เราเป็นเด็กมหาลัยแห่งหนึ่งที่พักอยู่หอพักกับรูมเมทค่ะ
ปกติเราก็เป็นคนง่ายๆไม่ค่อยมีระเบียบเท่าไร พับผ้า จัดของ เรียงของไม่ค่อยจะเรียบร้อย แต่ก็ทำเท่าที่ทำได้
เราอยู่กับเพื่อนอีกคนค่ะ นอนด้วยกันคนละเตียง มีของใช้ต่างๆค่อนข้างแยกส่วนว่าเป็นของใครของมัน ของในห้องน้ำก็ใช้แบบส่วนตัวแต่วางไว้ด้วยกันค่ะ
มาเข้าเรื่องกันเลยคือ เราทนกลิ่นตัวของเพื่อนรูมเมทไม่ไหว ปกติเขาก็เป็นคนที่มีกลิ่นตัวง่ายอยู่แล้วแล้วยิ่งมีพฤติกรรมที่ไม่ชอบอาบน้ำอีก เราอาบเช้าเย็น แต่เขาบางทีไม่อาบทั้งเช้าทั้งเย็น นอนกันในห้องแอร์นะคะ ไปเรียน ไปเที่ยวไปทำกิจกรรมมาทั้งวันแล้วก็ยังไม่ยอมอาบน้ำอีก บางทีพอตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเริ่มแต่งหน้าเลย ทั้งๆที่ยังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันด้วยซ้ำ
ตอนมาอยู่ด้วยกันแรกๆเราก็ไม่คิดอะไรมาก แบบเข้าใจว่าคงเหนื่อยจากการเรียน ต้องมีวันที่ซกมกกันบ้าง นานๆเราก็เคยเป็นครั้งหนึ่ง แต่ก็แค่ไม่อาบตอนกลางคืนเพราะเพลียมาก ตื่นเช้ามาก็รีบเคลียร์ตัวเองให้เร็วที่สุด แต่เพื่อนคนนี้แต่งหน้าแล้วเปลี่ยนชุดไปเรียนเลยค่ะ กลิ่นตัวนี่ออกเลย เหม็นแบบคนไม่ได้อาบน้ำ ฟันก็ไม่แปรงหรือถ้าบางทีเข้าห้องน้ำแล้วบอกแปรงฟันอยู่เราก็อืม!! แปรงฟันเหรอ คิดในใจตอนนั้นคือยาสีฟันเขาหมดมา 2 เดือนแล้วจนหลดบี้หมด ถ้างั้นก็คงใช้ของเราแหละ ไม่ได้หวงของนะ อะไรๆก็ใช้ร่วมกันได้ แต่คือไม่เข้าใจว่า มันมีผู้หญิงที่ไม่ใส่ใจตัวเองถึงขนาดนี้เลยเหรอ
นอกจากนั้นคือบางทีไปออกกำลังกายด้วยนะ แล้วกลับมาในสภาพเหงื่อซก กระโดดขึ้นเตียง นอนเล่นคอมจนดึกดื่น คิดได้อีกทีคือเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพร้อมจะนอน เท้าก็ไม่ล้าง ทั้งที่ใส่รองเท้าผ้าใบมาทั้งวันแบบไม่ใส่ถุงเท้าด้วย เราไม่ได้ดัจริตนะแต่เราทนไม่ไหวขนาดวิ่งไปอ้วกในห้องน้ำมาแล้ว 3 ครั้งใน 2 เดือน เขาก็เป็นห่วงเราแบบรีบถามว่าเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ เรานี่ไม่รู้จะตอบความจริงยังไงเลย
ส่วนเรื่องความสะอาดทั่วไปในห้องก็เป็นหน้าที่เรา ปัดกวาด เช็ดถู ล้างห้องน้ำเอง ห้องน้ำเหม็นกลิ่นฉี่มากยังกับฉี่ลงพื้น เราเข้าไปใช้ต่อบางทีก็ต้องปิดจมูกไว้ เปิดน้ำร้อนราดละเลงทั่วเลย คราบสกปรกที่บางทีเป็นผงขัดตัว สครับมะขามอะไรก็ทำเปื้อนไว้ตามอ่างล้างหน้ากับกระจกแล้วไม่รีบล้างทั้งๆที่มันก็ไม่ได้ยากเลย แต่ปล่อยไว้รอให้เรามาล้าง
เราไม่กล้าคุยกับเขาตรงๆจริงๆเรื่องนี้ พยายามพูดอ้อมๆบอกไปแล้วหลายครั้งว่า อาบน้ำกันไหม อาบน้ำรึยัง ซื้อถุงเท้ามาฝาก วันนี้เพิ่งล้างห้องน้ำไปคราบสครับเยอะมากอ่ะ เขาก็เฉยๆ จ้าๆ แล้วก็ยิ้ม มีเพิ่มเติมอีกคือชอบลืมปิดน้ำปิดไฟ เคยเปิดแอร์ทิ้งไว้ เปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ เปิดไฟทิ้งไว้ในวันที่เราสองคนกลับบ้าน เขาออกคนสุดท้าย แต่ไม่ปิดอะไรเลย ก็อกน้ำก็ไหลเป็นทาง พอเราพูดว่าเขาลืมปิดนะ เขาก็บอกขอโทษที่ลืม แต่ที่โหดสุดๆคือ เขาลืมปิดเตารีด แบบว่าไฟยังแดงๆ ร้อนๆอยู่เลย หลายชั่วโมงกว่าเราจะกลับมาเจอ เอาไปเล่าให้แม่ฟังแม่ก็บอกให้พูดกันไปตรงๆไหนก็เป็นเพื่อนกัน ถึงเรียนกันคนละคณะ มีแค่เรื่องพวกนี้ที่เขาแย่ อย่างอื่นก็ดีแบบคบได้ เราก็อยากจะบอกแต่กลัวเสียเพื่อน กลัวเขาอาย เสียหน้า ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วย ถ้าพูดว่าสกปรกซกมกแบบขำๆก็ไม่ใช่ เขาสกปรกจริงๆ
คุณเคยเจอรูมเมทสกปรกมากกันไหม
ปกติเราก็เป็นคนง่ายๆไม่ค่อยมีระเบียบเท่าไร พับผ้า จัดของ เรียงของไม่ค่อยจะเรียบร้อย แต่ก็ทำเท่าที่ทำได้
เราอยู่กับเพื่อนอีกคนค่ะ นอนด้วยกันคนละเตียง มีของใช้ต่างๆค่อนข้างแยกส่วนว่าเป็นของใครของมัน ของในห้องน้ำก็ใช้แบบส่วนตัวแต่วางไว้ด้วยกันค่ะ
มาเข้าเรื่องกันเลยคือ เราทนกลิ่นตัวของเพื่อนรูมเมทไม่ไหว ปกติเขาก็เป็นคนที่มีกลิ่นตัวง่ายอยู่แล้วแล้วยิ่งมีพฤติกรรมที่ไม่ชอบอาบน้ำอีก เราอาบเช้าเย็น แต่เขาบางทีไม่อาบทั้งเช้าทั้งเย็น นอนกันในห้องแอร์นะคะ ไปเรียน ไปเที่ยวไปทำกิจกรรมมาทั้งวันแล้วก็ยังไม่ยอมอาบน้ำอีก บางทีพอตื่นขึ้นมาตอนเช้าก็ลุกขึ้นจากเตียงแล้วเริ่มแต่งหน้าเลย ทั้งๆที่ยังไม่ได้ล้างหน้าแปรงฟันด้วยซ้ำ
ตอนมาอยู่ด้วยกันแรกๆเราก็ไม่คิดอะไรมาก แบบเข้าใจว่าคงเหนื่อยจากการเรียน ต้องมีวันที่ซกมกกันบ้าง นานๆเราก็เคยเป็นครั้งหนึ่ง แต่ก็แค่ไม่อาบตอนกลางคืนเพราะเพลียมาก ตื่นเช้ามาก็รีบเคลียร์ตัวเองให้เร็วที่สุด แต่เพื่อนคนนี้แต่งหน้าแล้วเปลี่ยนชุดไปเรียนเลยค่ะ กลิ่นตัวนี่ออกเลย เหม็นแบบคนไม่ได้อาบน้ำ ฟันก็ไม่แปรงหรือถ้าบางทีเข้าห้องน้ำแล้วบอกแปรงฟันอยู่เราก็อืม!! แปรงฟันเหรอ คิดในใจตอนนั้นคือยาสีฟันเขาหมดมา 2 เดือนแล้วจนหลดบี้หมด ถ้างั้นก็คงใช้ของเราแหละ ไม่ได้หวงของนะ อะไรๆก็ใช้ร่วมกันได้ แต่คือไม่เข้าใจว่า มันมีผู้หญิงที่ไม่ใส่ใจตัวเองถึงขนาดนี้เลยเหรอ
นอกจากนั้นคือบางทีไปออกกำลังกายด้วยนะ แล้วกลับมาในสภาพเหงื่อซก กระโดดขึ้นเตียง นอนเล่นคอมจนดึกดื่น คิดได้อีกทีคือเปลี่ยนเสื้อผ้าแล้วพร้อมจะนอน เท้าก็ไม่ล้าง ทั้งที่ใส่รองเท้าผ้าใบมาทั้งวันแบบไม่ใส่ถุงเท้าด้วย เราไม่ได้ดัจริตนะแต่เราทนไม่ไหวขนาดวิ่งไปอ้วกในห้องน้ำมาแล้ว 3 ครั้งใน 2 เดือน เขาก็เป็นห่วงเราแบบรีบถามว่าเป็นอะไร ไม่สบายเหรอ เรานี่ไม่รู้จะตอบความจริงยังไงเลย
ส่วนเรื่องความสะอาดทั่วไปในห้องก็เป็นหน้าที่เรา ปัดกวาด เช็ดถู ล้างห้องน้ำเอง ห้องน้ำเหม็นกลิ่นฉี่มากยังกับฉี่ลงพื้น เราเข้าไปใช้ต่อบางทีก็ต้องปิดจมูกไว้ เปิดน้ำร้อนราดละเลงทั่วเลย คราบสกปรกที่บางทีเป็นผงขัดตัว สครับมะขามอะไรก็ทำเปื้อนไว้ตามอ่างล้างหน้ากับกระจกแล้วไม่รีบล้างทั้งๆที่มันก็ไม่ได้ยากเลย แต่ปล่อยไว้รอให้เรามาล้าง
เราไม่กล้าคุยกับเขาตรงๆจริงๆเรื่องนี้ พยายามพูดอ้อมๆบอกไปแล้วหลายครั้งว่า อาบน้ำกันไหม อาบน้ำรึยัง ซื้อถุงเท้ามาฝาก วันนี้เพิ่งล้างห้องน้ำไปคราบสครับเยอะมากอ่ะ เขาก็เฉยๆ จ้าๆ แล้วก็ยิ้ม มีเพิ่มเติมอีกคือชอบลืมปิดน้ำปิดไฟ เคยเปิดแอร์ทิ้งไว้ เปิดก๊อกน้ำทิ้งไว้ เปิดไฟทิ้งไว้ในวันที่เราสองคนกลับบ้าน เขาออกคนสุดท้าย แต่ไม่ปิดอะไรเลย ก็อกน้ำก็ไหลเป็นทาง พอเราพูดว่าเขาลืมปิดนะ เขาก็บอกขอโทษที่ลืม แต่ที่โหดสุดๆคือ เขาลืมปิดเตารีด แบบว่าไฟยังแดงๆ ร้อนๆอยู่เลย หลายชั่วโมงกว่าเราจะกลับมาเจอ เอาไปเล่าให้แม่ฟังแม่ก็บอกให้พูดกันไปตรงๆไหนก็เป็นเพื่อนกัน ถึงเรียนกันคนละคณะ มีแค่เรื่องพวกนี้ที่เขาแย่ อย่างอื่นก็ดีแบบคบได้ เราก็อยากจะบอกแต่กลัวเสียเพื่อน กลัวเขาอาย เสียหน้า ยิ่งเป็นผู้หญิงด้วย ถ้าพูดว่าสกปรกซกมกแบบขำๆก็ไม่ใช่ เขาสกปรกจริงๆ