ทำไมภาพยนต์ไม่ทำ FPS ให้ถึง 60 หรอครับ ทำไมถึงใช้แค่ 24 เป็นมาตรฐาน

วันนี้ผมไปดู Mad Mas : Fury Road มาครับ ผมนี่ปวดหัวทุกครั้งเลย เวลาเจอฉากที่แพนกล้องไปรอบๆ ภาพมันลายมากเลยครับ มึนหัวสุดๆ อารมณ์แบบตอนที่ดู Fast 7 เลย

คือผมสงสัย ว่าเขาทำให้เฟรมเรตสูงๆ ไม่ได้หรอครับ เวลาคนดูจะได้ไม่ต้องมามึนหัวแบบนี้

แล้วอีกอย่าง มันเกี่ยวไหมครับ ว่าจริงๆคนอื่นเห็นภาพมันลื่นดีอยู่แล้ว มีแต่พวกเกมเมอร์แบบผมที่เล่นเกมกันที่ 60 FPS ขึ้นไป มองเห็นว่าต่ำกว่านั้นภาพมันจะลาย

ขอโทษด้วยนะครับถ้าเกิดว่าที่ผมพิมพ์ไปมันวกไปวนมา

ขอบคุณครับบ

ร้องไห้
สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 21
รู้สึกวันนี้เบลอๆ เขียนงงๆ หน่อยนะครับ

คือสมัยก่อน ตอนที่ถ่ายฟิล์ม ถ่าย 24fps เป็นจุดที่เหมาะสมที่สุดระหว่างคุณภาพ vs. ต้นทุน ครับ ถ้าเอาต่ำกว่านี้ ก็จะรู้สึกว่ามันกระตุก ถ้าใช้เยอะกว่านี้ ต่อให้ลื่นก็จริงแต่มันเปลืองฟิล์ม ดังนั้นมาตฐาน 24fps นี้จึงได้รับการยอมรับ และใช้กันมานาน จนแม้แต่เข้าสู่ยุคดิจิตอลแล้วก็ยังถ่ายกันที่ความเร็วนี้กัน

ในทางเทคนิค เวลาเค้าเอา 24fps ไปฉายระบบ NTSC หรือ PAL มันจะกลายเป็น 60/50fps โดยการผ่านขั้นตอนที่เรียกว่า 3:2 pulldown หรือ film to video conversion ครับ ก็จำนวนภาพที่ถ่ายมาเท่าเดิมนั่นแหละ แค่เพิ่มจำนวนเฟรมให้เยอะขึ้นให้เท่ากับมาตฐานของสัญญาณภาพแบบนั้นๆ เวลาเราดู เราก็จะรู้สึกว่า motion blur อะไรๆ มันเหมือน 24fps เหมือนเดิม ยกเว้นทีวีบางรุ่นจะมีพวกระบบแก้ไข motion อะไรแปลกๆ ทำให้มันลื่นๆ ต่อให้ถ่าย 24fps มาก็จะดูลื่นๆ เหมือนถ่าย 50/60fps มา บางคนชอบก็ดีไป แต่ผมดูแล้วเป็น video looks มากๆ ครับ

ในแง่ของคนทำหนังอินดี้แล้ว สมัยแรกๆ กล้องดีๆ ถ่าย 24fps ได้นี่แทบไม่มีใครได้จับกัน เพราะมันแพง ปกติจะมีแค่กล้องถ่ายที่เฟรมเรทมาตฐานของวิดีโอ นั่นก็คือ 50fps สำหรับ PAL และ 60fps สำหรับ NTSC (ขอตัดเรื่อง interlaced/progressive ออกไปก่อนเพื่อความเข้าใจง่ายนะครับ) เวลาถ่ายหนังออกมานี่ ต่อให้ทำดียังไงก็ดูเหมือนถ่ายด้วยกล้องวิดีโออยู่ดีครับ ดังนั้น ช่วงแรกๆ ที่มี Panasonic DVX100 ที่ถ่าย 24fps ได้นี่ โอโหมากๆ เลย เพราะสามารถถ่ายแบบ film motion ได้ ถ้าพูดสมัยนี้ยิ่งแล้วใหญ่ครับจะให้ไปถ่าย 50/60fps นี่ โอย ฆ่ากันชัดๆ

และเนื่องด้วยที่พวกเราชินกับการดูหนังที่ถ่ายด้วยความเร็ว 24fps มาหลายสิบปี และหากเป็นละครก็จะถ่ายกันที่ 50fps (PAL) พอสมองเราคุ้นกับ motion blur ที่แตกต่างกันในความเร็วสองแบบนี้ เราก็จะรับรู้ไปโดยอัตโนมัติว่าหนังจะมี motion blur แบบนี้ ส่วนละครจะเป็นอีกแบบ ต่อให้เราอธิบายไม่ได้ว่าทำไม แต่ก็รู้ว่ามันแตกต่างแน่นอนครับ (จะชัดมาก หรือชัดน้อย ก็แล้วแต่ความช่างสังเกตของรายบุคคลไป) การจะทำหนังโรงที่เฟรมเรทไม่ใช่แบบมาตฐานจึงเป็นสิ่งที่ท้าทายมากๆ อย่าง The Hobbit ที่ท้าทายโดยการถ่าย 48fps ซึ่งแน่นอนว่ามันสมจริง ดูมีชีวิต เป็น real life แต่ในขณะเดียวกันก็ไม่ได้ทำให้คนส่วนใหญ่รู้สึกประทับใจเลย ตรงข้าม คนกลับต่อต้าน และไม่ชอบเสียด้วยซ้ำ (ยกเว้นฉากวิวสวยๆ ที่หลายคนบอกตรงกันว่า สวยจริง น่ามอง)

ป.ล. จริงๆ ยุคแรกสุดๆ หนังใบ้เค้าถ่ายกัน 16fps ครับ พอมีแทร็กเสียงในฟิล์มก็เพิ่มมาเป็น 24fps
ป.ล.2. ผมเคยเล่นเกมแล้วคิดว่า นี่ถ้าปรับภาพเป็น 24fps คงเท่ไม่น้อย 555
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่