การคืนภาษีนักท่องเที่ยว Tax refund ในยุโรป ตัวอย่างที่ Malpensa Airport (Milan, Italy)

กระทู้สนทนา
จขกทเป็นคนธรรมดา ที่มีใจรักการท่องเที่ยวคนหนึ่งนะคะ อยากจะแชร์ประสบการณ์ที่คิดว่าน่าจะเป็นประโยชน์
และเป็นข้อมูลเบื้องต้นให้ทุกคนที่เป็นนักช้อปปิ้งเหมือนกันค่ะ กระทู้ตั้งใจเขียนสั้นๆ(แล้วนะ)ค่ะ ^^

ขอบอกก่อนว่าที่จะเล่าให้ฟัง เป็นประสบการณ์ตรงในการคืนภาษีที่สนามบิน Malpensa Airport ที่เมืองMilan ประเทศItaly ค่ะ
สำหรับสนามบินที่อื่นในยุโรป อาจจะเหมือนหรือไม่เหมือนกันนะคะ จขกทมีประสบการณ์ตรงในยุโรปแค่ของมิลานค่ะ
ก่อนอื่นขอแชร์ภาพ flow chart ที่จขกทเขียนขึ้นเองเพื่อให้เห็นภาพรวมไปในทางเดียวกันก่อนนะคะ



ยิ้มขั้นตอนคร่าวๆในการคืนภาษียิ้ม
สำหรับมูลค่าของที่ซื้อขั้นต่ำโดยประมาณเพื่อให้ทำคืนภาษีได้ เท่าที่ทราบมีตามนี้นะคะ
สำหรับอิตาลี 155 EU สำหรับสวิส 300 FR สำหรับออสเตรีย 75 EU (แต่กระทู้นี้ไม่ได้กล่าวถึงของจากสวิสนะคะ)
สำหรับการเตรียมเอกสารและสินค้าสำหรับคืนภาษี สามารถหาอ่านรายละเอียดตามเว็บ ซึ่งมีลิ้งค์ในหัวข้อถัดไปค่ะ
หรืออันที่จริงเอกสารคืนภาษีที่ให้มาจากร้านค้า ที่ซองมักจะบอกขั้นตอนไว้อยู่แล้วค่ะ แต่จะขอสรุปไว้ตรงนี้ด้วยนะคะ

1.    SHOPPING: ในขั้นตอนการซื้อของ เราซื้อของตามปกติ โดยที่ตอนชำระเงินให้แจ้งพนักงานนะคะ ว่าทำ Tax refund ให้ด้วย
พนักงานร้านนั้นๆก็จะเอาพาสปอร์ตเราไปเขียนหรือพิมพ์กรอกในเอกสารแบบฟอร์มของเค้า แล้วก็พับใส่ซองให้เราอย่างสวยงามนะคะ
สำหรับเปอร์เซนต์ที่เราจะได้คืน แล้วแต่แบรนด์สินค้านะคะ (จะพูดถึงตัวอย่างสินค้าบางแบรนด์นิดหน่อยในหัวข้อถัดไป)
**สำหรับการซื้อสินค้าอีกประเทศและออกอีกประเทศใน EU ก็ทำเหมือนกันในขั้นตอนนี้ค่ะ
คือสามารถแจ้งที่ร้านค้าประเทศที่ซื้อได้เลย ให้ทำเอกสารคืนภาษีให้

2.    AT AIRPORT: วันเดินทาง ให้เราถือเอกสารตัวนั้นมาเตรียมยื่นที่สนามบินนะคะ
โดยที่สินค้าที่เราซื้อมาต้องอยู่ในสภาพยังไม่ได้มีการใช้งาน
แล้วในทางทฤษฎีคือแพคเกจต้องครบและพร้อมให้เจ้าหน้าที่ขอดูทุกชิ้นที่สนามบินค่ะ
(แต่ในทางปฏิบัติบางครั้งเจ้าหน้าที่ไม่มีเวลาดูค่ะ เนื่องจากคนขอคืนภาษีเยอะมาก)

สำหรับตัวจขกท ก็ไม่ได้มีการขอดูสินค้านะคะ แต่ก็เห็นว่าบางคนในแถวเจ้าหน้าที่จะขอดูจริงๆค่ะ
**ในขั้นตอนนี้ถ้าใครต้องการแพคของที่ซื้อมาลงกระเป๋าโหลด ให้ทำ Refund ให้เสร็จก่อนนะคะ
ค่อยไปติดต่อเช็คอินและโหลดกระเป๋ากับสายการบิน
ขั้นตอนโดยละเอียดจะเล่าให้ฟังหัวข้อ ขั้นตอนการคืนภาษีโดยละเอียด AT AIRPORT

3.    กรณีที่สามารถคืนภาษีที่ Refund Offices นอกสนามบินได้
แม้ขั้นตอนการคืนเงินจะเสร็จไปแล้วตั้งแต่นอกสนามบิน แต่เราก็ยังจำเป็นต้องไปติดต่อที่สนามบินอีกทีนะคะ
เนื่องจากตอนที่ทำเรื่องคืนนอกสนามบินเจ้าหน้าที่จะมีการบันทึกเลขที่บัตรเครดิตไว้ค่ะ
ถ้าเราไม่ส่งเอกสารให้ครบที่ Refund counter ที่สนามบินอีกทีนึง เราอาจจะถูกชาร์ทคืนจากบัตรเครดิตได้ค่ะ
ขั้นตอนนี้ก็เพื่อชัวร์ว่าเราจะมีการบินออกหรือไปที่สนามบินจริงๆค่ะ  จะเล่าให้ฟังที่ ขั้นตอนการคืนภาษีโดยละเอียด AT AIRPORT

อมยิ้ม02สำหรับค่ายในการคืนภาษีนั้น ประกอบไปด้วย 3 ค่ายนะคะอมยิ้ม02
อาจจะมีบางคนยังไม่ทราบนะคะ คิดว่าคืนภาษีในยุโรปมีเจ้าเดียว Global blue เท่านั้น แต่ความจริงไม่ใช่ค่ะ
ของที่เราซื้อมาจะเป็นของค่ายไหน ขึ้นอยู่กับอะไร จขกทเข้าใจว่าขึ้นอยู่กับแบรนด์สินค้าที่เราซื้อค่ะ
ตอนซื้อของ เอกสารที่เค้าทำให้สำหรับคืนภาษี ถ้าสังเกตดูจะมีระบุและมีโลโก้นะคะว่าเป็นของค่ายไหน

1.    Global Blue อันนี้หลายๆคนคงคุ้นเคย จขกทจะไม่บอกว่าสินค้าส่วนใหญ่ในยุโรปเป็นค่ายนี้นะคะ
แต่ว่าสินค้าที่จขกทซื้อมาส่วนมากก็ต้องทำคืนกับค่ายนี้ค่ะ จะยกตัวอย่างเฉพาะแบรนด์ที่ทราบและเคยทำนะคะ
ตัวเลขด้านหลังคือเปอร์เซนต์เงินที่เราจะได้คืนนะคะ (a, b, c ซื้อที่อิตาลี ส่วน d ซื้อที่ออสเตรียค่ะ)
          a.    Louis Vuitton – 12.5%
          b.    Tissot – 14%
          c.    Prada – 12.5%
          d.    Swaroski – 11%
          

ลิ้งค์ด้านล่างนี้ สามารถใช้เป็น Guideline ได้นะคะ ว่าของที่ซื้อจะได้คืนภาษีประมาณกี่เปอร์เซนต์
แต่ขอบอกว่าไม่เป๊ะค่ะ เป๊ะจริงๆต้องถามที่ Shop นั้นๆเลย แล้วแต่ยี่ห้อค่ะ
http://www.globalblue.com/customer-services/tax-free-shopping/refund-calculator/

2.    Tax Refund for Tourists จขกท ขอสารภาพเลยว่าเพิ่งเคยรู้ว่ามี
          a.    Omega – 18% ขอคืนภาษีแบบเงินสดจะได้คืนน้อยกว่าผ่านบัตร ประมาณ 2-3%
          

3.    Premier Tax Free อันนี้ก็เพิ่งรู้จักนี่หล่ะค่ะ
          a.    Gucci – 12.5%
          

สำหรับขั้นตอนการคืนภาษีที่มีระบุในเว็บสามารถไปหาอ่านได้ตามลิ้งค์ด้านล่างนี้เลยค่ะ
(แต่ทุกเจ้ามีหลักการเดียวกัน ตามที่จขกท ได้สรุปไว้แล้วด้านบนค่ะ)
         •        Global Blue:  http://www.globalblue.com/customer-services/tax-free-shopping3/
         •        Tax Refund for Tourists:  http://www.taxrefund.it/getref.php
         •        Premier Tax Free: http://premiertaxfree.com/how-shop-tax-free

ประหลาดใจขั้นตอนการคืนภาษีโดยละเอียด AT AIRPORTประหลาดใจ

ตามหลักการเมื่อมาถึงสนามบิน เราจำเป็นต้องติดต่อ 2 ขั้นตอนหลักๆตามลำดับเลยนะคะ
         a) เคาเตอร์ CUSTOM OFFICE
         b) เคาเตอร์ Refund Counter แยกตามค่าย 3 ค่ายนะคะ (Global Blue, Tax Refund for  Tourists และ Premier Tax Free)
สามารถไปยื่นคืนตามสินค้าที่ซื้อมาเลยค่ะ(ซื้อ 3 ค่ายก็ต้องไปเข้าแถว 3 แถวนี่แหละค่ะ)

สำหรับที่ Malpensa เคาเตอร์ CUSTOM OFFICE กับ เคาเตอร์ ทั้ง 3 ค่ายจะอยู่ติดๆกันเลยนะคะ
ขอบอกว่าที่ Malpensa คนมหาโหดมากค่ะ กะด้วยสายตาประมาณ 300 คน เผื่อเวลาไปเลยนะคะ ให้ถึงสนามบินล่วงหน้าก่อน 4 ชม.
จะได้ไม่ต้องไปโวยวายแบบคนจีน ให้พนักงานตามเคาเตอร์เค้ากระอักกระอ่วนค่ะ

1. ตามขั้นตอนเราต้องติดต่อที่ a) เคาเตอร์ CUSTOM OFFICE ก่อน (ถ้าเราต้อง Stamp)
จขกทซื้อสินค้าทุกชิ้นจากประเทศอิตาลีเองค่ะ ยกเว้นชิ้นเดียวคือ Swarovski ค่ะที่ซื้อมาจากออสเตรียค่ะ
จากประสบการณ์พบว่าในขั้นตอนนี้ที่เคาเตอร์ CUSTOM OFFICE จขกทไม่มีสินค้าใดจำเป็นที่ต้องมาเข้าแถวนี้เลย
ยกเว้นตัวที่ซื้อมาจากออสเตรียเท่านั้น (คนละประเทศกับประเทศสนามบินที่เราบินออกจาก EU)
ดังนั้น จขกทเลยคิดว่าถ้าเราซื้อสินค้าแล้วออกประเทศนั้นเลย เราไม่ต้องเข้าแถวเพื่อ Stamp กับ a) CUSTOM OFFICE  ค่ะ
สามารถข้ามขั้นตอนไปที่ b)เคาเตอร์คืนภาษีทั้ง 3 ค่ายได้เลยค่ะ

**ตรงนี้ ถ้าใครมีประสบการณ์ต่างจากนี้ ให้มาแชร์กันนะคะ
จขกทคิดเอาเองจากประสบการณ์ตรงว่า ถ้าซื้อจากประเทศนึงใน EU แล้วมาออกอีกประเทศนึงจึงต้อง Stamp
เนื่องจากไม่ทราบจริงๆว่าทำไมบางชิ้นต้องการ Stamp จาก a) CUSTOM OFFICE
ส่วนบางชิ้นก็ไม่ต้องการ เพราะจะบอกว่าคนส่วนมากไม่รู้จริงๆค่ะ
ตอนเข้าแถว b) เคาเตอร์คืนภาษีตามค่าย เห็นมีหลายคนเลยที่พอถึงคิว เจ้าหน้าที่ไล่ไป Stamp ที่ a)CUSTOM OFFICE ก่อน
จะบอกว่าขาดการสื่อสารข้อมูลที่ดีจริงๆค่ะ เข้าแถวแบบเดาๆกันไป
แล้วการไล่ไปเข้าอีกแถวนึงใหม่ นรกชัดๆค่ะ เพราะคนกระหึ่มทุกแถวจริงๆ

2.    หลังจากหมดขั้นตอน a) CUSTOM OFFICE เราก็ไปที่ b) Refund Counter เลยนะคะ
ถ้าของที่เราซื้อมาเป็นของค่ายไหน เราก็ต้องไปเข้าแถวนั้นๆ ถ้ามากันหลายๆคน อาจใช้วิธีแยกเพื่อนไปเข้าแถวอื่นๆตามค่าย
ขอบอกว่าจากประสบการณ์แถวอื่นสั้นหมด แต่แถว Global blue แทบคลั่ง ยาวกว่าประมาณ 10 เท่า
แต่ว่าถ้าแยกกันไปเข้าแถวแล้ว ถ้าตอนซื้อของทำคืนภาษีใช้พาสปอร์ตเดียวกัน เมื่อถึงคิวก็ต้องมีพาสปอร์ตให้เจ้าหน้าที่ทำเรื่องนะคะ
โดยทั่วไปข้อมูลเพิ่มเติมที่เจ้าหน้าที่จะถามนอกจากเอกสารคืนภาษี ก็มีแค่ไฟท์ที่จะบินออกเท่านั้น
แล้วเจ้าหน้าที่จะเอาเอกสารไปทำให้เสร็จเรียบร้อยค่ะ หลังจากทำเรื่องเสร็จเรียบร้อย ก็จะมีสลิปให้มานะคะ
เก็บตัวนั้นไว้ค่ะเผื่อมีปัญหาทีหลังอาจต้องอ้างถึง ทางเลือกในการรับเงินคืนภาษีมี 2 ทางนะคะ

     •    แบบรับเงินสดเลย
เป็นยูโรสำหรับที่ Malpensa นะคะ ที่ปารีสเพื่อนบอกรับเป็นเงินไทยได้เลยก็มีค่ะ
แต่เรทรันทดมากค่ะ ได้แค่ประมาณ 80%ของเรทจริงเท่านั้น ดังนั้นพิจารณากันดูนะคะ
สำหรับการคืนภาษีแบบเงินสด จะมีค่าธรรมเนียมชาร์ทนิดหน่อยนะคะ (ประมาณ 4%)
คือเหมือนจะไม่ได้เต็มๆเท่าคืนกับบัตร แต่ว่าเพื่อหลีกเลี่ยงปัญหา จขกท ก็เอาเงินสดเป็นหลักค่ะ
เพราะขี้เกียจต้องมาคอยนั่งตามว่าคืนมากับบัตรหรือยัง ไม่รวมที่จขกทเข้าแถวพลาดนะคะ ดันไปเข้าแถวที่สั้นหน่อยกับแถวทีคืนผ่านบัตร
เนื่องจากไม่มีป้ายใดๆบอกเลยว่าแถวไหนเงินสด แถวไหนผ่านบัตร ก็ไม่เป็นไรค่ะ รอกันไป

     •    แบบรับผ่านบัตรเครดิต
ตัวนี้ก็จะคืนมาเป็นยอดกับบัตรเครดิตนะคะ ซึ่งเราจะต้องเอายอดที่คืนมากับบัตร ไปใช้ในเดือนถัดๆไป
สำหรับกรณีที่บอกว่าเราทำเรื่อง Tax refund จบไปแล้วตั้งแต่ที่ Refund Office นอกสนามบิน
เคสนี้คือจขกท สามารถทำคืนนอกสนามบินได้กับค่าย Tax Refund for Tourists
เนื่องจากมี Refund Office อยู่ใกล้ๆร้านที่ซื้อของเลยค่ะ

จขกทตอนซื้อของรูดบัตรเครดิตไปค่ะ แต่ว่าตอนทำคืนภาษีที่ Refund Office เลือกแบบขอคืนเงินสดค่ะ
จขกท ก็ได้เงินสดคืนมาแล้ว แต่เรายังต้องถือเอกสารนั้นๆไปยื่นที่ Counter Tax Refund for Tourists (สัญลักษณ์สีเหลืองๆ)
อีกที่สนามบินนะคะ โดยที่เจ้าหน้าที่จะรับเอกสารไปแล้วตรวจสอบ แล้วก็เป็นอันเสร็จค่ะ
เราจะไม่ได้เงินใดๆแล้วนะคะ เพราะเราทำเสร็จไปแล้วตั้งแต่นอกสนามบิน แต่จขกท กลัวมีปัญหาทีหลัง
เพราะเจ้าหน้าที่ไม่มีใบเสร็จใดๆให้เลย เนื่องจากเราให้เอกสารเจ้าหน้าที่ไปหมดแล้ว จขกทเลยขอสลิปจากเจ้าหน้าที่ค่ะ
เจ้าหน้าที่ก็เอากระดาษโน๊ตที่มีโลโก้สัญลักษณ์ Tax Refund ของเค้า มากรอกรายละเอียดด้วยลายมือให้ค่ะ
เราก็เก็บตัวนั้นไว้นะคะ ป้องกันเผื่อมีปัญหาทีหลัง

สำหรับพิกัด Refund Office ของค่าย Tax Refund for Tourists ใส่เมืองหาได้ตามลิ้งค์นี้เลยค่ะ
http://www.taxrefund.it/offices.php
บอกไว้เป็นข้อมูลสำหรับคนไปช้อปปิ้งที่มิลานนะคะ Office อยู่ใกล้ๆ Duomo of Milan เลยค่ะ
อยู่ในย่านช้อปปิ้งนั่นแหละค่ะ (เข้าใจว่าทุกคนที่ไปมิลานต้องแวะดูโอโม่นี่แน่นอลค่ะ)

หลังจากทำ Tax Refund เสร็จตรงนี้ สามารถแพคของลงกระเป๋าได้นะคะ จะไม่มีการขอดูใดๆเกิดขึ้นแล้วค่ะ
แนะนำว่าแพคของกระจายๆนะคะ อย่าเรียงเรียบร้อยมาก ป้องกันการขอเปิดกระเป๋าในไทยสำหรับนักช้อปปิ้งทั้งหลายค่ะ
....อุ๊บสสสส์ คนละประเด็น ^^ll จากนั้นก็ไปเช็คอินกับสายการบิน โหลดกระเป๋าปกติได้เลยนะคะ เป็นอันเสร็จพิธีค่ะ

สำหรับคนที่พลาดเคาเตอร์ Global blue จากด้านนอก หรือคนที่ไม่ต้องการโหลดของลงกระเป๋า
สามารถเข้ามาในสุด หลังจากตรวจพาสปอร์ตแล้ว ที่ Malpensa จะมีเคาเตอร์เก็บตกอีก 1 ที่นะคะ
แต่ถ้าเข้ามาถึงตรงนี้แล้ว แปลว่าเราต้องถือของที่ซื้อมาด้วยไปจนถึงบ้านแล้วค่ะ ลองพิจารณาและเผื่อเวลาด้านในด้วยนะคะ

ต้องขออภัยที่ไม่มีภาพเคาเตอร์ต่างๆประกอบ เนื่องจากตอนที่จขกทเข้าแถว เคร่งเครียดเป็นอย่างมาก
ไม่ได้มีการถ่ายรูปไว้เลย (แถวยาว 300 คนอะฮ่ะ) แล้วตอนนั้นก็ไม่คิดจะมาเขียนกระทู้ด้วยเจ้าค่ะ
เพิ่งคิดได้ตอนถึงบ้านที่ไทยแล้วค่ะ ว่าอยากแชร์เพื่อจะได้เป็นข้อมูลได้เห็นภาพกันคร่าวๆก่อนช้อปปิ้งนะคะ

ENJOY TRAVELING & SHOPPING NAKAA จุ๊บๆ

#taxrefund #malpensa #globalblue #premiertaxfree #taxrefundfortourists #shopping #taxineurope #milanairport

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่