สวัสดีครับ นี่เป็นกระทู้แรกของผม สมัครสมาชิกมาเพื่อการนี้โดยเฉพาะ เป็นเรื่องอัดอั้นตันใจ ที่อยากจะขอความเห็นจากชาวพันทิป
เรื่องมีอยู่ว่า
...ผมกับแฟนคบกันมา 5 ปี ตั้งแต่ตอนเรียน ปี 2 อยู่ด้วยกันที่หอพักมาตลอด โดยที่ครอบครัวฝ่ายเธอไม่รู้ แต่ครอบฝ่ายผมรับรู้เพราะพาเข้าบ้านบ่อยๆ จนสนิทสนมกับที่บ้านผมเป็นอย่างดี คู่เราเป็นคู่ที่ชาวหอพักอิจฉาที่สุดครับ เธอดีกับผม ผมดีกับเธอตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน มีแต่เสียงหัวเราะ ระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันจริงๆ เกือบ 3 ปีครับ แทบไม่ทะเลาะกันเลย มีงอนบ้างก็ตอนผมหนีเที่ยวแต่ถือว่าน้อยมากครับ ตั้งแต่เจอเธอชีวิตผมเปลี่ยน ทัศนคติเปลี่ยนไปมากครับ จากคนที่กินเหล้า เที่ยวเตร่ ติดเพื่อนฝูง เปลี่ยนแฟนบ่อย ผมเชื่องมากครับ ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นเกือบทุกอย่าง ดูเธอรักผมมากทีเดียว อาจเพราะมารยาคำหวาน ตลก ขี้อ้อนของผม จนถึงเวลาผมเรียนจบ(ผมเรียน 4 ปีครับ) แต่เธอมีฝึกสอนอีก 1 ปีเต็ม (เธอเรียน 5 ปีครับ) เธอจึงเลือกไปฝึกสอนต่อที่โรงเรียนใกล้บ้าน ดูเธออาลัยมากอ่ะ ที่ต้องกลับบ้าน แต่ทุกๆ วันหยุดเธอจะกลับมาหาผมตลอด ผมก็ทำงานในหน่วยงานราชการครับ วันหยุดเลยตรงกันตลอด ยิ่งช่วงปิดเทอมนี่หลายวันเลยครับ โดยให้เหตุผลกับที่บ้านว่ารับงานสอนพิเศษครับ บ้านผมกับเธอห่างกัน 140 กม.ครับ คนละจังหวัด ส่วนใหญ่เธอขับรถมาเอง(ที่บ้านเธอซื้อรถให้ครับ) หลังจากที่เธอซื้อรถไม่กี่เดือนที่บ้านผมก็ซื้อให้ผมเช่นกัน ผมจึงคุยกับเธอเรื่องจะไปไหว้พ่อแม่เธอแบบจริงจัง แต่เธอปฏิเสธทุกครั้ง โดยให้เหตุผลกับผมว่าจะออกจากบ้านมาอยู่ด้วยยากกว่าเดิมครับ เกือบทะเลาะกันทุกครั้ง #ประเด็นนี้ก็ตกไป# จนถึงช่วงที่ผมเปลี่ยนงาน(ปลายปี 56) ย้ายมาทำงานในบริษัทเครือข่ายมือถือแห่งหนึ่ง(สาขาใกล้บ้าน) เงินเดือนสูงพอสมควรครับ+งานพิเศษรายได้ต่อเดือนก็ 30000+ ครับ ผมกับเธอจึงเริ่มวางอนาคตร่วมกัน แล้วเธอก็ฝึกสอนเสร็จและเรียนจบครับ โรงเรียนที่เธอฝึกสอนจึงทำสัญญาจ้างสอนต่อเลยครับ ถึงตอนนี้ชวิตเราเริ่มมีความมั่นคงทั้งคู่ แต่มีเวลาว่างให้กันน้อยมาก พักหลังๆ เธออยากได้ไอโฟน 6 ผมก็ใช้เครดิตรูดให้เธอเป็นคนผ่อนเองครับ เพราะผมต้องผ่อนรถดูแลครอบครัว (ครอบครัวผมไม่รวยเท่าเธอน่ะครับ) ทั้งเก็บเงินแต่งงาน มีซื้อทองเก็บไว้บ้าง เธอรู้ดีจึงเลือกที่จะไม่รบกวนผมแต่บางเดือนที่เธอไม่ไหวผมก็ช่วยนะ ไปไหนมาไหน กินข้าวด้วยกันก็แชร์บ้างครับ แต่โดยส่วนใหญ่ผมก็ออกหมด ครับ
จนถึงเวลาที่เริ่มเป็นจุดเปลี่ยน ตอนปลายปีเพื่อนฝูงเธอก็เรียนจบกลับมาทำงานใกล้บ้าน กัน สังคมเธอดูมีสีสันขึ้น เราเริมทะเลาะกันระหองระแหงครับ ตามประสาคนไกลกัน แต่ก็คืนดีกันอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เจอกันเดือนละครั้ง 2 วันบ้าง 3 วันบ้างครับ
ผมแอบระแวงเธอบ้างครับ แต่เธอก็พูดให้ผมสบายใจทุกครั้ง ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันเธอไม่เคยหวงมือถือ เจอกันก็เที่ยว กิน สวีทกันตลอดครับ จนชาวบ้านอิจฉาตาร้อนเลยทีเดียว ช่วงพักหลังๆ ผมชอบบ่นเรื่องหนี้สินให้ฟังบ้างครับ แต่เรื่องเงินฝากและทรัพย์สินผมไม่เคยพูดถึงเลยครับ ใจหนึ่งผมก็อยากจะรู้นะครับว่าแท้จริงแล้วเธอคิดยังงัยกับผม ถ้าผมไม่มีเงิน
ช่วงหลังๆ ความหวาดระแวงเพิ่มขึ้นครับ ผมเรียกดูรายการใช้งานมือถือย้อนหลังตั้งแต่ปลายเดือนธันวา (เบอร์จดทะเบียนชื่อผมครับ) ผมนี่เงิบ สิครับ เธอโทรหาใครกัน บ่อยมาก เบอร์นี้เบอร์เดียวบ่อยกว่าโทรหาผมอีก แต่คุยกันครั้งละ 1 นาทีบ้าง 2 นาทีบ้าง ส่วนเบอร์ผมก็ถี่รองลงมา แต่คุยกับผมนี่นานครับ 20 นาทีขึ้น เฟสไทม์บ้างก็บ่อยนะครับ ผมชักเริ่มสงสัย จึงวางแผนล้วงความลับต่อไป โดยการแฮคดูข้อมูลภาพในไอโฟน ของเธอ ผ่าน icloud พยายามจับพิกัด เธอบ่อยๆ แล้วก็โทรถามว่าอยู่ที่ไหน แต่ก็ดูปกติคับ ไม่มีอะไร
และแล้วครอบครัวเธอก็ซื้อบ้านอีกหลัง อยูห่างจากบ้านเดิม กิโลกว่าๆ เป็นโครงการของรัฐเธออาสาออกไปอยู่ ผมพยายามโทรหาเธอบ่อยขึ้น เฟสไทม์ตลอด เพราะความระแวงเพิ่มขึ้น เธอบอกคิดถึงผมทุกวันครับ เอาน่ะอาจไม่มีอะไรก็ได้ เธอเล่าให้ฟังว่าบ้านปู่เธออยู่ใกล้ๆ ในโครงการเดียวกัน ผมจึงวางใจ แต่ก็แอบดูพิกัด รายการโทรตลอด เธอเริ่มโกหกครับ พิกัดอยู่อีกที่ โทรหาก็พูดไม่ตรงกัน ผมเงียบ....
เราทะเลาะกันบ่อยขึ้น เธอง้อผมเกือบทุกครั้ง พูดเอาใจดีปกติ ..มีครังหนึ่งที่ทะเลาะกันแล้วเธอบล็อกเฟสบุ้คผม บล็อคไลน์ กั้นสายด้วยครับ ผมใจเย็นจนเธอติดต่อกลับมา เราคืนดีกันครับ แต่เธอยังบล็อกเฟสบุ้คผมอยู่ ผมแฮ็คเฟสบุ้คเธอ ตรวจดูเมสเซนเจอก็ปกติดี เธอเนียนมากครับ แต่ผมยังไม่ได้ดูรูปในไอโฟนครับ ด้วยความที่ผมเหนื่อยจึงไม่ค่อยมีเวลาจับผิด ดืมกับเพื่อนที่ทำงานก็บ่อยเหมือนกัน
และแล้วผมก็จับพิรุธเธอได้ อีกครั้ง จากที่เธอไม่เคยปกปิดอะไรเลย เธอแอบเปลี่ยนรหัส เฟสบุ้คครับ ผมเค้นเธอ ขอความจริงเลยครับ ทีนี้ เธอยังติดต่อเบอนั้นเช่นเดิม เราทะเลาะ เถียงกันผ่านโทรศัพท์อยู่นาน เธอยอมรับ แต่ก็พูดวกวน ผมถามเหตุผลเธออ้ำอึ้ง เธอบอกรักผมเหมือนเดิมอยากคบต่อ แต่ก็บอกว่าเธอไม่เหมือนเดิมครับ เธอขอโทดผม ผมนี่เหมือนคนบ้าเลยครับ แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าเธอยอมรับ มีหลายอย่างที่เธอพูดวกวนจนผมงง จากนั้นรุ่งเช้าผมก็ไล่ดูรายการโทรแบบละเอียดยิบ แล้วก็มีเบอร์นั้นที่ผมสงสัย ผมแอด ไลน์ก็เด้งขึ้นครับ ผมนี่ไล่ดูเฟสบุ้คคับ เจ้าของเบอร์นั้นเป็นครูจ้างที่ทำงานในโรงเรียนเดียวกัน มีแฟนแล้วครับกำลังจะแต่งงานกัน ครับ (ผมวานให้เพื่อนแอบสืบ)
...เธอไมใช่คนเดิม คนที่เรียบร้อย พูดน้อย นิสัยดีที่ผมรู้จักอีกต่อไป ผมอยากรู้ตัวตนของเธอ ...ผมเงียบต่อ
หลังจากที่ผมเค้นเธอ เธอไปดื่มกับเพื่อนๆ บ่อยขึ้น บอกพิกัดไม่ตรงกับที่ผมจับได้ ผมตัดสินใจโทรไปคุยกันที่เบอร์นั้น คุยกันแบบแมนๆ เค้าให้คำตอบกลับมาว่าให้ผมวางใจ คุยกันแบบเพื่อน ผมขู่นิดหน่อย...เค้ารับปากผมจะเลิกยุ่ง หลังจากนั้น 5 นาที แฟนผมโทรมาเหวี่ยงใหญ่เลยครับ ดูร้อนตัวมาก....
หลังจากนั้นเธอโทรมาคุยกับผมบอกว่า ไม่ได้เป็นอะไรกันนะ ขอร้องให้ผมเลิกยุ่งกับชายคนนั้นเพราะเค้าไม่รู้เรื่อง และกำลังจะแต่งงานกะแฟน (ตรงกับที่เพื่อนผมสืบมาเลย) เธอบอกเธออายกลัวมองหน้าไม่ติดเพราะทำงานด้วยกัน ผมแกล้งเชื่อเธอครับ
ผมเริ่มหาเหตุผลให้ตัวเอง โทรคุยกับเพื่อนสนิทเธอ เพื่อนคนนี้เธอเชียร์ผมอยู่เพราะสนิทดวลเหล้ากันบ่อยๆ ได้ความว่า กลัวพาผมเข้าบ้านแล้วพ่อแม่เค้าไม่ยอมรับ ( โถ..งานผม รายได้ผม เยอะกว่าแฟนผมกับชายชู้รวมกันอีกครับ รถผมก็ซื้อเอง ผ่อนเองครับ น้ำพักน้ำแรงล้วนๆ ผมทำงานแค่สองปีกว่าหาได้ขนาดนี้ก็มากโขอยู่นะ ) ผมว่าผมคิดถูกครับที่แกล้งไม่มีตัง แต่ผมก็บ้าอยู่นาน บ้าเป็นระลอก อยากตามฆ่ามันหมดทุกคนเลย เจ็บใจครับ
ถึงตอนนี้เธอคุยกับผมปกติ มานอนด้วย ตามปกติ บางทีผมก็ขับรถไปหา แต่ก็ออกมานอนนอกบ้านครับ คำพูดหวานเหมือนเดิม ทำตัวปกติ ผมแอบเหน็บเธอบ่อยๆ เธอเงียบเปลี่ยนเรื่อง ผมแกล้งพูดจะไปหาพ่อแม่เธอ ทีไรอารมณ์เธอเดือดทุกทีเลย เราทะเลาะกันบ่อยขึ้น เธอกั้นสายผม ผมแฮ้คไอโฟนอีกครั้ง
ครั้งนี้มีช็อตเด็ด มีรูปคู่ที่ถ่ายในห้องนอนเธอ ไม่หวือหวาอะไร ผมจำลายหมอนได้ครับ แล้วก็มีรูปคู่ บ้างแต่ไม่หวาน ไม่อัพขึ้นโซเชี่ยล ..ผมเงิบ เจ็บจี๊ด แต่ก็เงียบ ผมนี่แทบบ้าครับตอนนี้ ตั้งสติแปดร้อยรอบแล้วครับ ในใจคิดว่า เอาคืน เอาคืน อย่างเดียว
ผมพยายามโทรหาเธอบ่อยขึ้นแกล้งไม่รู้ครับ เธอพูดดี ปกติ แต่ดูหงุดหงิดตลอด เหมือนคนหมดใจ แต่ไม่กล้าพูดตรง ตอนนี้ผมบ้าอยู่คนเดียวครับ ไม่เป็นอันทำการทำงานเลย ตอนคุยกันผมแอบเปรียบเทียบเชิงขู่เธอตลอด เธอเงียบ เธอคงกลัวความบ้าบิ่นของผม ชายชู้นี่หดหัวคับ ผมแค่กดติดตามในเฟสบุ้คนะ ฟ้องแฟนผมตลอด เอาน่ะ ต่อจากนี้ผมจะคุมเกมเอง
จนถึงตอนนี้ผมพอรู้เรื่องราวคร่าวๆ ทั้งหมด รู้ว่าถูกทรยศแล้ว เสียใจครับ ทำใมเวลาที่ผมทุ่มเท เปลี่ยนนิสัยเพื่อใครสักคน พร้อมที่จะเป็นสามีที่ดี พร้อมที่จะเป็นพ่อที่ดี กลับต้องมาเจอแบบนี้ แต่ถ้าให้เสียดายคงไม่ เพราะผมดีใจด้วยซ้ำที่เห็นตัวตนที่แท้จริง
แค่ตอนนี้ผมตอบตัวเองไม่ได้ครับ ว่าคุยกับเธอต่อเพื่ออะไร แต่ถ้าให้ตัดตอนนี้คงไม่ รูปเกมแบบนี้ควรแก้เผ็ดด้วยวิธีแบบไหนกัน เอาที่ให้พวกเค้าเจ็บเหมือนที่ผมเป็น จนป่านนี้พวกเค้ายังไม่รู้เลยครับว่าผมรู้อะไรบ้าง มีหลักฐานอะไรบ้าง ดูชายชู้นี่กลัวจัดเลยครับ อยากแก้เผ็ดสักครั้ง หรือถ้าผมคิดจะยิงทิ้งนี่ดูโหดไปอ่ะ เสียดายอนาคตตัวเอง กำลังรุ่งทีเดียว
ตอนนี้ก็ทำตัวเรื่อยๆ เนียนๆ มันเป็นเพราะความห่างไกลหรือใจคนกันแน่ ที่ทำให้ผู้หญิงที่เรียบร้อย นิสัยดี เค้าแร่ดเงียบได้ขนาดนี้ครับ ถึงขั้นไปแย่งชิงของชาวบ้านไปทั่ว
ยาวหน่อยนะครับ แต่อยากรู้บ้างว่า พวกคุณคิดยังงัยกัน ถ้าเจอแบบนี้ อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ..ผมรักเค้ามากคับ จะให้เป็นแม่ของลูก แต่เธอก็ยังโกหกผมและทำตัว แบบเดิมๆ อยู่เลย นี่ก็ 25 เริ่มหายากแล้วนะ
ผมโดนแฟนที่คบกันมา 5 ปีสวมเขาแบบเนียนๆ ครับ
เรื่องมีอยู่ว่า
...ผมกับแฟนคบกันมา 5 ปี ตั้งแต่ตอนเรียน ปี 2 อยู่ด้วยกันที่หอพักมาตลอด โดยที่ครอบครัวฝ่ายเธอไม่รู้ แต่ครอบฝ่ายผมรับรู้เพราะพาเข้าบ้านบ่อยๆ จนสนิทสนมกับที่บ้านผมเป็นอย่างดี คู่เราเป็นคู่ที่ชาวหอพักอิจฉาที่สุดครับ เธอดีกับผม ผมดีกับเธอตลอดเวลาที่อยู่ด้วยกัน มีแต่เสียงหัวเราะ ระยะเวลาที่อยู่ด้วยกันจริงๆ เกือบ 3 ปีครับ แทบไม่ทะเลาะกันเลย มีงอนบ้างก็ตอนผมหนีเที่ยวแต่ถือว่าน้อยมากครับ ตั้งแต่เจอเธอชีวิตผมเปลี่ยน ทัศนคติเปลี่ยนไปมากครับ จากคนที่กินเหล้า เที่ยวเตร่ ติดเพื่อนฝูง เปลี่ยนแฟนบ่อย ผมเชื่องมากครับ ค่อยๆ ปรับตัวดีขึ้นเกือบทุกอย่าง ดูเธอรักผมมากทีเดียว อาจเพราะมารยาคำหวาน ตลก ขี้อ้อนของผม จนถึงเวลาผมเรียนจบ(ผมเรียน 4 ปีครับ) แต่เธอมีฝึกสอนอีก 1 ปีเต็ม (เธอเรียน 5 ปีครับ) เธอจึงเลือกไปฝึกสอนต่อที่โรงเรียนใกล้บ้าน ดูเธออาลัยมากอ่ะ ที่ต้องกลับบ้าน แต่ทุกๆ วันหยุดเธอจะกลับมาหาผมตลอด ผมก็ทำงานในหน่วยงานราชการครับ วันหยุดเลยตรงกันตลอด ยิ่งช่วงปิดเทอมนี่หลายวันเลยครับ โดยให้เหตุผลกับที่บ้านว่ารับงานสอนพิเศษครับ บ้านผมกับเธอห่างกัน 140 กม.ครับ คนละจังหวัด ส่วนใหญ่เธอขับรถมาเอง(ที่บ้านเธอซื้อรถให้ครับ) หลังจากที่เธอซื้อรถไม่กี่เดือนที่บ้านผมก็ซื้อให้ผมเช่นกัน ผมจึงคุยกับเธอเรื่องจะไปไหว้พ่อแม่เธอแบบจริงจัง แต่เธอปฏิเสธทุกครั้ง โดยให้เหตุผลกับผมว่าจะออกจากบ้านมาอยู่ด้วยยากกว่าเดิมครับ เกือบทะเลาะกันทุกครั้ง #ประเด็นนี้ก็ตกไป# จนถึงช่วงที่ผมเปลี่ยนงาน(ปลายปี 56) ย้ายมาทำงานในบริษัทเครือข่ายมือถือแห่งหนึ่ง(สาขาใกล้บ้าน) เงินเดือนสูงพอสมควรครับ+งานพิเศษรายได้ต่อเดือนก็ 30000+ ครับ ผมกับเธอจึงเริ่มวางอนาคตร่วมกัน แล้วเธอก็ฝึกสอนเสร็จและเรียนจบครับ โรงเรียนที่เธอฝึกสอนจึงทำสัญญาจ้างสอนต่อเลยครับ ถึงตอนนี้ชวิตเราเริ่มมีความมั่นคงทั้งคู่ แต่มีเวลาว่างให้กันน้อยมาก พักหลังๆ เธออยากได้ไอโฟน 6 ผมก็ใช้เครดิตรูดให้เธอเป็นคนผ่อนเองครับ เพราะผมต้องผ่อนรถดูแลครอบครัว (ครอบครัวผมไม่รวยเท่าเธอน่ะครับ) ทั้งเก็บเงินแต่งงาน มีซื้อทองเก็บไว้บ้าง เธอรู้ดีจึงเลือกที่จะไม่รบกวนผมแต่บางเดือนที่เธอไม่ไหวผมก็ช่วยนะ ไปไหนมาไหน กินข้าวด้วยกันก็แชร์บ้างครับ แต่โดยส่วนใหญ่ผมก็ออกหมด ครับ
จนถึงเวลาที่เริ่มเป็นจุดเปลี่ยน ตอนปลายปีเพื่อนฝูงเธอก็เรียนจบกลับมาทำงานใกล้บ้าน กัน สังคมเธอดูมีสีสันขึ้น เราเริมทะเลาะกันระหองระแหงครับ ตามประสาคนไกลกัน แต่ก็คืนดีกันอย่างรวดเร็ว ตอนนี้เจอกันเดือนละครั้ง 2 วันบ้าง 3 วันบ้างครับ
ผมแอบระแวงเธอบ้างครับ แต่เธอก็พูดให้ผมสบายใจทุกครั้ง ทุกครั้งที่อยู่ด้วยกันเธอไม่เคยหวงมือถือ เจอกันก็เที่ยว กิน สวีทกันตลอดครับ จนชาวบ้านอิจฉาตาร้อนเลยทีเดียว ช่วงพักหลังๆ ผมชอบบ่นเรื่องหนี้สินให้ฟังบ้างครับ แต่เรื่องเงินฝากและทรัพย์สินผมไม่เคยพูดถึงเลยครับ ใจหนึ่งผมก็อยากจะรู้นะครับว่าแท้จริงแล้วเธอคิดยังงัยกับผม ถ้าผมไม่มีเงิน
ช่วงหลังๆ ความหวาดระแวงเพิ่มขึ้นครับ ผมเรียกดูรายการใช้งานมือถือย้อนหลังตั้งแต่ปลายเดือนธันวา (เบอร์จดทะเบียนชื่อผมครับ) ผมนี่เงิบ สิครับ เธอโทรหาใครกัน บ่อยมาก เบอร์นี้เบอร์เดียวบ่อยกว่าโทรหาผมอีก แต่คุยกันครั้งละ 1 นาทีบ้าง 2 นาทีบ้าง ส่วนเบอร์ผมก็ถี่รองลงมา แต่คุยกับผมนี่นานครับ 20 นาทีขึ้น เฟสไทม์บ้างก็บ่อยนะครับ ผมชักเริ่มสงสัย จึงวางแผนล้วงความลับต่อไป โดยการแฮคดูข้อมูลภาพในไอโฟน ของเธอ ผ่าน icloud พยายามจับพิกัด เธอบ่อยๆ แล้วก็โทรถามว่าอยู่ที่ไหน แต่ก็ดูปกติคับ ไม่มีอะไร
และแล้วครอบครัวเธอก็ซื้อบ้านอีกหลัง อยูห่างจากบ้านเดิม กิโลกว่าๆ เป็นโครงการของรัฐเธออาสาออกไปอยู่ ผมพยายามโทรหาเธอบ่อยขึ้น เฟสไทม์ตลอด เพราะความระแวงเพิ่มขึ้น เธอบอกคิดถึงผมทุกวันครับ เอาน่ะอาจไม่มีอะไรก็ได้ เธอเล่าให้ฟังว่าบ้านปู่เธออยู่ใกล้ๆ ในโครงการเดียวกัน ผมจึงวางใจ แต่ก็แอบดูพิกัด รายการโทรตลอด เธอเริ่มโกหกครับ พิกัดอยู่อีกที่ โทรหาก็พูดไม่ตรงกัน ผมเงียบ....
เราทะเลาะกันบ่อยขึ้น เธอง้อผมเกือบทุกครั้ง พูดเอาใจดีปกติ ..มีครังหนึ่งที่ทะเลาะกันแล้วเธอบล็อกเฟสบุ้คผม บล็อคไลน์ กั้นสายด้วยครับ ผมใจเย็นจนเธอติดต่อกลับมา เราคืนดีกันครับ แต่เธอยังบล็อกเฟสบุ้คผมอยู่ ผมแฮ็คเฟสบุ้คเธอ ตรวจดูเมสเซนเจอก็ปกติดี เธอเนียนมากครับ แต่ผมยังไม่ได้ดูรูปในไอโฟนครับ ด้วยความที่ผมเหนื่อยจึงไม่ค่อยมีเวลาจับผิด ดืมกับเพื่อนที่ทำงานก็บ่อยเหมือนกัน
และแล้วผมก็จับพิรุธเธอได้ อีกครั้ง จากที่เธอไม่เคยปกปิดอะไรเลย เธอแอบเปลี่ยนรหัส เฟสบุ้คครับ ผมเค้นเธอ ขอความจริงเลยครับ ทีนี้ เธอยังติดต่อเบอนั้นเช่นเดิม เราทะเลาะ เถียงกันผ่านโทรศัพท์อยู่นาน เธอยอมรับ แต่ก็พูดวกวน ผมถามเหตุผลเธออ้ำอึ้ง เธอบอกรักผมเหมือนเดิมอยากคบต่อ แต่ก็บอกว่าเธอไม่เหมือนเดิมครับ เธอขอโทดผม ผมนี่เหมือนคนบ้าเลยครับ แต่ก็ไม่ชัดเจนว่าเธอยอมรับ มีหลายอย่างที่เธอพูดวกวนจนผมงง จากนั้นรุ่งเช้าผมก็ไล่ดูรายการโทรแบบละเอียดยิบ แล้วก็มีเบอร์นั้นที่ผมสงสัย ผมแอด ไลน์ก็เด้งขึ้นครับ ผมนี่ไล่ดูเฟสบุ้คคับ เจ้าของเบอร์นั้นเป็นครูจ้างที่ทำงานในโรงเรียนเดียวกัน มีแฟนแล้วครับกำลังจะแต่งงานกัน ครับ (ผมวานให้เพื่อนแอบสืบ)
...เธอไมใช่คนเดิม คนที่เรียบร้อย พูดน้อย นิสัยดีที่ผมรู้จักอีกต่อไป ผมอยากรู้ตัวตนของเธอ ...ผมเงียบต่อ
หลังจากที่ผมเค้นเธอ เธอไปดื่มกับเพื่อนๆ บ่อยขึ้น บอกพิกัดไม่ตรงกับที่ผมจับได้ ผมตัดสินใจโทรไปคุยกันที่เบอร์นั้น คุยกันแบบแมนๆ เค้าให้คำตอบกลับมาว่าให้ผมวางใจ คุยกันแบบเพื่อน ผมขู่นิดหน่อย...เค้ารับปากผมจะเลิกยุ่ง หลังจากนั้น 5 นาที แฟนผมโทรมาเหวี่ยงใหญ่เลยครับ ดูร้อนตัวมาก....
หลังจากนั้นเธอโทรมาคุยกับผมบอกว่า ไม่ได้เป็นอะไรกันนะ ขอร้องให้ผมเลิกยุ่งกับชายคนนั้นเพราะเค้าไม่รู้เรื่อง และกำลังจะแต่งงานกะแฟน (ตรงกับที่เพื่อนผมสืบมาเลย) เธอบอกเธออายกลัวมองหน้าไม่ติดเพราะทำงานด้วยกัน ผมแกล้งเชื่อเธอครับ
ผมเริ่มหาเหตุผลให้ตัวเอง โทรคุยกับเพื่อนสนิทเธอ เพื่อนคนนี้เธอเชียร์ผมอยู่เพราะสนิทดวลเหล้ากันบ่อยๆ ได้ความว่า กลัวพาผมเข้าบ้านแล้วพ่อแม่เค้าไม่ยอมรับ ( โถ..งานผม รายได้ผม เยอะกว่าแฟนผมกับชายชู้รวมกันอีกครับ รถผมก็ซื้อเอง ผ่อนเองครับ น้ำพักน้ำแรงล้วนๆ ผมทำงานแค่สองปีกว่าหาได้ขนาดนี้ก็มากโขอยู่นะ ) ผมว่าผมคิดถูกครับที่แกล้งไม่มีตัง แต่ผมก็บ้าอยู่นาน บ้าเป็นระลอก อยากตามฆ่ามันหมดทุกคนเลย เจ็บใจครับ
ถึงตอนนี้เธอคุยกับผมปกติ มานอนด้วย ตามปกติ บางทีผมก็ขับรถไปหา แต่ก็ออกมานอนนอกบ้านครับ คำพูดหวานเหมือนเดิม ทำตัวปกติ ผมแอบเหน็บเธอบ่อยๆ เธอเงียบเปลี่ยนเรื่อง ผมแกล้งพูดจะไปหาพ่อแม่เธอ ทีไรอารมณ์เธอเดือดทุกทีเลย เราทะเลาะกันบ่อยขึ้น เธอกั้นสายผม ผมแฮ้คไอโฟนอีกครั้ง
ครั้งนี้มีช็อตเด็ด มีรูปคู่ที่ถ่ายในห้องนอนเธอ ไม่หวือหวาอะไร ผมจำลายหมอนได้ครับ แล้วก็มีรูปคู่ บ้างแต่ไม่หวาน ไม่อัพขึ้นโซเชี่ยล ..ผมเงิบ เจ็บจี๊ด แต่ก็เงียบ ผมนี่แทบบ้าครับตอนนี้ ตั้งสติแปดร้อยรอบแล้วครับ ในใจคิดว่า เอาคืน เอาคืน อย่างเดียว
ผมพยายามโทรหาเธอบ่อยขึ้นแกล้งไม่รู้ครับ เธอพูดดี ปกติ แต่ดูหงุดหงิดตลอด เหมือนคนหมดใจ แต่ไม่กล้าพูดตรง ตอนนี้ผมบ้าอยู่คนเดียวครับ ไม่เป็นอันทำการทำงานเลย ตอนคุยกันผมแอบเปรียบเทียบเชิงขู่เธอตลอด เธอเงียบ เธอคงกลัวความบ้าบิ่นของผม ชายชู้นี่หดหัวคับ ผมแค่กดติดตามในเฟสบุ้คนะ ฟ้องแฟนผมตลอด เอาน่ะ ต่อจากนี้ผมจะคุมเกมเอง
จนถึงตอนนี้ผมพอรู้เรื่องราวคร่าวๆ ทั้งหมด รู้ว่าถูกทรยศแล้ว เสียใจครับ ทำใมเวลาที่ผมทุ่มเท เปลี่ยนนิสัยเพื่อใครสักคน พร้อมที่จะเป็นสามีที่ดี พร้อมที่จะเป็นพ่อที่ดี กลับต้องมาเจอแบบนี้ แต่ถ้าให้เสียดายคงไม่ เพราะผมดีใจด้วยซ้ำที่เห็นตัวตนที่แท้จริง
แค่ตอนนี้ผมตอบตัวเองไม่ได้ครับ ว่าคุยกับเธอต่อเพื่ออะไร แต่ถ้าให้ตัดตอนนี้คงไม่ รูปเกมแบบนี้ควรแก้เผ็ดด้วยวิธีแบบไหนกัน เอาที่ให้พวกเค้าเจ็บเหมือนที่ผมเป็น จนป่านนี้พวกเค้ายังไม่รู้เลยครับว่าผมรู้อะไรบ้าง มีหลักฐานอะไรบ้าง ดูชายชู้นี่กลัวจัดเลยครับ อยากแก้เผ็ดสักครั้ง หรือถ้าผมคิดจะยิงทิ้งนี่ดูโหดไปอ่ะ เสียดายอนาคตตัวเอง กำลังรุ่งทีเดียว
ตอนนี้ก็ทำตัวเรื่อยๆ เนียนๆ มันเป็นเพราะความห่างไกลหรือใจคนกันแน่ ที่ทำให้ผู้หญิงที่เรียบร้อย นิสัยดี เค้าแร่ดเงียบได้ขนาดนี้ครับ ถึงขั้นไปแย่งชิงของชาวบ้านไปทั่ว
ยาวหน่อยนะครับ แต่อยากรู้บ้างว่า พวกคุณคิดยังงัยกัน ถ้าเจอแบบนี้ อยู่ในสถานการณ์แบบนี้ ..ผมรักเค้ามากคับ จะให้เป็นแม่ของลูก แต่เธอก็ยังโกหกผมและทำตัว แบบเดิมๆ อยู่เลย นี่ก็ 25 เริ่มหายากแล้วนะ