มีเรื่องขอคำปรึกษา และไม่รู้ว่าจะไปขอได้ที่ห้องไหน เลยมาที่นี่ค่ะ

กระทู้คำถาม
มีเรื่องขอคำปรึกษาที่เราคิดไม่ตกเรื่องหนึ่ง ขอความกรุณาชี้แนะจะขอบคุณมาก ๆ ค่ะ

เรื่องของเรื่องคือเราเป็นอาจารย์ สอนที่มหาวิทยาลัยชื่อดังที่สุดในภาคอีสาน เราเป็นอาจารย์มาที่นี่ได้ปีกว่าแล้วค่ะ ทีนี้ความที่เราพลัดบ้านพลัดถิ่นมาอยู่ที่นี่ เพื่อน ๆ ที่ทำงานก็เป็นผู้อาวุโส ซึ่งมีทั้งเกษียณแล้ว และกำลังจะเกษียณ เลยหัวเดียวกระเทียมลีบ (เราเป็นคน กทม. ค่ะ) แต่เราก็ยังโชคดีค่ะ ที่นักศึกษาที่นี่น่ารักทุกคน เลยมีนักศึกษาเป็นเพื่อน ดูแลกัน รักกันเหมือนพี่น้อง

ความที่อยู่ด้วยกัน กินด้วยกัน เที่ยวด้วยกันแล้วสนุกดี ตอนหลังมาก็เลยแชร์ห้องที่หอพัก ซึ่งมี 2 ห้องนอน 1 ห้องนั่งเล่น และ 1 ห้องน้ำ เดิมทีก็ว่าจะแชร์กับนักศึกษาคนนึงชื่อน้องเนี่ยร์ (นามสมมติ) แค่คนเดียว แต่ด้วยความที่อยู่ด้วยกันแล้ว นักศึกษาในกลุ่มบางคนเลยชวนเพื่อนที่ยังไม่ได้เรียนที่นี่มาเข้ากลุ่มด้วย กลุ่มของเราจึงใหญ่ขึ้นทุกวัน

จนมาวันหนึ่ง นศ. คนหนึ่งก็พารุ่นน้องที่โรงเรียนเก่ามาด้วย ตั้งใจว่าจะให้มาอยู่กับซ้อ (ซ้อเป็นคำเรียกที่ นศ. ที่สนิทกับเราเรียกเราค่ะ) เพราะเพื่อนของนักศึกษาคนนั้น (เรียกนางว่า รชด. แล้วกันนะคะ) มีปัญหากับที่บ้าน ไม่ลงรอยกับแม่ของตัวเอง และแม่ strict กับ รชด.มากเกินไป (ข้อมูลที่เราได้ ณ เวลานั้นนะคะ)

ได้ยินแบบนี้ก็สงสารค่ะ เราเลยคิดว่าถ้าจะมาอยู่ในกลุ่ม ไปไหนมาไหนด้วยกันเนี่ยก็ไม่มีปัญหา ทุกสัปดาห์ รชด. จะขอแม่มานอนที่หอของเรา 1 วัน แต่ทุกครั้งที่นอน นางจะขอเราไปเที่ยวร้านเหล้าหลังมหาวิทยาลัยตลอด พอเราเห็นว่าเป็นแบบนี้ทุกครั้ง เราก็บอกไปว่า "จะไม่ให้ไปเที่ยวกลางคืนนะ เพราะเหมือนเอาชื่อของเราไปอ้าง เพื่อจะไปเที่ยวสถานที่อโคจรแบบนั้น" เราก็ขอให้ รชด. ไม่ทำ ซึ่ง รชด. ก็ปรับพฤติกรรมในส่วนนี้ได้

นานวันเข้า จากที่มาอยู่แค่ 1 วันต่อสัปดาห์ รชด. ก็ขอแม่จะมาอยู่กับเราอย่างถาวร คุณแม่ของ รชด. ก็เลยมาคุยกับเรา และเล่าเรื่องที่ รชด. เคยมีปัญหาให้ฟัง รวมถึงการไม่เข้าใจกัน ต้องปะทะคารมกันบ่อยครั้ง และพฤติกรรมที่คุณแม่ของ รชด. รับไม่ได้มากที่สุดคือการมีความสัมพันธ์ทางเพศกับผู้ชายโดยที่ยังไม่ได้แต่งงาน ซึ่งนางมีปัญหานี้อย่างมากจนคุณแม่ต้องเนรเทศนางไปอยู่จังหวัดอื่นกับพี่สาวนางที่ทำงานที่นั่น คุณแม่ของ รชด. คิดว่า หากส่ง รชด. มาอยู่กับเราที่เข้าใจวัยรุ่น พฤติกรรมอาจดีขึ้น รชด. จึงมาอยู่ที่ห้องของเราอย่างถาวร ซึ่งเราก็รับปากไปค่ะว่าจะดูแลให้ แต่หากมีปัญหาเรื่องผู้ชายเราจะส่งนางกลับไปให้คุณแม่

แรก ๆ รชด. ก็ดีหรอกค่ะ ตื่นเช้า ช่วยดูแลห้องหับ เพราะนางไม่ได้ออกค่าใช้จ่ายใด ๆ (นางบอกว่าครอบครัวมีปัญหาการเงินเยอะมาก) นางก็เลยเป็นแม่บ้านช่วยดูแลห้องนี้ในเรื่องทำความสะอาด ซึ่งเราก็คิดว่าทดแทนกันไปกับการที่นางไม่ได้ช่วยค่าใช้จ่าย

นานขึ้นไปอีก (เรื่องยาวค่ะ ต้องขอโทษด้วยค่ะ) นิสัยของนางก็เผยให้เห็นชัดขึ้น การดูแลห้องลดลง แทบจะไม่ทำเลย นางนอนห้องเดียวกับเรา เนียร์ไปนอนอีกห้องหนึ่ง (เนียร์ไม่ชอบนางมากค่ะ ตอนนั้นเราคิดว่าเนียร์ไม่มีเหตุผล แต่ตอนนี้เข้าใจแล้วว่าทำไมเนียร์ถึงไม่ชอบนาง) นางเริ่มใช้ของร่วมกับเรา (เช่น ลิปสติกของ Mac, brush on ของ Arty หรือบางทีก็เอาแกนม้วนผมไฟฟ้าของเราไปใช้ เอารถยนต์ของเราไปขับโดยไม่ได้รับอนุญาต ตอนที่เราเดินทางไปต่างประเทศ // เรื่องรถนี่ก็เป็นประเด็นค่ะ เพราะก่อนนางขับออกไป ชินซึ่งเป็นแฟนของนางบอกว่า "อย่าเอาไปเลย เอาไปจะดีหรือ ซ้อสั่งห้ามไว้หนักหนา แต่นางก็จะขับไปเพราะนางบอกว่านางไม่อยากตากแดด นางร้อน // แต่พอเราไปถามนาง นางบอกว่านางอยากเลื่อนรถไปหาที่จอดร่ม ๆ // รถของเราจอดตากแดดตากลมมาเป็นปี รชด. ไม่เคยเสนอให้เลื่อนรถไปจอดที่ร่ม ๆ เลย // ชินบอกกับเราว่านางขับรถเพื่อไป 7/11) และบ่อยครั้งมากที่นางใช้ของ ๆ เราโดยไม่ได้ขอก่อน เอา iPad ของเรากลับไปเล่นที่บ้าน โดยที่ไม่ได้บอกเราในวันที่นางต้องกลับบ้าน เราก็เตือนนางว่ามันผิดมารยาทนะ นางก็มักจะทำเสียงหมาเห่าใส่กลับมา หรือยิ้มยิงฟัน หยีตา ซึ่งเนียร์ก็บอกเรามาตลอดว่านางไม่สำนึก แต่เราก็พยายามอดทน

จนวันหนึ่ง เราต้องกลับ กทม. เนียร์ก็ไปกับเราด้วยค่ะ รชด. จะอยู่ที่ห้องเพื่อดูแลห้อง แต่ความจริงมาเผยเอาตอนนี้แหละค่ะว่า นางแอบไปเที่ยวร้านเหล้าหลังมอ และนางพาผู้ชายมานอนที่ห้องของเรา (สมมติว่าผู้ชายชื่อจอนแล้วกันนะคะ) บนเตียงของเรา เรายอมรับว่าโกรธมาก และเราก็โทรบอกแม่ของ รชด. ให้มารับนางกลับไปในเช้าวันรุ่งขึ้น ก่อนจะเราโทรไป รชด. บอกกับเราว่านางพลาดเป็นครั้งแรก และครั้งเดียว นางบอกว่านางด่าตัวเองไปแล้ว สำนึกแล้ว และนางจะไม่ทำอีกแล้ว เราก็เกือบใจอ่อนนะคะ เพราะนางร้องไห้ (นางร้องไห้เก่งมากค่ะ มีครั้งหนึ่งเราไปซื้อน้ำหอมของ Versace พอเราบอก BA. ไปว่าจะเอากลิ่นนี้ นางน้ำตาร่วงเลยค่ะ ซึ่งนางก็ให้เหตุผลว่านางเองก็อยากได้ และคิดว่าจะเก็บตังค์ซื้อ พอเห็นเราซื้อนางจึงตกใจ และร้องไห้) แต่ด้วยความที่เราเคยลั่นวาจา รับปากกับคุณแม่ของ รชด. ว่าหากมีเรื่องทำนองนี้เกิดขึ้น เราจะส่งนางกลับ

เรื่องน่าจะจบแค่ตรงนี้ แต่มันไม่ใช่ค่ะ เราไม่รู้ว่าเพราะอะไรมาดลใจเรา เราเลยโทรหาจอน (เค้าไม่ได้เป็นแฟนของ รชด. นะคะ รชด. present ว่า เป็นเด็กชายชื่อชินที่เป็นแฟนของนาง) เรานึกยังไงไม่ทราบ เราเลยเค้นถามจนได้คำตอบว่านั่นไม่ใช่ครั้งแรก บางครั้งเรานอนหลับในห้อง พวกเขาก็มาใช้โซฟาแทนเตียงของเรา (ช่วงเราไป กทม. ที่เราจับได้ว่านางพาเด็กผู้ชายชื่อจอน มานอนกันที่ห้องเรา 2 คืนติด ๆ และนางได้ใช้ด้ามซ่อม เพื่อเปิดประตูห้องน้ำเข้าไปหาจอนด้วยค่ะ) และทำบ่อยจนโซฟาเราพังเลยค่ะ นางโกหกเราค่ะ

ยังไม่ได้มีเพียงเท่านี้ค่ะ ระหว่างที่เราไม่อยู่ นางพยายามเอาหนังใน External Hardisk ของเรา copy ไปใส่ในเครื่อง Mac ของนาง (นางอยากได้ Mac เหมือนเรา นางจึงให้แม่กู้เงินมาเพื่อซื้อ Mac ให้นาง) ใน External Hardisk นั่นมีคลิปที่เราถ่ายลูกสาวไว้ตั้งแต่ยังแบเบาะ หัดเดิน หัดพูด (ตอนนี้ลูกสาวเราอายุ 15 แล้วค่ะ) นางบอกเราว่า พอนางเอา USB เสียบเข้าไปที่ Mac ของนาง "มันขึ้นอะไรมาก็ไม่รู้ หนูรีบดึงออกทันที แต่ข้อมูลใน Hardisk ลูกนั้นก็หายไปหมด" (ดึงสายออกทันที Mac จะลบข้อมูลเราได้ยังไง เครื่อง Mac คง Detect ได้ว่านี่เป็น Hardisk ตัวใหญ่ เลยถามว่าจะตั้งเป็น Time Machine ไหม เราเดาได้ว่านางต้องบอก Yes Mac ของนางจึงลบข้อมูลใน Hardisk ของเรา และ Back up ข้อมูลในเครื่องของนางไว้แทน) เราถาม รชด. ไปอีกเรื่องข้อมูลหาย นางก็ยืนยันคำตอบเดิมว่า "หนูดึงออกทันที" แต่ก็อย่างที่บอกแหละค่ะ ถ้าดึงออกทันที มันจะลบข้อมูลของเราได้ยังไง

ตอนนี้เราเลยเสียคลิปที่เราถ่ายลูกสาวเราไปหมดเลย ยังไม่หมดอีกค่ะ ชิน (แฟนของนาง) มายอมรับกับเราอีกว่า เคยมีอะไรกับนางด้วย (ช่วงเวลาเดียวกับที่มีอะไรกับจอนแหละค่ะ) เราเลยช็อคหนักขึ้น (เพราะนางบอกเราว่ายังไม่เคยมีอะไรกับชิน) เราโกรธหนักขึ้น โดยเฉพาะเรื่องคลิปลูกสาวที่เราไม่สามารถหาได้จากที่ไหนอีกแล้ว เรายอมรับว่าเรา Post ขึ้น FB ไม่ได้ตั้งใจจะประจาน เพราะไม่ได้บอกว่านางทำอะไร เราบอกเพียงว่า รชด. ไม่ได้อยู่ในความรับผิดชอบของเราอีกแล้ว ซึ่งก็มีเด็ก ๆ คนอื่น เข้ามาถามว่า รชด. ทำอะไรบ้าง และสุดท้าย นางก็มาตอบเองว่า "พูดออกมาเถอะค่ะ จะได้แล้วจบ"  มันเหมือนราดน้ำมันบนกองไฟค่ะ ตอนนั้น เราเลยพิมพ์แจ้งไปเลยว่ามีกี่กระทง คราวนี้นางจึงไปโวยวายกับที่บ้านนางว่าเราเอานางไปประจาน

เมื่อสักครู่นี้ เราคุยกับพี่สาวของ รชด. และพี่สาวของ รชด. ถามว่า "มีทางไหนที่จะชดเชยความผิดครั้งนี้ของนางบ้าง" เราเองก็นึกไม่ออก เราก็ถามพี่สาวของนางว่า "คุณว่าควรทำยังไงล่ะคะ ฝ่าฝืนคำสั่ง ไม่มีความเกรงใจ ไม่ให้เกียรติสถานที่เรานอนอยู่ทุกคืน ถือวิสาสะใช้ของของเราโดยไม่ได้รับอนุญาต ขับรถเราโดยที่ไม่รับอนุญาต และเราบอกแล้วบอกอีกว่าอย่าขับรถเราเล่น เพราะหากเกิดอุบัติเหตุอะไรขึ้นมา รชด. คงไม่สามารถรับผิดชอบอะไรแน่ ๆ"

จนถึงตอนนี้ มี นศ. มาบอกว่า นางยังไปร้านเหล้าอยู่เลยเมื่อคืน และนางเองก็ยังโพสโชว์ทรงผมที่นางเพิ่งตัดมาใหม่ (เป็นทรงเดียวกับที่เราตั้งใจว่าจะไปตัด และเราเคยบอกนางด้วย นางเลยไปชิงไปตัดก่อน // การชิงทำอะไรตัดหน้าคนอื่นเป็นนิสัยของนางค่ะ นศ. ที่เป็นคนพานางเข้ากลุ่มมา เป็นคนบอกกับเรา)

ที่เล่ามายาว ๆ นี้เป็นเพียงเหตุการณ์คร่าว ๆ ทั้งหมดที่เกิดขึ้นค่ะ

เราเลยลองมาโพส ขอคำปรึกษาจากท่าน ๆ ที่นี่ทีว่า "จะให้ที่บ้านนางชดเชยอะไรแทนได้บ้าง กับความทรงจำของเราที่มีต่อลูกสาว" ได้บ้างคะ เรานึกไม่ออกค่ะ เราเองก็นิสัยไม่ดี เป็นคนเจ้าคิดเจ้าแค้น เลยได้แต่บอกไปว่า "กันน้องสาวคุณไว้ อย่าให้มาเจอเรา เราไม่ใช่นางฟ้า หน้าตาเราก็ไม่เหมือนคนใจดีมีเมตตาตรงไหน น้องสาวคุณทำเราไว้แสบมาก และหลายกระทงมาก และเราก็คิดว่าเราให้โอกาสน้องสาวคุณมามากแล้ว ตอนนี้เรายังนึกไม่ออกว่าจะให้ชดใช้อย่างไร แต่กันน้องสาวของคุณไว้ดี ๆ อย่าให้เจอกับเรา เราไม่อยากเจอ"

รบกวนขอไอเดียจากท่าน ๆ ที่นี่ด้วยนะคะ

หากเราโพสผิดห้อง ก็ขออภัยด้วยค่ะ
แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่