+++พาไปชม Vintage Wedding Showcase @Hotel Muse Bangkok, Langsuan+++

ช่วงนี้เป็นเทศกาลแห่งงาน Wedding Fair ทุกเสาร์และอาทิตย์จะมีโรงแรมและสถานที่ให้บริการจัดเลี้ยงที่จัดงานให้ผู้สนใจเข้าชม ใครมีแผนแต่งงานในปีหน้า แนะนำว่าควรไปเก็บข้อมูลเป็นอย่างยิ่ง เพราะถ้ารอถึงปีหน้าแล้วค่อยไปดูโรงแรมอาจจะไม่ทันการ การเก็บข้อมุลไว้ก่อน จะได้รู้ว่าสถานที่จะรองรับแขกที่เราจะเรียนเชิญมาได้ไหม เข้ากับธีมงานของเราไหม และข้อจำกัดอื่นๆ บางโรงแรมอาจจะเป็นห้องใหญ่ๆ คือเป็นแกรนด์บอลรูม บางโรงแรมออกแบบมาเพื่องานแต่งที่เน้นงานปาร์ตี้ เราก็ควรไปเซอร์เวย์กันก่อน เพื่อว่าเมื่อได้ฤกษ์ยามงามดีแล้ว จะได้พุ่งตรงไปจองเลย อย่างลืมว่าฤกษ์ดีปีๆ หนึ่งมีไม่กี่วัน แล้วก็จะชนกันหลายคู่


อย่างเมื่อวันที่ 16 และ 17 พฤษภาคม ที่ผ่านมา Hotel Muse Bangkok จัดงาน Vintage Wedding Showcase พร้อมๆ กับโรงแรมอีก 2-3 แห่ง  ตัดสินใจไปโรงแรมนี้เพื่อเก็บข้อมูลมาฝากทุกๆ ท่าน นับว่าเป็นกระทู้รีวิวงาน Wedding Fair ครั้งแรกของ Wedding by Moonie Lin  ในปีนี้ด้วย


เริ่มต้นจากได้ข่าวผ่านอินสตาแกรมของร้านค้าที่ให้บริการเครื่องประดับว่าจะไปเปิดบูธที่นี้ เปิดดูข้อมูลและสไตล์การตกแต่งของโรงแรม ร้องเฮ้ย! และแอบ ว้าว! ในใจ คือโรงแรมนี้ไม่เหมือนโรงแรมอื่นทั่วๆ ไป ที่มีห้องแกรนด์บอลรูม ห้องจัดเลี้ยงโอ่อ่า สว่างไสว โคมไฟแชงเดอเรียอันใหญ่อยู่กลางห้อง เวทีกว้าง เพดานสูงอะไรแบบนี้นะ Hotel Muse Bangkok ไม่ได้มีรูปแบบการตกแต่งดังกล่าวโดยสิ้นเชิง แบบนี้สิที่ชอบ ต้องอย่างงี้สิที่ใช่ คือชอบอะไรที่แปลกๆ ไม่ซ้ำใครดี  


เกริ่นนำดูภาพรวมกันก่อนเลย Hotel Muse Bangkok ตั้งอยู่บนถนนหลังสวน เป็นบูติคโฮเทลในเครือของ Accor  ที่จัดว่าเล็กพริกขี้หนู โรงแรมมีการตกแต่งภายในในทุกๆ ตารางนิ้ว ย้ำว่าทุกตารางนิ้ว เป็นงานศิลปะที่สะท้อนถึงยุคทองของการเดินทางระหว่างทวีปด้วยเรือบรรทุกสินค้าและไปมาหาสู่กันภายในประเทศด้วยรถไฟ (Golden Age of Travel) ซึ่งอยู่ในช่วงราวปลายศตวรรษที่ 19 ถึงต้นศตวรรษที่ 20 หรือช่วงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕) ผู้คนต่างเดินทางข้ามทวีปเพื่อการค้า การเผยแพร่ศาสนา การศึกษา และการแสวงหาโลกใหม่ มีการสะท้อนให้เห็นถึงศิลปะผสมผสานระหว่างตะวันออกแบบไทยและตะวันตกแบบฝรั่งเศสแบบนีโอคลาสสิก (Neo-Classicism Art)



งานวันนี้ชื่องานว่า Vintage Wedding Showcase จัดที่ห้อง Medici Kitchen & Bar  เป็นห้องที่อยู่ชั้นใต้ดินของโรงแรม จอดรถด้านหลังโรงแรมแล้ว กดลิฟต์ลงมาที่ชั้นล็อบบี้ ลงทะเบียนแล้วได้พบกับคุณแซ็กเป็นเจ้าหน้าที่ซึ่งจะพาเราชมงานและห้องต่างๆ ของโรงแรมในวันนี้ ลงบันไดมาที่ห้อง Medici Kitchen & Bar เป็นบันไดเหล็กลงมาที่ชั้นใต้ดิน ตกแต่งด้วยดอกไม้ประดิษฐ์ตามราวบันได สวยงามมาก มุมนี้ให้คะแนนความหรูหราสง่างาม มโนถึงภาพคู่บ่าวสาวลงจากบันไดลงมา ถ่ายรูป มัน “ปัง” มาก





ห้อง Medici Kitchen & Bar ให้ความรู้สึกเหมือนอยู่ในโรงงานหรือโกดังเก่าๆ หรือห้องใต้ท้องเรือใหญ่ หลักๆ ของการตกแต่งใช้ไม้และเหล็ก ให้ความรู้สึกดิบๆ หนักๆ แบบอุตสาหกรรมโรงงาน (Rustic and Industrial Interior Design) ไฟสลัวๆ ขนาดของห้องมีพื้นที่ไม่มากนัก แต่ถ้าเทียบกับห้องอื่นๆ ที่เราจะได้ไปชมหลังจากนี้ ห้องนี้ถือว่ารับรองแขกได้มากที่สุด ด้านซ้ายมือติดบันไดเป็นบาร์เครื่องดื่ม








ถ้าเดินตรงไปทางซ้าย จะมีพื่นที่อีกส่วนที่เป็นสี่เหลี่ยมพื้นผ้า มีเคาน์เตอร์เปิดติดกับครัวใหญ่ มีเซฟหลายท่านกำลังทำอาหารเสิร์ฟให้กับแขกอยู่ ห้องน้ำมีเพียง 2 ห้องแบ่งชายและหญิงอยู่ใต้บันได ค่อยข้างน้อยไปหน่อย ที่กล่าวมาทั้งหมด ออกจากห่างไกลจากคำว่า Vintage Wedding  ที่เป็นธีมงานไปมาก แต่ด้วยบรรยากาศของการเปิดเพลงจากแผ่นมันช่างหวานซึ้ง สลับกับวงดนดรีเล่นสด และการตกแต่งของโรงแรมที่เฉพาะตัว มองๆ ไปก็ลืมๆ ไปแล้วว่าธีมงานคืออะไร








แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่