เป็นทุนเรียนภาษาจีนอย่างเดียว 1 ปี
ครอบคลุม ค่าใช้จ่าย:
ค่าเทอม มูลค่า 14,000 หยวน/ปี, ค่าหนังสือเรียน 800 หยวน, ค่าประกัน, ค่าหอพักนักศึกษาต่างชาติ*, ค่าครองชีพ*
"ข้อสำคัญคือนักศึกษาจะต้องช่วยงานในหน่วยงานต่างๆของมหาวิทยาลัย เช่น ห้องสมุด โรงอาหาร สำนักงานต่างๆ ในเวลาที่ว่างจากการเรียน สัปดาห์ละไม่เกิน 20 ชั่วโมง โดยทางมหาวิทยาลัยจะให้ค่าตอบแทนประมาณ 1000-1500 หยวน/เดือน"
เหตุผลประกอบการตัดสินใจของเราก็ประมาณว่าลองชั่งยน้ำหนัก ข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบอ่ะนะคะ
ข้อดี
-เราเองพูดจีนได้ประมาณนึงค่ะ แต่การพูดจีนได้ในที่นี้คือเราไม่เคยไปอยู่ที่จีนมาก่อน แค่พูดได้เพราะชอบฝึกพูด ชอบสื่อสาร เหมือนภาษาอังกฤษอ่ะค่ะ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่เราขาดเลยจริงๆคือการไม่เคยไปอยู่ที่จีนจริงๆมาก่อน แค่นั้นค่ะ ซึ่งมันสำคัญนะ เหมือนกับเราไม่ได้อัพเดทภาษาใหม่ๆ สำนวนที่เค้าใช้ คือถ้าไปแล้วกลับมา เปอร์เซนต์ในเรื่องของเครดิตการฟังพูดอ่านเขียนจีนได้มันต้องดีขึ้น โอกาสทางการงานมันก็สูงกว่าการเป็นคนไทยพูดจีนได้ที่ไม่เคยไปจีนมาก่อนอยู่แล้ว(เอ๊ะ หรือเราคิดไปเอง)?
-เราคิดว่าไปในฐานะเด็กทุน มันฟังดูดีค่ะ ถึงแม้ว่าสมัยนี้ทุนฟรีจีนมันจะเยอะมากก็ตาม
-เราอ่านเจอมา ซึ่งก็ยังไม่มั่นใจว่า เพื่อนเกาหลีเยอะ ที่เจ้อเจียง อันนี้คือไม่ได้คาดหวังว่าเพื่อนจะต้องดี มารยาทงดงาม นะคะ แต่เราคิดว่ามันเป็นโอกาสเพิ่มเติมที่เราจะได้ฝึกภาษาเกาหลีค่ะ (เราพูดเกาหลีได้บ้างค่ะ)
-กลับมาเราคงมั่นใจในการรับงานมากกว่าปัจจุบันที่เป้นอยู่ ด้วยเหตุผลที่บอกไปข้างต้นว่า พอเราไม่เคยไปใช้ชีวิตที่นั่น ไม่ได้คลุกคลีกะความเป็นจีนจริงๆ งานล่าม งานอะไร ที่เราทำ Part-Time ได้ และชอบอาชีพทางนั้นด้วย มันน่าจะโอเคกว่านี้ (ตอนนี้เรายังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่นะคะ)
ข้อเสียเปรียบ
-เราต้องดรอปเรียนจากมหาลัยไป1ปีเลยค่ะ เรื่องดรอปไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือ เอาจริงๆเราซิ่วมาจากที่นึงค่ะ เราเสียเวลาไป2ปีจากเด็กทั่วไป ถ้าจะยืดไปอีกปีเราคงไปจบตอนอายุ 25 นู่นนน ถามว่ารีบมั้ย? จริงๆก็ไม่รีบ แต่ก็แอบเสียดาย ปีนี้เพื่อนๆจะไล่จบกันหมดแล้ว ถ้าไปคงไม่ได้อยู่ร่วมงานกับเพื่อนเลย T^T
-เราว่าเราเป็นโรค Home Sick ค่ะ เรากลัวการห่างครอบครัวไปนานๆ ปกติครอบครัวเราทุกคนเป็นเพื่อนด้วย เป็นทุกอย่าง การไปอยู่ในประเทศที่ไม่ใช่บ้านเรา นี่คือเหตุผลที่ที่ผ่านมาเราไม่เคยไปเรียนเมืองนอกเลยยยยยย แต่ยอมรับว่า การได้ทุน การเป็นเด็กทุน และด้วยวุฒิภาวะตอนนี้ เราโตขึ้นมาก มันก็มีอิทธิพลกับเราพอสมควรเลยทีเดียว
-ค่าดรอปที่มหาลัย 2หมื่นค่ะ (นี่อุตส่าห์ไม่คิดจะไปยืนให้รกมหาลัยแล้วยังจะมาคิดเราราคานี้ได้ ใจร้ายมากจริงๆ แหะๆ)
-อ่านเจอมาค่ะ คนจีนที่นั่นไม่ค่อยอาบน้ำค่ะ เท่าที่เจอคือ ประตูรถไฟฟ้าเปิดมาคือกลิ่นแตะไปถึงลำไส้ใหญ่เลย .. มันจะขนาดนั้นเลยจริงๆใช่มั้ยอ่า?
-เจอคนไทยด้วยกันเยอะไม่กลัว กลัวไม่มีชาติอื่นมาให้ได้ใช้ภาษาเลยมากกว่าค่ะ เช่น อังกฤษ บลาๆ
ตอนนี้เราคิดหนักมากกกกกค่ะ เพราะเค้าเรียกให้ส่งจดหมายกลับไปรายงานตัวภายวันที่ 22 พ.ค. นี้
คำถามคือ
1. มันเจริญมั้ยคะที่นั่น? (เมืองเจียซิง หรืออ่านว่าเจียซิ่ง)รู้แค่มันอยู่ติดกับเซี่ยงไฮ้ แต่อยู่ติดกันไม่ได้แปลว่าจะเจริญเหมือนกันถูกมั้ยคะ? คือเราก็ไม่ได้ติดความเจริญมาก แต่ในที่ๆไม่ใช่บ้านตัวเอง ถ้าอยู่แต่หอก็คงเหงาอ่ะค่ะ ถ้าคมนาคมที่สะดวกก็จะนับว่าเป็นแรงกระตุ้นที่ดีมากๆเลยทีเดียว เพราะปกติเราอยู่ที่นี่ เราก็ไปไหนมาไหนเอง มีหูฟัง เราอยู่ได้ แล้วจบเลย
2. ไอที่เราเน้นไว้อ่ะค่ะ ที่ว่าให้ช่วยงานมหาลัยแลกกับเงินเดือน มีใครพอจะเดาได้มั้ยคะว่าเป็นงานประเภทไหน?
3. ที่นั่นมีการสอนพิเศษเหมือนเมืองไทยมั้ยคะ เช่นการจ้างครูมาสอนที่หอ เราอยากใช้เวลาในการเรียนภาษาให้เต็มที่ไปเลย เพราะไม่มีภาระการบ้งการบ้านจากมหาลัยให้กังวลแล้ว คือ อยากเรียนภาษาญี่ปุ่นค่ะ จริงๆเรียนไปบ้างแล้ว แต่ส่วนตัวไม่ได้ชื่นชอบอะไรที่เป็นญี่ปุ่นเป็นพิเศษ เลยจะพัฒนาช้ากว่าเกาหลีหน่อยน่ะค่ะ ทุกวันนี้เพลินกับภาษาเกาหลีเพราะติ่งซีรี่ย์บ้างอะไรบ้าง ก็เลยลั้ลลาพอสมควร
4. หออยู่ 4 คนค่ะ สภาพหอจะเป็นแบบไหน มีใครพอทราบมั้ยคะ?
5. อินเตอร์เน็ตเป็นไงบ้างคะ ในหอพัก หรือระหว่างเดินทางไปเที่ยวไหนต่อไหน ใช้งานได้ในเรทราคาเหมือนที่ไทยเลยมั้ยคะ?
6. ผู้หญิงตัวคนเดียวที่นั่น ระดับของความปลอดภัยน่าจะพอๆกับการอยู่ชานเมืองกรุงเทพมั้ยคะ?
7. ที่นั่นมีคนไทยรับjob สอนพิเศษ ภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษบ้างมั้ยคะ? แล้วถ้ามี เรทราคาอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่คะ? เรากำลังหาลู่ทางเรียนไปทำงานไปแบบมีความสุขไม่ต้องรบกวนเงินพ่อแม่อยู่น่ะค่ะ เรามีประสบการณ์สอนอยู่ที่เมืองไทยหลายปีค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบที่น่าจะมีคนใจดีมาทิ้งไว้ให้บ้างนะคะ T^T
เราไม่รู้จะปรึกษาใครจริงๆ เพราะรอบๆตัวทุกคนเชียร์ให้ไปกันหมด แต่เค้าไม่ได้ไปเองไงคะ ก็อาจจะไม่ได้นึกถึงเรื่องเล็กๆน้อยๆที่สำคัญแบบเราอย่างงี้
หรือ จริงๆแล้ว เราควรเก็บความรู้เราไว้ใช้น่ารักๆ เอาไว้ไปเที่ยวเบาๆ แปปเดียวกลับเหมือนที่ผ่านมาก็พอ (ซักรอบละ1อาทิตย์บวกลบ ประมาณนี้อ่ะค่ะ)
ป.ล. ขอโทษถ้าถามจุกจิกนะคะ เราไม่เคยไปนอกเกือน 10 วันเลยค่ะ มันกังวลไปหมดเลยจริงๆ
ถามคนที่เคยได้ทุนเรียนภาษาที่ ม.เจียซิง มณฑลเจ้อเจียง หรือ ละแวกเดียวกัน ค่ะ
ครอบคลุม ค่าใช้จ่าย:
ค่าเทอม มูลค่า 14,000 หยวน/ปี, ค่าหนังสือเรียน 800 หยวน, ค่าประกัน, ค่าหอพักนักศึกษาต่างชาติ*, ค่าครองชีพ*
"ข้อสำคัญคือนักศึกษาจะต้องช่วยงานในหน่วยงานต่างๆของมหาวิทยาลัย เช่น ห้องสมุด โรงอาหาร สำนักงานต่างๆ ในเวลาที่ว่างจากการเรียน สัปดาห์ละไม่เกิน 20 ชั่วโมง โดยทางมหาวิทยาลัยจะให้ค่าตอบแทนประมาณ 1000-1500 หยวน/เดือน"
เหตุผลประกอบการตัดสินใจของเราก็ประมาณว่าลองชั่งยน้ำหนัก ข้อได้เปรียบ-เสียเปรียบอ่ะนะคะ
ข้อดี
-เราเองพูดจีนได้ประมาณนึงค่ะ แต่การพูดจีนได้ในที่นี้คือเราไม่เคยไปอยู่ที่จีนมาก่อน แค่พูดได้เพราะชอบฝึกพูด ชอบสื่อสาร เหมือนภาษาอังกฤษอ่ะค่ะ ดังนั้น สิ่งสำคัญที่เราขาดเลยจริงๆคือการไม่เคยไปอยู่ที่จีนจริงๆมาก่อน แค่นั้นค่ะ ซึ่งมันสำคัญนะ เหมือนกับเราไม่ได้อัพเดทภาษาใหม่ๆ สำนวนที่เค้าใช้ คือถ้าไปแล้วกลับมา เปอร์เซนต์ในเรื่องของเครดิตการฟังพูดอ่านเขียนจีนได้มันต้องดีขึ้น โอกาสทางการงานมันก็สูงกว่าการเป็นคนไทยพูดจีนได้ที่ไม่เคยไปจีนมาก่อนอยู่แล้ว(เอ๊ะ หรือเราคิดไปเอง)?
-เราคิดว่าไปในฐานะเด็กทุน มันฟังดูดีค่ะ ถึงแม้ว่าสมัยนี้ทุนฟรีจีนมันจะเยอะมากก็ตาม
-เราอ่านเจอมา ซึ่งก็ยังไม่มั่นใจว่า เพื่อนเกาหลีเยอะ ที่เจ้อเจียง อันนี้คือไม่ได้คาดหวังว่าเพื่อนจะต้องดี มารยาทงดงาม นะคะ แต่เราคิดว่ามันเป็นโอกาสเพิ่มเติมที่เราจะได้ฝึกภาษาเกาหลีค่ะ (เราพูดเกาหลีได้บ้างค่ะ)
-กลับมาเราคงมั่นใจในการรับงานมากกว่าปัจจุบันที่เป้นอยู่ ด้วยเหตุผลที่บอกไปข้างต้นว่า พอเราไม่เคยไปใช้ชีวิตที่นั่น ไม่ได้คลุกคลีกะความเป็นจีนจริงๆ งานล่าม งานอะไร ที่เราทำ Part-Time ได้ และชอบอาชีพทางนั้นด้วย มันน่าจะโอเคกว่านี้ (ตอนนี้เรายังเรียนมหาวิทยาลัยอยู่นะคะ)
ข้อเสียเปรียบ
-เราต้องดรอปเรียนจากมหาลัยไป1ปีเลยค่ะ เรื่องดรอปไม่ใช่ปัญหา ปัญหาคือ เอาจริงๆเราซิ่วมาจากที่นึงค่ะ เราเสียเวลาไป2ปีจากเด็กทั่วไป ถ้าจะยืดไปอีกปีเราคงไปจบตอนอายุ 25 นู่นนน ถามว่ารีบมั้ย? จริงๆก็ไม่รีบ แต่ก็แอบเสียดาย ปีนี้เพื่อนๆจะไล่จบกันหมดแล้ว ถ้าไปคงไม่ได้อยู่ร่วมงานกับเพื่อนเลย T^T
-เราว่าเราเป็นโรค Home Sick ค่ะ เรากลัวการห่างครอบครัวไปนานๆ ปกติครอบครัวเราทุกคนเป็นเพื่อนด้วย เป็นทุกอย่าง การไปอยู่ในประเทศที่ไม่ใช่บ้านเรา นี่คือเหตุผลที่ที่ผ่านมาเราไม่เคยไปเรียนเมืองนอกเลยยยยยย แต่ยอมรับว่า การได้ทุน การเป็นเด็กทุน และด้วยวุฒิภาวะตอนนี้ เราโตขึ้นมาก มันก็มีอิทธิพลกับเราพอสมควรเลยทีเดียว
-ค่าดรอปที่มหาลัย 2หมื่นค่ะ (นี่อุตส่าห์ไม่คิดจะไปยืนให้รกมหาลัยแล้วยังจะมาคิดเราราคานี้ได้ ใจร้ายมากจริงๆ แหะๆ)
-อ่านเจอมาค่ะ คนจีนที่นั่นไม่ค่อยอาบน้ำค่ะ เท่าที่เจอคือ ประตูรถไฟฟ้าเปิดมาคือกลิ่นแตะไปถึงลำไส้ใหญ่เลย .. มันจะขนาดนั้นเลยจริงๆใช่มั้ยอ่า?
-เจอคนไทยด้วยกันเยอะไม่กลัว กลัวไม่มีชาติอื่นมาให้ได้ใช้ภาษาเลยมากกว่าค่ะ เช่น อังกฤษ บลาๆ
ตอนนี้เราคิดหนักมากกกกกค่ะ เพราะเค้าเรียกให้ส่งจดหมายกลับไปรายงานตัวภายวันที่ 22 พ.ค. นี้
คำถามคือ
1. มันเจริญมั้ยคะที่นั่น? (เมืองเจียซิง หรืออ่านว่าเจียซิ่ง)รู้แค่มันอยู่ติดกับเซี่ยงไฮ้ แต่อยู่ติดกันไม่ได้แปลว่าจะเจริญเหมือนกันถูกมั้ยคะ? คือเราก็ไม่ได้ติดความเจริญมาก แต่ในที่ๆไม่ใช่บ้านตัวเอง ถ้าอยู่แต่หอก็คงเหงาอ่ะค่ะ ถ้าคมนาคมที่สะดวกก็จะนับว่าเป็นแรงกระตุ้นที่ดีมากๆเลยทีเดียว เพราะปกติเราอยู่ที่นี่ เราก็ไปไหนมาไหนเอง มีหูฟัง เราอยู่ได้ แล้วจบเลย
2. ไอที่เราเน้นไว้อ่ะค่ะ ที่ว่าให้ช่วยงานมหาลัยแลกกับเงินเดือน มีใครพอจะเดาได้มั้ยคะว่าเป็นงานประเภทไหน?
3. ที่นั่นมีการสอนพิเศษเหมือนเมืองไทยมั้ยคะ เช่นการจ้างครูมาสอนที่หอ เราอยากใช้เวลาในการเรียนภาษาให้เต็มที่ไปเลย เพราะไม่มีภาระการบ้งการบ้านจากมหาลัยให้กังวลแล้ว คือ อยากเรียนภาษาญี่ปุ่นค่ะ จริงๆเรียนไปบ้างแล้ว แต่ส่วนตัวไม่ได้ชื่นชอบอะไรที่เป็นญี่ปุ่นเป็นพิเศษ เลยจะพัฒนาช้ากว่าเกาหลีหน่อยน่ะค่ะ ทุกวันนี้เพลินกับภาษาเกาหลีเพราะติ่งซีรี่ย์บ้างอะไรบ้าง ก็เลยลั้ลลาพอสมควร
4. หออยู่ 4 คนค่ะ สภาพหอจะเป็นแบบไหน มีใครพอทราบมั้ยคะ?
5. อินเตอร์เน็ตเป็นไงบ้างคะ ในหอพัก หรือระหว่างเดินทางไปเที่ยวไหนต่อไหน ใช้งานได้ในเรทราคาเหมือนที่ไทยเลยมั้ยคะ?
6. ผู้หญิงตัวคนเดียวที่นั่น ระดับของความปลอดภัยน่าจะพอๆกับการอยู่ชานเมืองกรุงเทพมั้ยคะ?
7. ที่นั่นมีคนไทยรับjob สอนพิเศษ ภาษาไทย หรือ ภาษาอังกฤษบ้างมั้ยคะ? แล้วถ้ามี เรทราคาอยู่ที่ประมาณเท่าไหร่คะ? เรากำลังหาลู่ทางเรียนไปทำงานไปแบบมีความสุขไม่ต้องรบกวนเงินพ่อแม่อยู่น่ะค่ะ เรามีประสบการณ์สอนอยู่ที่เมืองไทยหลายปีค่ะ
ขอบคุณล่วงหน้าสำหรับคำตอบที่น่าจะมีคนใจดีมาทิ้งไว้ให้บ้างนะคะ T^T
เราไม่รู้จะปรึกษาใครจริงๆ เพราะรอบๆตัวทุกคนเชียร์ให้ไปกันหมด แต่เค้าไม่ได้ไปเองไงคะ ก็อาจจะไม่ได้นึกถึงเรื่องเล็กๆน้อยๆที่สำคัญแบบเราอย่างงี้
หรือ จริงๆแล้ว เราควรเก็บความรู้เราไว้ใช้น่ารักๆ เอาไว้ไปเที่ยวเบาๆ แปปเดียวกลับเหมือนที่ผ่านมาก็พอ (ซักรอบละ1อาทิตย์บวกลบ ประมาณนี้อ่ะค่ะ)
ป.ล. ขอโทษถ้าถามจุกจิกนะคะ เราไม่เคยไปนอกเกือน 10 วันเลยค่ะ มันกังวลไปหมดเลยจริงๆ