วันนี้มีเวลาเขียนถึงประสบการณ์เดินทาง ด้วยวิธีแบบแปลกๆจากคนส่วนใหญ่ ไปประเทศจีนให้เพื่อนๆได้อ่านเล่นๆ กันครับ



การเดินทางครั้งนี้ผมไปจีนทางเรือ ผ่านแม่น้ำโขง อ.เชียงแสน จ.เชียงราย ไปกับเรือของบริษัทแม่โขงเดลต้า โดยผมซื้อเฉพาะตั๋วในราคาพิเศษ 3,500 บาท เจ้าหน้าที่นัดเวลาให้มาขึ้นเรือเวลา 04.30 น. แต่กว่าจะได้ออกเดินทางจริง รอประมาณ 1 ชั่วโมงเศษ



ทริปนี้มีผู้โดยสารประมาณ 20 คน ทั้งชาวไทย ชาวต่างชาติ แต่ก็แปลกไม่พบชาวจีนเลย ยกเว้นกัปตัน ซึ่งเป็นคนจีนที่พูดไทยได้
ต้นเดือน พ.ค. เมืองไทยอากาศร้อนมาก แต่นั่นไม่เป็นปัญหาเลย เพราะเรือมีห้องโดยสารติดแอร์ 2 ชั้น อีกทั้งริมฝั่งโขงสองข้างจะเป็นป่า เขา ทำให้ไม่ร้อนมาก และด้วยจำนวนผู้โดยสารที่น้อย ทำให้ผมสามารถเลือกที่นั่ง ที่นอนเล่น ได้อย่างสบายใจ ตลอดการเดินทาง (ถ้าคนเต็ม น่าจะจุผู้โดยสารได้ประมาณ 100 คน)



หากพูดถึงบบรรยายกาศโดยรวม ผมประทับใจมาก เรียกว่าตัดสินใจไม่ผิดเลย ทุกอย่างสะดวกสบาย มีอาหาร เช้า (ข้าวเหนียว หมูทอด ไส้อั่ว น้ำพริกตาแดง) , กลางวัน (ข้าวเวฟซีพี) คอยบริการ แม้ว่าจะไม่อร่อยเทพ แต่ก็ไม่ใช่ปัญหาสำหรับคนกินง่ายแบบผม อีกทั้งวิวสองฝั่งโขงพม่า-ลาว พม่า-จีน ยังคงความเป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์สูง สวยงามมาก ขณะเดียวกันเราจะได้ดื่มด่ำกับภาพวิถีชีวิตของคนแถวนี้ด้วย ไม่ว่าจะพบเจอคนหาของป่ามาขายริมน้ำ คนงานเรือสินค้าทำงานกันอย่างหนัก รถหกล้อมารอบรรทุกของที่ท่าเรือสบเหล่ยในพม่า สะพานแห่งใหม่ที่เชื่อมพม่า-ลาวกำลังจะเปิดเป็นทางการ ตำรวจน้ำของจีน และระหว่างทางช่วงหนึ่งจากแม่น้ำโขงที่กว้างใหญ่ มันถูกบีบแคบให้เป็นแม่น้ำสายเล็กๆ ด้วยหิน เรียกว่าเป็นแก่งล่องเรือได้เลย









อีกทั้งเมื่อตกเย็น แดดร่ม ลมตก ผมออกมานั่งหน้าเรือรับลมเย็นจากธรรมชาติ และชมบรรยากาศของชายแดนจีน ก่อนจะขึ้นเรือถึงจุดหมายที่ท่าเรือกวนเหล่ย เมืองเล็กๆในเขตสิบสองปันนา มณฑลยูนนาน พร้อมลมเย็นๆที่พัดมาต้อนรับ ในเวลาประมาณ 19.00 น. ตามเวลาประเทศจีน













สรุป การเดินทางจากชายแดนไทยไปจนถึงจีนด้วยเรือท่องเที่ยว เป็นการเดินทางที่รู้สึกฟิน และชิลมากๆ ตัดขาดการโลกภายนอกไปชั่วขณะ ไม่มีสัญญาณโทรศัพท์ ไม่มีสัญญาณอินเตอร์เน็ต รู้สึกได้พักผ่อน และอยู่กับตัวเองมากขึ้น กับเวลา 12 ชั่วโมง ถ้านั่งเครื่องบิน แค่ 1 ชั่วโมงก็ถึง แต่ประสบกาณ์ที่ได้รับมันต่างกันมากเลยจริงๆ