1. ตัวละครเยอะเกินจำเป็น รู้ทั้งรู้ว่ามีเวลาฉายจำกัด รู้ทั้งรู้ว่าเด็กแต่ละคนไม่มีประสบการณ์ รู้ทั้งรู้ว่าเด็กเล่นแข็ง แต่ก็ยังฝืนพยายามใช้ความสดใหม่และความน่ารักของนักแสดงเพื่อให้ขายออก มีหลายคู่ที่ไม่มีบทบาทในนิยายมาก่อนแต่กลับมีความสำคัญในละครมากๆและยังดันเล่นดีกว่าคู่หลักซะอย่างนั้น
2. การให้ความสำคัญในช่วงเวลาต่างๆไม่มีความสมดุล งานกีฬาสุดยิ่งใหญ่ที่ยังเทียบไม่ได้กับงานกีฬาสีโรงเรียนเล็กๆในตำบลเล็กๆแห่งหนึ่ง มีเวลาให้จี๊ดแสดงอารมณ์ปมปัญหาต่างๆมากกว่าปุณโน่ ฉากมโนไร้สาระกินเวลานานๆ และฉากที่เพิ่มเข้ามาจากตัวละครที่ไม่จำเป็นอีกเยอะแยะ ต้องตัดฉากเร็วๆเพื่อให้ครบคู่ ทำให้ปุณโน่ซึ่งเล่นแข็งอยู่แล้วจืดจนหมดความฟิน พอมา EP หลังๆเริ่มให้เวลากับปุณโน่มากขึ้นแต่ก็น่าขำที่จืดสนิทแบบว่าเบื่อกันเลยทีเดียวเพราะการดึงเวลาในซีนที่ไม่มีอะไร
3. การตีความ นิสัยของตัวละครแตกต่างจากในนิยายอย่างสิ้นเชิง ไม่แน่ใจว่ามาจากการที่นักแสดงเล่นไม่ถึงหรือการตีความที่ผิดเพี้ยนไป "ยูริไม่ได้หื่นยูริแค่น้อยใจโน่และไม่ได้ระแคะระคายว่าโน่เป็นเกย์ เพียงแค่คิดว่าโน่ไม่มีใจและอาจมีคนอื่น" "ปุณเป็นผู้ชายที่แมน และรักเอมมากแต่ก็รักโน่เช่นกัน หลังๆเริ่มเห็นความเอาแต่ใจของเอมก็ยิ่งรักโน่มากขึ้นแต่ก็ยังรักเอมอยู่" "โน่เป็นเด็กผู้ชายที่แมนเช่นกันแต่เป็นคนบ้าๆบอๆสนุกสนานและเกรงใจยูริไม่เคยขอยูริเป็นแฟนแต่เออออไปตามระเบียบไม่ได้รับแต่ก็ไม่ปฎิเศธ และเป็นสุภาพบุรุษมากๆ!!!!!!"
สุดท้ายมันก็แค่ความเห็นส่วนตัว เวลาเราดูหนังหรือซีรียืที่ทำมาจากนิยายเรามักจะบ่นกันเป็นปกติอยู่แล้ว ด้วยการที่หนังไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกการตีความและจินตนาการตามผู้อ่านได้อย่างที่ผู้อ่านต้องการซึ่งแตกต่างไปตามแต่ละคนอีกด้วย เรามักจะสนุกถ้าไม่อ่านนิยายก่อนดูหนัง "แต่ love sick ผมไม่แน่ใจว่าถ้าไม่อ่านนิยายก่อนมันจะสนุกไหม!"
Love Sick The Series ความไม่สมประกอบ
2. การให้ความสำคัญในช่วงเวลาต่างๆไม่มีความสมดุล งานกีฬาสุดยิ่งใหญ่ที่ยังเทียบไม่ได้กับงานกีฬาสีโรงเรียนเล็กๆในตำบลเล็กๆแห่งหนึ่ง มีเวลาให้จี๊ดแสดงอารมณ์ปมปัญหาต่างๆมากกว่าปุณโน่ ฉากมโนไร้สาระกินเวลานานๆ และฉากที่เพิ่มเข้ามาจากตัวละครที่ไม่จำเป็นอีกเยอะแยะ ต้องตัดฉากเร็วๆเพื่อให้ครบคู่ ทำให้ปุณโน่ซึ่งเล่นแข็งอยู่แล้วจืดจนหมดความฟิน พอมา EP หลังๆเริ่มให้เวลากับปุณโน่มากขึ้นแต่ก็น่าขำที่จืดสนิทแบบว่าเบื่อกันเลยทีเดียวเพราะการดึงเวลาในซีนที่ไม่มีอะไร
3. การตีความ นิสัยของตัวละครแตกต่างจากในนิยายอย่างสิ้นเชิง ไม่แน่ใจว่ามาจากการที่นักแสดงเล่นไม่ถึงหรือการตีความที่ผิดเพี้ยนไป "ยูริไม่ได้หื่นยูริแค่น้อยใจโน่และไม่ได้ระแคะระคายว่าโน่เป็นเกย์ เพียงแค่คิดว่าโน่ไม่มีใจและอาจมีคนอื่น" "ปุณเป็นผู้ชายที่แมน และรักเอมมากแต่ก็รักโน่เช่นกัน หลังๆเริ่มเห็นความเอาแต่ใจของเอมก็ยิ่งรักโน่มากขึ้นแต่ก็ยังรักเอมอยู่" "โน่เป็นเด็กผู้ชายที่แมนเช่นกันแต่เป็นคนบ้าๆบอๆสนุกสนานและเกรงใจยูริไม่เคยขอยูริเป็นแฟนแต่เออออไปตามระเบียบไม่ได้รับแต่ก็ไม่ปฎิเศธ และเป็นสุภาพบุรุษมากๆ!!!!!!"
สุดท้ายมันก็แค่ความเห็นส่วนตัว เวลาเราดูหนังหรือซีรียืที่ทำมาจากนิยายเรามักจะบ่นกันเป็นปกติอยู่แล้ว ด้วยการที่หนังไม่สามารถถ่ายทอดอารมณ์ความรู้สึกการตีความและจินตนาการตามผู้อ่านได้อย่างที่ผู้อ่านต้องการซึ่งแตกต่างไปตามแต่ละคนอีกด้วย เรามักจะสนุกถ้าไม่อ่านนิยายก่อนดูหนัง "แต่ love sick ผมไม่แน่ใจว่าถ้าไม่อ่านนิยายก่อนมันจะสนุกไหม!"