฟังชั่นครบ เร็ว สมราคา
[CR] แกะกล่องรีวิวกับ Meizu m1 note
ขอออกตัวก่อนนะครับว่าการรีวิวครั้งนี้ผมซื้อเครื่องนี้มาเองครับสั่งจากอเมซ่อนแล้วให้มาส่งที่ไทยครับผ่าน Singapore post ครับ
สั่งไปช่วงหลังสงกรานต์ที่ผ่านมาครับของมาส่งเมื่อวันพฤหัสที่ผ่านมาครับ ราคาอยู่ที่ 227 $ ครับ
การรีวิวครั้งนี้เป็นการรีวิวก่อนและหลังใช้ในระยะเวลาเกือบเดือนนะครับ
มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับ เมื่อปลายปีที่แล้วมีข่าวการเปิดตัวเจ้ามือถือตัวนี้ครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ซึ่งดีไซต์ของเจ้าตัวนี้นั้นมันช่างเหมือน Iphone5c เอามาก ๆ
มาเริ่มกันเลยดีกว่าครับความพิเศษที่ผมสนใจรุ่นนี้ขึ้นมาก็ออกตัวก่อนเลยครับว่า ราคา ขนาดหน้าจอที่ใหญ่ขึ้นและความอยากลองมือถือจีนบ้าง
ก่อนหน้านี้ผมใช้ Iphone4 และก็มาเปลี่ยนเป็น zenfone5 เมื่อกลางปีที่แล้วแต่ดันทำจอแตกหลัง
จากนั้นก็หันมาซบกับเจ้าตัว Honor 3c เพราะกล้องอย่างเดียวเลยครับ เพราะว่าเจ้า zen นั้นห่วยแตกมากครับ
มาดูสเปคกันก่อนครับ
• มาดู CPU: MediaTek octo-core MT6752 (8x 1.7GHz Cortex-A53)
• GPU: Mali T760 MP2
• RAM: 2GB
• หน่วยความจำภายใน: 16GB หรือ 32GB ใส่ microSD card ไม่ได้
• หน้าจอ: 5.5 นิ้ว 1080p IGZO (403 PPI)
• กล้องหน้า: 5Mp f2.0
• กล้องหลัง: 13Mp f2.2
• แบตเตอรี่: 3,140 mAh
• รองรับการใช้งาน 2 SIM
• รองรับ 4G FDD-LTE
• น้ำหนักเครื่องอยู่ที่ 145 กรัมครับ
• OS: Flyme 4.1 (นำ Android 4.4.4 KitKat ไปพัฒนาต่อยอด) ปัจจุบันเครื่องผม OS: Flyme 4.2.05U
และมีคาดการว่าจะได้อัพ เป็น Lollipop เร็ว ๆนี้ครับ
แกะกล่องออกมามีเพียงตัวเครื่อง สายซิงค์ ตัวชาร์ท และตัวจิ้มซิมครับ
ด้านบนตัวเครื่องมีช่องหูฟังขนาด 3.5 ปุ่มเปิด-ปิดเครื่องซึ่งใช้ในการปิดหน้าจอ
และยังมีไมค์อีก 1ตัวครับ และด้านล่างเป็น Port micro usb
ด้านหลังเป็นพลาสติกมันวาวครับคล้ายๆกับiphone5c อย่างมาก
แต่ต่างกันที่ตำแหน่งกล้องครับ และยังใช้กล้องความละเอียดสูงถึง 13 ล้านและมี duo flash light
นอกจากนี้ยังมีด้านหลังเครื่องมีการสกีนไว้ว่า designed by meizu made in china ครับ 55555
ด้านข้าง มีปุ่มเพิ่มและลดเสียง อีกด้านเป็นช่องใส่ซิมต้องใช้ที่จิ้มซิมในการถอดถาดซิมออกมา
โดยเครื่องนั้นรองรับการใช้ Mirco sim ครับ
ถึงแม้ขนาดหน้าจอจะ 5.5 นิ้วแต่เครื่องก็มีขนาดเท่าๆกับzen5 ครับ และสามารถใช้ฟิล์มของ 6+ได้ครับ
(ที่ใช้ของ6+เพราะรอเคสและฟิล์มจากเพื่อนหิ้วกลับจากจีนให้ครับ)
ซึ่งการใช้งานก็ไม่ได้ยุ่งยากอะไรครับเหมือน Android อื่นๆ ทั่วไปครับ
แต่ไม่มีเมนูไทยนะครับ แต่พิมพ์ไทยและอ่านไทยได้
สำหรับใครที่เห็นเป็นเครื่องจีนและคิดว่าใช้งานยากและกลัวจะใช้งาน playstore
ไม่ได้ผมพูดเลยว่าสามารถทำได้เองครับและง่ายมากด้วย แค่เข้า appcenter ในเครื่อง
และทำการโหลด app google installer มาลงครับแค่นี้ก็จะใช้งานได้ปกติและครับ
การตั้งค่าต่าง ๆ
หน้าตาของหน้าการโทร คล้าย ๆ หรือเหมือนกับ iphone เลยครับ
ซึ่งมีฟังชั่นต่าง ๆ มากมายให้เลือกใช้งานรวมทั้งโหมด beauty ที่ยุคนี้ถือว่าเป็นฟังชั่นที่มีเกือบทุกยี่ห้อครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
ตัวอย่างภาพจากกล้องครับ
ข้อดี
จอใหญ่คมชัด พกพาสะดวก ราคาไม่แพง
รองรับ 2 ซิม 3G และ 4G
มีการอัพเดทระบบอยู่เรื่อยๆ ครับ ตั้งแต่ใช้งานมาอัพเดท 1 ครั้งครับ
และที่ประทับใจคือ เรื่องของเพลงครับสามารถโหลดได้ฟรีครับ
จากเครื่องเลยครับในเมนู music และยังสามารถใช้การค้นหาแบบ shazam ในการค้นหาเพลงและโหลดมาฟังได้เลยครับ
ซึ่งส่วนใหญ่เป็นเพลงสากล จีน เกาหลี ญี่ปุ่น และไทยบางเพลงแต่พิมพ์ค้นหาไม่เจอนะครับ
ต้องใช้ฟังเพลงและค้นหาครับแต่น้อยกว่าเพลงสากลอย่างมาก
ข้อเสีย
เพิ่มเมมไม่ได้
ไม่รองรับคลื่น 850 ซิม (dtac ใส่ได้นะครับแต่ไม่แน่ใจว่าใช้ได้เฉพาะที่บ้านหรือไม่ cat แล้วไม่ได้แน่นอน
เหลือซิมทรูต้องลองอีกครั้งครับว่าจะใช้ได้ไหมเดียวยังไงจะมาอัพเดทอีกครั้งครับ)
อุปกรณ์เสริมยังหาซื้อได้ยาก ไม่มีประกันไทย
เวลาคุยโทรศัพท์ แล้วมีข้อความหรือแจ้งเตือนต่าง ๆ เข้ามาถึงแม้เปิดสั่นไว้มันก็ได้ยินถึงปลาบสาบครับ
ผมหาวิธีแก้อยู่ไม่รู้ว่ามีไหมหรือผมหาไม่เจอเอง
สรุป หลังจากการใช้มาเกือบระยะเวลา 1 เดือน การใช้งานโดยรวมถือว่าค่อนข้างประทับใจครับ
แบตอึดพอสมควรอยู่ได้ทั้งวัน แต่ก็ยังต้องมีการใช้เพาเว่อแบงค์บ้างในบางครั้งที่กลับบ้านดึก
เพราะออกกจากบ้านแต่เช้าเกือบ ๆ 2-3 ทุ่มก็จะเหลือประมาณ 15 %
ถึงแม้จะเพิ่มเมมไม่ได้ผมลงเพลงไว้ฟังเกือบ 300 เพลง
ถ่ายรูปบ้างก็ยังคงเหลือพื้นที่ในการใช้งานพอสมควร และ
สำหรับใครที่ชอบกล้องหน้าฟรุ้งฟริ้งตัวนี้ก็ช่วยได้ครับปรับได้หลายระดับ
ขนาดหน้าจอ 5.5 นิ้วขนาดพอๆกับ i6+ ครับเกือบๆเท่ากันเลยก็ว่าได้
สำหรับผมถือว่าคุ้มนะครับกับราคาประมาณนี้และได้มือถือที่ฟังชั่นครบ เร็ว สมราคา