สวัสดีค่ะ นี่เป็นเรื่องของพี่ชายเรานะคะ เนื่องจากตอนนี้เราอยู่หอและพี่ไม่มีล็อกอิน และไม่มีคนให้คำปรึกษา จึงอาสาจะมาขอคำปรึกษา
จากเพื่อนๆ พี่ๆในพันทิป เรื่องที่ไปแจ้งความพร้อมหลักฐานแต่ตำรวจกลับบอกว่า 'ช่วยอะไรไม่ได้' พี่เราอยากจะเอาผิดกับคนที่ขโมย
ของไปจริงๆค่ะ ต่อจากนี้เราจะขอแทนพี่เราว่า พี่A ผู้ต้องสงสัยคือน้องBนะคะ (เป็นกระทู้แรกที่เขียนยาวๆแบบนี้ ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยค่ะ)
เหตุการณ์เริ่มวันพุธ ที่6พค.2558 พี่A เข้าไปทำงานที่บริษัท เลิกงานดึกและไม่มีคนอยู่บ้าน ประมาณ3-4ทุ่มพี่Aกลับถึงบ้าน ปรากฎว่าได้
มีขโมยขึ้นบ้าน สำรวจของที่หาย พบว่ามี กล้องหายยกชุด (บอดี้ เลนส์3ตัว แฟรช2ตัว ถ่านชาร์จ2ชุด(8ก้อน) ทริกเกอร์ไวเรจ) แค่
ราคากล้องรวมๆแล้วก็เกือบๆแสน และเงินสดอีกหมื่นกว่าบาท โดยติดใจอยู่แล้วว่าคนที่เอาไปต้องเป็นน้องBเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่
น้องBทำ จึงได้ไปถามน้องBว่าเป็นคนเอาไปใช่ไหม น้องBยังคงปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนเอาไป
เช้าวันพฤหัสที่ 7พค.2558 พอช่วงเช้าแล้วจึงรีบไปแจ้งความทันที และคุณคุณตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้ตามระเบียบ พี่เราได้ไปที่
สำนักงานของหมู่บ้านพร้อมกับใบแจ้งความเพื่อที่จะไปทำเรื่องขอดูกล้องวงจรปิด และได้รับแจ้งว่าไม่สามารถให้ดูได้เนื่องจากบ้านพี่A
อยู่นอกพื้นที่การดูแล
วันศุกร์ที่ 8พค.2558 พี่Aร้อนใจมากที่เครื่องมือทำมาหากินของตัวเองหายยกชุด จึงได้ทำการสืบหาด้วยตนเอง พบว่ากล้องทั้งได้ถูกนำ
ไปปล่อยขายที่เซีย รังสิต แต่ทางร้านที่เซียไม่รับซื้อ เนื่องจากนำมาขายในราคาถูกมากจากชุดละเกือบเสนนำมาขอขายใน
ราคา6000บาท ทางร้านจึงคิดว่าน่าจะเป็นของโจร และมีคนนอก(จะแทนคนนอกที่มารับซื้อว่าคุณCค่ะ)มารับซื้อกล้องทั้งชุดไปแทนใน
ราคาเดีนวกับที่ขอขายกับร้านคือ 6oooบาท หลังจากนั้นได้สอบถามต่อก็รู้ว่าคนที่ซื้อ กลับ ตจว.ไปแล้วโดยทางร้านที่เซียเห็น
เหตุการณ์ว่า เลยได้ขอเบอร์ของคุณCไว้กันมีปัญหา
ประมาณ 4ทุ่ม วันเดียวกัน ได้ติดต่อหาคณC และได้ทำการคุยกันว่าอยากจะซื้อกล้องตัวนี้คืนในราคาเท่าเดิม และยินดีไปรับด้วย
ตนเอง (ทางพี่Aไม่ได้บอกคุณCว่าที่เค้าซื้อไปเป็นของโจร) และสถานที่นัดรับคือจังหวัดลพบุรีเวลา7โมง เนื่องจากคุณCต้องออกไปทำ
งานต่อจึงได้นัดบรับเช้า
วันเสาร์ที่ 9พค.2558 เวลาตี4 พี่Aได้ออกเดินทางไปที่ลพบุรี และถึงสถานที่นักรับเวลา6โมงกว่าๆ และผมได้ซื้อกล้องคืนมาตามปกติ
พี่Aได้กลับถึง กทม.เวลาประมาณ 10กว่าๆ พี่Aได้บอกกับน้องBว่า คุณCบอกว่าได้ซื้อกล้องมาจากน้องB แต่น้องBยังคงปฏิเสธ หลัง
จากโดนกดดันมากๆ น้องBจึงรับสารภาพว่าตัวเองเป็นคนเอาไป โดยทางพี่Aได้ให้น้องBเขียนใบรับสารภาพ
พี่Aได้ทิ้งระยะไปซักพักหนึ่ง พยายามรวบรวมว่าจะทำยังไงดีถึงจะเอาผิดโจรตามกฎหมายได้ ถึงจะเป็นคนใกล้ตัวแต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่
น้องBทำ เพราะที่ผ่านๆมาพี่Aไม่ได้เอาผิดอะไรเลย พี่Aจึงได้กลับไปที่สน.อีกครั้ง พร้อมกับหลักฐานทุกอย่างที่มี ชุดกล้องที่ได้คืนมา
และใบสารภาพ แต่ตำรวจก็บอกว่า 'ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ' อยากจะรู้ว่าทำไมถึงทำอะไรคนผิดไม่ได้ ทั้งๆที่มีหลักฐานครบขนาดนี้แล้ว
ถ้าเป็นไปได้ พี่Aยังคิดว่าอยากจะให้คุณตำรวจไปที่หมู่บ้านกับพี่Aเพื่อที่จะไปขอดูกล้องวงจรว่า โดนขโมยจริงๆ
ก่อนหน้านี้หนึ่งวันนี้หนึ่งวันก่อนที่พี่Aจะโดนขโมยขึ้น ตำรวจ สน.เดียวกันได้เอาผิดทางกฎหมายกับโจรขโมยมอเตอร์ไซของคนในข้าง
บ้าน แต่กลับเอาผิดกับคนที่ขโมยกล้องพี่Aไม่ได้ เพราะว่ากล้องของมันดูเล็กมาและดูไม่สำคัญหรอ มันเป็นของที่ต้องใช้ทำมาหากิน
เลี้ยงครอบครัว อยากรบกวนเพื่อนๆพี่ๆในพันทิปที่พอมีความรู้เรื่องนี้ ช่วยชี้แจงหน่อยค่ะว่า ทำไมทางตำรวจถึงเอาผิดกับทางคนที่ขโมย
ไม่ได แล้วในเหตุการณ์อย่างนี้ต้องทำอย่างไรจึงจะเอาผิดได้ พี่Aอยากให้น้องBได้เข็ดได้จำจริงๆ ว่าการขโมยมันไม่ดี แต่ที่ผ่านมาไม่ได้
เอาเรื่องอะไรเพราะยังเห็นแก่ความที่เป็นคนรู้จักกัน ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆล่วงหน้าค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้ลายมือคุณตำรวจน่ารักมากค่ะ อ่านไม่ออกเลยยยยย ที่เซนเซอร์ไว้คือชื่อและเบอร์โทรนะคะ 
ขอคำปรึกษาเรื่อง ไปแจ้งความพร้อมหลักฐานและใบสารภาพ แต่ตำรวจบอกว่า 'ช่วยอะไรไม่ได้'
จากเพื่อนๆ พี่ๆในพันทิป เรื่องที่ไปแจ้งความพร้อมหลักฐานแต่ตำรวจกลับบอกว่า 'ช่วยอะไรไม่ได้' พี่เราอยากจะเอาผิดกับคนที่ขโมย
ของไปจริงๆค่ะ ต่อจากนี้เราจะขอแทนพี่เราว่า พี่A ผู้ต้องสงสัยคือน้องBนะคะ (เป็นกระทู้แรกที่เขียนยาวๆแบบนี้ ผิดพลาดยังไงขออภัยด้วยค่ะ)
เหตุการณ์เริ่มวันพุธ ที่6พค.2558 พี่A เข้าไปทำงานที่บริษัท เลิกงานดึกและไม่มีคนอยู่บ้าน ประมาณ3-4ทุ่มพี่Aกลับถึงบ้าน ปรากฎว่าได้
มีขโมยขึ้นบ้าน สำรวจของที่หาย พบว่ามี กล้องหายยกชุด (บอดี้ เลนส์3ตัว แฟรช2ตัว ถ่านชาร์จ2ชุด(8ก้อน) ทริกเกอร์ไวเรจ) แค่
ราคากล้องรวมๆแล้วก็เกือบๆแสน และเงินสดอีกหมื่นกว่าบาท โดยติดใจอยู่แล้วว่าคนที่เอาไปต้องเป็นน้องBเพราะนี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่
น้องBทำ จึงได้ไปถามน้องBว่าเป็นคนเอาไปใช่ไหม น้องBยังคงปฏิเสธว่าไม่ได้เป็นคนเอาไป
เช้าวันพฤหัสที่ 7พค.2558 พอช่วงเช้าแล้วจึงรีบไปแจ้งความทันที และคุณคุณตำรวจได้ลงบันทึกประจำวันไว้ตามระเบียบ พี่เราได้ไปที่
สำนักงานของหมู่บ้านพร้อมกับใบแจ้งความเพื่อที่จะไปทำเรื่องขอดูกล้องวงจรปิด และได้รับแจ้งว่าไม่สามารถให้ดูได้เนื่องจากบ้านพี่A
อยู่นอกพื้นที่การดูแล
วันศุกร์ที่ 8พค.2558 พี่Aร้อนใจมากที่เครื่องมือทำมาหากินของตัวเองหายยกชุด จึงได้ทำการสืบหาด้วยตนเอง พบว่ากล้องทั้งได้ถูกนำ
ไปปล่อยขายที่เซีย รังสิต แต่ทางร้านที่เซียไม่รับซื้อ เนื่องจากนำมาขายในราคาถูกมากจากชุดละเกือบเสนนำมาขอขายใน
ราคา6000บาท ทางร้านจึงคิดว่าน่าจะเป็นของโจร และมีคนนอก(จะแทนคนนอกที่มารับซื้อว่าคุณCค่ะ)มารับซื้อกล้องทั้งชุดไปแทนใน
ราคาเดีนวกับที่ขอขายกับร้านคือ 6oooบาท หลังจากนั้นได้สอบถามต่อก็รู้ว่าคนที่ซื้อ กลับ ตจว.ไปแล้วโดยทางร้านที่เซียเห็น
เหตุการณ์ว่า เลยได้ขอเบอร์ของคุณCไว้กันมีปัญหา
ประมาณ 4ทุ่ม วันเดียวกัน ได้ติดต่อหาคณC และได้ทำการคุยกันว่าอยากจะซื้อกล้องตัวนี้คืนในราคาเท่าเดิม และยินดีไปรับด้วย
ตนเอง (ทางพี่Aไม่ได้บอกคุณCว่าที่เค้าซื้อไปเป็นของโจร) และสถานที่นัดรับคือจังหวัดลพบุรีเวลา7โมง เนื่องจากคุณCต้องออกไปทำ
งานต่อจึงได้นัดบรับเช้า
วันเสาร์ที่ 9พค.2558 เวลาตี4 พี่Aได้ออกเดินทางไปที่ลพบุรี และถึงสถานที่นักรับเวลา6โมงกว่าๆ และผมได้ซื้อกล้องคืนมาตามปกติ
พี่Aได้กลับถึง กทม.เวลาประมาณ 10กว่าๆ พี่Aได้บอกกับน้องBว่า คุณCบอกว่าได้ซื้อกล้องมาจากน้องB แต่น้องBยังคงปฏิเสธ หลัง
จากโดนกดดันมากๆ น้องBจึงรับสารภาพว่าตัวเองเป็นคนเอาไป โดยทางพี่Aได้ให้น้องBเขียนใบรับสารภาพ
พี่Aได้ทิ้งระยะไปซักพักหนึ่ง พยายามรวบรวมว่าจะทำยังไงดีถึงจะเอาผิดโจรตามกฎหมายได้ ถึงจะเป็นคนใกล้ตัวแต่นี่ไม่ใช่ครั้งแรกที่
น้องBทำ เพราะที่ผ่านๆมาพี่Aไม่ได้เอาผิดอะไรเลย พี่Aจึงได้กลับไปที่สน.อีกครั้ง พร้อมกับหลักฐานทุกอย่างที่มี ชุดกล้องที่ได้คืนมา
และใบสารภาพ แต่ตำรวจก็บอกว่า 'ทำอะไรไม่ได้หรอกครับ' อยากจะรู้ว่าทำไมถึงทำอะไรคนผิดไม่ได้ ทั้งๆที่มีหลักฐานครบขนาดนี้แล้ว
ถ้าเป็นไปได้ พี่Aยังคิดว่าอยากจะให้คุณตำรวจไปที่หมู่บ้านกับพี่Aเพื่อที่จะไปขอดูกล้องวงจรว่า โดนขโมยจริงๆ
ก่อนหน้านี้หนึ่งวันนี้หนึ่งวันก่อนที่พี่Aจะโดนขโมยขึ้น ตำรวจ สน.เดียวกันได้เอาผิดทางกฎหมายกับโจรขโมยมอเตอร์ไซของคนในข้าง
บ้าน แต่กลับเอาผิดกับคนที่ขโมยกล้องพี่Aไม่ได้ เพราะว่ากล้องของมันดูเล็กมาและดูไม่สำคัญหรอ มันเป็นของที่ต้องใช้ทำมาหากิน
เลี้ยงครอบครัว อยากรบกวนเพื่อนๆพี่ๆในพันทิปที่พอมีความรู้เรื่องนี้ ช่วยชี้แจงหน่อยค่ะว่า ทำไมทางตำรวจถึงเอาผิดกับทางคนที่ขโมย
ไม่ได แล้วในเหตุการณ์อย่างนี้ต้องทำอย่างไรจึงจะเอาผิดได้ พี่Aอยากให้น้องBได้เข็ดได้จำจริงๆ ว่าการขโมยมันไม่ดี แต่ที่ผ่านมาไม่ได้
เอาเรื่องอะไรเพราะยังเห็นแก่ความที่เป็นคนรู้จักกัน ขอบคุณเพื่อนๆพี่ๆล่วงหน้าค่ะ
[Spoil] คลิกเพื่อดูข้อความที่ซ่อนไว้