เรารู้สึกเหมือนว่าการใช้ชีวิตของเราและน้องจะต่างกันมากขึ้นทุกที จนรู้สึกว่าเราไม่ได้สนิท หรือคุ้นเคยกับน้องเราไปแล้ว
เริ่มเรื่องจากน้องไปทำงานต่างประเทศค่ะ หน้าที่การงานระดับผู้บริหาร เงินเยอะ การจับจ่ายใช้สอยก็เยอะตาม ใช้ของแบรนด์ กิน เที่ยวแบบคนมีรสนิยม
และยังโสด
ส่วนเราทำงานในไทย หน้าที่การงานระดับกลางๆ ยังวุ่นวายกับการซื้อของเซลล์ ของถูก เงินเก็บมีบ้างแต่ภาระยังต้องผ่อนบ้านที่ซื้อไว้เอง เราก็โสดค่ะ
ทีนี้เวลาน้องกลับมา เราสังเกตว่าไม่ค่อยกินข้าวบ้าน เค้าจะมีกลุ่มเพื่อนนัดทานข้าว หรือถ้าไม่นัด ก็จะพาพ่อแม่และเราไปทานข้าวนอกบ้านตลอด
กระเป๋ารองเท้าน้องจะซื้อแบรนด์ มือถือไอรุ่นต่างๆมีหมด เราเข้าใจว่าเค้าไม่เดือดร้อน เราก็ดีใจด้วยที่น้องได้ดี
แต่ปัญหาที่มันสะกิดใจเราเกิดจากพอเรารู้ว่าน้องจะไปญี่ปุ่น ซึ่งการช้อปปิ้งเป็นเรื่องปกติของน้องอยู่แล้ว และเราก็มีลิสต์อยู่ในใจว่าอยากฝากซื้ออะไร
เราก็เกริ่นบอกไปว่าฝากฮาดะลาโบะหน่อย (อยากได้สีเขียวสำหรับผิวมันและเมืองไทยยังไม่มี) น้องลิปมัน dhc
น้องทำหน้าเบื่อๆแล้วบอกว่าไม่เอา ซื้ออะไรฮาดะลาโบะ
เราเลยสะอึกนิดๆ นี่ถ้าเราฝากซื้อskII เค้าจะโอเคใช่ไม๊ เราก็ไม่ว่าอะไร ถือว่าคนไม่เต็มใจ เราก็ไม่ฝาก
แต่ที่คิดอีกรอบตอนน้องบอกญาติว่าจะฝากซื้อ bao baoกันไม๊ และเค้าก็ฝากกันคนละใบสองใบ
บางทีเราก็น้อยใจ เราเป็นพี่สาวแท้ๆ ฝากซื้อฮาดะลาโบะ ไม่อยากรับ แต่ถามญาติว่าอยากได้รุ่นไหน สีอะไร
เราคงมีการพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ต่างกันมากขึ้นทุกทีจนตอนนี้เหมือนอยู่คนละระดับ
ถามว่าเข้าใจไม๊ ตอบเลยว่าเข้าใจได้ ถามว่าน้อยใจไม๊ ตอบเลยว่าน้อยใจมาก แต่ปัญหาของเรามันเล็กมากจนไม่อยากจะบอกให้พ่อแม่ฟังเดี๋ยวจะหาว่าอิจฉาน้อง ก็แค่มาระบายในพันทิป เผื่อมีคนผ่านมาอ่านและจะให้ข้อคิดดีๆกับเราได้บ้าง
ขอบคุณที่อ่านค่ะ
พฤติกรรมการใช้ชีวิตของน้องเราเปลี่ยนไปหรือเราคิดมากไปเองคะ
เริ่มเรื่องจากน้องไปทำงานต่างประเทศค่ะ หน้าที่การงานระดับผู้บริหาร เงินเยอะ การจับจ่ายใช้สอยก็เยอะตาม ใช้ของแบรนด์ กิน เที่ยวแบบคนมีรสนิยม
และยังโสด
ส่วนเราทำงานในไทย หน้าที่การงานระดับกลางๆ ยังวุ่นวายกับการซื้อของเซลล์ ของถูก เงินเก็บมีบ้างแต่ภาระยังต้องผ่อนบ้านที่ซื้อไว้เอง เราก็โสดค่ะ
ทีนี้เวลาน้องกลับมา เราสังเกตว่าไม่ค่อยกินข้าวบ้าน เค้าจะมีกลุ่มเพื่อนนัดทานข้าว หรือถ้าไม่นัด ก็จะพาพ่อแม่และเราไปทานข้าวนอกบ้านตลอด
กระเป๋ารองเท้าน้องจะซื้อแบรนด์ มือถือไอรุ่นต่างๆมีหมด เราเข้าใจว่าเค้าไม่เดือดร้อน เราก็ดีใจด้วยที่น้องได้ดี
แต่ปัญหาที่มันสะกิดใจเราเกิดจากพอเรารู้ว่าน้องจะไปญี่ปุ่น ซึ่งการช้อปปิ้งเป็นเรื่องปกติของน้องอยู่แล้ว และเราก็มีลิสต์อยู่ในใจว่าอยากฝากซื้ออะไร
เราก็เกริ่นบอกไปว่าฝากฮาดะลาโบะหน่อย (อยากได้สีเขียวสำหรับผิวมันและเมืองไทยยังไม่มี) น้องลิปมัน dhc
น้องทำหน้าเบื่อๆแล้วบอกว่าไม่เอา ซื้ออะไรฮาดะลาโบะ
เราเลยสะอึกนิดๆ นี่ถ้าเราฝากซื้อskII เค้าจะโอเคใช่ไม๊ เราก็ไม่ว่าอะไร ถือว่าคนไม่เต็มใจ เราก็ไม่ฝาก
แต่ที่คิดอีกรอบตอนน้องบอกญาติว่าจะฝากซื้อ bao baoกันไม๊ และเค้าก็ฝากกันคนละใบสองใบ
บางทีเราก็น้อยใจ เราเป็นพี่สาวแท้ๆ ฝากซื้อฮาดะลาโบะ ไม่อยากรับ แต่ถามญาติว่าอยากได้รุ่นไหน สีอะไร
เราคงมีการพฤติกรรมการใช้ชีวิตที่ต่างกันมากขึ้นทุกทีจนตอนนี้เหมือนอยู่คนละระดับ
ถามว่าเข้าใจไม๊ ตอบเลยว่าเข้าใจได้ ถามว่าน้อยใจไม๊ ตอบเลยว่าน้อยใจมาก แต่ปัญหาของเรามันเล็กมากจนไม่อยากจะบอกให้พ่อแม่ฟังเดี๋ยวจะหาว่าอิจฉาน้อง ก็แค่มาระบายในพันทิป เผื่อมีคนผ่านมาอ่านและจะให้ข้อคิดดีๆกับเราได้บ้าง
ขอบคุณที่อ่านค่ะ