[Mana Review: 003] HTC One M9+ เรือธงสุดหล่อจากไต้หวัน



หายไปสองสามอาทิตย์หลังจากรีวิว apple watch ไป ต้องขอบคุณเพื่อนๆ ที่ให้ความสนใจนะครับ ตื่นเต้นมากจริงๆ ฮ่าๆๆ ตามที่เคยบอกไปว่าจะมารีวิว HTC One M9+ ในกระทู้ก่อน หลังจากไปต่อคิวในงาน TME ก็ได้เรือธงรุ่นใหม่จาก HTC มาครอบครอง (โดยภรรยาไม่ค่อยเชียร์เท่าไหร่) รุ่นนี้จัดเต็มมาเยอะ ในฐานะที่ใช้ iPhone กับ M8 มาก่อน พูดเลยว่ารู้สึกตื่นเต้นมากตั้งแต่ได้เห็นรูป จนได้จับของจริงก็ยังรู้สึกตื่นเต้น ฮ่าๆๆ ขี้เห่อสุดๆ

เข้าเรื่องกันเลยดีกว่า

เหมือนเคยครับ ผมจะไม่รีวิวแกะกล่องเครื่องแต่จะเป็นการรีวิวจากการใช้งานจริง ส่วนรีวิวแกะกล่องที่เป็นภาษาไทยแบบเต็มๆ ยังไม่มี ผมแนะนำให้อ่านพรีวิวจากทาง Droidsans ตามนี้ครับ http://droidsans.com/preview-htc-one-m9-plus

จากการใช้งานมาตลอด 1 สัปดาห์ ผมสรุปออกมาได้ทั้งหมด 7 ประเด็นหลัก ตามนี้ครับ



1. การออกแบบและวัสดุ

ตัวเครื่องออกแบบโดยยึดเอาพื้นฐานตั้งแต่ HTC One M8 เป็นต้นแบบ ซึ่งดูดีอยู่แต่ขนาดใหญ่ขึ้น ค่อนข้างหนัก ขอบคมกริ๊บทุกรอยต่อ ซึ่งอาจจะทำให้เวลาจับอาจจะโค้งมนเหมือน M8 นัก หลายสำนักบอกว่าจับถนัดมือ แต่ส่วนตัวผมชอบฟิลลิ่งเนียนๆ แบบ M8 มากกว่านิดหน่อย



อลูมิเนียมด้านหลังกลายเป็นผิวขัดมันทั้งชิ้น มีลายเส้นโลหะกลึงปาดหน้าสวยงามโฉบเฉี่ยว ดูสวยกว่าเดิมมาก เครื่องสีทูโทน Gold on Silver ของผมด้านหลังเป็นสีเงิน แต่ด้านข้างจะเป็นสีทอง ซึ่งออกไปทางทองแดงมากกว่า ที่ไม่ค่อยชอบใจเท่าไหร่ คือด้านข้างที่เป็นรอยหยัก เป็นรอยต่อของชิ้นโลหะด้านหน้ากันด้านหลัง



ส่วนที่รู้สึกว่าค่อนข้าง Fail คือการวางปุ่มปรับเสียงกับปุ่มเปิด/ปิดเครื่อง ที่ทำให้เผลอกดผิดได้ง่ายมากๆ ต้องระวังตลอดเวลา



ด้านหน้านี่เหมือนเดิมแทบทุกอย่าง ตั้งแต่ลำโพง ตำแหน่งกล้อง เซนเซอร์ แต่ต่างตรงปุ่มอ่านลายนิ้วมือที่เพิ่มเข้ามาในรุ่นนี้ ซึ่งเอาจริงๆ ก็... สวยน้อยลงอะ แต่ของมันต้องมีจริงๆ ชาวบ้านเค้ามีกันหมดแล้ว

สรุปเรื่องการออกแบบแล้ว HTC One M9+ โดยรวมออกแนวเท่เหมือนรถสปอร์ตมากกว่าสวย ตัวเครื่องใหญ่และหนักดูจะไม่เหมาะกับสาวๆ เท่าไหร่ ขนาดผมเป็นผู้ชายมือใหญ่ ยังรู้สึกว่ามันใหญ่มาก เกือบๆ จะเท่ากับ Note 4 หรือ iPhone 6+ เลยครับ แต่สรุปแล้วโดยรวมมันก็ยังดูดี เฉียบ และเท่มากๆ



2. กล้อง
ตอนนี้ใครซื้อสมาร์ทโฟนก็ต้องดูกล้องเป็นอีกฟีเจอร์หลักซึ่ง M9+ ไม่ได้ให้มาแค่ 2 แต่ให้มาถึง 3 กล้อง! (กล้องหลังเป็นระบบ Dual Camera) ไม่ต้องเกริ่นอะไรมาก ไปดูกันเลยครับ



2.1 กล้องหลัก (กล้องหลัง)
ให้ Pixel มามากถึง 20 ล้านพิกเซล (ตัวเลนส์ก็ใหญ่เด่นมากๆ) ขนาดไฟล์ใหญ่และความละเอียดสูงมาก ถ้าเทียบความสวยกับรูปจาก iPhone 6 หรือ Galaxy S6 อันนี้ยังไม่มีใครทำ Test จริงจัง ลองดูภาพที่ผมถ่าย Test มาละกันนะครับ



รูปถ่าย Selective Focus หน้าชัดหลังเบลอ (เบลอไม่มากนะครับ ระยะมันใกล้)



รูปถ่ายระยะใกล้ ประมาณ 3 cm. (อาจจะไม่ถึงขนาด Macro แต่ก็พอได้อยู่)



รูปถ่ายพาโนรามา (ส่วนที่แสงมากและน้อยแตกต่างกันอย่างชัดเจน)



รูปถ่ายแสงน้อย แฮ่~~

ตามที่เคยเขียนไปในรีวิว S6 คุณภาพของภาพไม่ได้ด้อยไปกว่ากันเลย แต่โทนสีและอุณหภูมิของภาพที่แตกต่างไปตามความชอบของแต่ละคนมากกว่า ของ M9+ จะติดเหลืองมากกว่าทั้ง iPhone 6 และ S6 ครับ แต่ชัดแจ๋วเลย ลองดูรูปกันครับ



2.2 กล้องหน้า
ส่วนตัวผมไม่ใช้กล้องหน้ามากนัก พอให้น้องๆ ที่ออฟฟิศ ไปถ่ายกัน พบว่าภาพที่ได้ดูจะยังไม่ฟรุ้งฟริ้งถูกใจเท่าไหร่ ภาพมี Contrast สูง และติดแดงเยอะมาก อันนี้ตัวเครื่องก็มี Beauty Level มาให้ปรับได้คล้ายกับ S6 โดยรวมกล้องหน้าก็ยังดีกว่า iPhone 6 พอสมควรจากความละเอียดที่ 4 ล้านพิกเซล



ปัญหาใหญ่อีกอย่างคือความเร็ว Focus นั้นช้ากว่ารุ่นใกล้เคียงของ Brand อื่นๆ อย่างเห็นได้ชัด Speedshutter ก็ค่อนข้างช้า ถ่ายภาพแสงน้อยก็ไม่ได้ดีมาก ข้อดีที่พอจะเห็นคือการปรับ ISO เพื่อลด noise ในสภาพแสงดีได้



นอกจากนี้ กล้องหลังยังมีฟีเจอร์ถ่ายภาพแบบ Dual Camera เพื่อจับระยะความลึกและทำ Effect ต่างๆ ได้ หิมะตก ปรับด้านหลังเป็นขาวดำ อันนี้มองเป็น Candy Feature นะครับ ยังไม่ค่อยโดนเท่าไหร่

3. แบตเตอรี่
จากการใช้งานมาเกือบสัปดาห์ แบตค่อนข้างอึดใช้ได้ ยังไม่มีวันที่หมดกลางทาง แบตให้มาถึง 2840 mAh และยังมี Power Saving ที่จะจำกัดการทำงานของเครื่องเพื่อประหยัดพลังงาน

การชาร์จก็ปกติครับ และด้วยบอดี้โลหะทั้งเครื่องทำให้การชาร์จไร้สายไม่สามารถทำได้ เรียกว่าเรื่องแบตเตอรี่อยู่ในระดับ OK ใช้ได้ไม่มีหมดระหว่างวันครับ



4. การใช้งาน
เริ่มจาก HTC Sense UI อันโด่งดัง คือสุดท้ายผมก็เปลี่ยนไปใช้ Aviate Launcher อยู่ดี ผมไม่ค่อยโอเคกับ UI ตั้งแต่ตัว M8 แล้วล่ะ จริงๆ UI รอบนี้มี Theme ที่มาให้เปลี่ยนเยอะพอสมควร สาวๆ น่าจะได้ใช้กันครับ แต่คีย์บอร์ดไทย แป้นโทรออก ฯลฯ เนี่ยดูแมนและกดยากมาก ไว้รูทเครื่องลง Nexus Rom แล้วจะมาเล่าให้ฟังกันครับ



สิ่งที่เพิ่มเข้ามาใน M9+ คือปุ่มสแกนลายนิ้วมือ ซึ่งทำงานได้ดีมาก เร็ว แม่น จะสแกนมุมไหนก็ทำได้ แม้หน้าตาจะดูไม่ค่อยดีนักก็ตาม ถ้าใครเคยใช้ Touch ID ของ iPhone มาก่อนน่าจะคุ้นเคยดี การติดตั้งก็ใช้วิธีการสแกนประมาณ 15 ครั้งก็ครบ
ตัวปุ่มกดไม่ได้ แต่แตะเพื่อใช้แทนปุ่ม Home ได้ ถ้าใครกลัวจะเผลอสับสนไปกดโดน ก็สามารถปิดได้ครับ ตัวสแกนนี่โอเคเลย



ประสิทธิภาพการทำงานอันนี้ผ่านฉลุย เรียกว่าสมกับประสิทธิภาพ MediaTek MT6795T กับแรมที่ให้มา 3GB (เท่ากับ Galaxy S6, LG G4) ไม่มีหน่วงหรือช้าให้เห็น เปิดเกม 3D ก็เร็ว มีกระตุกตอนโหลดบ้างแต่พอเริ่มเล่นก็เล่นได้สบายๆ ครับ



5. จอภาพ
ตอนนี้ Android ตัวท๊อปทยอยอัพเป็นจอ Quad HD กันแล้ว (1440 x 2560 px) ความละเอียดเท่ากับ Galaxy S6 และ LG G4 ซึ่ง M9+ ใช้จอ IPS ไม่ใช่ OLED ดังนั้นโหมดขาวดำประหยัดพลังงานจะไม่มีผลนะครับ ถ้าใครที่ชอบจอที่สีไม่สดมาก แต่ให้สีที่สวย จริง น่าจะถูกใจ ถ้า iPhone ทำจอความละเอียดเท่านี้ ก็น่าจะให้ผลไม่แตกต่างกัน

และด้วยจอขนาดใหญ่ เวลาที่ดูวีดีโอหรือดูภาพสวยๆ นี่มันดูดีมากจริงๆ ลองเปิด YouTube ความละเอียดสูงๆ ดูก็ชัดแจ๋ว สรุปว่าเรื่องจอ ทำได้ดีมาก ละเอียด คม สวยงาม สีแม่นยำมากครับ



6. ลำโพง
พูดเลยว่าผมชอบเสียงของลำโพงใหม่ของ M9+ มาก (ตอนแรกที่เห็นว่ามี Dolby Sound System เข้ามาก็คิดนะว่ามันจะทำให้เพราะขนาดนั้นเลยเรอะ) หลังจากฟังแล้วก็รู้สึกได้เลยว่านี่มันของจริง! ผมลองเปิดเพลงผ่าน YouTube แล้วดู MV ในระยะพอดีสายตา พอถือเครื่องแนวนอนปุ๊บนี่เสียงแยก Channel ซ้ายขวาชัดมาก



ลำโพงสามารถปรับระบบเสียงได้ 2 Mode คือ Theater Mode สำหรับดูวีดีโอและภาพยนตร์ อีกระบบคือ Music Mode นี่แหละครับทีเด็ด เป็นลำโพงมือถือที่อยากคารวะจริงๆ เปิดเพลงมาเสียงใสมาก Channel ซ้ายขวาชัดเจนมาก ยิ่งเพลงเสียงใสๆ Range กว้างๆ จะเหมาะมาก ถ้าอยากจะลองแนะนำให้ลองฟังเพลงตาม Link นี้ครับ เสียงใสมาก

ไม่มีทะเล 2Pcs.
คลิกเพื่อดูคลิปวิดีโอ

7. ความคุ้มค่า
วัดด้วยความคุ้มค่า HTC One M9+ ค่าตัวอย่างเป็นทางการคือ 24,900 บาท ถือว่าเป็นสมาร์ทโฟนระดับพรีเมี่ยมที่ดูดีไม่เบา ขอทวนสูตรคำนวณที่ผมใช้ประจำนะครับ

ราคาซื้อ - ราคาขายต่อ = Total Value of Ownership

TVO = วัสดุ + คุณสมบัติ + บริการ + ประสบการณ์ใช้งาน + สิทธิประโยชน์ (Privilege) อื่นๆ

ราคาซื้อที่ 24,900 บาท ราคาขายต่อหลังจากใช้งาน 2 ปี เท่าที่สำรวจมาเรียกว่าเหลือเป็นหลักพันบาท สมมติผมให้ 9000 บาท ซึ่งวัสดุ คุณสมบัติต่างๆ การใช้งาน อยู่ในระดับที่โอเค และให้สิทธิประโยชน์มาคือ Google Drive 100 GB (อันนี้แหละทำให้คิดหนัก) เฉลี่ยต่อวันตกวันละ 21.78 บาท ถือว่ายังคุ้มอยู่ครับ น่าจะเหมาะกับกลุ่มผู้ใช้ที่ชอบ HTC จริงๆ (ผมก็ยังชอบอยู่นะ)

ก่อนสรุป ครั้งนี้ผมเอา m9+ มารีวิว แต่ในต่างประเทศจะมีรุ่น m9 (ซึ่งไม่ได้เข้ามาขายในไทย) สเปคจะอยู่ระหว่าง m8 กับ m9+ ซึ่งมีจุดแตกต่างอยู่พอสมควร m9 จะไม่มีปุ่มสแกนลายนิ้วมือ ความละเอียดจอน้อยกว่า (เป็น Full HD) หน้าจอที่เล็กกว่า กล้องหลังไม่ได้เป็น Dual Camera แต่ข้อดีก็มีเหมือนกันคือใช้กระจก Gorilla Glass 4 และเนื่องจากสเปคต่ำกว่าเลยทำให้แบตอยู่ทนกว่า ถ้าอยากทราบข้อมูลเปรียบเทียบละเอียดๆ กดได้ตาม Links เลยครับ http://www.phonearena.com/phones/compare/HTC-One-M9,HTC-One-M9/phones/9003,9151



สรุปความหวั่นไหวครั้งนี้กับ HTC One M9+

โดยรวมต้องบอกว่าเป็นสมาร์ทโฟนที่เท่มาก! รูปลักษณ์โฉบเฉี่ยวคล้ายรถสปอร์ต การใช้งานก็ลื่นไหลดี ลำโพง Dolby กินขาด ติดอยู่ที่เรื่องของ Sense UI ที่ยังคงใช้แล้วรู้สึกไม่คุ้นชินในตอนแรก การจัดวางปุ่มที่ดูผิดที่ผิดทาง และเรื่องกล้องที่ภาพไม่สวยแบบเดียวกับแบรนด์อื่นๆ ถ้าลองใช้แล้วโอเคกับจุดด้อย ก็เป็นสมาร์ทโฟนที่น่าใช้อยู่รุ่นหนึ่งครับ ผมยังโอเคกับรุ่นนี้อยู่ คิดว่าคงใช้ต่อไป

ทั้งหมดเป็นความเห็นของผม ที่เหลืออยู่ที่คุณพิจารณาครับอมยิ้ม31

========================================

ดูกระทู้รีวิวเก่า
[CR]เมื่อคนใช้ iPhone มาจับ S6 ครั้งแรกของผมกับ Samsung >> http://ppantip.com/topic/33570227
[CR]กระทู้ด่วน ของร้อน พรีวิว apple watch >> http://ppantip.com/topic/33585309

*แก้ไขกระทู้เรื่องข้อมูล CPU ผิดพลาดครับ
**แก้รอบสอง เพิ่มรูปพาโนรามาครับ
แก้ไขข้อความเมื่อ
แสดงความคิดเห็น
อ่านกระทู้อื่นที่พูดคุยเกี่ยวกับ  โทรศัพท์มือถือ HTC Smartphone สมาร์ทโฟน
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่