Day 1
ก่อนก่อนอื่นขอขึ้นต้นด้วยคำว่า "สิบ Pantip ว่า ไม่เท่าตาเห็น"
วังเวียงทำไม ทำไมต้องวังเวียง หึหึ เรื่องมันมีอยู่ว่า... อย่าให้ผมเสียเวลาพิมพ์เลยครับ เริ่มเลยดีกว่านะ
ลืมบอก... ผมไปคนเดียวนะครับ เรื่องงบเอาไว้ทีหลัง ขอให้ได้ไปก่อน
ผมไม่ไปเล่น tubing (ล่องห่วงยาง) นะครับ เนื่องจากเวลาไม่พอ
จะนั่งรถไฟไป ก็ต้องไปขึ้นที่ไหนครับ หัวลำโพงไง คือจริงๆ พลาดเรื่องราคาตั๋วนะ
เพราะตอนแรกนึกว่าจะได้นั่งเบาะนิ่มๆ ไง ที่ไหนได้ ไม่ต่างกับชั้น 3 ที่ไปฟรีมาฟรีเลยจ้า
(ลืมดูว่าได้นั่งชั้น 3 เสียโง่ไปดอกที่หนึ่ง)
ตอนนั้นก็เกือบๆ จะสิบแปดนาฬิกาแล้วละครับ เลยหาอะไรยัดๆ ลงท้องสักหน่อย
ที่เห็นวางอยู่ข้างๆ นั่นยารักษาโรคภูมิแพ้นะครับ เป็นตลอดเลย เวลาตื่นเต้นๆ
ชามที่สองต่อเลยแล้วกัน เดี๋ยวอยู่ไม่ถึงหนองคาย
ผมเดินหาชานชาลาที่ 9 เศษ 3 ส่วน 4 ยังไงก็ไม่เจอ เลยเดินเข้าไปถามพนักงานรถไฟ
เค้าบอกว่าให้ไปขึ้นที่สถานีรถไฟลอนดอนคิงส์ครอส
#หัวเราะหนักมาก
เดี๋ยวรถไฟก็ออกแล้ว ปลายทางที่สถานีดวงจันทร์ เย้ย หนองคาย #โถ่วววววววววววววว
มองดูเบาะที่ตัวเองนั่งแล้วร้องเลยครับ โอ้ววววววว จะไหวมั๊ยเนี่ย
ไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่ตอนไหน กำลังสลึมสลือได้ที่เลย ได้ยินแว่วๆ ว่าสถานีสุดท้าย เลยรีบโดดลงรถไฟ ไม่ทันได้ระเคืองใจอะไร
อุดรธานี... ใช่ครับ อุดรธานี เอาแล้วไง เอาแล้วไง นี่มันพึ่งจะตีสี่ จะให้ไปที่ไหนได้
ส่วนตัวไม่ได้ตกใจอะไรมากหรอกครับ แต่เสียดายค่าตั๋ว บาทสองบาทมันก็เงินนะ
(ยัง ยัง ยังไม่รู้ตัวอีก หารู้ไม่ว่า ที่วังเวียงจะได้ใช้เงินเละเทะกว่านี้อีก ฮาๆ)
แล้วยังไงต่อละครับ เดินสิครับ เดิน เดิน ผมนี่เดินหาผู้ช่วย AA เลยครับ
#ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ
ผม : ป้าป้าครับ บขส. อยู่ที่ไหนครับ
ป้า : เดินไปทางนั้น ตรงไปเลยนะ แยกที่สองเลี้ยวซ้าย ถ้าหนูเลี้ยวขวาจะเจอเซ็นทรัล
ผม : ห๊ะ แยกสองเกี๊ยวสาม
ป้า : ไม่ใช่ๆ แยกสองเกี๊ยวหมู
ผม : -*- งั๊นผมไปละครับ ขอบคุณครับ
ปล.ผมเข้าใจครับ ว่าไม่ขำ ผ่านๆ ไปเถอะนะ
เอาละ เมื่อเดินมาถึง บขส. อุดรธานี แล้วเราก็ต้องรอครับ
กว่าเค้าจะเปิดขายก็เกือบๆ เวลารถออกนั่นแหล๊ะครับ ประมาณแปดนาฬิกาโดยประมาณ
ใกล้จะเช้าแล้ว ข้างๆ บขส. เดินเข้ามานิดนึง มีร้านขายโจ๊ก ขายข้าวต้ม
เลยเลยจัดมาหนึ่งดอก 30 บาท อิ่มยันสาย
ซื้อตั๋วไปวังเวียงช่องซ้าย ไปเวียงจันทน์ช่องขวานะครับ
YES! ได้ตั๋วแล้ว วิธีไปวังเวียงมีหลายวิธีครับ แต่ผมพลาดลงผิดสถานี เลยได้จัดวิธีนี้
ค่าตั๋วจากอุดรธานี ไปวังเวียง 320 บาทครับ
ปล.สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องร้องขอ Visa ก่อนที่จะเข้าสปป. ลาว ต้องทำ Visa ให้เรียบร้อยก่อนที่จะซื้อตั๋วนะครับ
"NO VISA NO TICKET"
และถ้าไม่มี Passport ก็ไปวังเวียงไม่ได้ครับ เพราะมันคนละจังหวัด
ถ้าไม่มี Passport ไปได้ไกลแค่เวียงจันทน์ครับ
นี่แหล๊ะ รถพาเราไปวังเวียง ผมนี่เดินขึ้นตามปกติเลยจ้า
ก็งงว่าประตูมันหายไปไหน รู้สึกตัวก็เมื่อผ่านไปสิบวินาที
(เสียโง่ไปดอกที่สอง)
พึ่งรู้ตัวว่ามีปากกามันก็ดีอย่างนี้นี่เองนะ ก๊ากๆๆ
บัตรนี้จะได้ใช้เพื่อเดินออกจากด่านนะครับ หาซื้อได้ตามที่ๆ เค้าขายนั่นแหล๊ะ
เฉพาะบุคคลทั่วไป
เงื่อนไข :
ใช้ตามระเบียบของที่รัฐบาล $%^&*
มูลค่าที่ยังเหลืออยู่ในบัตร ไม่สามารถ%^&*มูลค่าอื่นๆ ได้
มูลค่าที่มีอยู่ในบัตร สามารถใช้ได้ ภายใน 30 วัน
%^&บัตรเสียหาย $%^&* ใช้งานไม่ได้ ๔ู฿ แจ้ง $%^&* เพื่อแก้ไขด่วน
อะไรเนี่ย !!!!
ตอนออกด่านนี่ทำผมหน้าแตกอีกแล้ว ก็ดูสิ มันเหมือน เครื่องรับ Rabbit Card ชัดๆ
แต่เค้าให้เสียบแทบ ไอ้เราก็ไปแตะอยู่พักนึง ทำไมมันไม่เปิดหว่า
ถอยหลังออกมาดู มันมีช่องเหมือนช่องให้เสียบธนบัตรอยู่ #โถ่วววววววววววววว
(เสียโง่ไปดอกที่สาม)
ได้ครึ่งทางแล้ว รถก็จอดแล้วบอกให้ลงไปทานข้าวเที่ยวกันก่อน ห๊ะ นี่เที่ยงแล้วหรอ
ผมหลับตั้งแต่รถขับออกจากด่านเลยหรอเนี่ย ไม่รู้ตัวเลย
ตอนเข้าด่านก็หลับเหมือนกัน จนมีป้าสะกิดให้ตื่น บอกว่าลงไปเข้าด่าน สงสัยเพราะพิษภูมิแพ้
ก๋วยเตี๋ยว 15 พันกีบ โค้ก 6 พันกีบ
อาหารมื้อนี้เจ็บไป 84 บาท ผมนี่ร้องอยากกลับบ้านเลย
ทานเสร็จแล้วก็นั่งรถไปต่อครับ ดูทางสิ ดูทาง แคบๆ เล็กๆ ไม่มีที่กั้นขอบทาง ผมนี่หลับไม่ลงแล้วจ้า
สวยดีนะครับ เขียวสบายตา ชอบครับ ชอบๆ คงจะเย็นน่าดู
ห๊ะ ฝนตกเฉยเลย หลุมก็หลุม เอาตัวเองมาทรมานจริงๆ
ตอนนี้ถึงแล้วนะครับ รถก็พาไปจอดโรงแรมอะไรสักอย่างนี่แหล๊ะ
คนขับบอกว่าเค้ามีรถไปส่งในเมืองฟรี ไม่เสียตัง
กลุ่มคนเกลาหลีเค้าก็เดินตามฝนไป เพราะเค้ามีเสื้อกันฝน
เราก็ให้เค้าไปส่งกับคนไทยกลุ่มนึง ที่นั่งรถมาพร้อมกัน ฟาดไป จุดละ 30 พันกีบ
(เสียโง่ไปดอกที่สี่)
ถึงโรงแรมแล้ว เป็นวิวข้างโรงแรม นี่ฟ้าหลังฝนนะครับ พึ่งหยุดไปเมื่อกี๊เลย
นี่ห้องพักที่ผมจองไว้ครับ ราคาถูก ประหยัด
ผมชอบที่จะพักแบบห้องรวมหลายๆ คน เผื่อจะได้เพื่อนใหม่ แถมได้ฝึกภาษาด้วยนะครับ
นี่เป็นรายละเอียดที่พักครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้โรงแรม บุญแต่ง ถูกสุดคืนละ 40 พันกีบ แพงสุดเท่าไหร่ไม่รู้ครับ
มีทั้งแบบรวม และแบบส่วนตัว เลือกตามใจชอบเลย
ก่อนวันที่ผมกลับมาคนไทยมาพัก เค้าบอกว่าไม่ชอบสักเท่าไหร่
เลยย้ายที่พักเฉยเช้าวันต่อมา ก็ตามใจครับ แค่ละคนชอบไม่เหมือนกัน
http://www.booking.com/hotel/la/bountang.th.html
เรื่องกินขอให้ไว้ใจผมครับ มื้อนี้เจ็บไป 25 พันกีบ อิ่มยันเช้า
ที่นี่ไม่มีพระอาทิตย์ลับขอบฟ้านะครับ มีแต่ลับขอบเขา ดูเอาแล้วกันนะ กล้องกาก
[CR] วังเวียง~~~ เมืองต้องห้าม ที่ต้องมา
ก่อนก่อนอื่นขอขึ้นต้นด้วยคำว่า "สิบ Pantip ว่า ไม่เท่าตาเห็น"
วังเวียงทำไม ทำไมต้องวังเวียง หึหึ เรื่องมันมีอยู่ว่า... อย่าให้ผมเสียเวลาพิมพ์เลยครับ เริ่มเลยดีกว่านะ
ลืมบอก... ผมไปคนเดียวนะครับ เรื่องงบเอาไว้ทีหลัง ขอให้ได้ไปก่อน
ผมไม่ไปเล่น tubing (ล่องห่วงยาง) นะครับ เนื่องจากเวลาไม่พอ
จะนั่งรถไฟไป ก็ต้องไปขึ้นที่ไหนครับ หัวลำโพงไง คือจริงๆ พลาดเรื่องราคาตั๋วนะ
เพราะตอนแรกนึกว่าจะได้นั่งเบาะนิ่มๆ ไง ที่ไหนได้ ไม่ต่างกับชั้น 3 ที่ไปฟรีมาฟรีเลยจ้า
(ลืมดูว่าได้นั่งชั้น 3 เสียโง่ไปดอกที่หนึ่ง)
ตอนนั้นก็เกือบๆ จะสิบแปดนาฬิกาแล้วละครับ เลยหาอะไรยัดๆ ลงท้องสักหน่อย
ที่เห็นวางอยู่ข้างๆ นั่นยารักษาโรคภูมิแพ้นะครับ เป็นตลอดเลย เวลาตื่นเต้นๆ
ชามที่สองต่อเลยแล้วกัน เดี๋ยวอยู่ไม่ถึงหนองคาย
ผมเดินหาชานชาลาที่ 9 เศษ 3 ส่วน 4 ยังไงก็ไม่เจอ เลยเดินเข้าไปถามพนักงานรถไฟ
เค้าบอกว่าให้ไปขึ้นที่สถานีรถไฟลอนดอนคิงส์ครอส
#หัวเราะหนักมาก
เดี๋ยวรถไฟก็ออกแล้ว ปลายทางที่สถานีดวงจันทร์ เย้ย หนองคาย #โถ่วววววววววววววว
มองดูเบาะที่ตัวเองนั่งแล้วร้องเลยครับ โอ้ววววววว จะไหวมั๊ยเนี่ย
ไม่รู้ว่าหลับไปตั้งแต่ตอนไหน กำลังสลึมสลือได้ที่เลย ได้ยินแว่วๆ ว่าสถานีสุดท้าย เลยรีบโดดลงรถไฟ ไม่ทันได้ระเคืองใจอะไร
อุดรธานี... ใช่ครับ อุดรธานี เอาแล้วไง เอาแล้วไง นี่มันพึ่งจะตีสี่ จะให้ไปที่ไหนได้
ส่วนตัวไม่ได้ตกใจอะไรมากหรอกครับ แต่เสียดายค่าตั๋ว บาทสองบาทมันก็เงินนะ
(ยัง ยัง ยังไม่รู้ตัวอีก หารู้ไม่ว่า ที่วังเวียงจะได้ใช้เงินเละเทะกว่านี้อีก ฮาๆ)
แล้วยังไงต่อละครับ เดินสิครับ เดิน เดิน ผมนี่เดินหาผู้ช่วย AA เลยครับ
#ถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถถ
ผม : ป้าป้าครับ บขส. อยู่ที่ไหนครับ
ป้า : เดินไปทางนั้น ตรงไปเลยนะ แยกที่สองเลี้ยวซ้าย ถ้าหนูเลี้ยวขวาจะเจอเซ็นทรัล
ผม : ห๊ะ แยกสองเกี๊ยวสาม
ป้า : ไม่ใช่ๆ แยกสองเกี๊ยวหมู
ผม : -*- งั๊นผมไปละครับ ขอบคุณครับ
ปล.ผมเข้าใจครับ ว่าไม่ขำ ผ่านๆ ไปเถอะนะ
เอาละ เมื่อเดินมาถึง บขส. อุดรธานี แล้วเราก็ต้องรอครับ
กว่าเค้าจะเปิดขายก็เกือบๆ เวลารถออกนั่นแหล๊ะครับ ประมาณแปดนาฬิกาโดยประมาณ
ใกล้จะเช้าแล้ว ข้างๆ บขส. เดินเข้ามานิดนึง มีร้านขายโจ๊ก ขายข้าวต้ม
เลยเลยจัดมาหนึ่งดอก 30 บาท อิ่มยันสาย
ซื้อตั๋วไปวังเวียงช่องซ้าย ไปเวียงจันทน์ช่องขวานะครับ
YES! ได้ตั๋วแล้ว วิธีไปวังเวียงมีหลายวิธีครับ แต่ผมพลาดลงผิดสถานี เลยได้จัดวิธีนี้
ค่าตั๋วจากอุดรธานี ไปวังเวียง 320 บาทครับ
ปล.สำหรับชาวต่างชาติที่ต้องร้องขอ Visa ก่อนที่จะเข้าสปป. ลาว ต้องทำ Visa ให้เรียบร้อยก่อนที่จะซื้อตั๋วนะครับ
"NO VISA NO TICKET"
และถ้าไม่มี Passport ก็ไปวังเวียงไม่ได้ครับ เพราะมันคนละจังหวัด
ถ้าไม่มี Passport ไปได้ไกลแค่เวียงจันทน์ครับ
นี่แหล๊ะ รถพาเราไปวังเวียง ผมนี่เดินขึ้นตามปกติเลยจ้า
ก็งงว่าประตูมันหายไปไหน รู้สึกตัวก็เมื่อผ่านไปสิบวินาที
(เสียโง่ไปดอกที่สอง)
พึ่งรู้ตัวว่ามีปากกามันก็ดีอย่างนี้นี่เองนะ ก๊ากๆๆ
บัตรนี้จะได้ใช้เพื่อเดินออกจากด่านนะครับ หาซื้อได้ตามที่ๆ เค้าขายนั่นแหล๊ะ
เฉพาะบุคคลทั่วไป
เงื่อนไข :
ใช้ตามระเบียบของที่รัฐบาล $%^&*
มูลค่าที่ยังเหลืออยู่ในบัตร ไม่สามารถ%^&*มูลค่าอื่นๆ ได้
มูลค่าที่มีอยู่ในบัตร สามารถใช้ได้ ภายใน 30 วัน
%^&บัตรเสียหาย $%^&* ใช้งานไม่ได้ ๔ู฿ แจ้ง $%^&* เพื่อแก้ไขด่วน
อะไรเนี่ย !!!!
ตอนออกด่านนี่ทำผมหน้าแตกอีกแล้ว ก็ดูสิ มันเหมือน เครื่องรับ Rabbit Card ชัดๆ
แต่เค้าให้เสียบแทบ ไอ้เราก็ไปแตะอยู่พักนึง ทำไมมันไม่เปิดหว่า
ถอยหลังออกมาดู มันมีช่องเหมือนช่องให้เสียบธนบัตรอยู่ #โถ่วววววววววววววว
(เสียโง่ไปดอกที่สาม)
ได้ครึ่งทางแล้ว รถก็จอดแล้วบอกให้ลงไปทานข้าวเที่ยวกันก่อน ห๊ะ นี่เที่ยงแล้วหรอ
ผมหลับตั้งแต่รถขับออกจากด่านเลยหรอเนี่ย ไม่รู้ตัวเลย
ตอนเข้าด่านก็หลับเหมือนกัน จนมีป้าสะกิดให้ตื่น บอกว่าลงไปเข้าด่าน สงสัยเพราะพิษภูมิแพ้
ก๋วยเตี๋ยว 15 พันกีบ โค้ก 6 พันกีบ
อาหารมื้อนี้เจ็บไป 84 บาท ผมนี่ร้องอยากกลับบ้านเลย
ทานเสร็จแล้วก็นั่งรถไปต่อครับ ดูทางสิ ดูทาง แคบๆ เล็กๆ ไม่มีที่กั้นขอบทาง ผมนี่หลับไม่ลงแล้วจ้า
สวยดีนะครับ เขียวสบายตา ชอบครับ ชอบๆ คงจะเย็นน่าดู
ห๊ะ ฝนตกเฉยเลย หลุมก็หลุม เอาตัวเองมาทรมานจริงๆ
ตอนนี้ถึงแล้วนะครับ รถก็พาไปจอดโรงแรมอะไรสักอย่างนี่แหล๊ะ
คนขับบอกว่าเค้ามีรถไปส่งในเมืองฟรี ไม่เสียตัง
กลุ่มคนเกลาหลีเค้าก็เดินตามฝนไป เพราะเค้ามีเสื้อกันฝน
เราก็ให้เค้าไปส่งกับคนไทยกลุ่มนึง ที่นั่งรถมาพร้อมกัน ฟาดไป จุดละ 30 พันกีบ
(เสียโง่ไปดอกที่สี่)
ถึงโรงแรมแล้ว เป็นวิวข้างโรงแรม นี่ฟ้าหลังฝนนะครับ พึ่งหยุดไปเมื่อกี๊เลย
นี่ห้องพักที่ผมจองไว้ครับ ราคาถูก ประหยัด
ผมชอบที่จะพักแบบห้องรวมหลายๆ คน เผื่อจะได้เพื่อนใหม่ แถมได้ฝึกภาษาด้วยนะครับ
นี่เป็นรายละเอียดที่พักครับ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้
เรื่องกินขอให้ไว้ใจผมครับ มื้อนี้เจ็บไป 25 พันกีบ อิ่มยันเช้า
ที่นี่ไม่มีพระอาทิตย์ลับขอบฟ้านะครับ มีแต่ลับขอบเขา ดูเอาแล้วกันนะ กล้องกาก
ดูแผนที่ขนาดใหญ่ขึ้น