เราเพิ่งเรียนจบมหาลัยเดือนที่แล้วค่ะ กำลังตั้งท้องได้ 5 เดือน พี่สาวเป็นคนไทยที่ไปอยู่ญี่ปุ่น
อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะแต่งงานกับแฟนชาวญี่ปุ่น และจะมาจัดงานที่ไทย พี่สาวก็เชิญเราไปค่ะ
ตอนแรกเราไม่ได้บอกพี่สาวว่าเราท้อง เราช่วยพี่สาววางแผน จัดแจงจัดหาสถานที่อะไรตลอด
ระหว่างนี้ก็ตื่นเต้นไปด้วยค่ะ หาชุดสวยๆร่วมงานแต่งสำหรับคนท้อง นั่งเลือกเสื้อผ้าในเน็ตทุกวันเลย
จนใกล้ถึงวันงาน เราก็บอกพี่สาวค่ะ ว่าเราท้อง จะอุ้มท้องไปร่วมงานนะ เราก็บอกด้วยความดีใจ แต่พี่สาวตกใจมากค่ะ และเงียบไป
จนอีกสองสามวันต่อมา พี่สาวโทรมาหาเรากลางดึก บอกว่า แค่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เธอขอเงินแฟนเธอมา 80,000 บาท
บอกว่าเราท้อง แต่กำลังเรียนอยู่ จะเอาไปทำแท้ง แฟนเธอก็ให้เงินมา แต่เธอไม่รู้ว่าเราจะท้องจริงๆ
เธอเลยไปบอกแฟนเธอว่าเราท้อง เขาก็ถามว่า ไหนบอกจะทำแท้งแล้วเงินที่ให้ไปเราเอาไปทำอะไรกันแน่
พี่สาวก็เลยบอกว่า ท้องแล้ว ทำแท้งไปแล้ว ท้องใหม่อีกแล้ว คราวนี้จะไม่เอาออก
เราอึ้งเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นกับเรา ไม่น่าเชื่อว่าคนที่พูดจะคือพี่สาวแท้ๆในไส้
พี่สาวรีบโทรมาบอกเราก่อนเผื่อว่าถ้าเราไปร่วมงานแต่งแล้วเขาถาม จะได้รู้กัน
แต่คือ???? คือ??? คือเราไม่โอเคด้วยเลย แต่ก็น้ำท่วมปาก เขากำลังจะแต่งงาน กำลังจะมีความสุข
คงไม่ใช่จังหวะที่เราจะไปโวยวายอะไรให้เรื่องมันพัง
ตอนนี้ผ่านไปเกือบอาทิตย์แล้ว เราร้องไห้ทุกวันเลย อับอายกับสิ่งที่พี่สาวพูดมาก
เราท้องเป็นครั้งแรกในชีวิต ยอมรับว่าพลาดจริง แต่เราไม่เคยคิดจะทำแท้ง
สำหรับเรา ตั้งแต่เล็กๆเราถือว่าคนที่ฆ่าลูกตัวเองคือคนที่เลวมาก เลวยิ่งกว่าคนที่ฆ่าคนอื่นอีก
และเรารักศักดิ์ศรีตัวเองยิ่งกว่าสิ่งใด ทำงานเลี้ยงตัวเองตั้งแต่จบ ม.3 ไม่เคยขอเงินใครอีกเลยตั้งแต่วันนั้น
พอเข้ามหาลัยเราเป็นฝ่ายให้เงินแม่ใช้ด้วยซ้ำ โดยที่พี่สาวไม่เคยส่งมาเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว
เวลาเห็นชุดที่ซื้อมาไว้ใส่ไปร่วมงานแต่งเรายิ่งรู้สึกหดหู่ เราร้องไห้ไปด้วยเล่าให้แม่ฟังไปด้วย และขอที่จะไม่ไปงานแต่งเพราะเราอาย
เราคิดว่านอกจากเรื่องนี้ เธอต้องหลอกเอาเงินผู้ชายคนนี้โดยอ้างเราหรือแม่มาแล้วหลายครั้งแน่ๆ
และเรากับแม่พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ แต่เฉพาะเรื่องท้องมันมีหลักฐานชัดเจนเลยต้องดักคอไว้ก่อน
ตอนนี้แม่เองก็จะไม่ไปร่วมงานแต่งด้วยเช่นกัน พี่ชายก็จะไม่ไป คงมีแต่ยายกับน้องชายที่ไปหรือไม่ไปไม่รู้เพราะเรายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพวกเขา
เราคิดว่าอาจจะเพราะท้อง เลยอารมณ์อ่อนไหวซึมเศร้าง่ายด้วย ทำให้เราหดหู่ผิดปกติ
เรากับผู้ชายคนนั้นไม่รู้จักกัน ถ้าเราโผล่ไปงานแต่งจริงๆ เขาก็คงไม่กล้าถามอะไรเราอยู่ดี
คงได้แต่งมองหน้าและคิดดูถูกว่า เราเป็นผู้หญิงใจแตก ไร้ความรับผิดชอบ ไม่มีปัญญาหาเงินเองยังท้องเอาๆอยู่ได้
แต่ถึงจะถามเราก็คงไม่กล้าพูดอะไรให้พี่สาวแท้ๆที่เรารักต้องมาหม่นหมองในวันแต่งงานหรอกค่ะ
เฮ้อ เราจะทำยังไงดีคะ รู้สึกแย่ โกรธ โมโห ซึมเศร้า คือแย่ไปหมด เราพยายามไม่เก็บมาคิด
มันก็ร้องไห้อยู่ดี ไม่ไหวเลย เราจะทำยังไงดีคะ
พี่สาวหลอกเอาเงินพี่เขยอ้างว่าให้เราไปทำแท้ง รู้สึกแย่ หดหู่ อับอายมาก จะทำยังไงดีคะ
อีกไม่กี่เดือนข้างหน้าก็จะแต่งงานกับแฟนชาวญี่ปุ่น และจะมาจัดงานที่ไทย พี่สาวก็เชิญเราไปค่ะ
ตอนแรกเราไม่ได้บอกพี่สาวว่าเราท้อง เราช่วยพี่สาววางแผน จัดแจงจัดหาสถานที่อะไรตลอด
ระหว่างนี้ก็ตื่นเต้นไปด้วยค่ะ หาชุดสวยๆร่วมงานแต่งสำหรับคนท้อง นั่งเลือกเสื้อผ้าในเน็ตทุกวันเลย
จนใกล้ถึงวันงาน เราก็บอกพี่สาวค่ะ ว่าเราท้อง จะอุ้มท้องไปร่วมงานนะ เราก็บอกด้วยความดีใจ แต่พี่สาวตกใจมากค่ะ และเงียบไป
จนอีกสองสามวันต่อมา พี่สาวโทรมาหาเรากลางดึก บอกว่า แค่เมื่อไม่กี่เดือนก่อน เธอขอเงินแฟนเธอมา 80,000 บาท
บอกว่าเราท้อง แต่กำลังเรียนอยู่ จะเอาไปทำแท้ง แฟนเธอก็ให้เงินมา แต่เธอไม่รู้ว่าเราจะท้องจริงๆ
เธอเลยไปบอกแฟนเธอว่าเราท้อง เขาก็ถามว่า ไหนบอกจะทำแท้งแล้วเงินที่ให้ไปเราเอาไปทำอะไรกันแน่
พี่สาวก็เลยบอกว่า ท้องแล้ว ทำแท้งไปแล้ว ท้องใหม่อีกแล้ว คราวนี้จะไม่เอาออก
เราอึ้งเลยค่ะ ไม่น่าเชื่อว่ามันจะเกิดขึ้นกับเรา ไม่น่าเชื่อว่าคนที่พูดจะคือพี่สาวแท้ๆในไส้
พี่สาวรีบโทรมาบอกเราก่อนเผื่อว่าถ้าเราไปร่วมงานแต่งแล้วเขาถาม จะได้รู้กัน
แต่คือ???? คือ??? คือเราไม่โอเคด้วยเลย แต่ก็น้ำท่วมปาก เขากำลังจะแต่งงาน กำลังจะมีความสุข
คงไม่ใช่จังหวะที่เราจะไปโวยวายอะไรให้เรื่องมันพัง
ตอนนี้ผ่านไปเกือบอาทิตย์แล้ว เราร้องไห้ทุกวันเลย อับอายกับสิ่งที่พี่สาวพูดมาก
เราท้องเป็นครั้งแรกในชีวิต ยอมรับว่าพลาดจริง แต่เราไม่เคยคิดจะทำแท้ง
สำหรับเรา ตั้งแต่เล็กๆเราถือว่าคนที่ฆ่าลูกตัวเองคือคนที่เลวมาก เลวยิ่งกว่าคนที่ฆ่าคนอื่นอีก
และเรารักศักดิ์ศรีตัวเองยิ่งกว่าสิ่งใด ทำงานเลี้ยงตัวเองตั้งแต่จบ ม.3 ไม่เคยขอเงินใครอีกเลยตั้งแต่วันนั้น
พอเข้ามหาลัยเราเป็นฝ่ายให้เงินแม่ใช้ด้วยซ้ำ โดยที่พี่สาวไม่เคยส่งมาเลยแม้แต่สตางค์แดงเดียว
เวลาเห็นชุดที่ซื้อมาไว้ใส่ไปร่วมงานแต่งเรายิ่งรู้สึกหดหู่ เราร้องไห้ไปด้วยเล่าให้แม่ฟังไปด้วย และขอที่จะไม่ไปงานแต่งเพราะเราอาย
เราคิดว่านอกจากเรื่องนี้ เธอต้องหลอกเอาเงินผู้ชายคนนี้โดยอ้างเราหรือแม่มาแล้วหลายครั้งแน่ๆ
และเรากับแม่พูดภาษาญี่ปุ่นไม่ได้ แต่เฉพาะเรื่องท้องมันมีหลักฐานชัดเจนเลยต้องดักคอไว้ก่อน
ตอนนี้แม่เองก็จะไม่ไปร่วมงานแต่งด้วยเช่นกัน พี่ชายก็จะไม่ไป คงมีแต่ยายกับน้องชายที่ไปหรือไม่ไปไม่รู้เพราะเรายังไม่ได้บอกเรื่องนี้กับพวกเขา
เราคิดว่าอาจจะเพราะท้อง เลยอารมณ์อ่อนไหวซึมเศร้าง่ายด้วย ทำให้เราหดหู่ผิดปกติ
เรากับผู้ชายคนนั้นไม่รู้จักกัน ถ้าเราโผล่ไปงานแต่งจริงๆ เขาก็คงไม่กล้าถามอะไรเราอยู่ดี
คงได้แต่งมองหน้าและคิดดูถูกว่า เราเป็นผู้หญิงใจแตก ไร้ความรับผิดชอบ ไม่มีปัญญาหาเงินเองยังท้องเอาๆอยู่ได้
แต่ถึงจะถามเราก็คงไม่กล้าพูดอะไรให้พี่สาวแท้ๆที่เรารักต้องมาหม่นหมองในวันแต่งงานหรอกค่ะ
เฮ้อ เราจะทำยังไงดีคะ รู้สึกแย่ โกรธ โมโห ซึมเศร้า คือแย่ไปหมด เราพยายามไม่เก็บมาคิด
มันก็ร้องไห้อยู่ดี ไม่ไหวเลย เราจะทำยังไงดีคะ