ใครเคยดูเรื่องนี้แล้วชอบกันบ้าง
สงครามเล่าข่าวนี่เค้าไม่ได้มีเฉพาะในเมืองไทยนะคะ
เมื่องนอกเค้าก็ตบตีกันน่าดู
แต่เค้ามี "ไอเดีย" เป็นอาวุธค่ะ
ไม่ "ก็อปปี้" กันไม่บันยะบันยังแบบบ้านเรา
เรื่อง Morning Glory ยำข่าวเช้ากู้เรตติ้ง ก็หยิบเอาวิกฤตข่าวเช้า
ของรายการ Day Break ที่เรตติ้งร่อแร่โคม่าปางตายมาหลายเพลา
เพราะทีมงานต่างคนต่างทำ ซังกะตายไปวันๆ
จนได้โปรดิวเซอร์สาวหน้าใหม่มาควงนิ้วขอเปลี่ยนทุกอย่างแบบทีวี สามมมมมม ร้อยหกสิบองศา
แถมยังต้องไปง้อแกมบังคับ (แต่หนักไปอย่างหลังมากกว่า) นักข่าวขึ้นหิ้งยุคหินมาทำรายการ
พ่อเจ้าประคุณก็ช่างฤทธ์เดชเยอะน่าเตะเหลือเกิน
ปัญหาใหญ่ของเรื่องก็คือ
"การมองต่างมุมกัน" ระหว่างน้องนางเอกกะพี่นักข่าว
พี่นักข่าวบอกว่า
"ข่าวเช้าไม่ใช่ข่าว มากระโดดหย่องแหย่ง โชว์ทำกับข้าว นี่มันขยะชัดๆ"
แต่น้องนางเอกกลับมองว่า
"คนเราจะกินแต่ไฟเบอร์คงไม่ไหว มันต้องมีอาหารขยะบ้างจะได้เติมรสชาติให้อร่อย"
ฟังอย่างนี้แล้วก็นึกถึงความเป็นจริงว่า คนเราไม่มีใครอยากบริโภคข่าวสารแบบ 100% กันหรอก
ถ้าเอาข่าวมาห่อสวยๆ เคลือบน้ำตาลหวานๆ ก็คงเร้าใจให้อยากแกะชิมดู
แต่ยังไงก็ต้องไม่ลืม "เนื้อแท้" ของสิ่งที่กำลังทำอยู่
ความคิดแบบเก่าไม่ใช่เรื่องผิด แนวคิดแบบใหม่ๆ ก็ยิ่งไม่ใช่เรื่องผิด
อยู่ที่ว่าเราจะนำรากฐานมาวางแล้วต่อเติมสิ่งใหม่ๆ เข้าไปอย่างไรต่างหาก
แน่นอนว่าถ้าเราชงเองชิมเองก็ไม่ต้องไปแคร์ใคร
แต่ถ้าจะชงขายเอาตังค์คนอื่น ก็ต้องยอมรับความเห็นชาวบ้านเค้าด้วย
สื่อก็ต้องปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภค
เพราะเดี๋ยวนี้รีโมทอยู่ในมือ ไม่พอใจกดแป๊บเดียวโอกาสก็หมดแล้ว
จริงมั้ยคะ...
บทความน่าสนใจจาก:
http://beinggift.igetweb.com/index.php
ขอบคุณ Big Cinema: หนังสนุกดี คนเขียนบทคนเดียวกับ The Devil wears Prada ด้วย
ชอบนางเอกมากๆ ดูเรื่องนี้แล้วนึกถึงสงครามเรตติ้ง กับ รายการโทรทัศน์บ้านเราเลย
**Big Cinema: "Morning Glory ยำข่าวเช้า กู้เรตติ้ง" สงครามข่าวแบบ เบา เบา...
สงครามเล่าข่าวนี่เค้าไม่ได้มีเฉพาะในเมืองไทยนะคะ
เมื่องนอกเค้าก็ตบตีกันน่าดู แต่เค้ามี "ไอเดีย" เป็นอาวุธค่ะ
ไม่ "ก็อปปี้" กันไม่บันยะบันยังแบบบ้านเรา
เรื่อง Morning Glory ยำข่าวเช้ากู้เรตติ้ง ก็หยิบเอาวิกฤตข่าวเช้า
ของรายการ Day Break ที่เรตติ้งร่อแร่โคม่าปางตายมาหลายเพลา
เพราะทีมงานต่างคนต่างทำ ซังกะตายไปวันๆ
จนได้โปรดิวเซอร์สาวหน้าใหม่มาควงนิ้วขอเปลี่ยนทุกอย่างแบบทีวี สามมมมมม ร้อยหกสิบองศา
แถมยังต้องไปง้อแกมบังคับ (แต่หนักไปอย่างหลังมากกว่า) นักข่าวขึ้นหิ้งยุคหินมาทำรายการ
พ่อเจ้าประคุณก็ช่างฤทธ์เดชเยอะน่าเตะเหลือเกิน
ปัญหาใหญ่ของเรื่องก็คือ "การมองต่างมุมกัน" ระหว่างน้องนางเอกกะพี่นักข่าว
พี่นักข่าวบอกว่า "ข่าวเช้าไม่ใช่ข่าว มากระโดดหย่องแหย่ง โชว์ทำกับข้าว นี่มันขยะชัดๆ"
แต่น้องนางเอกกลับมองว่า "คนเราจะกินแต่ไฟเบอร์คงไม่ไหว มันต้องมีอาหารขยะบ้างจะได้เติมรสชาติให้อร่อย"
ฟังอย่างนี้แล้วก็นึกถึงความเป็นจริงว่า คนเราไม่มีใครอยากบริโภคข่าวสารแบบ 100% กันหรอก
ถ้าเอาข่าวมาห่อสวยๆ เคลือบน้ำตาลหวานๆ ก็คงเร้าใจให้อยากแกะชิมดู
แต่ยังไงก็ต้องไม่ลืม "เนื้อแท้" ของสิ่งที่กำลังทำอยู่
ความคิดแบบเก่าไม่ใช่เรื่องผิด แนวคิดแบบใหม่ๆ ก็ยิ่งไม่ใช่เรื่องผิด
อยู่ที่ว่าเราจะนำรากฐานมาวางแล้วต่อเติมสิ่งใหม่ๆ เข้าไปอย่างไรต่างหาก
แน่นอนว่าถ้าเราชงเองชิมเองก็ไม่ต้องไปแคร์ใคร
แต่ถ้าจะชงขายเอาตังค์คนอื่น ก็ต้องยอมรับความเห็นชาวบ้านเค้าด้วย
สื่อก็ต้องปรับตัวให้ทันกับพฤติกรรมผู้บริโภค
เพราะเดี๋ยวนี้รีโมทอยู่ในมือ ไม่พอใจกดแป๊บเดียวโอกาสก็หมดแล้ว
จริงมั้ยคะ...
บทความน่าสนใจจาก: http://beinggift.igetweb.com/index.php
ขอบคุณ Big Cinema: หนังสนุกดี คนเขียนบทคนเดียวกับ The Devil wears Prada ด้วย
ชอบนางเอกมากๆ ดูเรื่องนี้แล้วนึกถึงสงครามเรตติ้ง กับ รายการโทรทัศน์บ้านเราเลย