สวัสดีค่ะ นี่เป็นกระทู้แรกของเรานะคะ หลังจากซุ่มอ่านมานาน
ก็ไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรของตัวเองมาเขียนหรอก จนมีเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเองค่ะ...
*(ผิดพลาดประการใดขอโทษด้วยนะคะ)*
--------------------------------
ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ตอนนี้เรากำลังศึกษาอยู่มหาลัยปี 1 ขึ้นปี 2 เองค่ะ -- เรากับพ่อสนิทกันมาก เวลาพ่อไปทานข้าวกับเพื่อนสนิทเขา เราก็จะไปด้วยตั้งแต่เล็กๆ ซึ่งเราก็สนิทกับลุงๆ หลายคนด้วยนะคะ แบบมีอะไรก็จะปรึกษา (เช่น ลูกของลุงเขาเด็กกว่า ลุงแกก็มาปรึกษาเราค่ะ) -- จนมีอยู่วันหนึ่ง พ่อพาเราไปทานข้าวเพราะ จะมีเพื่อนพ่อคนหนึ่งมาจากต่างประเทศ (เขาทำงานต่างประเทศค่ะ ไปๆ กลับๆ) ซึ่งคนนี้เราเคยได้ยินพ่อพูดถึงบ่อยๆ รอคอยเขากลับมาไทย ขอให้ชื่อ A แล้วกันนะคะ (นามสมมติ) ตอนไปก็ปกติค่ะ มีเด็กๆ หลายคนไปด้วย ก็ไม่ได้อะไร -- จนกลับมา ลุง A เขาก็ทักแชทเฟสมา ทักมาเป็นภาษาอังกฤษค่ะ ประมาณว่า Hi. xx Jung (เขารู้ว่าเราเรียนภาษาญี่ปุ่นค่ะ ก็เลยเรียกเราxxจัง และเขาก็เพิ่งกลับจากญี่ปุ่นค่ะ) ตอนแรกเราก็ไม่ได้เอะใจอะไรค่ะ ก็คุยภาษาอังกฤษกันนิดๆ หน่อยๆ เราก็คิดว่าเขาทักตามประสาลุงหลานจะมาถามไถ่เรื่องภาษากัน บวกกับก่อนหน้านี้เป็นเพื่อนกันในเฟสอยู่แล้ว แล้วเฟสเราก็มีเฟสเพื่อนพ่ออีกหลายๆ คน เขาก็จะมาแซว ส่งสติ๊กเกอร์ในโพสต์เราปกติ แต่หลังจากได้แชทนี่แหละค่ะ ทำให้เราเริ่มไม่มั่นใจมากขึ้น
-- เราเริ่มรู้สึกแปลกๆ ตรงมีอยู่แชร์หนึ่งที่เราแชร์รองเท้าผ้าใบไป แล้วเขียนว่า "อยากได้" เขาก็มาแซวในโพสต์ว่า "A สิ" (เข้าใจได้ว่าทำสอบเอให้ได้สิ) แล้วก็แชทมาอีกค่ะว่า "ตั้งใจสอบให้ได้Aนะ ตั้งใจเรียน" (ประมาณนี้นะคะ) จากนั้นเขาก็แชทมาเรื่อยๆ (แต่เราไม่ใช่คนตอบเร็ว) ถามวันพฤ. มาตอบอีก จัน. ก็มีค่ะ และเราก็เลือกตอบแต่คำถามสุดท้ายที่เขาพิมพ์ไว้ (คือเขามาแปลกตรงเขาเป็นคนที่เหมือนคอยส่องเฟสเราตลอดค่ะ เวลาเราเด้งโพสต์อะไร เขาจะมาเม้นท์โดยสติ๊กเกอร์ แล้วทักแชทมาด้วยเป็นช่องทางที่สองว่าเราอย่างงั้นอย่างงี้เหรอ) เช่น ตอนเราบ่นเรื่องว่าจะสอบแล้ว เขาก็มาบอกว่า สอบเสร็จวันไหน (คือคำถามเด้งมาตอนนั้นเราก็เห็นค่ะ แต่ทำใจตอบไม่ได้ เลยทำเมิน ซึ่งส่วนตัวเราก็ปิดแชทอยู่แล้ว เนียนๆ กันไป) จริงๆ รายละเอียดนั้นมีเยอะมากค่ะ เขาตั้งฉายาให้เราด้วย (ขอไม่เอ่ยนคะ จริงๆ เรายังทำใจไม่ได้เลย เขาตั้งฉายาเหมือนวัยรุ่นจีบกันน่ะค่ะ) เราก็อึ้งๆ นิดๆ ทำตัวไม่ถูก ก็ไม่ได้ตอบอีก คือไม่ได้ตอบเยอะมากค่ะ (อ่านจากเวลาเด้งแจ้งเตือนมา)
-- ขอบอกเลยว่า
1. ตอนแรกเราคิดว่าเขาทักเหมือนลุงหลานปกติ ถามไถ่เรื่องสอบ
2. เราไม่ชัวร์ว่าเขาจะเล่นแชทเป็น คิดว่าที่เขาคอยส่งภาพน่ารักๆ หรือรู้ว่าเราชอบแชร์ภาพสัตว์ เขาก็จะส่งมาให้ คือการเล่นเฟสบุ๊คของเขาที่ส่งให้หลายคน
3. ตอนแรกคิดว่าเขาเริ่มมีการพิมพ์แชทหาผิดคน
-- และมีจุดพีค* ก็คือ มีอยู่วันหนึ่งเราตั้งโพสต์ประมาณว่า "ถ้าเพื่อนของพ่อคุณมาคุยเหมือนจะหยอดๆ คุณ คุณจะทำอย่างไร" ก็ตั้งขำๆ นะคะ แบบนี่ตรูควรทำตัวอย่างไรเหรอ เอาไปตั้งในพันทิปไหม ซึ่งในโพสต์นั้นเราได้ตั้งค่าบล็อกพ่อ แม่ และลุง A กับเพื่อนๆ พ่อที่มีในเฟสค่ะ แต่ที่ขำไม่ออกก็คือ "เราดันลืมลุงอีกคนที่เป็นเพื่อนพ่อแล้วเราก็สนิทกับเขาไว้!" คือเขาก็โทรมาถามหลังจากโพสต์ได้หนึ่งวันค่ะ เขาก็ถามด้วยความเป็นห่วงแบบ หลานหมายถึงใครอะไรยังไง เราก็แกล้งขำบอกไม่มีอะไรค่ะ โพสต์เล่นๆ ไงเรียกกระแส (โทรมาตอนอยู่กับแม่ด้วยยิ่งพูดไม่ออก) เขาก็ตะล่อมๆ บอกไม่จริงหรอก บอกมาจะได้ช่วยๆ กันดู เราก็บอกไม่มีค่ะ จนคุยๆ ไปลุงแกก็บอก พูดทำนองนี้พอจะรู้แล้วหมายถึงใคร แต่เราก็ยังยืนยันบอกไม่มีอะไรเลย ไว้มีอะไรจริงๆ จะเล่าให้ฟัง แล้ววางสายค่ะ (คือเรากลัวพ่อเสียความรู้สึก กลัวลุงๆ คนอื่นเสียความรู้สึกต่อเพื่อนคนนี้น่ะค่ะ อีเราไม่เท่าไรหรอก ถึงเจอแล้วหวั่นๆ แต่ไม่ได้เป็นเพื่อนเขานี่ ไม่ได้เสียความรู้สึก หมดศรัทธาขนาดนั้น)
-- หลังจากนั้น เราหลอนไปเลยคือ ไม่กล้าเปิดแชท ไม่กล้าโพสต์อะไรเกี่ยวกับเขา หรือบ่นเรื่องรักๆ กลัวพลาดแล้วมีเพื่อนพ่อมาถามอีกค่ะ 555 (T^T) เราก็หายไปจนเพื่อนสนิทมาถามเป็นไร ซึ่งเราก็ไม่กล้าเล่าในตอนแรก จนเราไปเล่าให้เพื่อนอีกคนหนึ่งฟัง เราปรึกษาว่าเราคิดเกินจริงไหม เพื่อนมันก็บอกว่าไม่แล้วแหละ มันเริ่มชัดเจน ซึ่งเรายังคิดในแง่ดีอีกว่าลุง A เขาอาจจะไม่ได้อะไรมากมาย แต่...!!!
-- เขาตามแอด LINE เรามาค่ะ (ซึ่งไม่รู้ตามแอดได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่เคยแจก ID และไม่มีเบอร์โทรโชว์ในเฟสหรือที่ใดๆ คาดว่าเขาคงพยายามลองเซิดชื่อเราดูค่ะ เพราะ ID เราชื่อเดียวกับในเฟสบุ๊ค) และเราก็ไม่ได้ตอบไลน์เขา ไม่ได้เข้าไปอ่าน จากวันนั้นถึงวันนี้ประมาณ 1 สัปดาห์กว่าๆ ค่ะ
-- เขาก็ทักแชทเฟสมาอีก เราก็ไม่ตอบอีกหลายวัน จนเมื่อกี้นี้! เขาส่งแชทเฟสมาว่า "ส่งอีเมล์หาแล้วนะ" ให้เราไปเปิดอ่านไรงี้ ด้วยความที่เราก็ใช้เมล์อยู่พอดีค่ะ ก็เลยเปิดดูซะหน่อย อยากรู้เขาจะพิมพ์อะไร... เขาขึ้นต้น... "ถึงน้องxxครับ" (!!!) คือนั่นหมายความว่า เขาตั้งใจส่งหาเราค่ะ เขาส่งไม่ผิดแน่นอน.
ในเนื้อหาก็ยาวมากๆค่ะ เขาพูดประมาณว่าเขารู้ว่าผู้หญิงระวังตัวเองจากผู้ชายนั้นเป็นสิ่งที่ดี บลาๆ แล้วเขาก็พิมพ์ยาวไปถึงว่า เขามองว่าเราจะเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน และมีอัธยาศัยที่ดี จะเป็น Working woman ในอนาคตได้ ทำนองนี้ค่ะ (ซึ่งต้องขอบอกว่า ที่ผ่านมา คนที่มาจีบเรา มีแค่สองวัยเท่านั้นค่ะ คือ ไม่เด็กไปเลย ก็ผู้ใหญ่มากๆ แต่ที่เป็นผู้ใหญ่จริงๆ เราจะไม่ค่อยคุยแต่แรกอยู่แล้วค่ะ ส่วนกรณีนี้เรียกว่าผู้ใหญ่ที่เป็นเพื่อนคุณพ่อเรา แล้วก็เริ่มต้นด้วยความที่เราไม่ได้คิดว่าเขาจะคุยแนวนี้นี่นา T^T เพื่อนเราก็บอกว่าสมควรแล้วเราบุคลิกแบบนี้ คนแก่ๆเลยเข้าหา (อ่าวอินี่)) ซึ่งเราก็ดีใจค่ะที่ผู้ใหญ่มองเห็นเราในมุมนี้ แต่ในความสัมพันธ์แบบนี้ก็ไม่โอเคค่ะ -- มีต่อในเมล์ค่ะ เขาพิมพ์ยาว จนมาขึ้นวรรคใหม่ประมาณว่า "มาเข้าเรื่องของเรานะ" ซึ่งตรงนี้ทำให้ชัดเจนว่า (เขาจีบเราชัวร์ๆสินะ) เพราะเขาพูดถึงประมาณว่า ถ้าป๊ารู้ผมคงโดนจัดการตายแน่ !!! (อ่าว ชัดเจนเลยค่ะ ว่าเราไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมคะ) เขาบอกว่าเขาห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้ รวมๆ เขาก็พิมพ์ดี ไม่ได้หยาบคายค่ะ (แต่เราอ่านเราก็สยิวเข้าใจใช่ไหมคะ กลัวที่จะอ่านคนเดียวอีกตะหาก ต้องโทรให้เพื่อนมาฟังที่เราอ่านไปพร้อมกัน -w-) เขาบอกอีกว่าเขาจะไม่หายไป แต่จะคอยดูเราเติบโต ไรแบบนี้ไปเรื่อยๆ (ยาวเลยค่ะ) จนลงท้ายมีจุ้ฟๆ (ไม่ชัดเจนให้รู้ไปค่ะ)
-- พยายามสรุปมาได้ประมาณนี้จริงๆค่ะ มันก็มีปลึกย่อยอีกที่เสริมให้ความรู้สึกจขกท. ชัดเจน แต่ก็ไม่ได้เล่าเดี๋ยวจะน้ำไป และตอนนี้ก็ยังไม่ได้ตอบเมล์กลับค่ะ หากถามว่าทำไมเราไม่บล็อกไปเลยแต่แรก ขอตอบดักนะคะ
1. เราไม่มั่นใจว่าเขาจะคิดแบบนี้ เราปรึกษาเพื่อนเลยคิดว่าดูอาการไปต่อว่าเขาจะทำอย่างไร
2. ที่เราไม่ไปฟ้องพ่อ เพราะตอนมาเจอสถานการณ์แบบนี้กับตัวเอง จะงงจริงๆ ค่ะ และเราคิดถึงผลระยะยาว คือ เราก็ไม่กล้าฟังธงว่าเขาเข้ามาแนวไหน บวกกับเขาก็เป็นเพื่อนๆ กัน ดูสิพ่อเรายังดีอกดีใจที่เขากลับมาไทย กลัวเพื่อนฝูงจะมีปัญหากันใหญ่โต อย่างที่บอกข้างต้นค่ะ เขาทำงานต่างประเทศ ถ้าไม่ได้เจอกันอีกก็อาจจะทำได้ คือเขาก็ไม่ได้มาสุงสิงกับเรา ถ้าลืมๆเรื่องนี้ไป เราก็เลือกได้ไม่อยากให้ผู้ใหญ่เสียความรู้สึกต่อเพื่อนของเขาค่ะ (อย่าลากยาวไปถึงว่าเราจะกลัวทำไม ห่วงตัวเองดีกว่านะคะ คือตอนนี้เขาไม่ได้ลามปามเราขนาดนั้น แค่แชท แล้วเราอยากจะเผชิญหน้าตรงๆ (หมายถึงคุยกับเขาให้รู้เรื่อง) ค่อยตัดจบทีเดียว เลยไม่อยากทิ้งขว้าง หนีปัญหา หรือตาตื่นไปทำเป็นเรื่องราวใหญ่โต เราก็คิดเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ ถ้าเขาไม่มาละลาบละล้วงเรามาก ก็รับมือปกติไปก่อนค่ะ) ถึงหวั่นๆอยู่แต่ก็อยากคุยด้วยเหตุผล อยากพิมพ์กลับไปให้เขารู้ด้วยซ้ำว่าทำอย่างนี้เรารู้สึกอย่างไร และสิ่งที่เขาพิมพ์มันสะท้อนความคิดยังไง เลยคิดไว้แล้วว่าจะพิมพ์เมล์กลับไปต่ออย่างไร ถ้าเรื่องนี้มันบานปลายก็คงบอกผู้ใหญ่จริงๆ จังๆ ตามลำดับค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านถึงตรงนี้นะคะ เป็นประสบการณ์จริงๆ จังๆ (ล่าสุด ที่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวค่ะ) อันนี้เป็นมุมของจขกท. (ซึ่งอาจจะเด็กหรือเปล่าไม่แน่ใจ) แต่จขกท. ก็อยากอ่านความคิดเห็นมุมในมุมของคนที่เป็นผู้ใหญ่ค่ะ ขอบคุณค่ะ.
เมื่อเพื่อนพ่อ มาชอบเรา(...)
ก็ไม่คิดว่าจะมีเรื่องอะไรของตัวเองมาเขียนหรอก จนมีเรื่องจริงที่เกิดขึ้นกับตัวเองค่ะ...
*(ผิดพลาดประการใดขอโทษด้วยนะคะ)*
--------------------------------
ต้องขอเกริ่นก่อนว่า ตอนนี้เรากำลังศึกษาอยู่มหาลัยปี 1 ขึ้นปี 2 เองค่ะ -- เรากับพ่อสนิทกันมาก เวลาพ่อไปทานข้าวกับเพื่อนสนิทเขา เราก็จะไปด้วยตั้งแต่เล็กๆ ซึ่งเราก็สนิทกับลุงๆ หลายคนด้วยนะคะ แบบมีอะไรก็จะปรึกษา (เช่น ลูกของลุงเขาเด็กกว่า ลุงแกก็มาปรึกษาเราค่ะ) -- จนมีอยู่วันหนึ่ง พ่อพาเราไปทานข้าวเพราะ จะมีเพื่อนพ่อคนหนึ่งมาจากต่างประเทศ (เขาทำงานต่างประเทศค่ะ ไปๆ กลับๆ) ซึ่งคนนี้เราเคยได้ยินพ่อพูดถึงบ่อยๆ รอคอยเขากลับมาไทย ขอให้ชื่อ A แล้วกันนะคะ (นามสมมติ) ตอนไปก็ปกติค่ะ มีเด็กๆ หลายคนไปด้วย ก็ไม่ได้อะไร -- จนกลับมา ลุง A เขาก็ทักแชทเฟสมา ทักมาเป็นภาษาอังกฤษค่ะ ประมาณว่า Hi. xx Jung (เขารู้ว่าเราเรียนภาษาญี่ปุ่นค่ะ ก็เลยเรียกเราxxจัง และเขาก็เพิ่งกลับจากญี่ปุ่นค่ะ) ตอนแรกเราก็ไม่ได้เอะใจอะไรค่ะ ก็คุยภาษาอังกฤษกันนิดๆ หน่อยๆ เราก็คิดว่าเขาทักตามประสาลุงหลานจะมาถามไถ่เรื่องภาษากัน บวกกับก่อนหน้านี้เป็นเพื่อนกันในเฟสอยู่แล้ว แล้วเฟสเราก็มีเฟสเพื่อนพ่ออีกหลายๆ คน เขาก็จะมาแซว ส่งสติ๊กเกอร์ในโพสต์เราปกติ แต่หลังจากได้แชทนี่แหละค่ะ ทำให้เราเริ่มไม่มั่นใจมากขึ้น
-- เราเริ่มรู้สึกแปลกๆ ตรงมีอยู่แชร์หนึ่งที่เราแชร์รองเท้าผ้าใบไป แล้วเขียนว่า "อยากได้" เขาก็มาแซวในโพสต์ว่า "A สิ" (เข้าใจได้ว่าทำสอบเอให้ได้สิ) แล้วก็แชทมาอีกค่ะว่า "ตั้งใจสอบให้ได้Aนะ ตั้งใจเรียน" (ประมาณนี้นะคะ) จากนั้นเขาก็แชทมาเรื่อยๆ (แต่เราไม่ใช่คนตอบเร็ว) ถามวันพฤ. มาตอบอีก จัน. ก็มีค่ะ และเราก็เลือกตอบแต่คำถามสุดท้ายที่เขาพิมพ์ไว้ (คือเขามาแปลกตรงเขาเป็นคนที่เหมือนคอยส่องเฟสเราตลอดค่ะ เวลาเราเด้งโพสต์อะไร เขาจะมาเม้นท์โดยสติ๊กเกอร์ แล้วทักแชทมาด้วยเป็นช่องทางที่สองว่าเราอย่างงั้นอย่างงี้เหรอ) เช่น ตอนเราบ่นเรื่องว่าจะสอบแล้ว เขาก็มาบอกว่า สอบเสร็จวันไหน (คือคำถามเด้งมาตอนนั้นเราก็เห็นค่ะ แต่ทำใจตอบไม่ได้ เลยทำเมิน ซึ่งส่วนตัวเราก็ปิดแชทอยู่แล้ว เนียนๆ กันไป) จริงๆ รายละเอียดนั้นมีเยอะมากค่ะ เขาตั้งฉายาให้เราด้วย (ขอไม่เอ่ยนคะ จริงๆ เรายังทำใจไม่ได้เลย เขาตั้งฉายาเหมือนวัยรุ่นจีบกันน่ะค่ะ) เราก็อึ้งๆ นิดๆ ทำตัวไม่ถูก ก็ไม่ได้ตอบอีก คือไม่ได้ตอบเยอะมากค่ะ (อ่านจากเวลาเด้งแจ้งเตือนมา)
-- ขอบอกเลยว่า
1. ตอนแรกเราคิดว่าเขาทักเหมือนลุงหลานปกติ ถามไถ่เรื่องสอบ
2. เราไม่ชัวร์ว่าเขาจะเล่นแชทเป็น คิดว่าที่เขาคอยส่งภาพน่ารักๆ หรือรู้ว่าเราชอบแชร์ภาพสัตว์ เขาก็จะส่งมาให้ คือการเล่นเฟสบุ๊คของเขาที่ส่งให้หลายคน
3. ตอนแรกคิดว่าเขาเริ่มมีการพิมพ์แชทหาผิดคน
-- และมีจุดพีค* ก็คือ มีอยู่วันหนึ่งเราตั้งโพสต์ประมาณว่า "ถ้าเพื่อนของพ่อคุณมาคุยเหมือนจะหยอดๆ คุณ คุณจะทำอย่างไร" ก็ตั้งขำๆ นะคะ แบบนี่ตรูควรทำตัวอย่างไรเหรอ เอาไปตั้งในพันทิปไหม ซึ่งในโพสต์นั้นเราได้ตั้งค่าบล็อกพ่อ แม่ และลุง A กับเพื่อนๆ พ่อที่มีในเฟสค่ะ แต่ที่ขำไม่ออกก็คือ "เราดันลืมลุงอีกคนที่เป็นเพื่อนพ่อแล้วเราก็สนิทกับเขาไว้!" คือเขาก็โทรมาถามหลังจากโพสต์ได้หนึ่งวันค่ะ เขาก็ถามด้วยความเป็นห่วงแบบ หลานหมายถึงใครอะไรยังไง เราก็แกล้งขำบอกไม่มีอะไรค่ะ โพสต์เล่นๆ ไงเรียกกระแส (โทรมาตอนอยู่กับแม่ด้วยยิ่งพูดไม่ออก) เขาก็ตะล่อมๆ บอกไม่จริงหรอก บอกมาจะได้ช่วยๆ กันดู เราก็บอกไม่มีค่ะ จนคุยๆ ไปลุงแกก็บอก พูดทำนองนี้พอจะรู้แล้วหมายถึงใคร แต่เราก็ยังยืนยันบอกไม่มีอะไรเลย ไว้มีอะไรจริงๆ จะเล่าให้ฟัง แล้ววางสายค่ะ (คือเรากลัวพ่อเสียความรู้สึก กลัวลุงๆ คนอื่นเสียความรู้สึกต่อเพื่อนคนนี้น่ะค่ะ อีเราไม่เท่าไรหรอก ถึงเจอแล้วหวั่นๆ แต่ไม่ได้เป็นเพื่อนเขานี่ ไม่ได้เสียความรู้สึก หมดศรัทธาขนาดนั้น)
-- หลังจากนั้น เราหลอนไปเลยคือ ไม่กล้าเปิดแชท ไม่กล้าโพสต์อะไรเกี่ยวกับเขา หรือบ่นเรื่องรักๆ กลัวพลาดแล้วมีเพื่อนพ่อมาถามอีกค่ะ 555 (T^T) เราก็หายไปจนเพื่อนสนิทมาถามเป็นไร ซึ่งเราก็ไม่กล้าเล่าในตอนแรก จนเราไปเล่าให้เพื่อนอีกคนหนึ่งฟัง เราปรึกษาว่าเราคิดเกินจริงไหม เพื่อนมันก็บอกว่าไม่แล้วแหละ มันเริ่มชัดเจน ซึ่งเรายังคิดในแง่ดีอีกว่าลุง A เขาอาจจะไม่ได้อะไรมากมาย แต่...!!!
-- เขาตามแอด LINE เรามาค่ะ (ซึ่งไม่รู้ตามแอดได้อย่างไร ในเมื่อเราไม่เคยแจก ID และไม่มีเบอร์โทรโชว์ในเฟสหรือที่ใดๆ คาดว่าเขาคงพยายามลองเซิดชื่อเราดูค่ะ เพราะ ID เราชื่อเดียวกับในเฟสบุ๊ค) และเราก็ไม่ได้ตอบไลน์เขา ไม่ได้เข้าไปอ่าน จากวันนั้นถึงวันนี้ประมาณ 1 สัปดาห์กว่าๆ ค่ะ
-- เขาก็ทักแชทเฟสมาอีก เราก็ไม่ตอบอีกหลายวัน จนเมื่อกี้นี้! เขาส่งแชทเฟสมาว่า "ส่งอีเมล์หาแล้วนะ" ให้เราไปเปิดอ่านไรงี้ ด้วยความที่เราก็ใช้เมล์อยู่พอดีค่ะ ก็เลยเปิดดูซะหน่อย อยากรู้เขาจะพิมพ์อะไร... เขาขึ้นต้น... "ถึงน้องxxครับ" (!!!) คือนั่นหมายความว่า เขาตั้งใจส่งหาเราค่ะ เขาส่งไม่ผิดแน่นอน.
ในเนื้อหาก็ยาวมากๆค่ะ เขาพูดประมาณว่าเขารู้ว่าผู้หญิงระวังตัวเองจากผู้ชายนั้นเป็นสิ่งที่ดี บลาๆ แล้วเขาก็พิมพ์ยาวไปถึงว่า เขามองว่าเราจะเป็นเด็กดี ตั้งใจเรียน และมีอัธยาศัยที่ดี จะเป็น Working woman ในอนาคตได้ ทำนองนี้ค่ะ (ซึ่งต้องขอบอกว่า ที่ผ่านมา คนที่มาจีบเรา มีแค่สองวัยเท่านั้นค่ะ คือ ไม่เด็กไปเลย ก็ผู้ใหญ่มากๆ แต่ที่เป็นผู้ใหญ่จริงๆ เราจะไม่ค่อยคุยแต่แรกอยู่แล้วค่ะ ส่วนกรณีนี้เรียกว่าผู้ใหญ่ที่เป็นเพื่อนคุณพ่อเรา แล้วก็เริ่มต้นด้วยความที่เราไม่ได้คิดว่าเขาจะคุยแนวนี้นี่นา T^T เพื่อนเราก็บอกว่าสมควรแล้วเราบุคลิกแบบนี้ คนแก่ๆเลยเข้าหา (อ่าวอินี่)) ซึ่งเราก็ดีใจค่ะที่ผู้ใหญ่มองเห็นเราในมุมนี้ แต่ในความสัมพันธ์แบบนี้ก็ไม่โอเคค่ะ -- มีต่อในเมล์ค่ะ เขาพิมพ์ยาว จนมาขึ้นวรรคใหม่ประมาณว่า "มาเข้าเรื่องของเรานะ" ซึ่งตรงนี้ทำให้ชัดเจนว่า (เขาจีบเราชัวร์ๆสินะ) เพราะเขาพูดถึงประมาณว่า ถ้าป๊ารู้ผมคงโดนจัดการตายแน่ !!! (อ่าว ชัดเจนเลยค่ะ ว่าเราไม่ได้คิดไปเองใช่ไหมคะ) เขาบอกว่าเขาห้ามความรู้สึกตัวเองไม่ได้ รวมๆ เขาก็พิมพ์ดี ไม่ได้หยาบคายค่ะ (แต่เราอ่านเราก็สยิวเข้าใจใช่ไหมคะ กลัวที่จะอ่านคนเดียวอีกตะหาก ต้องโทรให้เพื่อนมาฟังที่เราอ่านไปพร้อมกัน -w-) เขาบอกอีกว่าเขาจะไม่หายไป แต่จะคอยดูเราเติบโต ไรแบบนี้ไปเรื่อยๆ (ยาวเลยค่ะ) จนลงท้ายมีจุ้ฟๆ (ไม่ชัดเจนให้รู้ไปค่ะ)
-- พยายามสรุปมาได้ประมาณนี้จริงๆค่ะ มันก็มีปลึกย่อยอีกที่เสริมให้ความรู้สึกจขกท. ชัดเจน แต่ก็ไม่ได้เล่าเดี๋ยวจะน้ำไป และตอนนี้ก็ยังไม่ได้ตอบเมล์กลับค่ะ หากถามว่าทำไมเราไม่บล็อกไปเลยแต่แรก ขอตอบดักนะคะ
1. เราไม่มั่นใจว่าเขาจะคิดแบบนี้ เราปรึกษาเพื่อนเลยคิดว่าดูอาการไปต่อว่าเขาจะทำอย่างไร
2. ที่เราไม่ไปฟ้องพ่อ เพราะตอนมาเจอสถานการณ์แบบนี้กับตัวเอง จะงงจริงๆ ค่ะ และเราคิดถึงผลระยะยาว คือ เราก็ไม่กล้าฟังธงว่าเขาเข้ามาแนวไหน บวกกับเขาก็เป็นเพื่อนๆ กัน ดูสิพ่อเรายังดีอกดีใจที่เขากลับมาไทย กลัวเพื่อนฝูงจะมีปัญหากันใหญ่โต อย่างที่บอกข้างต้นค่ะ เขาทำงานต่างประเทศ ถ้าไม่ได้เจอกันอีกก็อาจจะทำได้ คือเขาก็ไม่ได้มาสุงสิงกับเรา ถ้าลืมๆเรื่องนี้ไป เราก็เลือกได้ไม่อยากให้ผู้ใหญ่เสียความรู้สึกต่อเพื่อนของเขาค่ะ (อย่าลากยาวไปถึงว่าเราจะกลัวทำไม ห่วงตัวเองดีกว่านะคะ คือตอนนี้เขาไม่ได้ลามปามเราขนาดนั้น แค่แชท แล้วเราอยากจะเผชิญหน้าตรงๆ (หมายถึงคุยกับเขาให้รู้เรื่อง) ค่อยตัดจบทีเดียว เลยไม่อยากทิ้งขว้าง หนีปัญหา หรือตาตื่นไปทำเป็นเรื่องราวใหญ่โต เราก็คิดเอาใจเขามาใส่ใจเรา ถ้าความรู้สึกมันห้ามกันไม่ได้ ถ้าเขาไม่มาละลาบละล้วงเรามาก ก็รับมือปกติไปก่อนค่ะ) ถึงหวั่นๆอยู่แต่ก็อยากคุยด้วยเหตุผล อยากพิมพ์กลับไปให้เขารู้ด้วยซ้ำว่าทำอย่างนี้เรารู้สึกอย่างไร และสิ่งที่เขาพิมพ์มันสะท้อนความคิดยังไง เลยคิดไว้แล้วว่าจะพิมพ์เมล์กลับไปต่ออย่างไร ถ้าเรื่องนี้มันบานปลายก็คงบอกผู้ใหญ่จริงๆ จังๆ ตามลำดับค่ะ
ขอบคุณทุกท่านที่อ่านถึงตรงนี้นะคะ เป็นประสบการณ์จริงๆ จังๆ (ล่าสุด ที่ไม่คิดว่าจะเจอกับตัวค่ะ) อันนี้เป็นมุมของจขกท. (ซึ่งอาจจะเด็กหรือเปล่าไม่แน่ใจ) แต่จขกท. ก็อยากอ่านความคิดเห็นมุมในมุมของคนที่เป็นผู้ใหญ่ค่ะ ขอบคุณค่ะ.