สุดยอดความคิดเห็น
ความคิดเห็นที่ 34
เงินเดือนปัจจุบัน 20,000 บาท
ผ่อนรถราคา 400,000 ประมาณเดือนละ 7,000 บาท 5 ปีหมด
ต่อจากนั้น ผ่อนบ้าน(มือสอง) หรือคอนโดเล็กๆ ราคา 1,000,000 บาท เดือนละประมาณ 8,000 บาท 20 ปีหมด
ระหว่างนั้นต้องมีช่วงที่ไม่ได้ผ่อนอะไรเลยประมาณ 5 ปี (เช่น อาจจะก่อนผ่อนรถ หรือก่อนผ่อนบ้าน) เก็บเงิน "แต่งงาน" 5 แสนบาท (รวมสินสอดและแหวน ส่วนค่าจัดงานฝ่ายหญิงออก)
ควรจะมีเงินสำรองฉุกเฉินไว้สัก 1 แสนบาท ใช้เวลาเก็บอีก 1 ปี
รวมทั้งหมดใช้เวลา 31 ปี จากคนไม่มีอะไรเลย เพื่อจะมี บ้าน, รถ, และภรรยา
ถึงแม้ว่าเงินเดือนจะขึ้นในระหว่างนี้ แต่ค่าครองชีพก็จะขึ้นตาม ซึ่งยังคำนวนไม่ได้ว่าเงินเดือนจะขึ้นในอัตราที่สูงว่าอัตรเงินเฟ้อหรือไม่ หรือถ้ามีการปรับตำแหน่งแล้วเงินเดือนขึ้นแบบก้าวกระโดดก็ดีไป แต่ตรงนี้คิดแบบต่ำๆ ไว้ก่อน
คนวัยทำงานแบบผม ความฝันเรื่องชีวิตและความรัก มันจะมาพร้อมกับความเป็นจริงของชีวิต เรื่องเงินทองและความมั่นคง
ถึงจะรักเค้าแค่ไหน หรือเค้าจะรักผมแค่ไหน แต่ถ้าผมไม่มีอะไรให้เค้าสบายใจ เค้าก็คงจะไปจากผม ครอบครัวเค้าก็คงไม่อยากยกลูกสาวให้ มันเป็นเรื่องจริงที่น่าเศร้าที่ไม่ได้มีแค่ในละครนั่นล่ะนะ
พ้นวัยหนุ่มสาวแล้วชีวิตก็แบบนี้
เมื่อก่อน เวลาพูดว่า "ความฝัน" มันจะเป็นก้อนภาพลอยๆ อ้างอิงจากละครบ้าง ภาพยนตร์บ้าง หรือหนังสือ แต่พอทำงานแล้ว กระทั่งความฝันยังถูกนำมาคิดคำนวนออกมาเป็นตัวเลขลงตารางออกมาได้ มีดอกเบี้ยมีอะไรต่ออะไรพร้อม
จริงๆ แล้วมันก็หนักและหดหู่เวลาพูดถึงการทำอะไรเป็นหลัก 20-30 ปี เพราะนั่นมันคือทั้งชีวิตเลย ซึ่งตั้งแต่เด็กยันเรียนจบ ปกติเราคิดจากสเกลวันต่อวัน วันนี้เลิกเรียนบ่ายสาม พรุ่งนี้มาใหม่ เมื่อไหร่จะถึงเสาร์อาทิตย์ ปิดเทอมจะมาเมื่อไหร่ อีกเดี๋ยวจะขึ้นปี 2 อีก 3 ปีก็เรียนจบแล้ว
พอทำงาน มันไม่มีเส้นชัยแบบใกล้ๆ ให้เราคิดเลย มันไม่มีว่า 4-5 ปีจบ มันคือ 20-30 ปี
เคยดูหนัง/การ์ตูนญี่ปุ่นแล้วตัวละครพูดเรื่องผ่อนบ้าน 30 ปี แล้วเราฟังแล้วท้อแท้ขนาดไหน ทุกวันนี้คนทำงานก็เจอกับตัวเอง
ใครโชคดีเกิดมาพื้นฐานดี พ่อแม่ทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ให้ ก็สบายไป
พอจะพูดได้ว่า "ความฝัน" ของชีวิตจริงส่วนใหญ่ ของคนวัยทำงาน มันปะปนกับความเป็นจริง เพราะความฝันแบบที่ "เสร็จสมบูรณ์" แล้ว อาจมาถึงเอาตอนอายุ 50-60 ปี เราก็เลยต้องกับความฝันและความเป็นจริง ใช้ชีวิตไปด้วย ผ่อนความฝันไปด้วย นั่นล่ะนะ
ผ่อนรถราคา 400,000 ประมาณเดือนละ 7,000 บาท 5 ปีหมด
ต่อจากนั้น ผ่อนบ้าน(มือสอง) หรือคอนโดเล็กๆ ราคา 1,000,000 บาท เดือนละประมาณ 8,000 บาท 20 ปีหมด
ระหว่างนั้นต้องมีช่วงที่ไม่ได้ผ่อนอะไรเลยประมาณ 5 ปี (เช่น อาจจะก่อนผ่อนรถ หรือก่อนผ่อนบ้าน) เก็บเงิน "แต่งงาน" 5 แสนบาท (รวมสินสอดและแหวน ส่วนค่าจัดงานฝ่ายหญิงออก)
ควรจะมีเงินสำรองฉุกเฉินไว้สัก 1 แสนบาท ใช้เวลาเก็บอีก 1 ปี
รวมทั้งหมดใช้เวลา 31 ปี จากคนไม่มีอะไรเลย เพื่อจะมี บ้าน, รถ, และภรรยา
ถึงแม้ว่าเงินเดือนจะขึ้นในระหว่างนี้ แต่ค่าครองชีพก็จะขึ้นตาม ซึ่งยังคำนวนไม่ได้ว่าเงินเดือนจะขึ้นในอัตราที่สูงว่าอัตรเงินเฟ้อหรือไม่ หรือถ้ามีการปรับตำแหน่งแล้วเงินเดือนขึ้นแบบก้าวกระโดดก็ดีไป แต่ตรงนี้คิดแบบต่ำๆ ไว้ก่อน
คนวัยทำงานแบบผม ความฝันเรื่องชีวิตและความรัก มันจะมาพร้อมกับความเป็นจริงของชีวิต เรื่องเงินทองและความมั่นคง
ถึงจะรักเค้าแค่ไหน หรือเค้าจะรักผมแค่ไหน แต่ถ้าผมไม่มีอะไรให้เค้าสบายใจ เค้าก็คงจะไปจากผม ครอบครัวเค้าก็คงไม่อยากยกลูกสาวให้ มันเป็นเรื่องจริงที่น่าเศร้าที่ไม่ได้มีแค่ในละครนั่นล่ะนะ
พ้นวัยหนุ่มสาวแล้วชีวิตก็แบบนี้
เมื่อก่อน เวลาพูดว่า "ความฝัน" มันจะเป็นก้อนภาพลอยๆ อ้างอิงจากละครบ้าง ภาพยนตร์บ้าง หรือหนังสือ แต่พอทำงานแล้ว กระทั่งความฝันยังถูกนำมาคิดคำนวนออกมาเป็นตัวเลขลงตารางออกมาได้ มีดอกเบี้ยมีอะไรต่ออะไรพร้อม
จริงๆ แล้วมันก็หนักและหดหู่เวลาพูดถึงการทำอะไรเป็นหลัก 20-30 ปี เพราะนั่นมันคือทั้งชีวิตเลย ซึ่งตั้งแต่เด็กยันเรียนจบ ปกติเราคิดจากสเกลวันต่อวัน วันนี้เลิกเรียนบ่ายสาม พรุ่งนี้มาใหม่ เมื่อไหร่จะถึงเสาร์อาทิตย์ ปิดเทอมจะมาเมื่อไหร่ อีกเดี๋ยวจะขึ้นปี 2 อีก 3 ปีก็เรียนจบแล้ว
พอทำงาน มันไม่มีเส้นชัยแบบใกล้ๆ ให้เราคิดเลย มันไม่มีว่า 4-5 ปีจบ มันคือ 20-30 ปี
เคยดูหนัง/การ์ตูนญี่ปุ่นแล้วตัวละครพูดเรื่องผ่อนบ้าน 30 ปี แล้วเราฟังแล้วท้อแท้ขนาดไหน ทุกวันนี้คนทำงานก็เจอกับตัวเอง
ใครโชคดีเกิดมาพื้นฐานดี พ่อแม่ทิ้งทรัพย์สมบัติไว้ให้ ก็สบายไป
พอจะพูดได้ว่า "ความฝัน" ของชีวิตจริงส่วนใหญ่ ของคนวัยทำงาน มันปะปนกับความเป็นจริง เพราะความฝันแบบที่ "เสร็จสมบูรณ์" แล้ว อาจมาถึงเอาตอนอายุ 50-60 ปี เราก็เลยต้องกับความฝันและความเป็นจริง ใช้ชีวิตไปด้วย ผ่อนความฝันไปด้วย นั่นล่ะนะ
แสดงความคิดเห็น
ความฝันสูงสุดของคุณคืออะไร มาแชร์กันครับ