ขยายฐานภาษีมรดก จาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท

เศรษฐกิจจานร้อน มหาเศรษฐีเมืองไทย...โปรดฟังทางนี้?
http://www.dailynews.co.th/article/323499

วันจันทร์ที่ 25 พฤษภาคม 2558 เวลา 11:50 น.

กว่าจะลงตัว! กว่าจะไฟเขียวกันได้ ! ก็ทำเอาเจ้าของเรื่องอย่าง “สมหมาย ภาษี” ออกอาการเหงื่อตกไปไม่น้อยทีเดียว

กลายเป็นกระแสร้อนแรงกันอีกแล้วจ้า... กับเรื่องราวของภาษีมรดก ที่บรรดาท่านสนช.หรือสมาชิกนิติบัญญัติแห่งชาติ จำนวน 145 คน เค้ายกมือยกไม้ไฟเขียวให้กฎหมายการรับภาษีมรดก ผ่านการพิจารณาวาระ 3 ไปแบบสะดวกโยธิน

กว่าจะลงตัว! กว่าจะไฟเขียวกันได้ ! ก็ทำเอาเจ้าของเรื่องอย่าง “สมหมาย ภาษี” ออกอาการเหงื่อตกไปไม่น้อยทีเดียว เพราะมีการเปลี่ยนแปลงสาระสำคัญของกฎหมาย

ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการขยายฐานภาษี จาก 50 ล้านบาท เป็น 100 ล้านบาท หรืออัตราภาษีที่ให้จัดเก็บ 5% หากผู้ได้รับมรดกเป็นบุพการี ทั้งพ่อ แม่ ปู่ ย่า ตา ยาย ทวด หรือผู้สืบสันดาน ทั้งลูก หลาน เหลน และลื่อ จากร่างเดิมของรัฐบาลที่เรียกเก็บภาษีในส่วนที่เกิน 50 ล้านบาท ให้จัดเก็บ 10%

สุดท้าย...ในเมื่อท่านสนช.ทั้ง 145 คน เค้าเห็นชอบกันแล้ว ก็เอาเป็นว่า... ทุกอย่างต้องเดินตามนั้นกันล่ะนะ

แต่!!! ถามว่า เรา ๆ ท่าน ๆ จะเดือดร้อนกันมั๊ย?

เชื่อว่าคนไทยส่วนใหญ่ทั้งประเทศ ไม่เดือดร้อนกันหรอก คนจะเดือดร้อน โน่น... ต้องเป็นคนมีเงินเป็นร้อยเป็นพันเป็นหมื่นล้านบาท นั่นแหล่ะ

สรุปว่า... เรื่องนี้เป็นเรื่องของคนรวย เรื่องของมหาเศรษฐีเค้าโน่น พวกกระจิ๊ดริด กระจี้รี่ ก็ไม่ต้องไปเดือดร้อนอะไรกับใครเค้า!!

แต่ที่ต้องเดือดร้อน...เห็นทีต้องเป็นพวกที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับกระบวนการจัดเก็บภาษีนั่นแหล่ะ ก็เจ้าหน้าที่สรรพากรนั่นแหล่ะ ที่ต้องตื่นตัว สร้างกระบวนการจัดเก็บภาษีให้ครบถ้วน ให้ถูกต้อง และให้เป็นธรรม

เพราะไม่เช่นนั้น กฎหมายที่ออกมา ก็อาจเสียของ เข้าให้ก็ได้ เพราะหลักการของการเก็บภาษี เจ้าของเรื่องน่ะ เค้าบอกไว้ชัดเจนว่าเป็นเรื่องของการลดความเหลื่อมล้ำ แถมยังทำให้เกิดความเป็นธรรมในสังคม

ดังนั้น!! เมื่อกฎหมายมีผลบังคับใช้ภายใน 180 วัน เมื่อประกาศในราชกิจจานุเบกษา แล้ว ก็คงต้องมารอดูกันต่อไปว่า การบังคับใช้กฎหมายนั้นจะมีประสิทธิภาพอย่างไร

หรือ? จะปล่อยให้ “เสียของ” อย่างที่หลายคนตั้งหน้าตั้งตารอ “รุมยำ”

ส่วนที่รอ... ที่คาดหวัง... ว่าจะรีดเงินภาษีได้เพิ่มมากขึ้น ก็ไม่ต้องไปพูดถึงกันหรอกนะ เพราะ 1. จำนวนเศรษฐีมหาเศรษฐี ที่จะได้รับมรดก ก็มีเพียงไม่เท่าไหร่ หรือไม่ถึง 2 หมื่นครัวเรือนด้วยซ้ำไป ขณะที่ทายาทหรือบุพการี ที่มีสิทธิ์ได้รับมรดก ยังมีไม่ถึง 5 พันคน

และ 2. ใครจะไปรู้ ใครจะไปมีญาณทิพย์ ได้ว่า ในแต่ละปี บรรดาเศรษฐี มหาเศรษฐี เค้าจะมีอันเป็นไป จนต้องยกมรดกให้ลูกหลาน ผู้มีพระคุณ เท่าไหร่

สรุป! รายได้ที่จะมาจากภาษีมรดก คงไม่ถึง 0.01% ของรายได้ภาษีทั้งหมดของประเทศ จึงไม่ต้องไปมองว่ารัฐบาลจะมีเงินเยอะขึ้น

เพราะเค้าบอกกันอยู่แล้วว่า... ภาษีมรดก เป็นเรื่องของการลดความเหลื่อมล้ำในสังคมเท่านั้น แต่ก็นะ... ทั้งหมดคงขึ้นอยู่กับจิตสำนึกของผู้ได้รับมรดกนั่นแหล่ะ

แล้วอยากจะรู้กันมั๊ยว่าบรรดาเศรษฐี มหาเศรษฐีของเมืองไทย น่ะ มีใครกันบ้าง ?

ล่าสุด! นิตยสารฟอร์บส์ ซึ่งเป็นนิตยสารด้านเศรษฐกิจและการเงินชื่อดังของสหรัฐฯ เผยผลการจัดอันดับมหาเศรษฐีโลก ประจำปี 58 โดยดูจากทรัพย์สินที่มีมากกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ขึ้นไป

ปรากฎว่า... มหาเศรษฐีเมืองไทยน่ะ ติดอันดับถึง 11 ราย กันทีเดียว และแน่นอน หนีไม่พ้น “ทักษิณ ชินวัตร” ที่มีทรัพย์สิน 1,700 ล้านดอลลาร์สหรัฐ หรือคิดเป็นเงินไทยเวลานี้ก็ประมาณ 5.6 หมื่นล้านบาท โน่น

นอกจากนี้ยังมีชื่อของ เจ้าสัวสีพี “ธนินทร์ เจียรวนนท์” ที่มีทรัพย์สิน 13,600 ล้านดอลลาร์ หรือกว่า 4.5 แสนล้านบาท ตามต่อมาด้วย เจ้าพ่อน้ำเมา “เจริญ สิริวัฒนภักดี” มีทรัพย์สิน 13,200 ล้านดอลลาร์

ไม่เพียงเท่านี้นะ “กฤตย์ รัตนรักษ์” จากค่ายวิ๊ก 7 สี ก็มีทรัพย์สินถึง 3,800 ล้านดอลลาร์ หรือจะเป็น “วาณิช ไชยวรรณ” จากไทยประกันชีวิต มีทรัพย์สิน 3,700 ล้านดอลลาร์ ส่วน “หมอปราเสริฐ ปราสาททองโอสถ” เจ้าพ่อการบินบางกอกแอร์เวย์ มีทรัพย์สิน 2,800 ล้านดอลลาร์

ยังมี “วิชัย ศรีวัฒนประภา” เจ้าของคิง เพาเวอร์ มีทรัพย์สิน 2,600 ล้านดอลลาร์ รวมทั้ง “ทองมา วิจิตรพงศ์พันธุ์” ค่ายพฤษาเรียลเอสเตท มีทรัพย์สิน 1,700 ล้านดอลลาร์

ส่วน “คีรี กาญจนพาสน์” เจ้าของรถไฟฟ้าบีทีเอส ก็ไม่น้อยหน้า มี 1,700 ล้านดอลลาร์ เช่นเดียวกับ “สุดธิดา รัตนรักษ์” มี 1,700 ล้านดอลลาร์ รวมไปถึง “วิชัย ทองแตง” มีทรัพย์สิน1,600 ล้านดอลลาร์

นี่! แค่เบาะๆ เพราะเค้ามีทรัพย์สินมหาศาลที่ติดตามตรวจสอบได้ แต่เศรษฐี มหาเศรษฐี เมืองไทย ยังมีอีกไม่น้อย แถมที่ไม่เปิดตัว ก็ยังมีอีกไม่ถ้วน

อ๊ะ...อ๊ะ... ไม่ต้องออกอาการอิจฉาตาร้อนกันหรอกค่ะ เพราะบุญวาสนาน่ะมันแข่งกันไม่ได้ แต่สิ่งที่แข่งกันได้แถมยังเห็นชัด ๆ น่ะก็ เรื่องของ “ความดี” นั่นแหล่ะค่ะ โดยเฉพาะการเคารพกฎหมาย

ดังนั้น! การเสียภาษีให้ครบถ้วนถูกต้อง ก็เป็นเรื่องของการทำความดีนะคะ....

…...................................

คอลัมน์ : เศรษฐกิจจานร้อน

โดย “ช่อชมพู”
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่