“แพนเค้ก เขมนิจ” ปัดอัปค่าตัวเล่นหนัง บอกไม่คาดหวังรายได้ โต้เข้าถึงยาก สร้างกำแพงจนไร้เพื่อนในวงการ รับติดครอบครัว ติด “สารวัตรหมี” มากกว่า
เปลี่ยนลุกส์เป็นครั้งแรกในหนังเรื่อง “ป้าแฮปปี้ she ท่าเยอะ” ก็มีกระแสว่า “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” อัปค่าตัวสูงปรี๊ดเพื่อเล่นหนังเรื่องดังกล่าว งานนี้เจ้าตัวชี้แจงว่ายังไม่อัปค่าตัวเพิ่ม ตื่นเต้นที่ได้เล่นหนัง ไม่กล้าคาดหวังรายได้ พร้อมขอเคลียร์กระแสไม่มีเพื่อนในวงการ
“เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตเลยค่ะ ดีใจค่ะที่เสร็จสำเร็จเสร็จสิ้นมาด้วยดีจนวันนี้ เปิดตัววันแรกก็ดีใจมากแล้วก็ตื่นเต้นมาก เพราะว่าเราไม่ได้ดูก่อนเลยไม่รู้ว่าจุดสุดท้ายมันออกมาจะเป็นยังไง เราก็แอบลุ้นอยู่เหมือนกันค่ะ ค่าตัวสมเหตุสมผลค่ะ แต่จริงๆ เราเลือกเล่นเรื่องนี้เพราะว่าด้วยตัวบทด้วย ทีม m39 พี่เบน ชลาทิศ ก็ดีใจค่ะที่มีโอกาสได้ร่วมงานกันเพราะว่าปกติก็เป็นแฟนเพลงติดตามกัน แต่ว่าพอได้มาร่วมงานกันรู้สึกว่าคุ้มค่าจริงๆ ดีใจที่ได้มาร่วมงานกันจริงๆ ค่ะ”
“ตัดสินใจไม่นานเลยที่จะรับเล่นเรื่องนี้ เพราะว่าเรารู้สึกว่าคาแรกเตอร์ตัวนี้เขามีความคิดที่ดี เขาโลกสวย มองโลกในแง่ดี แล้วเขาก็มีเรื่องอะไรในชีวิตที่เป็นแรงผลักดันตัวเอง ซึ่งแพนว่ามันเป็นสื่อกลางที่ดีให้กับคนที่เขาเข้ามาดูด้วย ก็เลยคิดว่าเราน่าจะเป็นปีสุข แต่กว่าจะเจอตัวปีสุข คาแรกเตอร์ตัวนี้จริงๆ ก็ใช้เวลากันพอสมควรเหมือนกัน”
บอกไม่กล้าคาดหวังรายได้ ปัดคาแรกเตอร์เด่นกว่านักแสดงคนอื่น เชื่อมีทีมเวิร์กที่ดี
“จริงๆ เรื่องรายได้ไม่กล้าคาดหวังเลยค่ะ เอาเป็นว่าแค่ให้คนดูเข้าไปแล้วมีความสุขดีกว่าเนาะ เพราะว่าเราก็ไม่รู้ว่าจะชอบไหม หรือว่าดูแล้วจะถูกใจมากน้อยแค่ไหน แต่ว่าเราเล่นแล้วเรามีความสุข เราได้อะไรดีๆ กลับมา ก็เลยอยากให้คนที่ดูเขาได้เหมือนกันค่ะ ก็เลยไม่กล้าคาดหวังเลย”
“ค่าตัวไม่ได้อัปนะคะ กว่าจะมาเป็นหัวฟูๆ กับแต่งตัวแบบนี้ก็ใช้เวลาอยู่นานเหมือนกัน ทุกคนก็อยากจะเปลี่ยนแพนให้แตกต่างจากที่เคยเห็นกันจากในละคร จากการเดินแบบนะคะ ก็เลยมาเป็นคาแรกเตอร์แบบนี้ แต่ก็มีทีมเวิร์กที่ดี เรียกว่าช่วยกันค่ะ บทเด่นกว่าคนอื่นเหรอ อาจด้วยคาแรกเตอร์ เพราะปีสุขเขาเป็นแบบนี้ เราเล่นคนเดียวก็ไม่ได้เนาะก็ต้องมีตัวละครที่สำคัญที่มาร่วมด้วยช่วยกันให้เรื่องมันมีความน่าสนใจมากขึ้น ไม่ได้เป็นเจ๊ดันค่ะ (หัวเราะ) ช่วยกันๆ ค่ะ”
“ถามว่าต่างจากเล่นละครไหม จริงๆ แล้ววิธีการทำงานมั้งคะ ขั้นตอนการทำงานถึงระยะเวลามันจะน้อยกว่า การถ่ายออกมามันจะสั้นกว่า ใช้กล้องเดียว เราเคยถ่ายแต่สามกล้องเราก็จะแบบมันเป็นอย่างนี้เหรอ แล้วมันก็มีหลายระยะในการถ่ายทำแต่ว่าภาพที่ออกมามันก็สวยสมจริง ดูเป็นธรรมชาติจริงๆ เนื่องจากจอมันใหญ่มาก ยังไม่เคยเห็นเหมือนกันว่าตอนออกมาแล้วจะเป็นยังไง ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ แอบเครียดแอบเกร็งเหมือนกันตอนทำงานว่าเราจะเป็นปีสุขได้เต็มที่แค่ไหนหรือว่าบางซีนที่เรารู้สึกว่ามันยาก ซีนอารมณ์ เราก็อยากทำให้มันได้อย่างที่เราคิดไว้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าออกมาแล้วจะเป็นยังไงค่ะ”
ปัดมีกำแพงเข้าถึงยาก ไร้เพื่อนในวงการ บอกคนชินภาพไปไหนมาไหนกับครอบครัวมากกว่า
“จริงๆ แล้วมีเพื่อนร่วมงานกันมากกว่าเนาะ เราก็ทำงานกันส่วนมากจะอยู่กับครอบครัวมั้งคะ เห็นเป็นภาพแบบนั้นมากกว่า แต่ว่าเพื่อนๆ ที่น่ารักก็มีกันเยอะแยะค่ะ แล้วก็มีเพื่อนตั้งแต่ที่โรงเรียนด้วย ก็เลยอาจจะเห็นภาพครอบครัวชัดเจนมากกว่า แต่ว่าเพื่อนๆ ที่เจอะเจอพี่ๆ ที่ทำงานทั้งละครหรือการเดินแบบหรือต่างๆ ก็เรียกว่าเยอะแยะมากที่น่ารักแล้วก็เมตตากันค่ะ”
“ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนนอกวงการ เพื่อนๆ ที่โรงเรียน จะคอยให้กำลังใจกันเสมอ จริงๆ แพนไม่ได้เข้าถึงยาก พอถึงเวลาทำงานเราก็ทำงานอย่างนั้นมากกว่าค่ะเราก็เลยพยายามจัดสรรตัวเองในการทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมๆ กันนะคะ ก็อย่างที่บอกว่าจะเห็นภาพของครอบครัวกันเยอะมากกว่า แต่จริงๆ แล้วปกติค่ะ ไม่ได้มีกำแพงไม่ได้เข้าถึงยากหรือว่าอะไร ก็สบายๆ ค่ะ”
เผยติดการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ไปไหนมาไหนเป็นครอบครัวใหญ่ ยันมีเพื่อนแน่นอน
“ก็อาจจะติดคุณแม่ด้วยพี่หมีด้วย จริงๆ เราก็อยู่กันมาแบบนี้อ่ะค่ะ ชอบที่จะไปไหนด้วยกันทั้งกับคุณแม่กับน้อง บางทีไปต่างจังหวัดมีพี่หมีกับคุณพ่อไปด้วยค่ะ เหมือนเราก็โตมาแบบนี้เราก็แฮปปี้แบบนี้ แต่ว่าอย่างเพื่อนๆ เวลาไปไหนเจอะเจอกันช่วยงานกันไปทำโครงการอะไรต่างๆ เราก็ได้เพื่อนๆ ที่น่ารักมาเยอะมากค่ะ ไม่มีใครแซวว่าติดแฟน เราอยู่กันเป็นแพ็กมากกว่าค่ะ อยู่กันเป็นแบบจำนวนหลายๆ คนแบบนี้ ก็จะแท็กทีมกันแล้วก็จะมีทีมเวิร์กที่น่ารักของเรากันค่ะ”
“ก็แฮปปี้ค่ะเพราะเราก็ทำงานด้วยค่ะ แล้วเราก็ถือว่าเป็นกำลังใจที่สำคัญมากในการทำงานของเราค่ะ ก็มีเพื่อนค่ะ (หัวเราะ) โธ่ มีค่ะ มีแต่ว่าอาจจะไม่ได้เห็นตรงไหนเป็นพิเศษ แต่ว่าก็จะมีพี่ๆ ที่น่ารักที่เรียกว่าเราทำงานร่วมกันก็มีเสมอค่ะ ซึ่งก็แล้วแต่โอกาสเนอะ จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรค่ะ เพียงแต่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ ที่โรงเรียนมากกว่าที่เราจะสนิทกันแต่เพื่อนๆ ที่โรงเรียนก็แทบไม่ได้เจอกันเลยเหมือนกัน เราก็ทำงานเดินทางกันซะส่วนมากค่ะ”
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9580000058241
“แพนเค้ก” เคลียร์ดราม่า! น่ารัก นิสัยดี แต่ทำไมไม่มีเพื่อน
“แพนเค้ก เขมนิจ” ปัดอัปค่าตัวเล่นหนัง บอกไม่คาดหวังรายได้ โต้เข้าถึงยาก สร้างกำแพงจนไร้เพื่อนในวงการ รับติดครอบครัว ติด “สารวัตรหมี” มากกว่า
เปลี่ยนลุกส์เป็นครั้งแรกในหนังเรื่อง “ป้าแฮปปี้ she ท่าเยอะ” ก็มีกระแสว่า “แพนเค้ก เขมนิจ จามิกรณ์” อัปค่าตัวสูงปรี๊ดเพื่อเล่นหนังเรื่องดังกล่าว งานนี้เจ้าตัวชี้แจงว่ายังไม่อัปค่าตัวเพิ่ม ตื่นเต้นที่ได้เล่นหนัง ไม่กล้าคาดหวังรายได้ พร้อมขอเคลียร์กระแสไม่มีเพื่อนในวงการ
“เป็นหนังเรื่องแรกในชีวิตเลยค่ะ ดีใจค่ะที่เสร็จสำเร็จเสร็จสิ้นมาด้วยดีจนวันนี้ เปิดตัววันแรกก็ดีใจมากแล้วก็ตื่นเต้นมาก เพราะว่าเราไม่ได้ดูก่อนเลยไม่รู้ว่าจุดสุดท้ายมันออกมาจะเป็นยังไง เราก็แอบลุ้นอยู่เหมือนกันค่ะ ค่าตัวสมเหตุสมผลค่ะ แต่จริงๆ เราเลือกเล่นเรื่องนี้เพราะว่าด้วยตัวบทด้วย ทีม m39 พี่เบน ชลาทิศ ก็ดีใจค่ะที่มีโอกาสได้ร่วมงานกันเพราะว่าปกติก็เป็นแฟนเพลงติดตามกัน แต่ว่าพอได้มาร่วมงานกันรู้สึกว่าคุ้มค่าจริงๆ ดีใจที่ได้มาร่วมงานกันจริงๆ ค่ะ”
“ตัดสินใจไม่นานเลยที่จะรับเล่นเรื่องนี้ เพราะว่าเรารู้สึกว่าคาแรกเตอร์ตัวนี้เขามีความคิดที่ดี เขาโลกสวย มองโลกในแง่ดี แล้วเขาก็มีเรื่องอะไรในชีวิตที่เป็นแรงผลักดันตัวเอง ซึ่งแพนว่ามันเป็นสื่อกลางที่ดีให้กับคนที่เขาเข้ามาดูด้วย ก็เลยคิดว่าเราน่าจะเป็นปีสุข แต่กว่าจะเจอตัวปีสุข คาแรกเตอร์ตัวนี้จริงๆ ก็ใช้เวลากันพอสมควรเหมือนกัน”
บอกไม่กล้าคาดหวังรายได้ ปัดคาแรกเตอร์เด่นกว่านักแสดงคนอื่น เชื่อมีทีมเวิร์กที่ดี
“จริงๆ เรื่องรายได้ไม่กล้าคาดหวังเลยค่ะ เอาเป็นว่าแค่ให้คนดูเข้าไปแล้วมีความสุขดีกว่าเนาะ เพราะว่าเราก็ไม่รู้ว่าจะชอบไหม หรือว่าดูแล้วจะถูกใจมากน้อยแค่ไหน แต่ว่าเราเล่นแล้วเรามีความสุข เราได้อะไรดีๆ กลับมา ก็เลยอยากให้คนที่ดูเขาได้เหมือนกันค่ะ ก็เลยไม่กล้าคาดหวังเลย”
“ค่าตัวไม่ได้อัปนะคะ กว่าจะมาเป็นหัวฟูๆ กับแต่งตัวแบบนี้ก็ใช้เวลาอยู่นานเหมือนกัน ทุกคนก็อยากจะเปลี่ยนแพนให้แตกต่างจากที่เคยเห็นกันจากในละคร จากการเดินแบบนะคะ ก็เลยมาเป็นคาแรกเตอร์แบบนี้ แต่ก็มีทีมเวิร์กที่ดี เรียกว่าช่วยกันค่ะ บทเด่นกว่าคนอื่นเหรอ อาจด้วยคาแรกเตอร์ เพราะปีสุขเขาเป็นแบบนี้ เราเล่นคนเดียวก็ไม่ได้เนาะก็ต้องมีตัวละครที่สำคัญที่มาร่วมด้วยช่วยกันให้เรื่องมันมีความน่าสนใจมากขึ้น ไม่ได้เป็นเจ๊ดันค่ะ (หัวเราะ) ช่วยกันๆ ค่ะ”
“ถามว่าต่างจากเล่นละครไหม จริงๆ แล้ววิธีการทำงานมั้งคะ ขั้นตอนการทำงานถึงระยะเวลามันจะน้อยกว่า การถ่ายออกมามันจะสั้นกว่า ใช้กล้องเดียว เราเคยถ่ายแต่สามกล้องเราก็จะแบบมันเป็นอย่างนี้เหรอ แล้วมันก็มีหลายระยะในการถ่ายทำแต่ว่าภาพที่ออกมามันก็สวยสมจริง ดูเป็นธรรมชาติจริงๆ เนื่องจากจอมันใหญ่มาก ยังไม่เคยเห็นเหมือนกันว่าตอนออกมาแล้วจะเป็นยังไง ก็ผ่านไปได้ด้วยดีค่ะ แอบเครียดแอบเกร็งเหมือนกันตอนทำงานว่าเราจะเป็นปีสุขได้เต็มที่แค่ไหนหรือว่าบางซีนที่เรารู้สึกว่ามันยาก ซีนอารมณ์ เราก็อยากทำให้มันได้อย่างที่เราคิดไว้เหมือนกัน ไม่รู้ว่าออกมาแล้วจะเป็นยังไงค่ะ”
ปัดมีกำแพงเข้าถึงยาก ไร้เพื่อนในวงการ บอกคนชินภาพไปไหนมาไหนกับครอบครัวมากกว่า
“จริงๆ แล้วมีเพื่อนร่วมงานกันมากกว่าเนาะ เราก็ทำงานกันส่วนมากจะอยู่กับครอบครัวมั้งคะ เห็นเป็นภาพแบบนั้นมากกว่า แต่ว่าเพื่อนๆ ที่น่ารักก็มีกันเยอะแยะค่ะ แล้วก็มีเพื่อนตั้งแต่ที่โรงเรียนด้วย ก็เลยอาจจะเห็นภาพครอบครัวชัดเจนมากกว่า แต่ว่าเพื่อนๆ ที่เจอะเจอพี่ๆ ที่ทำงานทั้งละครหรือการเดินแบบหรือต่างๆ ก็เรียกว่าเยอะแยะมากที่น่ารักแล้วก็เมตตากันค่ะ”
“ส่วนใหญ่เป็นเพื่อนนอกวงการ เพื่อนๆ ที่โรงเรียน จะคอยให้กำลังใจกันเสมอ จริงๆ แพนไม่ได้เข้าถึงยาก พอถึงเวลาทำงานเราก็ทำงานอย่างนั้นมากกว่าค่ะเราก็เลยพยายามจัดสรรตัวเองในการทำอะไรหลายๆ อย่างพร้อมๆ กันนะคะ ก็อย่างที่บอกว่าจะเห็นภาพของครอบครัวกันเยอะมากกว่า แต่จริงๆ แล้วปกติค่ะ ไม่ได้มีกำแพงไม่ได้เข้าถึงยากหรือว่าอะไร ก็สบายๆ ค่ะ”
เผยติดการใช้ชีวิตอยู่กับครอบครัว ไปไหนมาไหนเป็นครอบครัวใหญ่ ยันมีเพื่อนแน่นอน
“ก็อาจจะติดคุณแม่ด้วยพี่หมีด้วย จริงๆ เราก็อยู่กันมาแบบนี้อ่ะค่ะ ชอบที่จะไปไหนด้วยกันทั้งกับคุณแม่กับน้อง บางทีไปต่างจังหวัดมีพี่หมีกับคุณพ่อไปด้วยค่ะ เหมือนเราก็โตมาแบบนี้เราก็แฮปปี้แบบนี้ แต่ว่าอย่างเพื่อนๆ เวลาไปไหนเจอะเจอกันช่วยงานกันไปทำโครงการอะไรต่างๆ เราก็ได้เพื่อนๆ ที่น่ารักมาเยอะมากค่ะ ไม่มีใครแซวว่าติดแฟน เราอยู่กันเป็นแพ็กมากกว่าค่ะ อยู่กันเป็นแบบจำนวนหลายๆ คนแบบนี้ ก็จะแท็กทีมกันแล้วก็จะมีทีมเวิร์กที่น่ารักของเรากันค่ะ”
“ก็แฮปปี้ค่ะเพราะเราก็ทำงานด้วยค่ะ แล้วเราก็ถือว่าเป็นกำลังใจที่สำคัญมากในการทำงานของเราค่ะ ก็มีเพื่อนค่ะ (หัวเราะ) โธ่ มีค่ะ มีแต่ว่าอาจจะไม่ได้เห็นตรงไหนเป็นพิเศษ แต่ว่าก็จะมีพี่ๆ ที่น่ารักที่เรียกว่าเราทำงานร่วมกันก็มีเสมอค่ะ ซึ่งก็แล้วแต่โอกาสเนอะ จริงๆ แล้วมันไม่มีอะไรค่ะ เพียงแต่ว่าจะเป็นเพื่อนๆ ที่โรงเรียนมากกว่าที่เราจะสนิทกันแต่เพื่อนๆ ที่โรงเรียนก็แทบไม่ได้เจอกันเลยเหมือนกัน เราก็ทำงานเดินทางกันซะส่วนมากค่ะ”
ข่าวจาก : ASTVผู้จัดการออนไลน์
http://manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9580000058241