[CR] วิธีล้างแผลให้หายเร็ว

ตอนเด็กผมซนมาก โตขึ้นมาตามร่างกายจึงยังมีร่องรอยวีรกรรมแผลเป็นหลงเหลือไว้ให้คิดถึงทุกครั้งที่มอง
พอชีวิตผ่านความซนก็ไม่ค่อยมีบาดแผลบนร่างกายให้เห็นมากนัก จะมีช่วงหลังๆ หันมาออกกำลังกายด้วยจักรยาน บาดแผลตามร่างกายก็กลับมาให้เห็นอยู่เป็นระยะๆ

    คือบางครั้งเราระวังดีแล้ว แต่เจอคนอื่นประมาทก็หลีกเลี่ยงการเกิดอุบัติเหตุไม่ได้หรอกครับ ไม่ว่าจะเป็นปลดครีทข้างหนึ่งเอาขาลงอีกข้างหนึ่ง (เรื่องนี้เจอกันทุกคน) โดนเพื่อนปาดหน้า แฮนด์เกี่ยวกัน หรือโดนล้อสะกิด แต่ยังดีว่าทุกครั้งที่ล้ม ไม่ได้เจ็บหนักถึงขั้นกระดูกหัก ส่วนใหญ่ได้บาดแผลถลอกตามร่างกายมา

    แรกๆ ก็หายามาใส่แผล ทิงเจอร์บ้าง เบตาดีนบ้าง หายเร็วหายช้าก็ไม่ได้ใส่ใจมากนัก แต่จุดเปลี่ยนมาเกิดขึ้นตอนอุบัติเหตุที่ล้มล่าสุด แม้ว่ายังโชคดีกระดูกไม่หักเช่นเคย แต่ก็ได้แผลขนาดค่อนข้างกว้าง ที่หนักเลยคืออยู่บริเวณหัวเข่าพอดี ซึ่งตำแหน่งแผลตรงนี้นี่ทรมานมากครับ เพราะเป็นส่วนที่ขยับอยู่ตลอด

    ทีนี้ด้วยความอยากกลับไปปั่นจักรยานได้ไวๆ แล้วรู้สึกทรมานน้อยที่สุด ผมจึงถามพยาบาลที่ทำแผลให้ว่าทำอย่างไรแผลถึงจะหายเร็ว พยาบาลก็บอกว่าให้ใช้น้ำเกลือล้างแผล

    เอ่อ...ตอนแรกก็ตกใจ คิดว่าเป็นการเอาเกลือมาใส่น้ำหรือใช้น้ำทะเลมาล้างแผล ถ้าทำแบบนี้อาจเสี่ยงทำให้แผลเกิดติดเชื้อได้แน่ๆ



        พอหาข้อมูลเพิ่มเติมถึงได้รู้ว่า น้ำเกลือล้างแผลที่หมายถึง มีชื่อเป็นภาษาทางการแพทย์เรียกว่า 0.9% Normal saline solution

    เจ้านี่แหละครับคือเคล็ดลับทำให้แผลของเราสมานตัวได้เร็วมากๆ อ่านแล้วก็ถามตัวเองว่า นี่เราไปอยู่ไหนมา ทำไมถึงไม่รู้ว่า นี่แหละคือสุดยอดในการช่วยให้แผลสามารถสมานตัวได้เร็ว

        จริงๆ น้ำเกลือล้างแผลมันมีหลายยี่ห้อมากเลยนะ แต่ที่ตัดสินใจเลือกยี่ห้อ Saline Kare เพราะหาซื้อง่ายดี มีขายที่ 7-11
หลายคนคงไม่รู้ว่าน้ำเกลือล้างแผล (0.9% Normal saline solution) มีความเข้มข้นเดียวกับน้ำในร่างกายเรา ถ้าจะพูดให้เข้าใจง่ายขึ้นก็คือ น้ำเกลือกับน้ำในร่างกายเราคือชนิดเดียวกันนั่นเองครับ

    นี่จึงเป็นเหตุผลที่ทำให้ใช้ล้างแผลได้โดยไม่แสบ ไม่เกิดการระคายเคือง  ช่วยลดโอกาสในการติดเชื้อ ถือเป็นการทำความสะอาดแผลที่ละมุนละไมมากๆ


       (ก่อนออกทริปทางไกลกับกลุ่ม ลองเอาใส่กระเป๋าหลัง เผื่อได้ใช้งาน ก็พกพาง่ายดีครับ)

       วิธีใช้ก็แค่บีบใส่แผล (ไม่แสบ) ฉีดล้างจนแผลสะอาด ใช้สำลีซับเบาๆ ทายาตามอีกที หลายคนอาจสงสัยว่าแล้วแบบนี้ยังต้องใช้แอลกอฮอลด์ล้างแผลอีกไหม

    ผมขอแนะนำว่าให้ใช้แอลกอฮอลด์เช็ดแค่บริเวณรอบๆ แผลก็พอครับ อย่าเช็ดที่แผลโดยตรง เนื่องจากแอลกอฮอลด์มีฤทธิ์การทำลายโปรตีนในเนื้อเยื่อ ทำให้เกิดอาการแผลแสบร้อนและหายช้า

    อย่างช่วงหลังๆ พอแผลสะอาดดี รอบแผลไม่สกปรก ผมก็เลิกใช้แอลกอฮอลด์ และจากที่ใช้น้ำเกลือล้างแผลแล้วทายา หลังๆ ผมใช้เพียงน้ำเกลืออย่างเดียวไม่ได้ทายา ปรากฏว่าแผลบริเวณหัวเข่ายังคงสมานตัวได้ดี

    ออกไปปั่นจักรยานก็ไม่รู้สึกเจ็บแผล จากตอนแรกที่คิดไว้ว่าคงต้องพักเป็นสัปดาห์เพื่อรอให้แผลหายดีก็ได้กลับมาปั่นจักรยานเร็วกว่าเดิมที่คิดไว้  
การใช้น้ำเกลือล้างแผล นอกจากจะให้ผลดีในแง่ของการทำความสะอาดแผลแล้ว ยังให้ผลดีในเรื่องของการเพิ่มความชุ่มชื้นให้เนื้อเยื่อ เพราะเมื่อเนื้อเยื่อมีความชุ่มชื้นพอเหมาะ ก็จะคืนสภาพความแข็งแรงได้เร็วขึ้น กลไกต่างๆ ในการกำจัดเชื้อโรค โอกาสในการหายจากการระคายเคือง การติดเชื้อต่างๆ ก็จะดีขึ้นอีกด้วย

    อีกทั้งยังสามารถใช้ทำความสะอาดผิวบอบบาง เช่น ผิวเด็กอ่อนและผิวหน้า ใช้อมกลั้วปากและคอ แก้ร้อนใน แผลถอนฟัน ใช้ล้างตาที่เกิดจากการมีสิ่งแปลกปลอมทำให้ระคายเคือง ล้างโพรงจมูก รวมถึงรูหู ได้อีกด้วย

        ส่วนข้อควรระวังที่เห็น คืออายุในการใช้งานและเก็บรักษา เพราะเมื่อเปิดใช้แล้ว น้ำเกลือล้างแผลจะมีอายุการใช้งานไม่เกิน30วัน เราจึงควรเลือกขนาดขวดที่มีปริมาณพอเหมาะไว้ล้างแผล เช่น ขวดปริมาณ 200 mL ของ Saline Kare ก็ไม่มากหรือน้อยเกินไป

    แต่ที่แน่ๆ เลยคือ ตอนนี้ที่บ้านผมมีน้ำเกลือล้างแผล มาประจำการเรียบร้อยแล้วครับ
ชื่อสินค้า:   น้ำเกลือ Saline Kare
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่