[CR] บันทึกสุดระทึกบน'เกาะล้าน'


      
   อมยิ้ม04 สวัสดีนะนี่เป็นกระทู้แรกของเรา 'ครั้งแรกกับการเดินทางสุดระทึกบนเกาะล้านกับเพื่อนร่วมทางที่รู้จักกันในรอบ1ปี'
หลังจากที่เราอดทนรอคอยวันนี้มานานและแล้วก็มาถึง เราเลือกที่จะมาเกาะล้านไกลกรุงเทพฯมีรีวิวเยอะมากจนทำให้อยากมา ด้วยงบประมาณและเวลาของเราไม่เพียงพอนักเราเลยเลือกมาเกาะล้านแต่ล้านความรู้สึกนะ เราจะบันทึกเรื่องราวการเดินทางไปเกาะล้านครั้งนี้อย่างละเอียด เมื่อครั้งนึงเราได้ร่วมทางไปกับคนที่เราอยากไปด้วยทึ่สุด และอยากจะแชร์ประสบการณ์ครั้งนี้ให้ทุกคนได้อ่าน หวังว่าทุกคนจะอ่านจนจบนะ





8 MAY 2015

แชร์ประสบการณ์



เราออกเริ่มเดินทางวันที่ 8พฤษภาคม2538 ออกจากบ้าน09:00เพื่อที่จะขึ้นรถตู้หน้ารามไปลงท่าเรือแหลมบาลีฮาย โชคดีที่เราอยู่แถวหน้ารามไม่ต้องไปขึ้นรถที่อนุเสาวรีย์ ไปสองคนซื้อตั๋วขาไปอย่างเดียวคนละ130บาท เราตั้งใจจะขึ้นเรือไปท่าเรือหน้าบ้านรอบ12:00แต่ด้วยที่รถตู้มาช้าเพราะต้องไปรับคนที่เดอะมอลล์บางกะปิเราสองคนนี่นั่งเหงื่อตกเลยทีเดียวอากาศก็ร้อนใจก็ร้อนอยากให้ถึงเร็วๆ สรุปรถตู้มารับ10:00ต้องรีบขึ้นไปจองที่นั่ง แต่ด้วยที่นั่งรอนานลุกช้าเดินไปขึ้นรถคนสุดท้ายเหลือสองที่พอดีคือที่นั่งหลังสุด555 จะรู้เลยว่าความรู้สึกของการได้นั่งหลังสุดจะเป็นยังไงอัดกันสี่คนแอร์ไม่ถึง ลุงคนขับรถขับช้านะแต่เวลาขึ้นสะพานไม่เบรคให้เลยขึ้นทีนี่ตัวลอยเลยจ้า เรากะว่าเฮ้ยขึ้นรถไปจะนอนฟังเพลงแอร์เย็นๆสักหน่อยแต่สิ่งที่คิดไว้กับความจริงไม่เหมือนกัน ต่อไปเราจะเล่าอย่างละเอียดเลยนะเรื่องน่าระทึกอันดับแรกคือนั่งได้สักพักคือฟ้าครึ้มฝนตกหนักมาก อยากจะร้องโอ้แม่เจ้ายังไปไม่ถึงไหนก็เจอพายุลูกแรกซะละ เรากลัวไม่ได้เล่นน้ำไม่ได้ชมวิวของเกาะล้านคิดในใจความฝันของฉันจบกันแทบนั่งร้องไห้ตรงนั้น นั่งสักพักคือฝนหยุดเว้ยแต่ๆเดี๊ยวยังไม่โล่งอกนะฟ้าก็ยังครึ้มอีกเหมือนเดิม  พอเข้ามาในตัวเมืองจังหวัดชลบุรีลุงคนขับรถได้แวะให้เราลงรถไปขึ้นอีกคันเพราะส่งคนละที่ เรามองดูนาฬิกาเห้ยนี่มัน11:00แล้วนี่น้าจะทันเรือรอบเที่ยงหรือเปล่าเนี่ย คิดในใจยังไม่ถึงเกาะล้านเลยเวลาเดินเร็วเกือบจะครึ่งค่อนวันแล้วมาทั้งที่เราอยากเต็มที่ เดินมาขึ้นรถอีกคันเรานั่งกับผชที่อยู่บนรถอยู่แล้วส่วนแฟนเรานั่งที่นั่งเดี่ยวตรงประตู เหตุการณ์สุดระทึกเกิดขึ้นเราก้นั่งลุ้นเมื่อไหร่จะถึงโดยไม่ได้สังเกตุคนบนรถเลยคือผชที่เรานั่งข้างทำตัวพิรุธนั่งชิดเรามากซึ่งเราพยายามขยับตัวออกอีกแต่ก็ยังใกล้เข้ามา เรารู้สึกไม่ดีมากใจเสียหมดคือเราใส่ขาสั้นไป เราพอรู้ตัวแล้วว่าเหมือนโรคจิตมองขาอ่อน เราพยายามนั่งนิ่งๆแต่เรามองผชคนนั้นด้วยหางตาว่าผชคนนั้นจะทำอะไรระทึกยิ่งกว่าคือมันมองขาเราอยู่ ตอนนั้นไม่คิดไปเอง มันพยายามเอามือมาใกล้ขาซึ่งเราแบกเป้ไปตั้งวางไว้บนน่องขา ตอนแรกมือมันโดนขาเว้ยก็คิดเค้าคงไม่ได้ตั้งใจพอสักพักโดนอีกสองสามรอบเราว่ามันไม่ใช่ล้ะตั้งใจล้วนๆ เราพยายามตั้งสติใจเย็นถ้าโดนอีกรอบแหกปากลั่นรถแน่ เราเลยแทบจะนั่งหันหลังให้มันเพื่อกระซิบบอกแฟนว่าโรคจิตจับขา แฟนเราเลยให้เปลี่ยนที่นั่ง เราไม่อยากมีเรื่องต้องการมาเที่ยวไม่อยากให้หมดสนุกแค่ฝนตกก็แย่แล้ว พอเปลี่ยนที่นั่งมันก็รู้ตัวแล้วแหละว่าเราไม่พอใจ ก็ทำนิ่งๆเป็นหลับแต่เรามองด้วยสายตาจะกินหัวอยู่แล้วอายุกลางคนแต่งตัวดีแต่หน้าตาเถื่อนพอสมควร อ๊ะๆยังไม่จบยังไม่ถึงเกาะล้านลุงคนขับรถก็แวะปั๊มแก๊สรอ15นาที ฝนปรอยตลอดทางฟ้าร้องลั่นสนั่นเติมแก๊สเสร็จก็ขึ้นรถไปอีก ก็คิดคงไม่ทันเรือรอบ12:00แล้วแหละ และแล้วก็มาถึงท่าเรือแหลมบาลีฮาย12:45ได้ขึ้นเรือรอบบ่าย





สู่ความจริง


ถึงท่าเรือแหลมบาลีฮายรีบดิ่งไปซื้อตั๋วท่าเรือหน้าบ้านก่อนเลยคนละ30บาท เรามีเวลาเพียง15นาทีในการถ่ายรูปวิวพัทยาและใช้เวลาเดินไปขึ้นเรือ นักท่องเที่ยวเยอะมากต่างชาติก็เยอะจนดูวุ่นวายไปหมด แต่เราไม่ได้สนใจใครเพราะมาสองคนทำตัวแฮปปี้ที่สุด มาถึงรู้สึกดีที่พัทยาฝนตกไปแล้วอากาศสดชื่นไม่ร้อนไม่มีแดดเสียงคลื่นกระทบฝั่งไปมาลมพัดเย็นสบายมาก แต่ต้องรีบเดินไปขึ้นเรือเดี๋ยวไม่มีที่นั่งระหว่างเดินก็ถ่ายรูปไว้ตามทาง เราถ่ายรูปไม่ค่อยเก่งภาพไม่สวยเท่าไหร่ถ่ายแค่เก็บไว้ดูก็พอเพราะเวลาเร่งรีบ และแล้วก็ขึ้นเรือเราเลือกนั่งชั้น2เรามาเกือบสุดท้ายก็ว่าได้เกือบไม่มีทั้งนั่งซะละ555 ใครเมาเรือแนะนำเตรียมยาดมไปด้วยนะเดี๋ยวหมดสนุกแต่เราไม่เมาเรือ นั่งชมวิวความฝันก็มาถึงแล้วซินะยิ้มไม่หยุดก็คนมันแฮปปี้นี่น้าบอกเลยฟินสุดๆ ใช้เวลาเดินทางกว่าเรือจะออกก็45นาทีมาถึงท่าเรือหน้าบ้านแดดก็ไม่มีคือดีอะสูดอากาศได้เต็มปอดเลยทีเดียว


เพื่อนร่วมทาง



วิวบนเรือชั้น2




ปล. บันทึกระทึกบนเกาะล้านแค่เล่าเรื่องราวเพื่อแชร์ประสบการณ์
อาจจะบ่นไปบ้างตามสไตล์คนขี้บ่น เราแค่อยากจะอธิบายให้ละเอียด





บ้านชาวเกาะ


ถึงท่าเรือหน้าบ้าน13:45 ก่อนขึ้นเรือได้โทรให้ที่พักมารับท่าเรือ เห็นฟ้าครึ้มแบบนี้บรรยากาศดีนะ



ที่พัก 'บ้านชาวเกาะ' เราได้จองล่วงหน้า1อาทิตย์ใครที่สนใจควรดูข้อมูลล่วงหน้าก่อนจะไปนะ รถที่เห็นคือรถรับ-ส่งลูกค้ามีคันเดียวในเกาะล้าน ส่วนบ้านที่เห็น2ชั้นคือบ้านเจ้าของ ก่อนจะเข้าที่พักเจ้าของได้ให้กุญแจ3ดอกคือรถมอไซต์ กุญแจห้อง และกุญแจรั้วบ้านซึ่งคนนอกเข้าออกไม่ได้ นอกจากลูกค้าเท่านั้นเป็นส่วนตัวสุดๆ



รอช้าอยู่ใยรีบเข้ามาชมบรรยากาศกันเลย อยากจะกรี๊ดดดดคือเราชอบเว้ยตกแต่งโทนขาวดำทุกมุมเป็นพื้นหลังถ่ายรูปได้หมด มีคาเฟ่น้ำหน้าบ้านแต่วันนี้เจ้าของมีธุระเลยไม่ได้เปิด ที่บ้านชาวเกาะมีแมวที่เลี้ยงไว้ด้วยน่ารักมากชื่อ ไมโล ไม่ได้เป็นคนชอบแมวนะแต่พอเห็นคือหลงรักเลย เคาเตอร์ที่เห็นคือไว้เช็คอิน-เอ้าท์ อาหารเช้าก็มารับที่นี้


หน้าแฮปปี้สุดๆอมยิ้ม13



เราเลือกพัก2คน1คืนราคา1,450บาทรวมอาหารเช้ามอไซต์ภายในห้องพักครบทุกอย่างถือว่าคุ้ม มีทั้งหมด8ห้องเราพักห้องที่1ใกล้ทางขึ้นลง ห้องแต่ละห้องกั้นด้วยต้นไม้แค่ทางเดินก็เป็นวิวถ่ายภาพได้แล้ว555 ทางลงบันได้จะมีที่ล้างเท้าเพราะเวลาไปเล่นน้ำจะได้ล้างเท้าก่อนเข้าห้อง บริการถึงใจลูกค้าจริงๆ ภายในห้องเป็นพิ้นหินซึ่งโรแมนติกสุดๆมีที่นั่งเล่นเล็กๆมีแอร์ตู้เย็นทีวี หน้าห้องมีราวตากผ้าโต๊ะนั่งเล่นสำหรับใครดูดบุหรี่ก็มีที่เขี่ยบุหรี่ให้ บรรยากาศหน้านอนมากแต่คงไม่ได้รีบเปลี่ยนเสื้อผ้าไปชมวิว


ปล. หลงรัก 'บ้านชาวเกาะ' และจะกลับมาอีกครั้ง
ภาพทุกภาพเราถ่ายเอง ไม่เน้นภาพเน้นเขียน





หาดตาแหวน


เริ่มตะลุยไปหาดตาแหวน16:00ใกล้จะหมดวันแล้ว รีบแว้นไปหาดตาแหวนซึ่งเรามาครั้งแรกไม่รู้ทางต้องหาข้อมูลในเว็บ ต้องขับไปซ้ายมือจากที่พักบ้านชาวเกาะต้องคอยดูป้ายบอกทางอยู่ไกลจากที่พักพอสมควรสำหรับคนไม่คุ้นที่ ก่อนจะไปควรศึกษาทางด้วยนะคะเดี๋ยวหลง ผ่านจุดชมวิวของเกาะล้านก็ไม่ได้ลงไปถ่ายรูปใจอยู่ที่น้ำทะเล555



มาถึงรีบแชะแชะรูปอันดับแรก เริ่มเย็นแล้วร่มหุบหมดบวกกับบรรยากาศไม่มีแดด เราไม่ได้เล่นน้ำที่นี่นะมาชมวิวเฉยๆเพราะถ้าเล่นน้ำไม่มีคนเฝ้าของให้ต้องไปเล่นหาดใกล้ที่พักจะสะดวกกว่า



น้ำใสมากกกก น้ำน่าเล่นมากเลย มีของฝากตามร้านใครสนใจช้อปตามสบาย




ชมวิวที่หาดตาแหวนประมาณครึ่งชม.ก็กลับเพื่อเอาของไปเก็บไว้ที่พัก ไปสองคนอาจไม่สะดวกตรงที่ไม่มีคนถ่ายรูปคู่ให้555 ไม้เซลฟี่กับเลนส์ก็เอาไปพอเอาจริงๆก้ไม่ได้หยิบมาใช้แต่แค่นี้ไม่ได้เป็นอุปสรรคของเราเลย จึงต้องไปเล่นน้ำที่หาดตายายใกล้ที่พัก เรื่องระทึกยังไม่จบนะเธอต้องอ่านให้จบเรื่องต่อไป ระหว่างขับรถกลับไปที่พักมีเรื่องไม่คาดคิดเกิดขึ้นรถทางที่พักจะจัดให้เป็นสกู๊ปปี้รถคอแข็งมากแฟนเราเป็นคนขับนะแต่เราก็ไม่คิดอะไร แต่ช่วงกลับต้องขึ้นทางชันใครเคยไปจะรู้นะ คือรถคอแข็งแล้วต้องขับโค้งเพราะทางชันตรงนั้นเป็นทางโค้งด้วยพอดี เหตุคือบังคับคอรถไม่ได้รถจะไหลแถมเบรคไม่อยู่เกือบไปชนที่กั้นทางโค้ง แต่เราทำไรไม่ถูกจึงกระโดดลงเพราะความตกใจรถขับไม่เร็วนะ จังหวะที่กระโดดลงรถก็เอนตัวไปตรงที่กั้นทางโค้งทำให้ขาข้างซ้ายอัดอยู่ระหว่างที่กั้นทางโค้งกับรถ ตอนนั้นต้องตั้งสติรีบเอาขาออกแล้วไปดันหลังรถเพื่อไม่ให้รถไหลแล้วให้แฟนรีบบิดรถขึ้นไปให้ได้ ความรู้สึกตอนนั้นกลัวและตกใจมากแต่ดีขาที่ไม่เป็นไรมากรถก็ไม่เป็นไร น้ำตานี่ไหลมาเลยจ้าหัวใจนี่ตกไปอยู่ตาตุ่ม และก็รีบขับกลับที่พัก




ปล. ไม่ได้จะติหรือพาดพิงที่พักใดๆ แต่เป็นเรื่องเล่าเพื่ออยากให้คนเข้ามาอ่านได้ระมัดระวังมากขึ้นก่อนจะไปสถานที่ต่างๆ
ก่อนขับควรเช็ครถให้ดีหรือไม่ก็เปลียนคันได้ ควรตั้งสติให้ดีก่อนจะทำอะไร ขอบคุณเพื่อนร่วมทางที่ฝ่าฟันอุปสรรคมาด้วยกัน
การถ่ายรูปไม่ได้เป็นอุปสรรคของเราเลย เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นก็ไม่ได้เป็นอุปสรรคของเราแต่เป็นประสบการณ์มากกว่า





หาดตายาย


เราได้เอาของไปเก็บที่ห้องพักเพื่อจะมาเล่นน้ำที่หาดตายายตอน17:00 เวลาเริ่มหมดวันซะแล้วภาพที่เห็นเป็นภาพอีกวันนะตอนที่ไปเล่นน้ำไปแต่ตัว คนเริ่มน้อยเพราะเริ่มเย็นแล้วแต่ก็ยังมีคนเล่นน้ำอยู่เหมือนกัน เป็นหาดส่วนตัวมากไม่มีร้านขายของมีแต่ที่นั่ง



น้ำใสมากเหมือนที่หาดตาแหวนเลยเป็นส่วนตัวสุดๆ ไม่รออะไรแล้วลงน้ำซิคะ ใช้เวลาเล่นน้ำ1ชมเต็มที่ไปเลยยยยย

ปล. มาสองคนไม่กล้าเอาของวางไว้ริมหาด คิดว่าพรุ่งนี้ค่อยมาถ่ายวิว
มาครั้งใหม่เราคงได้ไปหาดต่างๆหลายๆที่ เวลาของความสุขหมดเร็วจริง



ชื่อสินค้า:   [แบกเป้สะพายกล้องกับเพื่อนร่วมทาง]
คะแนน:     
**CR - Consumer Review : ผู้เขียนรีวิวนี้เป็นผู้ซื้อสินค้าหรือเสียค่าบริการเอง ไม่มีผู้สนับสนุนให้สินค้าหรือบริการฟรี และผู้เขียนรีวิวไม่ได้รับสิ่งตอบแทนในการเขียนรีวิว
แก้ไขข้อความเมื่อ

แสดงความคิดเห็น
โปรดศึกษาและยอมรับนโยบายข้อมูลส่วนบุคคลก่อนเริ่มใช้งาน อ่านเพิ่มเติมได้ที่นี่