ลือ "เจ๊ติ๋ม" ทิ้งช่อง "ไทยทีวี" หลังยันไม่จ่ายค่าสัมปทานทีวีดิจิตอลรอบ 2 เหตุขาดทุนร่วม 300 ล้านบาท คาดกลับไปทำทีวีดาวเทียมเหมือนเดิม ด้านเด็กในสังกัด "แจ็คเกอรีน" ช่วยอัดซ้ำกสทช. ลั่นหนูเกลียดทีวีดิจิตอล บอกเหมือนถูกหลอกเข้าสวนสนุกเก็บค่าตั๋วราคาแพง ก่อนถูกลอยแพตามยถากรรม
หลังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. มีมติไม่ให้เลื่อนจ่ายค่าสัมปทานทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 ส่งผลให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทั้ง 24 ช่อง จะต้องยื่นชำระภายในวันที่ 25 พ.ค.58 ตามข่าวที่ออกมานั้น
ล่าสุดมีรายงานว่าทางด้านของ บริษัทไทยทีวี โดย นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย์ หรือ "เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล" ได้ตัดสินใจที่จะไม่จ่ายค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอลในปีนี้ตามที่เคยออกมาให้สัมภาษณ์แน่นอน เนื่องจากมีผลประกอบการขาดทุนร่วม 300 ล้านบาท พร้อมให้เหตุผลว่าที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะการบริหารงานที่ผิดพลาดของ กสทช. โดยมีการเปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้ที่เจ้าตัวจะเลิกการทำทีวีดิจิตอลและหันไปทำทีวีดาวเทียมเช่นเดิม
ทั้งนี้มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้ด้วยว่าจะมีผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลหลายต่อหลายช่องยืนยันที่จะไม่จ่ายค่าสัมปทานในครั้งนี้ขณะเดียวกันก็มีข่าวออกมาว่าในวันนี้ผู้ประกอบการบางส่วน อาทิ ช่องPPTV, ช่อง AMARIN, ช่อง NATION, ช่อง GMM ได้ไปชำระเงินพร้อมกับทำจดหมายขอสงวนสิทธิ์ในการฟ้องร้องทางกฏหมายเพื่อให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสท.) เยียวยาด้วย
"แจ๊คเกอรีน ทีวีพูล"
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีข่าวออกมาถึงการเลิกทำช่องดิจิตอลไทยทีวีของเจ๊ "ติ๋ม ทีวีพูล" ล่าสุดในเวบไซต์ข่าวทีวีพูลเองก็ได้มีการเผยแพร่ข้อความที่ระบุว่ามาจาก "แจ็คเกอรีน" (พัฒนะชัย อดิเรก) หนึ่งในผู้ดำเนินรายการทางช่องไทยทีวีออกมามีเนื้อหาเกี่ยวกับความรู้สึกของเจ้าตัวที่ระบุว่าตนเองเกลียดทีวีดิจิตอลเพราะมันทำให้คนในวงการเกิดการแย่งแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น
นอกจากนี้เจ้าตัวยังบอกด้วยว่าที่ผ่านมาคนทำทีวีดิจิตอลเองเหมือนกับถูกหลอกให้มาเที่ยวสวนสนุกด้วยความหวังว่าจะได้เพลิดเพลินกับของเล่นใหม่ๆ ทว่าสุดท้ายก็กลับถูกลอยแพ โดยที่เจ้าของสวนสนุกเองก็ไม่ได้จะมาสนใจใยดีอะไรเพราะเก็บเงินค่าเข้าแพงๆ ไปแล้ว ก่อนจะฝากเอาใจช่วยคนทำทีวีดิจิตอลให้สู้ต่อไป
"เชื่อแน่ว่า หลังจากที่มีข่าวนี้ไป หลายคนที่หมั่นไส้องค์กรหนู คงได้แสดงความคิดเห็นแบบมันส์ระเบิดระเบ้อ เรียกได้ว่า ด่ากันสาดเสียเทเสียแน่นทั้งโลกโซเชียลและทุกหน้าหนังสือพิมพ์แน่
ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ (เน้นว่า 'ส่วนตัว' ไม่มีใครบังคับให้เขียน) หนูว่า เรื่องนี้ไม่มีใครแพ้ ใครชนะ นะคะ เพียงแค่เราเลือกที่จะไม่ไปต่อเอง เพราะเจ้านายหนูเลือกเอาความ 'สบายใจ' มากกว่า 'ศักดิ์ศรี' ที่ค้ำคอไว้
การเสียตังเยอะๆ แล้วไม่ได้อะไรกลับคืนมา แต่ต้องทำให้คนในครอบครัวอดตาย ถ้าเป็นหนูก็ต้องเลือกพ่อ แม่ พี่น้อง ญาติๆเราก่อน คำคน นะมันกินไม่ได้หรอก..
มันก็เหมือนการเดินทางนั้นล่ะ ...คนเรา ถ้าขับรถหลงทาง ก็รีบหาทางยูเทิร์นกลับดีกว่า ดีกว่าขับไปเรื่อยๆ เปลืองน้ำมันเปล่าๆ
ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ หนูพูดจากใจ
หนู 'เกลียด' ทีวีดิจิตอล คะ
ถึงมันจะทำให้ภาพในทีวีคมชัด
แต่ส่วนตัวแล้ว มันทำให้ 'ความรัก' ของคนในวงการมันถดถอยลงอย่างน่าใจหาย
เราเห็นการแก่งแย่งชิงดี การแบ่งพรรค แบ่งฝ่าย ไร้ความเป็นหนึ่งเดียว
เมื่อก่อนทำงานเคยเดินยิ้มแฉ่งไปไหนมาไหน อยู่กับใครก็ได้ แต่พอมี 'ทีวีดิจิตอล' ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด
..ไม่ต้องบอกว่า ใครแบนใคร ใครห้ามออกช่องไหน ยังไงนะคะ ...รู้กันอยู่แล้ว
แต่หนูเข้าใจทุกอย่างนะคะ เข้าใจว่า มันเป็นงาน มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ มันเป็นวิถีของการต่อสู้ในก้าวต่อไปของวงการทีวีในยุคดิจิตอล ..ที่ผ่านมาเลยเลือกที่จะเงียบ ไม่ค่อยไปตีกับใคร เพราะมันเหนื่อยใจ ที่เห็นคนรู้จักกันเองทั้งนั้น มาว่ากันหน้าจอ ..ซึ่งมันก็เรื่องของผลประโยชน์ทั้งนั้น หนูเข้าใจ
หนูก็ประชาชนตาดำๆ ละนะคะ มีสิทธ์พูดเนอะว่า แอบน้อยใจหน่วยงานที่ดูแลนะคะว่า มาโพทะนาว่าจะทำโน้นนี่ให้คนทำทีวีดิจิตอล เชื่อป้ะ? ทุกวันนี้บ้านหนูยังดูทีวีผ่านกล่องที่ให้ไม่ชัดเลย ..เหมือน พี่ๆ หลอกหนูให้มาเที่ยวสวนสนุกเพลิดเพลินใจว่า จะได้โน้นนี่นั่น มีเครื่องเล่นทันสมัยมากมาย แล้วสุดท้ายก็ลอยแพตามยถากรรม ใครจะตายไม่สนใจ หิวน้ำ หิวข้าว ก็ไม่รู้ไม่ชี้ เอาเงินค่าเข้าสวนสนุก (แพงๆ) อย่างเดียว ใจร้ายจริงๆ
หนูรู้ว่า คนทำทีวีดิจิตอลตอนนี้ กระอักกันหลายคน เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เหนื่อยยากเลือดตาแทบกระเด็น ...หนูเป็นกำลังใจให้นะคะ และไม่ว่าจะยังไงก็ตามแต่ หนูในฐานะสื่อตัวเล็กๆ สื่อหนึ่งก็จะทำหน้าที่ผลักดันผลงานของทุกช่อง ทุกสถานีแบบเต็มที่ แบบที่มันควรจะเป็น ใครดี ใครดัง ก็เชียร์คนนั้น แบบไม่แบ่งข้าง แบ่งฝ่ายอยู่แล้ว
...ใครไม่ชอบหนู หนูไม่รู้ หนูรู้แต่ ทุกวันที่ก้าวออกจากบ้าน หนูจะมีรอยยิ้มให้ทุกคน เชียร์ทุกคนที่หนูรัก ด้วยอาชีพที่หนูรัก
เป็นกำลังใจให้คนทำ ทีวีดิจิตอล ทุกคนนะคะ
สู้ต่อไป (ขอให้คนที่เค้าหลอกพวกเรามาเที่ยว สำนึกบ้างเถอะนะคะ)
ขอบคุณคะ"
...
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9580000059290
ขาดทุน 300 ล้าน "เจ๊ติ๋ม" ลอยแพไทยทีวี "แจ็คเกอรีน" ช่วยอัดซ้ำกสทช.
ลือ "เจ๊ติ๋ม" ทิ้งช่อง "ไทยทีวี" หลังยันไม่จ่ายค่าสัมปทานทีวีดิจิตอลรอบ 2 เหตุขาดทุนร่วม 300 ล้านบาท คาดกลับไปทำทีวีดาวเทียมเหมือนเดิม ด้านเด็กในสังกัด "แจ็คเกอรีน" ช่วยอัดซ้ำกสทช. ลั่นหนูเกลียดทีวีดิจิตอล บอกเหมือนถูกหลอกเข้าสวนสนุกเก็บค่าตั๋วราคาแพง ก่อนถูกลอยแพตามยถากรรม
หลังคณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ และกิจการโทรคมนาคมแห่งชาติ หรือ กสทช. มีมติไม่ให้เลื่อนจ่ายค่าสัมปทานทีวีดิจิตอลงวดที่ 2 ส่งผลให้ผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลทั้ง 24 ช่อง จะต้องยื่นชำระภายในวันที่ 25 พ.ค.58 ตามข่าวที่ออกมานั้น
ล่าสุดมีรายงานว่าทางด้านของ บริษัทไทยทีวี โดย นางพันธุ์ทิพา ศกุณต์ไชย์ หรือ "เจ๊ติ๋ม ทีวีพูล" ได้ตัดสินใจที่จะไม่จ่ายค่าใบอนุญาตทีวีดิจิตอลในปีนี้ตามที่เคยออกมาให้สัมภาษณ์แน่นอน เนื่องจากมีผลประกอบการขาดทุนร่วม 300 ล้านบาท พร้อมให้เหตุผลว่าที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะการบริหารงานที่ผิดพลาดของ กสทช. โดยมีการเปิดเผยว่ามีความเป็นไปได้ที่เจ้าตัวจะเลิกการทำทีวีดิจิตอลและหันไปทำทีวีดาวเทียมเช่นเดิม
ทั้งนี้มีรายงานออกมาก่อนหน้านี้ด้วยว่าจะมีผู้ประกอบการทีวีดิจิตอลหลายต่อหลายช่องยืนยันที่จะไม่จ่ายค่าสัมปทานในครั้งนี้ขณะเดียวกันก็มีข่าวออกมาว่าในวันนี้ผู้ประกอบการบางส่วน อาทิ ช่องPPTV, ช่อง AMARIN, ช่อง NATION, ช่อง GMM ได้ไปชำระเงินพร้อมกับทำจดหมายขอสงวนสิทธิ์ในการฟ้องร้องทางกฏหมายเพื่อให้คณะกรรมการกิจการกระจายเสียง กิจการโทรทัศน์ (กสท.) เยียวยาด้วย
"แจ๊คเกอรีน ทีวีพูล"
อย่างไรก็ตาม หลังจากที่มีข่าวออกมาถึงการเลิกทำช่องดิจิตอลไทยทีวีของเจ๊ "ติ๋ม ทีวีพูล" ล่าสุดในเวบไซต์ข่าวทีวีพูลเองก็ได้มีการเผยแพร่ข้อความที่ระบุว่ามาจาก "แจ็คเกอรีน" (พัฒนะชัย อดิเรก) หนึ่งในผู้ดำเนินรายการทางช่องไทยทีวีออกมามีเนื้อหาเกี่ยวกับความรู้สึกของเจ้าตัวที่ระบุว่าตนเองเกลียดทีวีดิจิตอลเพราะมันทำให้คนในวงการเกิดการแย่งแข่งขัน ชิงดีชิงเด่น
นอกจากนี้เจ้าตัวยังบอกด้วยว่าที่ผ่านมาคนทำทีวีดิจิตอลเองเหมือนกับถูกหลอกให้มาเที่ยวสวนสนุกด้วยความหวังว่าจะได้เพลิดเพลินกับของเล่นใหม่ๆ ทว่าสุดท้ายก็กลับถูกลอยแพ โดยที่เจ้าของสวนสนุกเองก็ไม่ได้จะมาสนใจใยดีอะไรเพราะเก็บเงินค่าเข้าแพงๆ ไปแล้ว ก่อนจะฝากเอาใจช่วยคนทำทีวีดิจิตอลให้สู้ต่อไป
"เชื่อแน่ว่า หลังจากที่มีข่าวนี้ไป หลายคนที่หมั่นไส้องค์กรหนู คงได้แสดงความคิดเห็นแบบมันส์ระเบิดระเบ้อ เรียกได้ว่า ด่ากันสาดเสียเทเสียแน่นทั้งโลกโซเชียลและทุกหน้าหนังสือพิมพ์แน่
ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ (เน้นว่า 'ส่วนตัว' ไม่มีใครบังคับให้เขียน) หนูว่า เรื่องนี้ไม่มีใครแพ้ ใครชนะ นะคะ เพียงแค่เราเลือกที่จะไม่ไปต่อเอง เพราะเจ้านายหนูเลือกเอาความ 'สบายใจ' มากกว่า 'ศักดิ์ศรี' ที่ค้ำคอไว้
การเสียตังเยอะๆ แล้วไม่ได้อะไรกลับคืนมา แต่ต้องทำให้คนในครอบครัวอดตาย ถ้าเป็นหนูก็ต้องเลือกพ่อ แม่ พี่น้อง ญาติๆเราก่อน คำคน นะมันกินไม่ได้หรอก..
มันก็เหมือนการเดินทางนั้นล่ะ ...คนเรา ถ้าขับรถหลงทาง ก็รีบหาทางยูเทิร์นกลับดีกว่า ดีกว่าขับไปเรื่อยๆ เปลืองน้ำมันเปล่าๆ
ความคิดเห็นส่วนตัวนะคะ หนูพูดจากใจ
หนู 'เกลียด' ทีวีดิจิตอล คะ
ถึงมันจะทำให้ภาพในทีวีคมชัด
แต่ส่วนตัวแล้ว มันทำให้ 'ความรัก' ของคนในวงการมันถดถอยลงอย่างน่าใจหาย
เราเห็นการแก่งแย่งชิงดี การแบ่งพรรค แบ่งฝ่าย ไร้ความเป็นหนึ่งเดียว
เมื่อก่อนทำงานเคยเดินยิ้มแฉ่งไปไหนมาไหน อยู่กับใครก็ได้ แต่พอมี 'ทีวีดิจิตอล' ทุกอย่างเปลี่ยนไปหมด
..ไม่ต้องบอกว่า ใครแบนใคร ใครห้ามออกช่องไหน ยังไงนะคะ ...รู้กันอยู่แล้ว
แต่หนูเข้าใจทุกอย่างนะคะ เข้าใจว่า มันเป็นงาน มันเป็นเรื่องของผู้ใหญ่ มันเป็นวิถีของการต่อสู้ในก้าวต่อไปของวงการทีวีในยุคดิจิตอล ..ที่ผ่านมาเลยเลือกที่จะเงียบ ไม่ค่อยไปตีกับใคร เพราะมันเหนื่อยใจ ที่เห็นคนรู้จักกันเองทั้งนั้น มาว่ากันหน้าจอ ..ซึ่งมันก็เรื่องของผลประโยชน์ทั้งนั้น หนูเข้าใจ
หนูก็ประชาชนตาดำๆ ละนะคะ มีสิทธ์พูดเนอะว่า แอบน้อยใจหน่วยงานที่ดูแลนะคะว่า มาโพทะนาว่าจะทำโน้นนี่ให้คนทำทีวีดิจิตอล เชื่อป้ะ? ทุกวันนี้บ้านหนูยังดูทีวีผ่านกล่องที่ให้ไม่ชัดเลย ..เหมือน พี่ๆ หลอกหนูให้มาเที่ยวสวนสนุกเพลิดเพลินใจว่า จะได้โน้นนี่นั่น มีเครื่องเล่นทันสมัยมากมาย แล้วสุดท้ายก็ลอยแพตามยถากรรม ใครจะตายไม่สนใจ หิวน้ำ หิวข้าว ก็ไม่รู้ไม่ชี้ เอาเงินค่าเข้าสวนสนุก (แพงๆ) อย่างเดียว ใจร้ายจริงๆ
หนูรู้ว่า คนทำทีวีดิจิตอลตอนนี้ กระอักกันหลายคน เหมือนตำน้ำพริกละลายแม่น้ำ เหนื่อยยากเลือดตาแทบกระเด็น ...หนูเป็นกำลังใจให้นะคะ และไม่ว่าจะยังไงก็ตามแต่ หนูในฐานะสื่อตัวเล็กๆ สื่อหนึ่งก็จะทำหน้าที่ผลักดันผลงานของทุกช่อง ทุกสถานีแบบเต็มที่ แบบที่มันควรจะเป็น ใครดี ใครดัง ก็เชียร์คนนั้น แบบไม่แบ่งข้าง แบ่งฝ่ายอยู่แล้ว
...ใครไม่ชอบหนู หนูไม่รู้ หนูรู้แต่ ทุกวันที่ก้าวออกจากบ้าน หนูจะมีรอยยิ้มให้ทุกคน เชียร์ทุกคนที่หนูรัก ด้วยอาชีพที่หนูรัก
เป็นกำลังใจให้คนทำ ทีวีดิจิตอล ทุกคนนะคะ
สู้ต่อไป (ขอให้คนที่เค้าหลอกพวกเรามาเที่ยว สำนึกบ้างเถอะนะคะ)
ขอบคุณคะ"
...
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9580000059290