ถึง...เด็กผู้หญิงคนนั้นที่ผมเจอแถวสุขุมวิทเมื่อคืน....

เมื่อคืน (20/05/58) เวลาประมาณ21:00น.
ผมเดินอยู่บนทางเท้าของถนนสุขุมวิท กำลังไปหาของกินพวกอาหารญี่ปุ่นหรือราเมนไรงี้ ผมเดินไปเรื่อยๆจนถึงช่วงระหว่างBTSพร้อมพงศ์ กับBTSอโศก ซึ่งเป็นที่ทราบกันดีนะครับว่าตลอดแนวสองข้างทางนั้น บนถนนสุขุมวิทเป็นถิ่นที่มีชาวต่างชาติอาศัยและทำมาหากินอยู่เป็นจำนวนมาก ปัญหาขอทานรวมไปถึงปัญหาคนไร้บ้านที่มาหากินกับชาวต่างชาติจึงเพิ่มมากขึ้นตามไปด้วย ระหว่างทางที่เดินนั้น ไม่น่าเชื่อว่าจะมีผุ้หญิงมากล้ายืนกวักมือเรียกผมอยู่ข้างๆป้ายรถเมล์ แล้วพอผมไม่สนใจนางยังกล้าตะโกนว่า"ไปไหน กลับมาก่อนนน" คือจะโจ่งแจ้งไปหน่อยมั้ย....

แต่ประเด็นหลักไม่ใช่เรื่องนั้นครับ สิ่งที่ผมจะพูดต่อไปนี้อาจจะเป็นธรรมดาไปเลยถ้าเราไม่สนใจหรือนิ่งดูดาย มันก็เป็นเรื่องที่สามารถพบเห็นได้ทั่วๆไปอยู่แล้ว คือระหว่างทางแค่ผมจะเดินไปหาข้าวกินสิ่งที่ผมพบเห็นได้เยอะพอๆกับแผงขายของข้างทางนั่นคือขอทานครับ...

ผมจะไม่ว่า ไม่แคร์ไม่ใส่ใจเลย ถ้าเขามาตัวคนเดียวแล้วไม่พาลูกมานั่งดมควันด้วย แต่นี่ตัวแม่เขาไปไหนไม่รู้ แล้วปล่อยให้เด็กอายุประมาน2-3ขวบนั่งอยู่คนเดียว เด็กผู้หญิงคนนี้เธอนั่งอยุ่ข้างสะพานลอยตัวคนเดียวพร้อมกับแก้วน้ำพลาสติก1ใบและตุ๊กตาของเล่นคู่กาย1ตัว ผมเดินผ่านเธอ ผมถึงกับต้องหันคอตามเลย ความรู้สึกคือคนเป็นแม่คิดอะไรอยู่จะขอทานจะอะไรไม่ว่า นั่นคือช่องทางทำมาหากินของคุณ แต่ที่ทำให้ผมตะขิดตะขวงใจนั่นคือทำไมถึงกล้าทิ้งเด็กที่ไม่รู้ประสีประสาให้นั่งตัวคนเดียวท่ามกลางฝุ่นควันและความอันตรายที่จะเผชิญได้เมื่อไหร่นั่นเราก็ไม่รู้ ท้องถนนในกรุงเทพยามค่ำคืนเต็มไปด้วยอาชญากรอยู่นับไม่ถ้วนถ้าคุณตามข่าวมากพอ

ด้วยความตกใจ ผมจึงถามเด็กคนนั้นว่า "หนูๆ แม่หนูอยู่ไหน"
เธอตอบกลับมาว่า  "แม่หนูไปเข้าห้องน้ำ"
"ห้องน้ำตรงไหนๆ"
เด็กคนนั้นก็ชี้มือไปทางไปห้างEmquartierที่เดินไปอีกประมาณ500เมตร
"เดี๋ยวแม่หนูจะกลับมาที่นี่ใช่มั้ย"
"ช่ายยย"
ด้วยความไร้เดียงสา เด็กคนนั้นก็ชวนคุยไปเรื่อยๆ ผมก็ตัดสินใจอยู่เป็นเพื่อนเด็กคนนี้จนกว่าแม่เขาจะกลับมา
"พี่ค้า ในถุงนั้นคืออะไรหรอ"
"มันคือขนม กินมั้ยหละพี่ให้คำนึง "
เขาก็กินไปแล้วเหมือนจะชอบด้วย เคบับเนี่ย
"ชอบมั้ยหละ ถ้าชอบพี่ให้หมดเลย"

ผมก็นั่งเป็นเพื่อนเค้าต่อยาวๆ ด้วยความที่ผมเป้นคนรักเด็ก ชอบเล่นกับเด็ก ผมจึงมีความรู้สึกเอ็นดูเด็กๆได้ง่าย5555 เด็กมันก็น่ารักนะ แต่ไม่น่าที่จะมาอยู่ตรงนี้เลย หวังว่าเธอจะมีชีวิตที่ดีขึ้นในอนาคตนะ

ผมนั่งเป็นเพื่อนเขาราวๆสัก15นาที แม่เขาก็เดินมา
"แม่หนูมาแล้ว"
"ไหน คนไหน"
เด็กก็ชี้ไป
"อ่อ"
แล้วก็รีบลุกไป เดี๋ยวมันจะเกิดเรื่อง ผมก็ตั้งใจว่าจะไม่ร่ำลาอะไร กลัวว่าแม่เขารู้ว่าไปยุ่งอะไรกับลูกเขา เอาจริงๆผมก็ควรจะบอกแม่เด็กด้วยว่าไม่ควรทิ้งลูกตัวเองที่ยังเล็กให้อยู่คนเดียวแบบนี้ มันอันตราย

ผมลุกไปได้สักพัก ก็ได้ยินเสียงเด็กคนนั้นตะโกนด้วยเสียงใสๆว่า
"บ๊ายบายยยย"

ผมก็โบกมือให้น้องเขาตามมารยาท และแม่ของเขาก็มองมาเหมือนไม่รับรู้อะไรเท่าไหร่ ไม่รู้เหมือนกันว่าคิดอะไรอยู่ ผมก็เดินไปหาของกินต่อละ และผมเดินไปได้สักพัก ก็เจอเด็กผู้หญิงขอทานนอนอยู่อีกคนนึงละ คราวนี้โตขึ้นมาหน่อยน่าจะสัก7ขวบได้ เธอนอนอยู่ข้างสถานีBTSพร้อมพงศ์เลยพร้อมกับหมาที่น่าจะเป็นสัตว์เลี้ยงของเธอ

ผมอยากจะปลุกนะ แต่ความรู้สึกตอนนั้น คือเราก็ไม่รู้ว่าเราไปก้าวก่ายเขาเกินไปมั้ย ถ้าเกิดแม่ค้าที่ขายถั่วอยู่ตรงข้ามเขานั่นคือแม่เขา แล้วให้ลูกสาวจัดฉากนอนขอทานให้ดูน่าสงสารละ จะทำยังไง

ผมเลยเดินต่อไปหาราเมนกินดีกว่า แต่ใจนึงก็สงสัยแหละ คือทุกคนที่ผมพูดถึง แม่เขาก็ไม่ได้พิกลพิการอะไร มือเท้ามีครบ เก็บขยะเก็บขวดขายยังดูมีศักดิ์ศรีกว่านี้อีก ไม่เกะกะทางเท้าด้วย ช่วยให้บ้านเมืองสะอาดขึ้นด้วย แต่นี่คงรายได้ดีกว่ามั้งถึงยังต้องให้ลูกตัวเองมาลำบากอย่างนี้

________________________
ก็อยากจะฝากไว้ครับ กรุงเทพตอนกลางคืนดึกๆมันใช่ว่าจะปลอดภัยสำหรับเด็กและสตรี ไม่ควรปล่อยให้เด็กอยู่ลำพังเพียงคนเดียว เพราะเรื่องร้ายๆจะเกิดกับใครตอนไหนเราก็ไม่รู้
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่