มีเพื่อนสมาชิกท่านหนึ่ง “หลังมือ” ไปถามผมเกี่ยวกับท่านยามาดะ นางามาซะ ต่อเนื่องจากระทู้นี้
http://ppantip.com/topic/33673944 ของผม ว่าท่านนี้ยิ่งใหญ่ขนาดที่ขุนนางน้อยใหญ่ในอยุธยาต้องเกรงกลัวขนาดนั้นเชียวหรือ?? หรือว่าผมเขียน “เวอร์” ยกยอชาวต่างชาติเกินไปซะละมั๊ง??
ใหญ่ครับ...ถ้าว่าตามพงศาวดารที่เขียนไว้ ก็ต้องบอกว่าท่านยิ่งใหญ่จริงๆ (อย่างน้อยๆ ก็ในความรู้สึกของผม)
๑.ถ้าไม่ใหญ่จริงคงไม่ได้กินตำแหน่ง “ออกญา” ขุนนางขั้นสูงสุดในอยุธยาและมีกองกำลังทหารของตัวเอง
๒. ถ้าไม่ใหญ่จริงท่านออกญากลาโหมสุริยวงศ์(ต่อมาคือพระเจ้าปราสาททอง) คงไม่มาปรึกษาหารือเรื่องการปฏิวัติ พร้อมถามความเห็นเกี่ยวกับผู้ที่จะสืบราชสมบัติ(หากปฏิวัติสำเร็จ)
๓. ถ้าไม่ใหญ่จริง คงไม่สามารถกราบทูลขอพระราชทานชีวิตของขุนนางผู้ใหญ่เช่นออกพระศรีเสาวราชและออกพระจุฬาต่อพระมหากษัตริย์ได้ และขุนนางทั้งสองได้รับการพระราชทานอภัยโทษจากการทูลขอชีวิตของท่านยามาดะ นางามาซะ
นอกจากท่านจะยิ่งใหญ่แล้ว ท่านถือว่าเป็น “ลูกผู้ชายชาติทหาร” ใจนักเลง สายเลือดซามูไรโดยแท้จริง นั่นก็คือ จากเหตุการณ์ที่ออกญากลาโหมสุริยวงศ์(ซึ่งตอนนั้นเรียกได้ว่ามีอำนาจสูงสุดก็ว่าได้)ได้ทำการฌาปนกิจศพมารดา(บางตำราก็ว่าศพน้องชาย)แล้วเชื้อเชิญขุนนางชั้นผู้ใหญ่ไปร่วมงานศพ ท่านเลือกเอากเวลาที่ฌาปนกิจตรงกับเวลาที่ขุนนางต้องเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวที่ท้องพระโรงด้วย เป็นการ “โยนก้อนหินถามทาง” ประมาณนี้กระมัง?? ปรากฏว่ามีขุนนางเข้าเฝ้าเพียงน้อยนิด ส่วนใหญ่ก็ไปร่วมฌาปนกิจที่ออกญากลาโหมจัดขึ้น จากเหตุการณ์นั้นก็เป็นชนวนเหตุให้ออกญากลาโหมสุริยวงศ์ทำการโค่นราชบัลลังก์ของสมเด็จพระเชษฐาธิราช จับพระองค์ปลงชีวิตเสีย แล้วสถาปนาตัวเองเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ล้วนตกอยู่ใต้อำนาจของออกญากลาโหมสุริยวงศ์ เห็นจะมีแต่ออกญาเสนาภิมุขชาวญี่ปุ่นเลือดซามูไรท่านนี้ที่ไม่เกรงกลัว มิหนำซ้ำ ตามหนังสือ “ขุนนางอยุธยา” ได้อ้างพงศาวดารว่า ออกญาเสนาภิมุขเป็นผู้ท่แสดงออกอย่างชัดแจ้งว่าจะคัดค้านมิให้บุคคลที่ไม่ได้เป็นพระราชวงศ์ของพระเจ้าทรงธรรมได้ขึ้นเป็นกษัตริย์อย่างเด็ดขาด(ยามาดะ นางามาซะ เข้ารับราชการเป็นทหารในสมัยพระเจ้าทรงธรรม) คงอาจจะด้วยเกรงใจออกญาเสนาภิมุขก็เป็นได้ ที่ทำให้ออกญากลาโหมสุริยวงศ์ยังไม่กล้าปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ทันทีที่ปลงพระชนม์สมเด็จพระเชษฐาธิราช “ขุนนางอยุธยา” ยังกล่าวอีกต่อไปว่า ขุนนางญี่ปุ่นผู้นี้ได้แสดงอาการท้าทายอำนาจของออกญากลาโหมในฐานะผู้สำเร็จราชการด้วยการไม่ไปประชุมขุนนางที่พระราชวังเพื่อเป้นการแสดงออกถึงความไม่พอใจ(ที่ออกญากลาโปมปลงพระชนม์สมเด็จพระเชษฐาธิราช: วัชรานนท์)ครั้งนี้ หัวใจทหารพระราชาของออกญาเสนาภิมุขเลือดซามูไรท่านนี้น่ากราบไหมล่ะครับ......ในพงศาวดารกล่าวว่าท่านสิ้นด้วยการโดนวางยาพิษ!!
หากท่านที่มีโอกาสได้ไปเยื้อนเมืองนครศรีธรรมราช ก็ไปกราบไหว้อนุสาวรีย์ท่านได้นะครับ
.........หัวใจ "ชายชาติทหาร" ของเขามันน่ากราบ.....
๑.ถ้าไม่ใหญ่จริงคงไม่ได้กินตำแหน่ง “ออกญา” ขุนนางขั้นสูงสุดในอยุธยาและมีกองกำลังทหารของตัวเอง
๒. ถ้าไม่ใหญ่จริงท่านออกญากลาโหมสุริยวงศ์(ต่อมาคือพระเจ้าปราสาททอง) คงไม่มาปรึกษาหารือเรื่องการปฏิวัติ พร้อมถามความเห็นเกี่ยวกับผู้ที่จะสืบราชสมบัติ(หากปฏิวัติสำเร็จ)
๓. ถ้าไม่ใหญ่จริง คงไม่สามารถกราบทูลขอพระราชทานชีวิตของขุนนางผู้ใหญ่เช่นออกพระศรีเสาวราชและออกพระจุฬาต่อพระมหากษัตริย์ได้ และขุนนางทั้งสองได้รับการพระราชทานอภัยโทษจากการทูลขอชีวิตของท่านยามาดะ นางามาซะ
นอกจากท่านจะยิ่งใหญ่แล้ว ท่านถือว่าเป็น “ลูกผู้ชายชาติทหาร” ใจนักเลง สายเลือดซามูไรโดยแท้จริง นั่นก็คือ จากเหตุการณ์ที่ออกญากลาโหมสุริยวงศ์(ซึ่งตอนนั้นเรียกได้ว่ามีอำนาจสูงสุดก็ว่าได้)ได้ทำการฌาปนกิจศพมารดา(บางตำราก็ว่าศพน้องชาย)แล้วเชื้อเชิญขุนนางชั้นผู้ใหญ่ไปร่วมงานศพ ท่านเลือกเอากเวลาที่ฌาปนกิจตรงกับเวลาที่ขุนนางต้องเข้าเฝ้าพระเจ้าอยู่หัวที่ท้องพระโรงด้วย เป็นการ “โยนก้อนหินถามทาง” ประมาณนี้กระมัง?? ปรากฏว่ามีขุนนางเข้าเฝ้าเพียงน้อยนิด ส่วนใหญ่ก็ไปร่วมฌาปนกิจที่ออกญากลาโหมจัดขึ้น จากเหตุการณ์นั้นก็เป็นชนวนเหตุให้ออกญากลาโหมสุริยวงศ์ทำการโค่นราชบัลลังก์ของสมเด็จพระเชษฐาธิราช จับพระองค์ปลงชีวิตเสีย แล้วสถาปนาตัวเองเป็นผู้สำเร็จราชการแทนพระองค์ เหล่าขุนนางน้อยใหญ่ล้วนตกอยู่ใต้อำนาจของออกญากลาโหมสุริยวงศ์ เห็นจะมีแต่ออกญาเสนาภิมุขชาวญี่ปุ่นเลือดซามูไรท่านนี้ที่ไม่เกรงกลัว มิหนำซ้ำ ตามหนังสือ “ขุนนางอยุธยา” ได้อ้างพงศาวดารว่า ออกญาเสนาภิมุขเป็นผู้ท่แสดงออกอย่างชัดแจ้งว่าจะคัดค้านมิให้บุคคลที่ไม่ได้เป็นพระราชวงศ์ของพระเจ้าทรงธรรมได้ขึ้นเป็นกษัตริย์อย่างเด็ดขาด(ยามาดะ นางามาซะ เข้ารับราชการเป็นทหารในสมัยพระเจ้าทรงธรรม) คงอาจจะด้วยเกรงใจออกญาเสนาภิมุขก็เป็นได้ ที่ทำให้ออกญากลาโหมสุริยวงศ์ยังไม่กล้าปราบดาภิเษกขึ้นเป็นกษัตริย์ทันทีที่ปลงพระชนม์สมเด็จพระเชษฐาธิราช “ขุนนางอยุธยา” ยังกล่าวอีกต่อไปว่า ขุนนางญี่ปุ่นผู้นี้ได้แสดงอาการท้าทายอำนาจของออกญากลาโหมในฐานะผู้สำเร็จราชการด้วยการไม่ไปประชุมขุนนางที่พระราชวังเพื่อเป้นการแสดงออกถึงความไม่พอใจ(ที่ออกญากลาโปมปลงพระชนม์สมเด็จพระเชษฐาธิราช: วัชรานนท์)ครั้งนี้ หัวใจทหารพระราชาของออกญาเสนาภิมุขเลือดซามูไรท่านนี้น่ากราบไหมล่ะครับ......ในพงศาวดารกล่าวว่าท่านสิ้นด้วยการโดนวางยาพิษ!!
หากท่านที่มีโอกาสได้ไปเยื้อนเมืองนครศรีธรรมราช ก็ไปกราบไหว้อนุสาวรีย์ท่านได้นะครับ